หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต
เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
กัลยาณมิตรหรือเพื่อน มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อชีวิตของคนเรา ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้า เคยตรัสสอนกับพระอานนท์ว่า “ เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต ” เพราะการคบเพื่อนดี เพื่อนก็จะพาเราไปสู่สิ่งที่ดีๆ ในทางกลับกัน หากว่าเราคบเพื่อนที่ไม่ดี เพื่อนที่ไม่ดี ก็จะพาเราไปสู่หนทางที่ตกต่ำของชีวิต ดังคำกล่าวของคนโบราณว่า “ คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล”
พ่อแม่ คือ เพื่อนที่ดีที่สุดของชีวิต ดังบทเพลง ใครหนอ ของ ศรีไศล สุชาติวุฒิ
“ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวี ใคร หนอ ปราณี ไม่มีเสื่อมคลาย
ใคร หนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย รักเขาไม่หน่าย มิคิดทำลาย ใคร หนอ
ใคร หนอ เห็นเรา เศร้าทรวงใน ใคร หนอ เอาใจปลอบเราเรื่อยมา
ใคร หนอ รักเราดังดวงแก้วตา รักเขากว้างกว่า พื้นพสุธา นภากาศ
จะเอาโลก มาทำปากกา แล้วเอานภา มาแทน กระดาษ
เอาน้ำหมด มหาสมุทรแทนหมึกวาด ประกาศ พระคุณไม่พอ
ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน (เท่าชีวัน) ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอ (คุณพ่อ คุณแม่)
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ ”
จากบทเพลง คงทำให้เราแลเห็น พระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ แต่ก็มีหลายคนที่ประพฤติไม่ดีกับ มิตรที่ดีที่สุดคือพ่อแม่ จนกระทั่ง พ่อแม่หลายๆ คน เมื่อจะต้องจำลาจากโลกนี้ไป ยังต้องยกมรดกให้แก่ มูลนิธิ การกุศล สัตว์เลี้ยง ฯลฯ แทนที่จะเป็นลูก ก็เนื่องจาก ลูก ไม่ได้ปฏิบัติต่อมิตรที่ดีที่สุดของตนเอง
ดังข่าว “ ท้วง พินัยกรรม แม่ให้มรดกหมา ” เดลี่เมล์รายงานว่า เมื่อ 18 มิถุนายน นายเบร็ต คาร์ ทายาทเศรษฐีนีอังกฤษ เกล พอสเนอร์ ฟ้องร้องให้ศาลสั่งให้พินัยกรรมของมารดาเป็นโมฆะ เพราะมารดาที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือน มีนาคม ขณะอายุ 67 ปี ถูกยุยงให้ยกมรดกให้กับสุนัขที่เลี้ยงไว้ 3 ตัว รวม 380 ล้านบาท ส่วนอีกราว 820 ล้านบาท ยกให้คนรับใช้ที่ดูแลบ้านและสุนัข โดยเหลือไว้ให้ลูกชายแท้ๆ เพียง 3 ล้านบาท”(อ้างอิงจาก ข่าวสดรายวันออนไลน์ วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7142 )
จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่มีวันเกิดขึ้น หากว่า ลูกๆ ปฏิบัติต่อมิตรที่ดีที่สุดอย่างถูกต้องและเหมาะสม
แม่บ้านที่ทำงานเป็นมิตรที่ดี หากว่าเราปฏิบัติต่อแม่บ้านที่ทำงานอย่างมิตรที่ดีคนหนึ่ง เราก็จะได้รับบริการที่ดี แม่บ้านก็จะให้ความช่วยเหลือ เพราะความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แต่หากเราปฏิบัติต่อมิตรไม่ดี เราอาจถูกแม่บ้านกลั่นแกล้ง แม่บ้านบางคนอาจไม่ชอบเรา เขาอาจจะ ถุยน้ำลายลงในกาแฟที่เราดื่ม ก็ได้ ด้วยความสะใจ
เพื่อนที่ทำงานเป็นมิตรที่ดี หากว่าเราปฏิบัติต่อเพื่อนที่ทำงานด้วยมิตรภาพ เพื่อนที่ทำงานคลอดลูก เจ็บป่วย เราไปเยี่ยมเยือน อีกหน่อยหากว่า เราเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล เขาก็จะกลับมาเยี่ยมเยือนเราเช่นกัน
ยามรักษาความปลอดภัย หากว่าเรามีความเป็นมิตรกับยามรักษาความปลอดภัย เขาก็จะช่วยดูแลทรัพย์สินของเราเป็นอย่างดี อีกทั้งเวลามีปัญหาอะไร เขาก็จะช่วยเราแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที แต่ตรงกันข้าม หากเราประพฤติไม่ดีต่อเขา ไปดูถูกเขา ไปต่อว่าเขา เวลาเกิดปัญหาอะไร เขาก็ช่วยเหลืออย่างไม่เต็มที
ฉะนั้น พยายามคบคนทั้งหลายให้เป็นมิตร โดยเฉพาะเลือกคบกับคนที่ดีๆ แล้วชีวิตของท่านจะพบแต่สิ่งที่ดีๆ ท่านจะพบกับความสุขของชีวิต ก็เพราะว่า เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต
...
  
บรรยาย หัวข้อ การบริการด้วยหัวใจ
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยาย หัวข้อ การบริการด้วยหัวใจ ให้แก่ สำนักงานสาธารณสุขสมุทรสาคร โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้บริหารของสำนักงานสาธารณสุขสมุทรสาครและตัวแทนนางพยาบาลของโรงพยาบาลหลายแห่งในจังหวัดสมุทรสาครเข้ารับการอบรม ...
  
สายสัมพันธ์กับนักบริหาร
ผู้นำ ผู้บริหาร ต้องรู้จักสร้างสายสัมพันธ์เพื่อโอกาสทางธุรกิจ
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ร้อยละ 50 ของความสำเร็จของผู้นำ ผู้บริหาร จะขึ้นอยู่กับ ความสามารถในการโยงใย การสร้างสายสัมพันธ์ อย่างมีประสิทธิผล ( ฮิลเลียด ซัลลิแวน รองประธานกรรมการ มอนซานโต เคมิคัล)


ในยุคปัจจุบัน หมดยุคของคำว่า “ ข้าเก่งคนเดียวหรือข้ามาคนเดียวแล้ว ” แต่โลกธุรกิจยุคปัจจุบันเป็นยุค การโยงใยหรือการสร้างสายสัมพันธ์ เพื่อโอกาสทางธุรกิจ เพราะเราไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้หมด ด้วยพละกำลังของเราเอง ดังคำกล่าวที่ว่า “ นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อนขึ้นสู่ที่สูงยาก” ( แต่บางคนไปจำผิดว่า นกไม่มีเพื่อน คนไม่มีขน ขึ้นสู่ที่สูงยาก อันนี้ต้องระวังครับ)


สำหรับวิธีการโยงใย หรือการสร้างสายสัมพันธ์นั้น มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น เริ่มต้นที่ตัวเราเอง , ทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา , การใช้นามบัตรให้เกิดประโยชน์ , การใช้ข้อมูลข่าวสารและการใช้โทรศัพท์ ฯลฯ


การสร้างสายสัมพันธ์ ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเอง เราลองสำรวจตัวเราเองว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบัน เรารู้จักใครบ้าง อาจจะแบ่งเป็นส่วนๆ เช่น เพื่อนเก่า , เครือญาติ , เพื่อนร่วมธุรกิจในวงการเดียวกัน , ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ ฯลฯ หลังจากนั้นเราจึงต้องรดน้ำ บำรุง สายสัมพันธ์โดยการใช้ ความดี (การมีน้ำใจ และการให้) เพราะบางครั้งในอนาคต ถ้าเราต้องการพึ่งพาเขา ถ้าเราติดต่อเขาเป็นประจำเขาก็จะช่วยเหลือเรา มากกว่าที่เราไม่เคยติดต่อเขาเลย แล้วขอความช่วยเหลือ


ทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา การที่จะทำอย่างไรให้คนรู้จักเรามีความสำคัญพอๆกับการที่เรารู้จักเขา การที่จะทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา คงต้องมีกลยุทธ์อยู่เหมือนกัน เช่น อาจจะต้องไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ ถึงแม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่ก็ต้องทำเพื่อให้คนได้รู้จักเรามากขึ้น หรือ บางครั้งอาจจะต้องเป็นนักเขียน หรือ นักพูด นักจัดรายการวิทยุ บ้าง เพื่อคนจะได้เห็นผลงานของเราตามสื่อต่างๆ


การใช้นามบัตรให้เกิดประโยชน์ การใช้นามบัตรจะทำให้คุณมีโอกาสทางธุรกิจสูงขึ้น


ดังเช่นนักธุรกิจญี่ปุ่น ที่นับว่าเป็นประเทศที่ใช้นามบัตรเก่งที่สุด สำหรับหลักการใช้นามบัตรและบริหารนามบัตร ก็คือ คุณต้องเตรียมนามบัตรให้เพียงพอ ออกแบบนามบัตรพิมพ์ให้สวย สำหรับด้านหลังนามบัตรถ้าว่าง เราอาจเขียนข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการจำของเรา เช่น ลักษณะเด่นของคนนั้นๆ งานอดิเรก สำหรับการบริหารนามบัตร เราต้องหาที่เก็บนามบัตร โดยการจัดเก็บให้เป็นระบบ หรือเราอาจจะต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยเก็บข้อมูลถ้าหากมีนามบัตรจำนวนมาก


การใช้ข้อมูลข่าวสารและการใช้โทรศัพท์ การให้ข้อมูลแก่เครือข่าย หรือ สายสัมพันธ์ที่เราต้องการโยงใยสำคัญมาก ข้อมูลบางอย่างถึงกับต้องลงทุนซื้อเลยทีเดียว ยิ่งโลกยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ ดังนั้น เราต้องพยายามเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เราก็จะได้ข้อมูลใหม่ๆ


สรุป สำหรับ ผู้นำ ผู้บริหาร ต้องรู้จักสร้างสายสัมพันธ์เพื่อโอกาสทางธุรกิจ เพราะโลกยุคนี้เป็นโลกแห่งการแข่งขัน เป็นโลกแห่งข้อมูลข่าวสาร เป็นโลกแห่งเครือข่าย ดังนั้น ใครมีเครือข่าย สายสัมพันธ์มากย่อมได้เปรียบในการแข่งขัน





















...
  
จอจ่อที่เป้าหมาย...ไม่ใช่จอจ่อที่อุปสรรค
จอจ่อที่เป้าหมาย...ไม่ใช่จอจ่อที่อุปสรรค
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คุณจะเห็นอุปสรรค์เป็นสิ่งที่น่ากลัว...ถ้าคุณละทิ้งเป้าหมาย เป็นคำพูดของ เฮนรี่ ฟอร์ด
เป้าหมายที่ปราศจากแผนการ เป็นได้แค่ความฝัน.....
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จในโลกนี้....ไม่รู้ว่าตนเองเกิดมาแล้วต้องการอะไร....ก็เนื่องมาจากการขาดเป้าหมายนั่นเอง.....เป้าหมายจึงเปรียบเสมือนทิศทางที่ทำให้เราเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น...
หลายๆคนไม่ยอมบอกเป้าหมายของตนเองกับผู้อื่น....ก็เนื่องมาจากการขาดความมั่นใจในตนเอง บางคนอาย...แต่ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากมักเป็นคนที่ชอบบอกคนรอบข้างว่า....เขาต้องการอะไร...
จงกล้าบอกเป้าหมาย....แล้วท่านจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่.....หากว่าท่านอยากเป็นนักเขียนระดับประเทศ....จงบอกคนรอบข้างของท่าน.....หากว่าท่านอยากมีเงินล้าน....จงบอกคนรอบข้างของท่าน....หากว่าท่านอยากเป็นทนายความ....จงบอกคนรอบข้างของท่าน...แล้วท่านจะได้สิ่งนั้น รวดเร็วยิ่งขึ้น..และหากว่าท่านอยากได้รถเก๋งใหม่สักคัน....จงบอกคนรอบข้างของท่าน.....สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็คือ คนส่วนมาก มักจะละทิ้งเป้าหมายที่ตนต้องการ...แต่การบอกคนรอบข้างจะทำให้คนรอบข้างของท่านคอยที่จะเตือน คอยที่จะย้ำ เป้าหมายของท่านอยู่ตลอดเวลา...
อยากให้เป้าหมายสำเร็จ.....ต้องไปสัมผัสกับของจริง....หลายคนมีเป้าหมาย อยากได้รถเก๋งใหม่....ถ้าท่านอยากได้จริงๆ ท่านลองไปสัมผัสกับรถเก๋งในฝันของท่านบ่อยๆ...ลองทดลองนั่ง....ลองทดลองขับ...หากท่านได้สัมผัสมันบ่อยๆ เป้าหมายนั้นก็จะเป็นจริงได้...
เป้าหมายจะสำเร็จได้ต้อง...ฝึกจินตนาการ....การฝึกจินตนาการถึงเป้าหมายบ่อยๆจะทำให้...ท่านเกิดความถี่ในการได้คิดถึงเป้าหมาย....เช่น การคิดการจินตนาการว่าท่านได้รถเก๋งคันนั้นแล้ว...ท่านกำลังขับ....ท่านกำลังอยู่ในรถเก๋งใหม่คันนั้น.....ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น....เราควรหาภาพรถเก๋งคันที่เราต้องการ...ติดไว้ข้างฝาบ้าน...ก็ยิ่งจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็ว...
เป้าหมายจะสำเร็จได้....ต้องลงมือทำ.....เมื่อคิดแล้ว เมื่อพูดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด....จงลงมือทำ.....ลองเอากระดาษ ปากกาหรือดินสอ มาวาด มาเขียน ดูว่า เราจะมีวิธีการหาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อรถเก๋งในฝันของเรา....เช่น หารายได้จากการเขียนหนังสือ.....หารายได้จากการขายประกันชีวิต....หารายได้จากการขายสินค้าต่างๆ....หารายได้จากการทำธุรกิจเครือข่าย....ฯลฯ
เป้าหมายจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้....ท่านจะต้องกระตือรือร้น....จงเดินอย่างคนกระตือรือร้น....จงพูดอย่างคนกระตือรือร้น....จงทำตัวอย่างคนกระตือรือร้น.....จงขายอย่างคนกระตือรือร้น....แล้วเราก็จะเคลื่อนตัวไปสู่เป้าหมาย....
เป้าหมายดี...ต้องหมั่นบำรุง....จึงจะประสบความสำเร็จ....จงให้กำลังใจตนเอง...จงลุกขึ้นพูด “ ฉันทำได้”, “ ฉันสุดยอด” , “ ฉันยอดเยี่ยม” ...ปลุกพลังด้วยคำพูดกับตัวเองบ่อยๆ
เป้าหมายต้องเขียนบ่อยๆ...การเขียนเป้าหมายบ่อยๆ...จะทำให้เรา...เกิดความตั้งใจที่จะทำตามเป้าหมายยิ่งขึ้น...จงเขียนเป้าหมาย....จงเขียนแผนการไปสู่เป้าหมาย...จงเขียนระยะเวลาที่จะเดินทางไปสู่เป้าหมาย....จงเขียนขั้นตอนต่างๆที่จะทำให้เป้าหมายประสบความสำเร็จ.....
เป้าหมายยิ่งใหญ่....ท่านยิ่งต้องพัฒนาตนเอง....พัฒนาทั้งการอ่าน การฟัง การพูด การกระทำ การขาย การนำเสนอ....ยิ่งท่านพัฒนาตนเองได้มากเท่าไร....เป้าหมายที่ท่านดูว่ายิ่งใหญ่...ก็จะเป็นเพียงเป้าหมายหมายที่เล็กน้อน....เท่านั้น
เมื่อได้...อ่านมาถึงนี้แล้ว...ผมอยากถามว่า....คุณมีเป้าหมายหรือยัง....คุณค้นพบเป้าหมายตัวเองหรือยัง....เพราะถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน...ชีวิตของคุณก็จะมีความตื่นเต้น...ชีวิตของคุณก็จะมีพลังขับเคลื่อน....ชีวิตของคุณก็จะมีพลังมีความหวัง....ถ้าคุณยังไม่มี....จงเขียนมันขึ้นมา....ตอนนี้....ขอให้คุณประสบความสำเร็จ ตามเป้าหมายที่คุณวางเอาไว้ขอให้ทุกๆท่านโชคดี
...
  
การเคลื่อนย้ายแรงงาน กฏหมายแรงงาน
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " การเคลื่อนย้ายแรงงาน กฏหมายแรงงาน มาตรฐานวิชาชีพด้านวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน ณ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ...
  
การทำงานด้วยหัวใจ
การทำงานด้วยหัวใจ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
การทำงานอย่างไรให้มีความสุข การทำงานอย่างไร ที่จะทำงานออกมาจากหัวใจ ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของการทำงานกันก่อน
- การทำงานกับความเครียด หากจะพูดไปแล้ว ความเครียดในการทำงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรที่จะมีมากจนเกินไปจนกระทั่งเป็นโรคต่างๆ (โรคนอนไม่หลับ โรคความดัน โรคปวดหัว) หรือมีน้อยจนเกินไป คนที่ไม่มีความรับผิดชอบในงานส่วนใหญ่มักจะไม่มีความเครียด ไม่มีความกังวัลใจ ฉะนั้น พระพุทธเจ้าบอกให้เดินสายกลาง คนที่จะทำงานให้ได้ดีมีประสิทธิภาพมักจะเป็นคนที่มีความเครียดแต่ต้องไม่มาก งานจึงจะออกมาดี กระผมขอยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ปัจจุบัน กระผมมีอาชีพวิทยากร หากมีคนเชิญผมให้ไปพูด หากผมไม่มีความเครียดอยู่เลย รู้สึกสบายๆ ไม่ตื่นเต้น กระผมมักจะไม่ได้เตรียมตัวไปบรรยายหรือทำการบ้าน แต่ตรงกันข้ามหากว่าผมมีความเครียดมากจนเกินไป พรุ่งนี้จะไปบรรยาย เลยทำให้นอนไม่หลับ อย่างนี้ก็คงจะไม่ดี ดังนั้น หากว่าผมมีความเครียด มีความรู้สึกต้องรับผิดชอบ ผมจะมีการทำการบ้านหรือการเตรียมตัวไปพูดบรรยายเป็นอย่างดี
- การทำงานกับความขัดแย้ง ความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าองค์กรไหนมีคนทำงาน องค์กรนั้นก็จะมีปัญหาเรื่องความขัดแย้ง ฉะนั้น การทำงานร่วมกันกับคนภายในองค์กร (หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน) และ การทำงานกับบุคคลภายในองค์กร(ลูกค้า) ย่อมจะต้องเกิดปัญหาเป็นธรรมดา เพียงแต่เราต้องรู้จักที่จะลดความขัดแย้งหรือเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งให้เป็นเรื่องสร้างสรรค์ ก็จะทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและองค์กรได้
- การทำงานกับมนุษย์สัมพันธ์ การทำงานร่วมกับคน ยิ่งองค์กรไหนมีคนทำงานเป็นจำนวนมาก บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน มักจะต้องเป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ ซึ่งบุคคลที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มักจะเป็นคนที่มีความเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของบุคคลได้ เช่น ยอมรับความแตกต่างระหว่างเพศ ชาย หญิง , ความแตกต่างระหว่างวัย เด็ก วัยรุ่น ชรา ความแตกต่างขอบุคคล (ร่างกาย , อารมณ์ , จิตใจ , ความรู้สึก , บุคลิกภาพ , ประสบการณ์ )
- การทำงานกับการสื่อสาร คนเราทำงานร่วมกันมักจะมีปัญหาเรื่องของการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้น้ำเสียง การสื่อสารที่ผิดพลาด การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน การสื่อสารที่ขาดการกลั่นกรอง ฯลฯ
- การทำงานกับความรักในงานที่ทำ บุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับสูง มักจะเป็นคนที่รักในงานที่ตนเองทำ ตรงกันข้ามบุคคลโดยทั่วไป มักเลือกทำงานเพราะเห็นแก่เงินเป็นอันดับแรก อีกทั้งไม่รู้จักตัวตน ว่าตนเองชอบทำงานอะไรกันแน่ เขาจึงทำงานด้วยความเบื่อหน่าย ไม่สนุกกับการทำงาน โทมัส อัลวา เอดิสัน เขาชอบประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ เขาสามารถอยู่ในห้องทดลองได้ทั้งวันทั้งคืน โดยไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อหน่าย เหตุเพราะว่าเขารักในงานที่เขาทำ เขาไม่คิดว่านั้นคืองาน แต่เขามีความสนุกกับมันต่างหาก , สตีฟ จอบส์ บิล เกตต์ ชอบคอมพิวเตอร์ เขาสามารถอยู่กับคอมพิวเตอร์ได้อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย เพราะเขารักในเรื่องราวต่างๆของคอมพิวเตอร์นั้นเอง
- การทำงานกับการบริหารเวลา หลายคนที่มีความเครียดในการทำงาน มีความเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ในการทำงาน สาเหตุหนึ่งก็เนื่องมาจาก การที่บุคคลคนนั้น ไม่รู้จักเรื่องของการบริหารเวลา เขาไม่รู้ว่างานไหนเป็นงานสำคัญ งานไหนเป็นงานที่ไม่สำคัญ งานไหนควรทำก่อน งานไหนควรทำทีหลัง จึงทำให้เขาเกิดความเครียด เมื่องานที่จะต้องทำให้เสร็จ กลับยังไม่ได้ทำ ทั้งๆที่ ควรจะทำเสร็จตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว แต่เขาปล่อยให้เวลาผ่านไป(ดินพอกหางหมู) โดยการเลือกทำงานที่ไม่สำคัญก่อน ฉะนั้น การบริหารเวลาดีมักจะทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขในการทำงานมากขึ้น
- การทำงานกับการคิดถึงประโยชน์ที่ได้รับจากงาน งานหลายๆงาน มีเงินเดือนน้อย แต่เมื่อทำไปแล้ว เกิดความสุขอย่างมากมายมหาศาล อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้เกิดความภาคภูมิใจ เช่น ครู อาจารย์ ได้รับเงินเดือนน้อย แต่ก็สามารถเกิดความสุขในงานได้ หากว่าคำนึงถึง เด็กๆที่จบออกไปเป็นอนาคตของประเทศชาติ
- การทำงานกับแนวทางพุทธศาสนา อิทธิบาท 4 เป็นแนวทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เมื่อ 2556 ปี แต่ก็ยังคงทันสมัย คือ ฉันทะ ต้องมีความรักในงานที่ตนเองทำ(ใจรัก) , วิริยะ ต้องมีความพากเพียรในการทำงาน(ใจสู้) , จิตตะ ต้องมีความเอาใจใส่ในงาน(ใจใส่) และวิมังสา ต้องมีความไตร่ตรองในผลงานที่ตนเองทำ(มีใจตรวจสอบ)
ดังนั้น การที่บุคคล คนหนึ่งจะมีหัวใจที่รักงานหรือมีการทำงานด้วยหัวใจ จะต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง ซึ่งองค์ประกอบข้างต้น เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญ หากท่านเป็นคนหนึ่งที่อยากจะทำงานด้วยหัวใจ ท่านควรจะพัฒนาตนเอง ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้ตนเองมีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น
...
  
ครบเครื่องเรื่องนักบริหาร
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " ครบเครื่องเรื่องนักบริหาร" ให้แก่นักธุรกิจ ผู้ประกอบกิจการ ในงาน สัมมนาแห่งปี จัดโดย Deal First ณ สถานีไทย พีบีเอส เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ...
  
ขยะเป็นทอง
รักษาสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนขยะให้เป็นทอง

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)


เมื่อพูดถึงคำว่า “ ขยะ ” มักเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่คอยชอบกันและถูกมองในทางลบ เพราะถ้าพื้นที่ไหนมีขยะมากๆ พื้นที่นั้นมักจะมีปัญหามากตามมา


ดังเช่น ขยะ เป็นปัญหาใหญ่อันดับหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร จากข้อมูลมีปริมาณขยะสูงถึง 8.5 พันตันต่อวัน หากคิดเฉลี่ยเป็นรายบุคคลแล้ว 1 คนจะก่อให้เกิดขยะในปริมาณ 0.8 - 1 กิโลกรัมต่อวัน จึงเป็นภาระหนักของ กทม. ในการกำจัดขยะเหล่านั้น ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นมากมายนี่เองส่งผลให้มีขยะตกค้างเป็นจำนวนมากในแต่ละวันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพความเป็นอยู่ในสังคมมากมาย ได้แก่


- บ้านเมืองสกปรกไม่น่ามอง เสียทัศนียภาพ ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน


- เป็นแหล่งเพราะพันธุ์สัตว์และพาหนะนำโรคต่าง ๆ เช่น หนู แมลงสาบ แมลงวัน ทั้งยังเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคโดยตรง เช่น อหิวาตกโรค อุจจาระร่วง บิด โรคผิวหนัง บาดทะยัก โรคทางเดินหายใจ เป็นต้น


- ทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษ เช่น ตะกั่ว ปรอท ลงสู่พื้นดิน และแหล่งน้ำ


- ทำให้แหล่งน้ำเน่าเสีย


- ท่อระบายน้ำอุดตัน อันเป็นสาเหตุของปัญหาน้ำท่วม


- เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่นละออง เขม่า ควัน จากการเผาขยะ และเกิด ก๊าชมีเทนจากการฝังกลบขยะ


- ขยะบางชนิดไม่ย่อยสลาย และกำจัดได้ยาก เช่น โฟม พลาสติก ทำให้ตกค้างสู่สิ่งแวดล้อม


( ข้อมูล จาก http://www.bu.ac.th/hotnews/iso/isomain3.html)


แต่ในดีมีเสีย ในเสียมีดี ถ้าเรารู้จักเปลี่ยนขยะมาเป็นรายได้ ก็จะทำให้พื้นที่นั้น ชุมชนนั้น มีสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ดังจะเห็นได้จากหลายหน่วยงานในปัจจุบันที่แปรเปลี่ยนขยะมาเป็นทองหรือรายได้ บางแห่งตั้งเป็นธนาคารขยะ บางแห่งตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้การกำจัดขยะ ฯลฯ


การคัดแยกขยะก่อนทิ้ง การรีไซเคิลขยะ ถ้าทำกันอย่างจริงจังแล้ว เราสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลเลยที่เดียว เช่น พลาสติก ขวดแก้ว กระป๋องเครื่องดื่ม เศษเหล็ก เศษสังกะสี เศษกระดาษ เศษแก้ว ฯลฯ


จนบางแห่งสามารถทำเป็นรูปธุรกิจ แล้วขายแฟรนไชส์ได้อีกด้วย ดังเช่น แฟรนไชส์ วงษ์พาณิชย์


ส่วนที่เหลือ ยังสามารถทำเป็นปุ๋ยหมักจากขยะอินทรีย์อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากข้อมูล


นายเกษม ทองปาน รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาที่ดินจัดกิจกรรมรณรงค์การจัดการวัสดุเหลือใช้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมีในโครงการแปลงขยะเป็นทอง ด้วยการนำขยะหรือเศษอาหาร วัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนและภาคเกษตรมาแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ สารบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็น โดยนำร่องใน 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ อุบลราชธานี กรุงเทพฯ และปริมณฑล ( นสพ.แนวหน้า 6 มิย.51)


และที่สำคัญ ขยะยังเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย จากการที่บริษัท Biffa ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทอังกฤษ ได้ทดลองผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซที่เกิดจากการย่อยสลายของขยะได้สำเร็จ





นี่คือประโยชน์ของ ขยะ สิ่งปฏิกูล ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของใครๆ และทุกคนรังเกียจมัน กำลังเป็นปัญหาก่อความเดือดร้อนให้กับชาวกรุงเทพ และชาวเมืองอุตสาหกรรมในขณะนี้ แต่ถ้าเรานำไปใช้ให้ถูกทางมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง

...
  
ศิลปะการพัฒนาการพูด
ศิลปะการพัฒนาการพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
หลายคนมีความเชื่อเรื่อง “ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” หลายคนเชื่อว่า “การพูดเก่งเป็นพรสวรรค์” สำหรับตัวกระผมเอง มีความเชื่อว่า การพูดเก่งพูดเป็น นั่นขึ้นอยู่กับการฝึกฝน เรียนรู้และการพัฒนากันได้ ฉะนั้น ศิลปะการพูด เราสามารถพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าได้ หากว่าท่านมีความปรารถนาอย่างแท้จริง โดยการกระทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
1.สร้างเป้าหมายขึ้นมา คนที่มีการพัฒนาการพูดได้อย่างรวดเร็ว เขามักเป็นคนมีเป้าหมาย และเขารู้ว่า เขาต้องการเป็นนักพูดระดับใด เช่น ระดับตำบล ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ หรือเป็นนักพูดระดับโลก ฉะนั้น หากท่านมีเป้าหมายที่ใหญ่ท่านก็จะมีความพยายามมีความมานะมากกว่าคนอื่นๆ และหากท่านต้องการเป็นนักพูดระดับโลกด้วยแล้ว ท่านก็คงต้องไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม
2.ทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ คนที่มีการพัฒนาการพูดได้อย่างรวดเร็ว เขามักจะต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น เขาจะทำการบ้านทุกครั้งก่อนขึ้นพูด เขาต้องเตรียมตัวการพูดของเขาเป็นอย่างดี อีกทั้งมีการจัดสรรเวลาให้กับการพัฒนาการพูดอย่างต่อเนื่อง
3.ฝึก ซ้อม การพูด อยู่เสมอ คนที่มีการพัฒนาการพูดได้อย่างรวดเร็ว เขามักหาเวทีในการพูดอยู่เสมอ และหากว่าไม่มีใครเชิญพูด เขาก็จะหาที่เงียบๆ ซ้อมพูดคนเดียว อยู่เป็นประจำ
4.ฟัง อ่าน เรื่องราวที่ใช้ประกอบการพูด อยู่เป็นประจำ คนที่มีการพัฒนาการพูดของตนเอง มักจะเป็นนักอ่าน นักฟัง เขาจะใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือ เขาจะขยันตามไปฟังนักพูดคนอื่นๆพูด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลและเพื่อใช้ในการปรับปรุงการพูดของตนเอง
5.ฝึกใช้ถ้อยคำ ภาษา คนที่มีการพัฒนาการพูดของตนเอง มักเป็นผู้ที่ร่ำรวยในการใช้ภาษา เขาจะมีการบันทึก มีการจด การจำ ภาษาที่แปลกๆ ภาษาที่ไพเราะๆ เพื่อนำเอาไปใช้ในการพูดในภายภาคหน้า
6.ใช้หลักอิทธิบาท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะและวิมังสา) ฉันทะ มีความชอบมีความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จในการพูด,วิริยะ ความพากเพียรความขยันในการฝึกฝนการพูด , จิตตะ ความเอาใจใส่จดจ่อต่อเป้าหมายในการพูดและวิมังสา ความไตร่ตรอง การปรับปรุงการพูดของตนเองอยู่เสมอ
7.ฝึกฝนความเชื่อมั่นในตนเอง เราจะเป็นนักพูดที่เก่งไม่ได้เลย หากว่าเราขาดความเชื่อมั่นในตนเอง หลายคนมีความรู้สูง มีฐานะดี แต่พูดไม่ได้เรื่อง แต่ตรงกันข้าม นักพูดที่เก่งหลายๆคน กลับไร้ซึ่งการศึกษา จงฝึกฝนความเชื่อมั่น แล้วผู้ฟังจะศรัทธาในการพูดของท่าน
8.ฝึกฝน ระบบคิด คนที่พูดเก่งพูดเป็น มักจะเป็นคนที่มีระบบการคิดที่ดีด้วย หลายคนมีความคิดที่แปลกใหม่ เมื่อพูดออกไป ก็จะทำให้คนฟัง เกิดความสนใจในเรื่องที่พูดด้วย
9.รู้จักใช้คำพูดให้ถูกกาล เรื่องบางเรื่องเราอยากที่จะพูด แต่ก็ไม่ควรพูด เพราะมันเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมที่จะพูดในช่วงเวลานั้น เราก็ไม่ควรพูด ฉะนั้น นักพูดที่ฉลาด มักจะเลือกใช้คำพูดให้เหมาะสม กับผู้ฟัง กับสถานที่ นั้นๆ
10.ฝึกฝน การใช้เสียง เสียงดัง เสียงเบา จังหวะในการพูด หยุด เน้น ย้ำ บางครั้งอาจจะต้องพูดซ้ำ เพื่อให้ผู้ฟังจดจำคำพูดนั้นๆ
11.หัดพูดออกมาจากใจ ผู้ฟังมักสังเกตเห็นความจริงใจของนักพูด ที่ผ่านออกมาจากคำพูด น้ำเสียง ท่าทาง หลายคนพูดเรื่องเศร้า ผู้ฟังก็จะรู้สึกเศร้าไปด้วย ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก นักพูดท่านนั้น สอดใส่อารมณ์ สอดใส่ความจริงใจลงไป ตรงกันข้าม ผู้พูดหลายคน พูดเรื่องเศร้า แต่ผู้ฟังแอบยิ้มหรือหัวเราะ เพราะอะไร เพราะผู้ฟังรู้ว่า ผู้พูด พูดออกมาด้วยความจริงใจหรือไม่ นั้นเอง
ฉะนั้น ศิลปะการพูดเราสามารถ พัฒนา ฝึกฝน ปรับปรุง ได้ โดยผ่านข้อแนะนำข้างต้นนี้ หากว่าท่านได้ลงมือฝึกปฏิบัติอย่างตั้งใจ กระผมเชื่อว่า การพูดของท่านก็จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ขอให้ท่านประสบความสำเร็จในการพูดและการใช้คำพูด


...
  
อัจฉริยะพลิกสมอง....เปลี่ยนโลก
อัจฉริยะพลิกสมอง...เปลี่ยนโลก
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
โทมัส อัลวา เอดิสัน ถือว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลที่โลกยกย่อง แล้วเขาเป็นอิจฉริยะได้อย่างไร จึงเป็นสิ่งที่น่าสมควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวกระผมเองและนักวิชาการอีกเป็นจำนวนมากเชื่อว่า อัจฉริยะสามารถสร้างขึ้นได้ การดูต้นแบบ ชีวิต แนวคิดของบรรดาอัจฉริยะบุคคลเป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถทำให้เราเป็นอัจฉริยะได้ดังเช่นบุคคลต้นแบบ โทมัส อัลวา เอดิสัน เป็นบุคคลคนคนนั้น
มีคนเคยไปถาม โทมัส อัลวา เอดิสัน ว่า อัจฉริยะเกิดจากอะไร โทมัส อัลวา เอดิสัน ตอบว่า “ อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่เกิดจากความพยายาม 99 เปอร์เซ็นต์” จากคำตอบนี้หากเราได้อ่านประวัติของ โทมัส อัลวา เอดิสัน เราจะเห็นถึงความมานะ พยายาม ความขยัน ความอดทนในการทำงานของเขา เขาจะไม่ล้มเลิกง่ายๆ
ชีวิตคือการทดลอง โทมัส อัลวา เอดิสัน ได้ทุ่มเทให้กับเวลาทดลองเป็นอย่างยิ่ง เขาได้ใช้เวลาอย่างมากอยู่ในห้องทดลองและเมื่อออกมานอกห้องเขาก็จะทดลองทุกๆอย่างที่เขาสงสัยและอยากรู้ เขาจะลองผิดลองถูกและเฝ้ามองการทดลองนั้นด้วยตนเอง อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ชอบบันทึกเรื่องราวต่างๆที่ได้จากการทดลอง จนกระทั่งเขาได้รับสิทธิบัตรกว่า 1,000 รายการ
นวัตกรรมนำหน้า ในการทำธุรกิจของเขา เขามักจะคิดนวัตกรรมใหม่ๆออกมาสู่ตลาดเสมอ เขาจะไม่หยุดคิด หยุดทดลอง อีกทั้งเขายังเคยพูดด้วยว่า “ วิธีที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำได้ ก็คือต้องทำการทดลอง ถ้าหยุดทดลองก็คือการเดินถอยหลัง” สตีฟ จอบส์ เองก็มีแนวคิดเรื่องนวัตกรรมไม่ต่างกัน เขาเคยพูดกับทีมงานของเขาว่า “ สิ่งที่เราต้องทำคือ การปฏิวัติวงการทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน สร้างโลกของเราขึ้นมา”
ชอบอ่าน โทมัส อัลวา เอดิสัน นับได้ว่าเป็นนักอ่านคนหนึ่ง ตอนเช้าเขาจะอ่านหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับและช่วงบ่ายอีก 3-4 ฉบับ ส่วนใหญ่เป็นวารสาร หนังสือพิมพ์ในวงการประดิษฐ์ วงการวิทยาศาสตร์ที่เขากำลังทำงานอยู่ จึงทำให้เขามีความคิดที่จะผลิตสินค้าให้สนองตอบกับคนในยุคนั้น เพราะเขาเชื่อว่า คนเราจะอยู่ได้ เติบโตได้ก็ด้วยความรู้ใหม่ๆ
คิดต่าง จึงประสบความสำเร็จ สิ่งประดิษฐ์ของ โทมัส อัลวา เอดิสัน เกิดขึ้นจากการคิดต่าง เช่น หลอดไฟฟ้า เทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว เครื่องส่งสัญญาณโทรศัพท์ สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ถือได้ว่าช่วยทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ จากโลกที่มืดไม่มีไฟฟ้าใช้ กลับกลายเป็นส่องสว่างด้วยหลอดไฟฟ้าที่เขาประดิษฐ์ โลกสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นก็ด้วยเครื่องส่งสัญญาณโทรศัพท์ และโลกสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวเก็บไว้ได้ก็ด้วยฝึกมืออย่างคนอย่างเขา
เมื่อเจอปัญหาต้องไม่หยุด ในการทดลองสิ่งประดิษฐ์เกือบทุกชนิดของเขา เขาต้องพบกับปัญหาแต่เขาไม่เคยหยุดหรือทิ้งกลางคัน ตรงกันข้ามกับบุคคลโดยทั่วไป เมื่อเจอปัญหาก็มักบ่น มักทิ้ง แล้วไม่ทำต่อไป แต่คนอย่าง โทมัส อัลวา เอดิสัน เขาไม่เคยหยุดเมื่อเจอกับปัญหาโดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์ชิ้นสำคัญของโลกอย่างหลอดไฟฟ้า ในการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า เขาต้องล้มเหลวนับเป็นพันๆครั้ง มีคนไปถามเขาว่าเขาไม่เสียใจหรือไม่ ที่พบกับความล้มเหลวเป็นพันๆครั้ง เขาตอบว่า “ เขาไม่ได้ล้มเหลวแต่เขากำลังได้วิธีการใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกพันวิธีต่างหาก” อีกทั้งเขาเป็นคนที่ไม่เคยหยุดยั้ง นักข่าวเคยตั้งคำถามว่า “ หากเขายังไม่สามารถผลิตหลอดไฟฟ้าสำเร็จเขาจะทำอย่างไร” โทมัส อัลวา เอดิสัน ตอบว่า “ ผมจะไม่เสียเวลามานั่งคุยอย่างนี้หรอก แต่ผมจะมุ่งหน้าคิดค้นวิธีการผลิตหลอดไฟฟ้าให้จงได้”
นี่คือวิธีคิด วิธีทำงานของ โทมัส อัลวา เอดิสัน ซึ่งทุกๆท่านสามารถนำเอาไปปฏิบัติได้ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จอย่างอัจฉริยะคนนี้
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.