หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
สามัคคีสร้างชาติ
สามัคคีสร้างชาติ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
หลายวันก่อนกระผมได้มีโอกาสรับเชิญให้ไปสัมภาษณ์ออกรายการวิทยุโดยมีการสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นรายการของสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานครฯ ในประเด็นของ “ ความสามัคคีสร้างชาติ” เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้น กระผมจึงขอเขียนเป็นบทความชิ้นนี้ขึ้นมา
พวกเราคงต้องยอมรับกันว่า สังคมไทยในปัจจุบันนี้ เกิดการแตกแยกกันทางความคิดกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องของการเมือง ดังจะเห็นได้ว่าสังคมไทยได้เกิดเสื้อสีต่างๆขึ้น เช่น คนเสื้อสีแดง คนเสื้อสีเหลือง คนเสื้อสีน้ำเงิน คนเสื้อสีดำ คนเสื้อสีเขียว เป็นต้น อีกทั้งความแตกแยกจากความไม่สงบที่เกิดจากปัญหาภายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากการแตกความสามัคคีดังกล่าว ทำให้เกิดผลเสียและเกิดผลกระทบขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ความรุนแรง ตลอดจนถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ในทางกลับกัน ประเทศเพื่อนบ้านของเรากลับมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเวียดนาม ประเทศเขมร ประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศพม่าซึ่งกำลังจะมีการเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น
ตามความคิดเห็นของกระผมเราสามารถหาทางรอดให้กับสังคมไทยได้โดยการ
1.มอบความรัก เราต้องเริ่มต้นจากการรักภายในตนเองก่อน พึ่งพาตนเองให้มากขึ้น ช่วยเหลือตนเอง รักษาสุขภาพของตนเอง เมื่อมีความรักในตนเองแล้ว เราก็ควรมอบความรักให้แก่ผู้อื่นเช่น ความรักแก่สามี ภรรยา ลูก พี่น้อง พ่อแม่ ตลอดถึงให้ความรักแก่เครือญาติ แล้วจึงขยายไปยังเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนคนในสังคม รวมถึงความรักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ความสามัคคี ความจริงแล้วสังคมไทยมีคุณลักษณะ เอื้ออาทรกัน ให้ความช่วยเหลือกัน ดังจะเห็นจากตัวอย่างหลายตัวอย่าง เช่น น้ำท่วมที่กรุงเทพฯ คนไทยจากต่างจังหวัดก็ได้บริจาคเงิน สิ่งของ เพื่อให้การช่วยเหลือ หรือ เกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หลายจังหวัดในประเทศไทยก็จะส่งกำลังใจ ส่งสิ่งของ เพื่อให้การช่วยเหลือ ทั้งนี้รวมถึงคนไทยได้ให้ความช่วยเหลือกับประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย เช่น ซินามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
3.การให้อภัย การให้อภัยเป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ในทางปฏิบัติค่อนข้างยาก ในทางศาสนาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการให้อภัยเป็นอันมาก เช่น พุทธศาสนาเคยมีคำสอนต่างๆ “ อภัยทานเป็นธรรมทานอย่างหนึ่ง” , “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” หรือ ศาสนาคริสต์เคยมีคำสอนในไบเบิลว่า “ ถ้าผู้ใดตบแก้มข้างขวาของท่าน ก็จงหันแก้มข้างซ้ายให้เขาตบด้วย” การให้อภัยจึงเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ ดังเหตุการณ์ความไม่สงบในอดีต นักศึกษา ประชาชนได้หนีเข้าไปในป่าเพื่อเป็นคอมมิวนิสต์ และมีการฆ่าฟันกันอย่างรุนแรง รัฐบาลตอนนั้นจึงใช้หลักการให้อภัย โดยการประกาศนโยบาย 66/23 คือการให้อภัยคนที่เป็นคอมมิวนิสต์ให้กลับเข้ามาร่วมเป็นผู้พัฒนาชาติไทยโดยไม่ต้องรับผิดใดๆเลย จึงทำให้เกิดความสงบ
4.การกระจายผลประโยชน์ต้องเป็นธรรม ไม่ใช่เมื่อตนเองหรือฝ่ายของตนเอง มีอำนาจในการบริหารแล้ว ก็จัดสรรงบประมาณให้แก่ หัวคะแนน หรือคนในพื้นที่ของตนเองก่อน จนทำให้อีกหลายๆพื้นที่ต้องเดือดร้อน หรือ ให้ผลประโยชน์ของฝ่ายตนเองมากจนเกินไปและฝ่ายตรงกันข้ามไม่ให้หรือให้น้อยเกินไปก็จะเกิดปัญหาได้
5.ถอยบ้างและยอมแพ้บ้าง การอยู่ร่วมกันตั้งแต่ 2 ขึ้นคนไปย่อมมีการกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดา เช่น สามีภรรยา หากว่าฝ่ายหนึ่งชวนทะเลาะอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ยอมถอยแล้วจึงใช้อารมณ์ในการทะเลาะกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็มักจะเกิดการแตกหักได้ง่าย แต่ถ้าหากว่ามีฝายหนึ่งคือ สามี ภรรยา ยอมแพ้ ยอมถอยบ้าง สามีภรรยาคู่นั้น ก็จะอยู่ด้วยกันได้อย่างยาวนาน ฝ่ายต่างๆหรือกลุ่มต่างๆในสังคมไทยก็เช่นกัน ควรที่จะนิ่งบ้าง ถอยบ้าง ยอมแพ้บ้าง
สำหรับการแก้ไขปัญหา ชายแดนภาคใต้ กระผมชอบแนวความคิดของท่านหลวงพ่อพุทธทาส ซึ่งท่านได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกในปี 2539 จากยูเนสโก ท่านได้อาศัยหลักในการพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และทำอย่างสม่ำเสมอ โดยท่านมีหลักอยู่ 3 ข้อ คือ
1.ขอให้สาธุชนแต่ละศาสนา ทำความเข้าใจหรือให้เข้าถึงหัวใจของศาสนาของตนเอง โดยท่านไม่ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธเลย
2.ให้ทำความเข้าใจระหว่างศาสนา โดยการมีการพูดคุยกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมไปถึงองค์ความรู้ต่างๆ กันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะเชิญผู้นำศาสนาต่างๆ ไปที่สวนโมกข์ หรือ ท่านจะเดินทางไปยังประเทศต่างๆที่นับถือศาสนาอื่นๆ โดยท่านจะทำการพูดคุยเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อย่างสม่ำเสมอ
3.นำโลกออกจากวัตถุนิยม โดยท่านเห็นว่า วัตถุนิยมจะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ เช่น การโกง การคอรัปชั่น การขายบริการทางเพศและปัญหาอื่นๆ
ดังนั้นความ สามัคคีของคนในชาติเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อนสิ่งอื่นๆ เพราะถ้าหากเราเลือกที่จะพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาอื่นก่อน เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่อองเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณี โรงแรมต่างๆ แต่ถ้าคนในประเทศขาดความสามัคคี เกิดการฆ่ากัน ประท้วงใช้ความรุนแรงต่างๆ ถามว่า คนต่างชาติอยากที่จะเข้ามาใช้จ่าย ท่องเที่ยวในประเทศหรือไม่
แต่ถ้าความสามัคคีเกิดขึ้นในชาติ ชาติไทยเราเกิดความสงบ เรียบร้อย คนชนชาติต่างๆก็อยากจะเข้ามาเที่ยว เข้ามาใช้จ่าย ภายในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้น เงินทอง ชื่อเสียงก็จะหลั่งไหล เข้ามาเอง
สุดท้ายนี้ ขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2522 ดังนี้
“ ...ในจิตใจของคนไทยทุกคนมีเชื้อของความดี ที่ได้นำพวกเราทั้งหลายมาอยู่ในฐานะที่มั่นคง ที่ก้าวหน้า ที่เจริญ จนทุกวันนี้ ถ้าเราไม่มีความดีอยู่ในตัว ก็เข้าใจว่าประเทศไทยคงไม่ได้มีอายุยืนนานเช่นนี้”




...
  
พูดเก่ง...รวยก่อน...
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

การพูดมีความสำคัญต่อการทำงาน มีความสำคัญต่อความสำเร็จของชีวิต เป็นอย่างสูง

นักเรียน ต้องพูด.... นำเสนอรายงานหน้าห้องเรียน
นักขาย ต้องพูด... เพื่อขายสินค้า บริการ
นักบริหาร ต้องพูด... สั่งงานลูกน้อง
ครู อาจารย์ ต้องพูด... สอน บรรยาย
และนักการเมือง ต้องพูด... หาเสียงเพื่อให้ประชาชนเลือก

ดังนั้น ในชีวิตของคนเราทุกคนต้องพูด ใครที่พูดเก่ง พูดเป็น พูดดี พูดจูงใจ พูดตลกได้มากกว่า คนๆนั้น...จะประสบความสำเร็จ..สูงกว่า...คนพูดไม่เก่ง พูดไม่เป็น ผู้ที่จะประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต ต้องพูดเป็น พูดเก่ง และสิ่งที่ตามมาเมื่อประสบความสำเร็จ มักจะทำให้ มีอำนาจ มีตำแหน่ง และมีเงินทองตามมา(คือ ร่ำรวยนั่นเอง)
เช่น วิทยากรที่มีชื่อเสียง พูดเก่ง มักได้ค่าตอบแทน ค่าบรรยาย ที่สูงกว่าวิทยากรที่ไม่มีชื่อเสียง พูดไม่เก่ง บางคนได้วันละหลายหมื่นเลยทีเดียว ไม่นับวิทยากรที่มาจากต่างประเทศที่มาบรรยายในไทยเรา บางคนได้วันละเป็นแสนเลยก็มีให้เห็น

ต่างจากคนที่ทำงานเก่ง แต่พูดไม่เก่ง มักจะได้ค่าตอบแทนน้อย แล้วมีคนถามผมว่าถ้าอยากเป็นนักพูดหรือพูดเก่งทำอย่างไร จะเริ่มต้นอย่างไร ?

ถ้าอยากเป็นนักพูดหรือพูดเก่ง ไม่มีวิธีอื่นเราจะต้องเริ่มพูดครับ เวลามีประชุม มีการอภิปราย หรือเปิดเวทีให้แสดงความคิดเห็น อย่าไปไหนมาไหนแล้วนั่งเป็นใบ้ ไม่ยอมพูดจา ไม่กล้าแสดงออก ถ้าอย่างนี้เป็นนักพูดหรือพูดเก่งไม่ได้ครับ แล้วมีคนถามผมต่อว่า ผมก็พูดเก่ง ทำไมไม่รวยสักที ? การจะเป็นนักพูดแล้วรวยหรือได้เงิน ได้ตำแหน่งนั้น จำเป็นจะต้องมีหลักการ ถ้าพูดมาก พูดเรื่อยเปื่อย ก็คงไม่รวย

แต่ถ้าเราพูดมีหลักการ ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดตามความต้องการของผู้ฟัง รับรองว่า ได้เงินแน่นอน เช่น เขาอยากรู้เรื่องการตลาด เราก็ต้องมีความรู้ทางด้านการตลาด มีศิลปะในการนำเสนอ เมื่อถูกใจผู้ฟัง เขาก็มักจะบอกต่อ แล้วทำให้นักพูดคนนั้นมีรายได้ มีค่าตัวตามมา แต่สิ่งที่สำคัญเราต้องรู้เรื่องที่เราจะบรรยายจริงๆ จังๆ

การพูดที่มีหลักการ ตรงตามวัตถุประสงค์ ในสมัยนี้ มีสถาบัน สโมสร สมาคม หน่วยงาน องค์กรต่างๆ สอนกันมากไม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก เหมือนในอดีต แต่ถ้าไม่มีเวลา หรือไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ก็ลองไปหาซื้อหนังสือ เกี่ยวกับการพูดมานั่งอ่าน แล้วลองฝึกฝน ปฏิบัติตามดู เพราะคนที่ฉลาดมักเรียนรู้จากผู้อื่น

สำหรับนักพูด...หน้าใหม่... เป็นเด็ก...อายุน้อย..ประสบการณ์น้อย...จะพูดให้ผู้ใหญ่ฟังได้หรือ..?
ได้ครับ..ได้แน่นอน คนเราไม่ได้รู้หมดทุกเรื่อง เรื่องบางเรื่อง เด็ก คนมีอายุน้อย อาจมีความรู้ดีกว่าผู้ใหญ่เสียอีก

ดังนั้น ไม่ต้องไปตกใจให้มากนัก ขอให้มีความมั่นใจในตนเอง และมีเอกลักษณ์...เป็นของตนเอง..


การมีเอกลักษณ์...จะทำให้เรามีเสน่ห์ ทำให้คนจดจำเราได้ง่ายขึ้น


ท้ายนี้ คนที่จะเป็นนักพูดที่ดี นักพูดที่เก่ง จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้


หนึ่ง...ต้องเป็นนักอ่าน ต้องอ่านมากๆ เพื่อนำข้อมูลไปใช้พูดในอนาคต สอง....ต้องเป็นนักจด คือเห็นเรื่องราวดีๆ คำพูดดีๆ ของนักการเมือง หรือนักพูดที่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องจดเอาไว้ในสมุดเพื่อนำมาใช้ในอนาคต สาม.... ต้องเป็นนักจำที่ดี ต้องจดจำเรื่องราวที่ได้อ่านได้ฟังมาจากอดีตแล้วนำมาใช้ได้ตามสถานการณ์ต่างๆ สี่....ต้องเป็นนักปรุงหรือพ่อครัว เมื่อมีข้อที่หนึ่งถึงสามแล้ว จำเป็นจะต้องมีการนำเสนอในรูปแบบของตนเพื่อให้คนฟังชอบ


เรามักจะเห็นว่า วิทยากร นักพูดหรือนักบรรยาย เมื่อพูดเรื่องเดียวกัน บางคนพูดแล้วคนชอบ บางคนพูดแล้วคนไม่ชอบ เนื่องมาจากการปรุงหรือการนำเสนอนั่นเอง


ดังนั้น การพูดเก่ง พูดเป็น จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จแล้วได้เงิน ได้ตำแหน่ง ได้อำนาจ ตามมาแน่นอน ถ้าท่านตั้งใจ ฝึกฝน ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ก่อนวันที่ท่านจะประสบความสำเร็จ

...
  
ผู้ดำเนินอภิปรายในเวที่ต่างๆ
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ ร่วมดำเนินรายการอภิปรายในเวทีต่างๆ ...
  
ปากเป็นเอก
เขียนโดย อาจารย์สุขุม นวลสกุล ซึ่งเป็นอาจารย์ของกระผมสมัยผมเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2533
อาจารย์เขียนเกี่ยวกับเรื่องของการใช้คำพูดในการทำงาน การบริหาร เป็นการใช้คำพูดแบบไทยๆ ภายในเล่มมีตอนต่างๆ ให้ได้ศึกษากัน เช่น การพูดในที่ประชุม , พูดแบบผู้นำ , ลวดลายวิทยากร , การเจรจาต่อรอง,พูดเพื่อได้ , ปากเป็นเอก ฯลฯ
ราคาเล่มละ 90 บาท
...
  
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค
15
...
  
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (บุญถึง)[1] หรือที่รู้จักกันดีทั่วไปในนามปากกา "ว.วชิรเมธี" เกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2516 บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2530 ณ พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยมีพระครูโสภณจริยกิจ เจ้าคณะอำเภอเชียงของ เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ณ พัทธสีมาวัดครึ่งใต้ โดยมี พระราชสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นพระอุปัชฌาย์ ปัจจุบันพระมหาวุฒิชัยจำพรรษาอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร[2]

ท่าน ว. วชิรเมธี เป็นพระนักวิชาการ นักคิดนักเขียนพระพุทธศาสนารุ่น ใหม่ เป็นนักปฏิบัติธรรม และนักบรรยายธรรมที่ผลิตผลงานออกมาในรูปสื่อโทรทัศน์ และหนังสือออกมาอย่างสม่ำเสมอในยุคปัจจุบัน ผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ การประพันธ์บทละครโทรทัศน์และหนังสือเรื่อง "ธรรมะติดปีก" และเพลงประกอบละครธรรมะมากมาย จนได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ ในงานสัปดาห์พระพุทธศาสนาวิสาขบูชาประจำปี 2550
เนื้อหา
[ซ่อน]

* 1 การศึกษา
* 2 คุณค่าแห่งการงาน
* 3 ผลงานการประพันธ์
o 3.1 ผลงานหนังสือที่ได้รับการเผยแพร่ ภาษาไทย
o 3.2 ผลงานที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ
* 4 จุดเริ่มต้นของ"ธรรมะอินเทรนด์"
* 5 อ้างอิง
* 6 แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้] การศึกษา

* พ.ศ. 2543 สอบไล่ได้ เปรียญธรรม ๙ ประโยค สำนักวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
* พ.ศ. 2543 ศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) จาก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
* พ.ศ. 2546 พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) จาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

[แก้] คุณค่าแห่งการงาน

* อาจารย์พิเศษบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
* อาจารย์พิเศษ สถาบันพระปกเกล้า วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน
* อาจารย์พิเศษและวิทยากรบรรยายตามมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,

มหาวิทยาลัยมหิดล,มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น

* วิทยากรบรรยายธรรมตามสถาบัน หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
* บรรณาธิการวารสารเบญจมบพิตรสัมพันธ์
* วิทยากรพิเศษบรรยายวิชาการทางพระพุทธศาสนา สอนวิปัสสนากรรมฐานให้กับหน่วยงานของรัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ โรงเรียน และมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนหลายแห่ง
* ประธานกลุ่มธรรมะการ์ตูน (ผลิตการ์ตูนแมนิเมชั่น ชุด “พุทธประวัติ” เพื่อทูลเกล้าในมงคลวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
* ผู้เขียนตำราหมวดวิชาพระพุทธศาสนาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
* กรรมการตรวจนักธรรม บาลี สนามหลวง
* เขียนบทความให้กับหนังสือพิมพ์ นิตยสารรายเดือน รายปักษ์ รายสัปดาห์ อาทิ เนชั่นสุดสัปดาห์ กรุงเทพธุรกิจ ชีวจิต ศักดิ์สิทธิ์ WE, HEALTH & CUISINE,Secret เป็นต้น
* เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตตยาลัย (Vimuttayalaya Institute) อันเป็นสถาบันที่ศึกษา วิจัย ภาวนา และเผยเเพร่ภูมิปัญญาทางพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก ภายใต้หลักการ "พุทธศาสนาเพื่อสันติภาพโลก"
* ท่านมีเว็บไซต์ www.dhammatoday.com เพื่อเป็นวัดออนไลน์ในโลกเสมือนจริงทางอินเตอร์เน็ต และสื่อทางอินเทอร์เน็ตมากมาย อาทิ Facebook,Twitter เป็นต้น
* เป็นวิทยากรรับเชิญหลายรายการ อาทิ ที่นี่หมอชิต(ช่อง 7),ธรรมะติดปีก(ทีวีไทย),Club7(ช่อง 7),ธรรมาภิวัฒน์(ASTV),การเดินทางของความคิด(96.5FM คลื่นความคิด)เป็นต้น

[แก้] ผลงานการประพันธ์
[แก้] ผลงานหนังสือที่ได้รับการเผยแพร่ ภาษาไทย

* ดีเอ็นเอ ทางวิญญาณ
* ปรัชญาหน้ากุฏิ
* คิดอย่างเซ็น
* ตายแล้วเกิดใหม่ตามนัยมิลินทปัญหา
* ตายแล้วเกิดใหม่ตามนัยพระพุทธศาสนา
* พระสงฆ์กับทางออกจากทุกขสัจของสังคม
* ครูกัลยาณมิตรของชีวิตดีงาม
* อารยมรรคา : มรรควิธีเพื่อชีวิตดีงาม
* พระพุทธคุณ 100 บาท
* กรรมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต
* ในหลวงครองราชย์ พุทธทาสครองธรรม
* กำลังใจแด่ชีวิต
* ทุกข์กระทบ ธรรมกระเทือน
* ธรรมะติดปีก
* ธรรมะหลับสบาย
* ธรรมะดับร้อน
* ธรรมะบันดาล
* ธรรมะรับอรุณ
* ธรรมะราตรี
* ธรรมะทำไม
* ธรรมะเกร็ดแก้ว
* ธรรมะสบายใจ
* ธรรมะทอรัก
* ธรรมะงอกงาม
* ธรรมะน้ำเอก
* ธรรมะคลายใจ
* ธรรมะพารวย
* ธรรมะศักดิ์สิทธิ์
* คนสำราญงานสำเร็จ
* สบตากับความตาย
* เชิญตะวัน
* มหัศจรรย์แห่งชีวิต 7 หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี
* ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง
* เรารักแม่
* หนังสือธรรมะชาล้นถ้วย
* ลายแทงแห่งความสุข
* มองลึก นึกไกล ใจกว้าง
* รู้ก่อนตาย ไม่เสียดายชาติเกิด
* เปลี่ยนเคราะห์ให้เป็นโชค เปลี่ยนโรคให้เป็นครู
* งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์
* ความทุกข์มาโปรด ความสุขโปรยปราย
* Love Analysis 1&2
* เข็นธรรมะขึ้นภูเขา
* ตะเเกรงร่อนทอง
* ว่ายทวนน้ำ(เขียนร่วมกับพระไพศาล วิสาโล)
* ธรรมา ค้าขึ้น
* ธรรมาธิปไตย
* การเดินทางของความคิด(ร่วมกับ สรรเสริญ ปัญญาธิวงศ์,นิรุตติ์ ศิริจรรยา,อารียา ศิริโสดา)
* หนังสือเรียนพระพุทธศาสนา มัธยมศึกษาปีที่ 1-6

[แก้] ผลงานที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ

แปลโดยนพมาศ แววหงษ์

* Anger Management (ธรรมะหลับสบาย)
* Looking Death in the Eye (สบตากับความตาย)
* Love Management (ธรรมะทอรัก)
* Mind Management (ธรรมะสบายใจ)

[แก้] จุดเริ่มต้นของ"ธรรมะอินเทรนด์"

ในปีพ.ศ.2547ท่าน ว.วชิรเมธีได้ออกหนังสือธรรมะติดปีกมาสู่สายตาประชาชนแล้วปรากฎว่า ได้รับความนิยมมาก จึงได้มีผลงานทางธรรมะออกมาอีก 2 เล่มคือ ธรรมะหลับสบายและธรรมะดับร้อน'ซึ่งทั้งหมด ล้วนได้รับความนิยมเป็ยอย่างสูง จากกระแสความนิยมของหนังสือทั้ง 3 เล่ม จึงทำให้ช่อง 3นำเนื้อหาจากธรรมะติดปีกมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ จากจุดนี้เองทำให้เกิดกระแสที่ธรรมะกลับมานิยมกันอีกครั้งโดยส่วนมากเรียกว่าธรรมะอินเทรนด์ หรือ ธรรมะติดปีก
[แก้] อ้างอิง

1. ^ คู่มือการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี 2551
2. ^ การนิมนต์พระมหาวุฒิชัย จากเว็บบอร์ดวัดเบญจมบพิตร

ธรรมะติดปีก ว.วชิรเมธี หนังสือธรรมะอ่านง่ายเข้าใจง่าย
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiquote-logo-th.png
วิกิคำคม มีคำคมที่กล่าวโดย หรือเกี่ยวกับ:
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี

* ประวัติย่อ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี จากเว็บไซด์ ทำดี.เน็ต
* ฟังเสียงธรรม ว.วชิรเมธี เว็บไซด์ทำดี.เน็ต
* สัมภาษณ์ : อินเทรนด์ อินธรรม กับ ว. วชิรเมธี นิตยสาร สารคดี ...
  
ศิลปะการใช้ภาษา พูด เขียน
เป็นหนังสือประกอบการเรียน การสอน ของมหาวิทยาลัย ศรีปทุม แต่งโดย ปรัชญา อาภากุลและ การุณนนท์ รัตนแสนวงศ์ เนื้อเน้นเกี่ยวกับ
การพูด และ การเขียนครับ ...
  
เฉลิมชัย ศิลปการดำเนินชีวิต 1
15
...
  
Case study โออิชิ (5)
15
...
  
Think Big คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
Think Big คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จมักมีสิ่งที่มีความต่างแตกกับบุคคลธรรมดาทั่วๆ ไปหลายอย่างแต่หนึ่งในนั้นก็คือ เรื่องของความคิด ความคิดจะเป็นตัวแบ่งแยกระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จหรือคนที่ล้มเหลว ความคิดจะเป็นตัวแบ่งแยกระหว่างผู้ที่ชนะหรือผู้ที่พ่ายแพ้ และความคิดจะเป็นตัวแบ่งแยกระหว่างผู้นำหรือผู้ตาม
การพัฒนาความคิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ หากท่านต้องการประสบความสำเร็จ หากท่านต้องการเป็นผู้ชนะและหากท่านต้องการเป็นผู้นำ ท่านต้องพัฒนาความคิด คนที่ประสบความสำเร็จ คนที่เป็นผู้ชนะและคนที่เป็นผู้นำ มักมีความคิดที่ใหญ่กว่าคนธรรมดาหรือคนทั่วไป ซึ่งท่านผู้อ่านก็สามารถพัฒนาความคิดให้ใหญ่ได้ดังนี้
1.พยายามคิดให้ใหญ่กว่าเดิม มหาเศรษฐีหรือเศรษฐีจำนวนมากไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่มีมหาเศรษฐีและเศรษฐี จำนวนมากที่เกิดมาบนความยากจน หรือเรียนไม่จบปริญญาตรี เช่น บิล เกต แห่งบริษัทไมโครซอฟท์หรือ สตีฟ จอบส์ แห่งบริษัทแอปเปิล เป็นตัวอย่างที่ดี ทั้งคู่ไม่ได้เกิดในตระกูลร่ำรวย แต่สามารถเป็นมหาเศรษฐี ก็ด้วยพลังแห่งความคิดที่ใหญ่กว่าคนทั่วไป หากท่านจะคิดทั้งที่ ท่านควรคิดให้ใหญ่ไปเลย เช่น คนธรรมดาหรือคนทั่วไปคิดอยากมีเงิน 1 ล้านบาทภายใน 10 ปี แต่คนที่คิดใหญ่เขาจะคิด เขาจะมีเงิน 100 ล้านบาทภายใน 10 ปี นี่คือความแตกต่างระหว่างคนที่คิดเล็กกับคนที่คิดใหญ่ ฉะนั้นไหนๆ จะคิดทั้งทีท่านควรคิดให้ใหญ่ไปเลย
2.พยายามทำทันที เมื่อมีเป้าหมายแล้ว บุคคลที่ประสบความสำเร็จจะลงมือทำทันที โดยการหาวิธีการต่างๆ เขียนเป้าหมาย มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน มีการหาหนทางไปสู่เป้าหมาย โดยการไม่พลัดวันประกันพรุ่ง บุคคลที่ประสบความสำเร็จจะลงมือทำทันที ซึ่งแตกต่างจากคนที่ล้มเหลว เขาจะได้แต่ฝัน โดยขาดการลงมือทำ ขาดความกระตือรือร้นในการลงมือทำ
3.พยายามทำงานมากกว่าคนปกติหรือคนทั่วไป คนที่คิดใหญ่เขาจะลงมือทำตามเป้าหมาย ทำตามสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้ เขาจะทำงานเกินเงินเดือน เขาจะทำงานโดยไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เขาจะทำงานในขณะที่คนทั่วไปกำลังหลับไหล เขาจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้แก่งานที่เขาวางแผนไว้ อีกทั้งเขาจะเป็นคนที่เห็นคุณค่าของเวลา รู้จักบริหารเวลาให้คุ้มค่า
4.พยายามคิดบวก พูดบวกและทำบวก การคิดบวก พูดบวกและทำบวก จะทำให้ท่านสามารถพัฒนางาน แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การคิดบวกจะทำให้ท่านเกิดความคิดสร้างสรรค์งานใหม่ๆขึ้น การคิดบวกจะทำให้ท่านเกิดการมองโลกในแง่ดีขึ้น การพูดบวกก็เช่นกัน จะทำให้ท่านเกิดกำลังใจในการทำงาน การพูดบวกจะทำให้ท่านมีเพื่อนฝูงมากขึ้นเรื่อยๆ และการกระทำที่บวก จะทำให้ท่านเกิดความกระตือรือร้น เกิดความขยันขันแข็ง เกิดแรงบันดาลใจในการทำงาน
5.พยายามใช้ปัญญาให้มากขึ้น คนที่ประสบความสำเร็จมักจะใช้ความคิด ใช้ปัญญา มากกว่าใช้แรงกาย ซึ่งเราจะเห็นความแตกต่าง หากท่านใช้ความคิด ใช้ปัญญา มากขึ้น ท่านก็จะใช้แรงกายน้อยลง แต่ตรงกันข้ามหากว่าท่านใช้แรงกายมาก ท่านจะใช้ความคิดน้อยลง ดังนั้นเราจะเห็นความแตกต่าง ระหว่างเศรษฐีกับกรรมกรหรือผู้ขายแรงงาน เศรษฐีจะคิดวิธีการลงทุนส่วนกรรมกรหรือผู้ขายแรงงานมักจะใช้แรงงานแลกกับเงิน
6.พยายามอย่ากลัวความล้มเหลว บุคคลที่ประสบความสำเร็จ มักเป็นบุคคลที่ผ่านความล้มเหลวมาทั้งสิ้น บางคนล้มเหลวเป็นจำนวนมากแล้วจึงประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่คนทั่วไปมักพูดถึงสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จ โดยไม่ค่อยพูดถึงสิ่งที่เขาเคยล้มเหลวมา ฉะนั้นจงกล้าที่จะล้มเหลว เพราะถ้าท่านยิ่งล้มเหลวและท่านไม่ยอมแพ้ ไม่ล้มเลิกก่อนเวลาอันควร ท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
ฉะนั้น หากท่านต้องการประสบความสำเร็จ หากท่านต้องการเป็นผู้ชนะและหากท่านต้องการเป็นผู้นำ สิ่งที่ท่านควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือการพัฒนาความคิดของท่านให้เกิดความคิดที่ Think Big หรือ คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก เพราะคนเราแค่เริ่มคิดก็เห็นความห่างชั้นแล้วระหว่างผู้ประสบความสำเร็จหรือผู้ที่ล้มเหลว คนเราเพียงแค่เริ่มคิดก็จะเห็นความแตกต่างระหว่างผู้ชนะหรือผู้แพ้ คนเราเพียงแค่เริ่มคิดก็จะเห็นภาพความห่างชั้นและแตกต่างระหว่างผู้นำและผู้ตาม
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.