หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
เหล้า เบียร์ วัยรุ่น

การดื่ม สุรา เบียร์ ของเด็กวัยรุ่น


โดย ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์




ถึงแม้รัฐบาลจะมีมติจากคณะรัฐมนตรีให้ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสุราแช่ประเภทเบียร์ และสุรากลั่นชนิดสุราขาว สุราผสมและสุราพิเศษ(บรั่นดี)โดยมีผลทันทีตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของคืนวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ก็ตาม


แต่ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่าตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการปรับขึ้นภาษีในช่วงที่กำลังซื้อของประชาชนลดลง จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาการเมือง ทำให้มีแนวโน้มที่ประชาชนจะตัดสินใจชะลอหรือลดการบริโภคเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ลง แต่อาจเกิดปัญหาการผลิตและลักลอบนำเข้าสุราโดยไม่เสียภาษีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน ทำให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจไม่เพิ่มขึ้นตามที่ตั้งเป้าไว้


แต่ถ้านับสถิติการดื่ม สุรา เบียร์ ของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ในปัจจุบันมีมากกว่าในอดีตเป็นอันมาก เหตุผลน่าจะมาจากหลายปัจจัย เช่น การดื่ม สุรา เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อต้องการเข้าสังคมและเป็นที่ยอมรับของบรรดาเพื่อน, ความอยากลอง, การดื่มเพื่อคลายเครียด ฯลฯ
ความจริงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่น คงห้ามกันลำบากเนื่องจากกระแสโลก กระแสทุน กระแสบริโภคนิยม มีแนวโน้มจะไปในทิศทางนั้น เราสังเกตจากการดูโฆษณารวมทั้งสื่อในรายการบันเทิงต่างๆ เช่น ละครในโทรทัศน์ ภาพยนตร์ รวมทั้งรายการเพลงต่างๆ
ปัจจุบันธุรกิจร้านสุรา เบียร์ ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากเดิม โดยบริษัท สุรา เบียร์ พยายามหาลูกค้ารายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงบริษัท บุหรี่ ก็เริ่มหากลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเพิ่มขึ้นอีก จึงไม่แปลกใจเลย ทำไม ร้านขายสุรา เบียร์ จึงเกิดขึ้นในบริเวณ มหาวิทยาลัย สถานศึกษา มากขึ้นทุกวัน และเจ้าของธุรกิจขายสุรา เบียร์ ก็คิดว่าการขายสุรา เบียร์ไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมเพราะเป็นการประกอบธุรกิจที่สุจริตอย่างหนึ่ง


ถึงแม้รัฐบาลจะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศ (มาตรการ ๑๒ จำกัดสถานที่จำหน่าย) ก็ตาม เพราะ กฎหมายเป็นกฎหมายจำกัดสถานที่จำหน่าย แต่ไม่ใช้กฎหมายห้ามดื่ม ดังนั้น ผู้ที่เป็นนักดื่มก็คงต้องหาดื่มกันต่อไปในสถานที่ซึ่งกฏหมายเปิดช่องให้จำหน่ายได้
วัยรุ่นที่อยู่ในวัยเรียน บางรายถึงกับนำค่าเทอม ค่ากิจกรรม ไปซื้อ สุรา เบียร์ จนหมด บางรายถึงขนาดขายตัวเพื่อแลกกับเงินแล้วนำเงินไปใช้ฟุ่มเฟือย รวมทั้งเลี้ยงสุรา เบียร์ แก่เพื่อนวัยรุ่น
ผลกระทบจากการดื่ม สุรา เบียร์ ของวัยรุ่นซึ่งอยู่ในวัยเรียน ส่วนมากมักทำให้การเรียนตกต่ำ เนื่องจากต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเที่ยวกลางคืน เมา เนื่องจากเวลาดื่มเหล้า เบียร์ไปมากๆ ติดต่อกันหลายวัน จะทำให้รู้สึกเบลอๆ มึนๆ ไม่สดชื่น รู้สึกเฉื่อยชา หลงๆ ลืมๆ ทำให้การศึกษาเล่าเรียนไม่มีประสิทธิภาพ เพราะสมองสั่งการช้าลง
การดื่ม เหล้า เบียร์ ของวัยรุ่นยังนำไปสู่การมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน บางรายเมาแล้วขับ ซึ่งนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุมากมาย
ถึงแม้รัฐบาลจะขึ้นภาษี สุรา เบียร์และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ตาม แต่การดื่มสุรา เบียร์ ของประชาชนคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นคงต้องมีต่อไป รัฐบาลจะใช้กฏหมายบังคับไม่ให้ดื่มก็คงทำได้ยาก แต่จะทำอย่างไร ให้ลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการดื่มสิ่งเหล่านี้ เช่น ลดการเกิดอุบัติเหตุอันเกิดจากการดื่ม และ ลดการทะเลาะวิวาทอันเกิดจากการดื่มกิน ฯลฯ






















...
  
ศิลปะการพูด
ศิลปะการพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
“ อันลิ้นคนนิ่งไม่ดี ที่ควรนิ่งนั้นมีแต่ลิ้นโค ”
พระราชนิพนธ์ “เวนิสวานิช” ของพระมหาธีรราชเจ้า ที่ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องของการพูด ซึ่งการพูดมีความสำคัญต่อโลกยุคปัจจุบันเป็นอันมาก เนื่องจากโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกของยุคการสื่อสาร เพราะฉะนั้น หากใครสื่อสารโดยเฉพาะเรื่องของการพูดได้ดี ก็มักจะได้เปรียบกว่าบุคคลที่สื่อสารไม่เป็น
การพูดนั้น คนเราทุกคนเกิดมาหากไม่มีปัญหาเรื่องของระบบเสียง ไม่มีความพิการทางด้านหู ด้านปาก ก็สามารถพูดกันได้ทุกคน แต่หากต้องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว บุคคลคนนั้นต้อง อาศัย ศิลปะ ต้องฝึกฝน เรียนรู้ ถึงจะสามารถพูดได้ดีและมีประสิทธิภาพมากกว่าคนโดยทั่วไป
การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความเพียรพยายามจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่บุคคลที่ต้องการพูดเก่ง พูดเป็น ต้องนำไปปฏิบัติ การพูดเก่งนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ทำให้เราเป็นคนที่มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านบุคลิกภาพ การแต่งกาย , เกิดความก้าวหน้าในกิจการด้านการทำงาน , มีชื่อเสียงปรากฏขึ้นในวงสังคม , เป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ และทำให้เกิดกำไรชีวิต อีกทั้งสร้างรายได้ต่างๆเข้ามาในชีวิตอย่างมากมาย
บุคคลสำคัญๆ เขามีวิธีการฝึกพูดอย่างไร เขาจึงประสบความสำเร็จ
- เฮนรี่ วอร์ค บีเชอร์ กล่าวว่า “ นักพูดที่ประสบความสำเร็จ ต้อง เป็นคนที่พูดอย่าง
กระฉับกระเฉง กระตือรือร้น กระปรี้กระเปร่า มีพลัง จึงจะสามารถทำให้เรื่องราวต่างๆ เป็นที่น่าสนใจของผู้ฟังได้ ”
- ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ กล่าวว่า นักพูดที่ดีต้องศึกษาค้นคว้า ฝึกฝนตนเอง อีก
ทั้งต้องมีการเจนจัดด้านภาษาศาสตร์ จึงจะทำให้คำพูดนั้นงดงามตรึงใจ แล่นลึก ตราตรึง ผู้ฟังได้”
- สุรวงศ์ วัฒนกุล กล่าวว่า ต้องยกตัวอย่างประกอบเยอะๆ เพราะการยกตัวอย่างจะทำให้ผู้ฟังฟัง
แล้วเข้าใจได้ง่าย อีกทั้งการหาเรื่องที่แปลกใหม่มักจะทำให้ผู้ฟังจดจำได้เป็นอย่างดี ”
- จตุพล ชมพูนิช กล่าวว่า “ การเตรียมตัวที่ดีมีความสำคัญมาก ทุกครั้งที่จะไปพูดจะต้องมีการ
เตรียมตัวที่ดีก่อน อีกทั้งต้องมีการวิเคราะห์ผู้ฟัง ”
- สุขุม นวลสกุล กล่าวว่า “ การจะเป็นนักพูดที่ดี ฐานต้องแน่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูล องค์
ความรู้ เนื้อหาต่างๆที่จะไปพูด ต้องอ่านมาก ฟังมาก”
- อภิชาต ดำดี กล่าวว่า “ ต้องเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง ต้องคิด ต้องหาความรู้ ข้อมูล ตลอดเวลา อีกทั้ง
ต้องรับฟังคำวิจารณ์ของผู้อื่นเพื่อนำมาประเมินตนเอง แล้วปรับปรุงแก้ไขตนเอง”
เราจะเห็นได้ว่า บรรดา นักพูด บุคคลสำคัญ ที่กล่าวไปข้างต้น ให้ความสำคัญกับสิ่งต่อไปนี้ คือ การพูดอย่างมีชีวิตชีวา , การให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้ภาษา , การยกตัวอย่างประกอบเพื่อทำให้เข้าใจง่าย , ต้องมีการเตรียมตัวที่ดี , การวิเคราะห์ผู้ฟัง , การศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา และการปรับปรุงแก้ไขตนเอง
ดังนั้น หากท่านต้องการเป็นผู้ที่มีศิลปะการพูด ท่านจึงไม่ควรละเลยคำแนะนำข้างต้น และไม่ต้องกังวลในการฝึกฝนการพูดจนเป็นบุคคลวิตกจริต จงฝึกไปเรียนไป อย่างสม่ำเสมอ เท่านั้นเอง ดังคำกล่าวของ ศาสตราจารย์ วิลเลี่ยม เจมส์ นักจิตวิทยาชื่อดังแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวไว้ว่า“ เราไม่มีความจำเป็นจะต้องไปวิตกกังวลกับผลของการฝึกของเรา ขอให้เราฝึกไป เรียนไปอย่างหยุดยั้ง แล้วเราจะพบว่า เราไม่เป็นรองใครเลยในวงการที่เราได้มีการฝึกฝน บุคคลที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลกไม่มีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นหรือคนธรรมดาเลย เพียงแต่เขาเอาจริงเอาจังกับชีวิต ไม่หยุด ไม่ท้อถอยเท่านั้นเอง ”
...
  
การบริการสู่ความเป็นเลิศ
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " การบริการสู่ความเป็นเลิศ" ณ โรงพยาบาลราม เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2555 ...
  
สู้ไม่ถอย
คนบ้าอะไรสู้ไม่ถอย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ต้นไม้ใหญ่ในป่าลึก ที่มีความใหญ่โต แข็งแรง เติบโตได้ด้วยการผ่านการต่อสู้กับสิ่งต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับต้นไม้อื่นๆ ที่อยู่รอบๆ แต่ต้นไม้ที่ถูกเอาใจใส่ รักษาเป็นอย่างดีด้วยมนุษย์กลับเติบโตและมีขนาดที่เล็กกว่า
คนเราก็เช่นกัน คนที่เจริญเติบโต ก้าวหน้า ในอาชีพ ร่ำรวย เงินทอง ก็เพราะมีการแข่งขันและต่อสู้กับคนอื่นๆ ทั้งจากการทำงานที่หนัก ทั้งจากการทำงานที่ยากลำบาก “ จงทำงานแล้วท่านจะมีอำนาจ” เป็นคำกล่าวของอีเมอร์สัน เป็นคำพูดที่เป็นจริงมากทีเดียว
หากว่าท่านผู้อ่านต้องการมือ แขน ขา ที่แข็งแรง ไม่มีวิธีอื่นใดเลย ท่านผู้อ่านจำเป็นจะต้องออกกำลังกาย หมั่นออกแรงอยู่เสมอ แต่หากท่านผู้อ่านไม่ต้องการเช่นนั้น จงมัดมันไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย หลังจากนั้นไม่นานท่านจะพบว่า มือ แขน ขา ของท่านจะลีบไปเอง
จงฝึกฝนตนเองท่ามกลางการแข่งขันที่สูง ไทเกอร์ วูดส์ คนบ้าอะไรสู้ไม่ถอย ลูกครึ่งไทย-อเมริกา เป็นนักกอล์ฟระดับโลก เนื่องจากได้ร่วมแข่งขัน และมีคู่แข่งขันระดับโลก ไทเกอร์ วูดส์ จึงได้เป็นนักกอล์ฟที่มีอายุน้อยและประสบความสำเร็จ หากพวกเราลองคิดเสียใหม่ว่า หากไทเกอร์ วูดส์ เกิดในประเทศไทย อยู่ในประเทศไทย แข่งขันกีฬากอล์ฟเฉพาะในประเทศไทย ไทเกอร์ วูดส์ คงไปไม่ถึงระดับโลกได้ ฉะนั้น จงฝึกฝนและนำพาตนเองไปแข่งขันในท่ามกลางสนามที่มีการต่อสู้ มีการแข่งขันสูงแล้วท่านจะเติบโต พัฒนาตนเองได้อย่างก้าวกระโดด
สตีฟ จอบส์ คนบ้าอะไรสู้ไม่ถอย สตีฟ จอบส์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์ เนื่องมาจากการต่อสู้ เขาก่อตั้งบริษัท Apple ร่วมกับเพื่อน จนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ปี 1985 เขาถูกไล่ออกจากบริษัท Apple ที่ตัวเองก่อตั้งขึ้น แต่เขากลับเดินหน้าสู้ต่อโดยการตั้งบริษัท NeXT มาแข่งกับ Apple แต่ไม่ประสบความสำเร็จ สตีฟ จอบส์ เดินหน้าสู้ต่อไปโดยก่อตั้งบริษัท Pixar ในที่สุดเขาประสบความสำเร็จอย่างสูง จนบริษัท Apple ที่ไล่เขาออกกลับเชิญเขาเข้ามาเป็น CEO อีกครั้ง
อายุเป็นเพียงตัวเลข ไม่สำคัญ บุคคลที่ประสบความสำเร็จหลายๆคน อายุมากแล้ว แต่เขายังมีไฟที่จะทำธุรกิจหรือแสวงหาความฝันของตนเอง เช่น ผู้พัน KFC หรือ ผู้พันฮาร์แลนด์ เดวิด แซนเดอส์ เป็นคนบ้าอีกคนหนึ่งที่สู้ไม่ถอย ปลดเกษียณจากงานประจำซึ่งเป็นทหารแล้วจึงคิดที่จะมาทำไก่ทอดขาย ต้องเร่ขายสูตรไก่ถึง 1,009 คน ถึงมีนักธุรกิจที่ตัดสินใจซื้อสูตรไก่ทอดของเขา หาก ผู้พัน KFC ยอมแพ้ ไม่เดินหน้าสู้ต่อ โดยการไม่ยอมขายสูตรไก่ทอดให้คนที่ 1,009 พวกเราก็คงไม่ได้กินไก่ทอดที่อร่อยที่สุดในโลก
เรย์ คร็อก คนบ้าอะไรสู้ไม่ถอย เจ้าของลิขสิทธิ์ร้านแมคโดนัลด์ เป็นโรคเบาหวาน เป็นโรคไขข้อ เขาเคยเป็นทหาร เขาเคยเป็นพนักงานขับรถโรงพยาบาล เป็นนักดนตรีในวงออเคสต้า เป็นพนักงานขาย ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายถ้วยกระดาษ พออายุ 54 ปี เขายังมีความฝันในการประกอบธุรกิจโดยการไปซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ จากสองพี่น้องแมคโดนัลด์ แล้วขยายสาขาไปทั่วประเทศสหรัฐและอีกไม่นานได้ขยายสาขาไปทั่วโลก
เรย์ คร็อก ยังสร้างทฤษฏี Q S C โดยทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับร้านอาหารทั่วไปในขณะนั้นคือ
Q = Quality หมายถึงปรับปรุงคุณภาพ ทั้งอาหาร เครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
S =Service หมายถึง การบริการที่รวดเร็ว ทันสมัย
C=Clean หมายถึง ความสะอาดไม่ว่าการแต่งกายของพนักงาน สินค้า หน้าร้านต้องสะอาดเรียบร้อย
ดังนั้นเมื่อเราเข้าไปรับประทานอาหารที่ร้านแมคโดนัลด์ เราจะพบกับ แฮมเบอร์เกอร์ร้อนๆ ที่น่าทาน ความรวดเร็วในการส่งถึงมือลูกค้า ความสะอาดของร้าน
คนบ้าที่มีจิตใจเป็นนักสู้เหล่านี้ เป็นแค่บุคคลส่วนหนึ่งที่กระผมได้มีโอกาสนำเสนอในงานเขียนในครั้งนี้ ฉะนั้น หากท่านต้องการ ร่ำรวย ตำแหน่ง ชื่อเสียง หรือต้องการทำในสิ่งที่ท่านฝันไว้ จงสู้ไม่ถอย แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ
...
  
องค์กรกับผู้บริหาร
ผู้จัดการกับองค์การ
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

เมื่อพูดถึงเรื่องของผู้จัดการที่จะเข้ามาจัดการกับองค์กร หน่วยงานหรือบริษัท ห้าง ร้าน


ผู้จัดการจะต้องมีความสามารถ หลากหลาย อาจกล่าวได้ดังนี้


1.เข้าใจพฤติกรรมของคน คนนับเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของผู้จัดการ เพราะคนเป็นผู้ควบคุมทรัพยากรอื่นที่ผู้จัดการต้องการ คือ เงิน พลังงาน วัตถุดิบ ที่ดิน เครื่องจักรและข่าวสาร คนจะเป็นผู้นำสิ่งเหล่านี้ประสานเข้าด้วยกัน ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้จัดการที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนจะได้เปรียบผู้จัดการที่ไม่มีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว


2.ทักษะในการติดต่อสื่อสาร การทำงานให้เสร็จโดยผู้อื่นเป็นผู้ทำนั้นต้องอาศัยการติดต่อสื่อสารที่ดีด้วยการใช้การพูดหรือการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรในการสื่อข้อมูล ผู้จัดการที่ไม่รับฟังหรือไม่ได้ยินไม่ได้ฟังข่าวสารจากลูกค้า คู่แข่ง เพื่อนร่วมงาน ผู้จัดการเช่นนี้ มักจะประสบความล้มเหลวในการทำงาน โดยนัยเดียวกันผู้จัดการที่ไม่สามารถถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารไปสู่กลุ่มต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ก็มักจะประสบความล้มเหลวในการทำงานเช่นกัน


3.การใช้อิทธิพล ภาวะผู้นำและอำนาจ การที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ต้องการผู้จัดการต้องใช้อิทธิพล (influence) อิทธิพล คือ กระบวนการของการทำให้คนอื่นประพฤติปฏิบัติตามที่ตนต้องการให้เป็นเช่นนั้น ในขณะที่ภาวะผู้นำ(leadership) เป็นรูปแบบพิเศษของการใช้อิทธิพลโดยมุ่งมีอิทธิพลเหนือกลุ่มมิใช่ปัจเจกบุคคล ส่วนอำนาจ (power) เป็นสมรรถนะในการใช้อิทธิพลซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ทำให้คนหนึ่งมีอิทธิพลเหนือคนอื่น


ในการทำงานทุกวัน ผู้จัดการจะใช้อิทธิพลและถูกอิทธิพลจาก ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้ร่วมงานและผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปในแง่มุมต่างกัน เช่น กับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ กับผู้ร่วมงานให้มีการร่วมมือกันทำงานอย่างใกล้ชิดและกับผู้บังคับบัญชาให้รับฟังข้อมูลข่าวสารที่ตนเองเสนอเพื่อตัดสินใจ


4.การตัดสินใจ การบริหารได้รับการขนานนามว่าเป็นงานตัดสินใจ(decision-making job) ซึ่งความจริงแล้วการจัดการเป็นมากกว่านั้น ผู้จัดการเป็นผู้ใช้อิทธิพล เป็นผู้นำและผู้ใช้อำนาจ นอกจากนี้ยังเป็นผู้รวบรวมและกระจายข้อมูลข่าวสาร ตรวจตราและประเมินผลและเป็นตัวแทนของกลุ่ม หน่วยงานหรือองค์การด้วย อย่างไรก็ตามหน้าที่ด้านการบริหาร(การวางแผน การจัดองค์การ การบรรจุ และการจัดวางกำลังคน การสั่งการ การจูงใจ และการควบคุม) ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเกือบทั้งสิ้น


5.เทคนิคการบริหารการปฏิบัติงาน ความรู้เกี่ยวกับด้านเทคนิค หมายถึงความรู้เกี่ยวกับเรื่องเฉพาะอย่างที่องค์การมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบ เทคนิคการบริหารการปฏิบัติงานเป็นเครื่องมือพิเศษที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาช่วยผู้จัดการรุ่นใหม่ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับการต้องตัดสินใจในเรื่องต่างๆ อย่างกว้างขวางและแวดล้อมไปด้วยข้อมูลข่าวสารจำนวนมากมาย เทคนิคในการบริหารการปฏิบัติงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการวิจัยเชิงปฏิบัติการและศาสตร์การจัดการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และตัวแบบทางคณิตศาสตร์ในฐานะที่เป็นเครื่องช่วยในการตัดสินใจ เป็นหัวใจของเทคนิคทั้งหลาย เรื่องราวทั้งหลายที่ผู้บริหารเผชิญอยู่สามารถจะแก้ไขด้วยการใช้เทคนิคต่างๆ ตั้งแต่การวางแผน การคาดการณ์ การจัดสรรทรัพยากร การจัดกำหนดระยะเวลา การต่อรองและการเจรจา


กล่าวโดยสรุป การจัดการกับองค์การเปรียบเสมือนคนละด้านของเหรียญเดียวกัน โดยการจัดการจะเป็นตัวประสานเชื่อมโยงทรัพยากรต่างๆ ที่องค์การมีอยู่ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์การกำหนดไว้ล่วงหน้า ในทุกวันนี้การจัดการยิ่งมีความสำคัญต่อองค์การอย่างมาก เพราะสภาพแวดล้อมขององค์การได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในขณะที่องค์การก็มีขนาดใหญ่และสลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องมีการจัดการที่มีประสิทธิภาพในการจัดการองค์การเพื่อความอยู่รอดและความก้าวหน้าขององค์การเอง





...
  
พรรคการเมืองและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " พรรคการเมืองและการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ณ โรงแรมเกทเวย์ ...
  
สู่วิทยากรมืออาชีพ
สู่วิทยากรมืออาชีพ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
อาชีพวิทยากรเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจและเป็นอาชีพที่มีความเป็นอิสระ อาชีพวิทยากรมีข้อดีหลายอย่างเช่น มีรายได้ที่ไม่ต้องมีจำนวนจำกัดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคล , มีการบริหารเวลาด้วยตนเองกล่าวคือไม่ต้องมีเวลาทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นเวลา เหมือนงานประจำ , เป็นอาชีพที่มีเกียรติผู้คนให้การยกย่อง , เป็นอาชีพที่ทำให้เกิดการพัฒนาเรียนรู้ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ ฯลฯ
หลายท่านอาจมีคำถามว่า แล้วจะทำอย่างไรถึงจะก้าวไปสู่การเป็นวิทยากรมืออาชีพ กระผมขอให้คำแนะนำว่า การจะเป็นวิทยากรมืออาชีพได้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบดังนี้
1.เริ่มต้นด้วยความรัก คนเราจะประสบความสำเร็จในอาชีพใด อาชีพหนึ่ง ท่านต้องมีความรัก ความชอบ สำหรับงานอาชีพนั้นๆ ตัวอย่าง ไทเกอร์ วูดส์ ชอบในกีฬากอล์ฟจึงฝึกฝน เรียนรู้ อยู่สม่ำเสมอ จนในที่สุด เขาประสบความสำเร็จเป็นนักกอล์ฟระดับโลก , สตีฟ จอบส์ ชอบคอมพิวเตอร์ รักคอมพิวเตอร์ จนในที่สุดเขาประสบความสำเร็จระดับโลกในวงการคอมพิวเตอร์รู้จักเขาเป็นอย่างดี , สุนทรภู่ ชอบเรื่องของกวี ท่านฝึกฝนเรียนรู้จนได้รับการยกย่องไปทั่วโลก เป็นต้น
ดังนั้น หากท่านต้องการเป็นวิทยากรมืออาชีพ ท่านต้องเริ่มต้นจากความรักในอาชีพนี้เป็นอันดับแรก
2.สะสมชั่วโมงบิน หมายถึง การหาเวทีให้ตนเองได้แสดงบ่อยๆ เท่าที่จะหาได้ ยิ่งท่านมีชั่วโมงบินมาก มีเวทีในการแสดงมาก ท่านก็จะมีการพัฒนาตนเองได้มากกว่า วิทยากรที่มีชั่วโมงบินน้อยหรือมีเวทีแสดงน้อย การผ่านเวทีแสดงมากๆ จะทำให้ท่านเกิดประสบการณ์ เกิดความเชี่ยวชาญ
3.พัฒนาตนเองอย่างหยุดยั้ง อาชีพวิทยากรเป็นอาชีพที่ต้องมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ท่านจะต้องหมั่นหาความรู้ใหม่ๆ ไม่หยุดนิ่ง ท่านต้องเป็นนักอ่าน นักศึกษา นักฟัง หมั่นเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ และต้องรู้จักค้นหาวิธีการหรือแบบฉบับของตนเองในการบรรยาย
4.ฝึกหัดความสามารถหลายๆทาง วิทยากรมืออาชีพมักมีความสามารถหลายๆทาง เช่น ต้องพูดต่อหน้าที่ชุมชนเป็น , ต้องร้องเพลงเป็น , ต้องหมั่นท่องคำกลอน คำคม แง่คิดต่างๆเพื่อใช้ในการฝึกอบรม , ต้องนำเกมส์หรือกิจกรรมต่างๆเป็น และต้องรู้จักแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าหรือมีไหวพริบดีในการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในการฝึกอบรม
5.ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องอย่าหยุด อาชีพวิทยากรเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยประสบการณ์ ยิ่งใครมีประสบการณ์มากยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนที่มีประสบการณ์น้อยกว่า ดังนั้น หากต้องการเป็นวิทยากรมืออาชีพท่านต้องไม่หยุดที่จะฝึกฝนตนเอง อีกทั้งต้องทำอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเริ่มต้นในอาชีพวิทยากร หลายท่านอาจจะตั้งคำถามว่า แล้วเราจะเริ่มต้นอย่างไร สำหรับการเริ่มต้นอาชีพวิทยากรของแต่ละท่าน อาจไม่เหมือนกัน บางท่าน อาจเริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยวิทยากรเพื่อเรียนรู้และฝึกฝนตนเอง บางท่าน อาจมีงานประจำแต่งานประจำไปเกี่ยวข้องกับการเป็นวิทยากรจึงมีโอกาสถูกเชิญให้ไปบรรยายในสถานที่ต่างๆ บางท่านอาจมีความรู้ความชำนาญอยู่แล้ว จึงเขียนหลักสูตร แล้วนำไปให้สถาบันที่รับจัดฝึกอบรมหางานให้ เป็นต้น
ดังนั้น อาชีพวิทยากรจึงเป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ ยิ่งในโลกปัจจุบัน ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจในการฝึกฝนตนเอง เรียนรู้สิ่งต่างๆมากขึ้น อีกทั้งวันที่ 1 มกราคม 2558 ประเทศไทยเราต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัว จึงทำให้อาชีพวิทยากรเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น หากวิทยากรท่านใดสามารถบรรยายเป็นภาษาอังกฤษได้ยิ่งทำให้ได้ค่าตัวมากขึ้นหรือมีรายได้มากขึ้นไปด้วย
...
  
ทำงานอย่างมีความสุข
ทำงานให้สนุกเป็นสุขกับการทำงาน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ในชีวิตของคนๆหนึ่งมีงานวิจัยว่า เราจะใช้เวลาไปกับการทำงานเป็นจำนวนเท่าไร ผลปรากฏออกมาว่า เราใช้เวลาในชีวิตถึง 2 ใน 3 ของเวลาทั้งหมดไปกับการทำงาน ดังนี้ การทำงานจึงเป็นสิ่งที่ควรทำให้ชีวิตมีความสุข มีความสนุก ไม่ใช้ทำงานไปด้วยความเบื่อหน่าย ไม่อยากทำ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ท่านควรมีความกล้าหาญในการเปลี่ยนแปลงตนเอง โดยการกล้าที่จะลาออกจากงานเดิมแล้วเปลี่ยนงานใหม่ไปทำงานที่ท่านรัก ท่านชอบ
เวลาทำงานของคนโดยปกติมักจะอยู่ที่ 8-10 ชั่วโมง แต่หากท่านต้องทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมงละ ท่านจะทำอย่างไร
โทมัส เอดิสัน แนะนำว่า “ จงสนุกกับงานนั้นๆ ” โทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์เอกของโลก ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าดวงแรกได้ ก็ด้วยการสนุกกับงาน เขาทำงานอย่างสนุกบางวันทำงานถึง 18 ชั่วโมงเลยทีเดียว และในบางวันเขาทำงานอย่างสนุกจนกระทั่งต้องหอบ อาหาร เครื่องดื่ม ที่นอนไปในห้องทดลองเพื่อที่จะได้มีเวลาทำงานมากขึ้น
พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ ทำงานอย่างสนุกบางวันท่านทำงานได้ถึงวันละ 16 ชั่วโมง ก็เพราะมีความสนุกกับการทำงาน การทำงานทำให้ท่านมีความสามารถหลายด้าน เช่น เป็นนักการเมือง นักเขียน นักพูด ข้าราชการ ครู อาจารย์ เป็นต้น
ซึ่งการทำงานให้มีความสนุกและเป็นสุขกับการทำงานนั้นสามารถแบ่งเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
1.จงรักในงานที่ท่านทำ จงทำในงานที่ท่านรัก ข้อนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน ความรักในงาน ความชอบในงาน เป็นบ่อเกิดให้ทำงานนั้นๆ ได้ดีกว่าคนอื่น ได้มากกว่าคนอื่น ฉะนั้น จงหางานที่ท่านรักทำแล้วท่านจะเกิดความสนุกและมีความสุขในงานที่ท่านได้ทำ
2.หากไม่สามารถหางานที่ตนเองรักทำได้ ก็จงทำใจรักงานในปัจจุบันที่ท่านทำ เสมือนหนึ่ง บางคนมีแฟนอยากที่จะแต่งงานกับคนๆนี้ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เราจึงได้แต่งงานกับอีกคนหนึ่งซึ่งเราไม่ได้รักหรือชอบเขา แต่เมื่อมาอยู่กินเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ก็จงปรับตัวปรับใจ ทำใจให้รักเขา ชอบเขา มองแต่แง่ดีของเขา
3.รู้จักบริหารเวลาให้เป็น เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเราต้องคำนึงถึงเรื่องของการบริหารเวลา ควรใช้เวลาในการทำงานอย่างคุ้มค่า ควรเห็นคุณค่าของเวลา เพราะถ้าหากบริหารเวลาไม่เป็นก็จะทำให้งานการเสียหายได้ อีกทั้งคนที่บริหารเวลาเป็น มักมีความก้าวหน้าและเจริญเติบโตในหน้าที่การทำงาน
4.สอดใส่ความกระตือรือร้นเข้าไปในการทำงาน คนส่วนใหญ่เมื่อทำงานไปนานๆ มักเกิดความเบื่อหน่ายไม่อยากทำ แต่คนที่ทำงานอย่างมีความสุขมักเป็นคนที่กระตือรือร้นในการทำงาน ในการเรียนรู้งาน พร้อมที่จะทำงานที่มีความยากและท้าทายมากขึ้น
5.กอบโกยสิ่งที่เกิดจากการทำงานในปัจจุบันให้มากขึ้น การทำงานใดทำงานหนึ่ง มักจะทำให้เราเกิดประสบการณ์ชีวิต ดังนั้น หากว่าเราเป็นคนมองโลกในแง่ดีและในแง่บวก เราจะมีความต้องการที่จะเรียนรู้และหา ประสบการณ์ ในการทำงานในปัจจุบันให้มากที่สุด เพื่อที่จะนำไปประกอบอาชีพส่วนตัวได้ในอนาคต
6.จงตั้งเป้าหมายในการทำงาน การทำงานที่ดีควรมีเป้าหมาย มีทิศทาง การมีเป้าหมาย มีทิศทางจะทำให้ผู้ที่ทำงานได้มีการประเมินตนเองมากขึ้น อีกทั้งมีความกระตือรือร้นในการทำงานเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
ดังนั้น การทำงานอย่างมีความสุขและสนุกในการทำงาน จะทำให้ท่านมีผลงานมากขึ้น มีความสุขในชีวิตมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้องค์กร บริษัท หน่วยงานของท่าน มีความเจริญเติบโต ก้าวหน้า และเมื่อองค์กรต่างๆ มีความเจริญเติบโต ก้าวหน้าก็จะส่งผลให้ประเทศไทยของเรามีความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองต่อไป
...
  
ศิลปะในการบริหาร
ศิลปะในการเป็นผู้บริหาร

โดย... ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)

มีหนังสือและองค์ความรู้มากมายที่พูดถึงเรื่องของ ผู้บริหาร มีทั้งนักวิชาการ ผู้ปฏิบัติจริง ทั้งต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งกระผมได้อ่าน ได้ศึกษา อาจสรุปได้เป็นประเด็นสำคัญๆดังนี้


1.ผู้บริหาร ต้องมีพันธะผูกพัน(Commitment) คือ ต้องมีความรับผิดชอบในคำพูด คำสัญญา การแสดงออก การกระทำ ต่อสิ่งที่ได้ทำไปหรือต่อบุคคลอื่น เช่น สัญญาว่าจะทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จภายในวันนี้ ผู้บริหาร ก็ต้องพยายามทำให้เสร็จถึงแม้จะทำถึง เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 หรือรุ่งเช้าก็ต้องทำ


2.ผู้บริหารที่ดี ต้องมีสติปัญญา และการตัดสินใจที่ถูกต้อง รวดเร็ว เด็ดขาด


แน่นอน การตัดสินใจย่อมต้องมีการผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าผู้บริหาร กลัวการที่จะตัดสินใจลงไปแล้ว อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ องค์กร หน่วยงาน รวมถึงประเทศชาติ ก็ได้ถ้าผู้บริหารคนนั้นบริหารประเทศ สำหรับหลักการตัดสินใจที่ดี เราควรแสวงหาข้อมูลให้มากที่สุดในเรื่องที่เราต้องตัดสินใจแล้ว มองอย่างเป็นระบบ วิเคราะห์ข้อมูล หาสาเหตุของปัญหา แนวทางแก้ปัญหาและจึงตัดสินใจ เมื่อ ผู้บริหารตัดสินใจผิดพลาดก็ควรรับผิดชอบ


3.ผู้บริหารที่ดี ต้องสร้างความศรัทธา แก่ลูกน้อง ลูกค้า เจ้าของกิจการ รวมทั้งผู้พบเห็น ภาพพจน์(Image) ของผู้บริหารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ การพัฒนาบุคลิกภาพ การพูดจา การแต่งกาย และการสร้างชื่อเสียง จึงเป็นส่วนสำคัญในเรื่องนี้ ทำอย่างไรให้คนเชื่อถือไว้วางใจ และเกิดการกระทำในสิ่งที่ผู้นำ จูงใจให้กระทำ


4.ผู้บริหาร ต้องเรียนรู้อย่างไม่หยุดหยั้ง เนื่องจากยุคปัจจุบันเป็นยุคแห่งการเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้นผู้บริหาร ต้องรู้จักเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าเทคโนโลยี การหาข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ใหม่ๆ ดังนั้นการไปดูงานต่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญทำให้เห็นสิ่งใหม่ๆแล้วกลับนำมาใช้ในองค์กร ในหน่วยงาน ในประเทศของตน


5.ผู้บริหารที่ดี มักจะเลือกงานที่ตัวเองทำแล้วสนุก อีกทั้งยังตรงกับเป้าหมายในชีวิต ความสามารถในตัวเอง การเลือกอาชีพในการทำงานจึงถือว่าสำคัญมากในการที่คนๆ นั้น จะประสบความสำเร็จในการเป็นผู้บริหาร ดังนั้น การเลือกงานที่ชอบจึงสำคัญกว่าเลือกงานเพราะมีเงินเดือนมาก หรือได้เงินตอบแทนมาก โดยที่ตนเองอาจไม่ชอบงานนั้นๆ


6.ผู้บริหารต้องทำงานโดยใช้วิธีที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ลักษณะงานการบริหารในปัจจุบันมีความแตกต่างจากงานบริหารในอดีต อาจกล่าวได้ว่ามีความแตกต่าง ดังนี้


6.1.ผู้บริหารต้องทำงานหนัก เนื่องจากมีภาระความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น และต้องทำงานให้เสร็จ จึงทำให้ในแต่ละวัน ผู้บริหารต้องแก้ปัญหามากขึ้น มีความเครียดในการทำงานมากขึ้นกว่าผู้บริหารในอดีต


6.2.ผู้บริหารต้องมีความสามารถหลากหลาย เนื่องจากการทำงานในยุคปัจจุบันผู้บริหารต้องทำงานและทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การเจรจาต่อรอง งานด้านเอกสาร การเป็นประธานในงานต่างๆ การประชุม การกล่าวปราศรัยในงานต่างๆ


6.3.ผู้บริหารต้องทำงานร่วมกับสื่อมวลชนทุกประเภทมากขึ้น การบริหารองค์การในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันสูง ผู้บริหารจึงต้องเป็นนักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ บางสถานการณ์จะต้องถูกสัมภาษณ์จากสื่อสารมวลชน


6.4.ผู้บริหารต้องทำงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารมาก ในยุคปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร




สรุปแล้วการเป็น ผู้บริหาร เป็นทั้งศาสตร์ที่สามารถเรียนกันได้ เป็นทั้งศิลป์ คือ นำมาประยุกต์ได้


โดยไม่จำกัดว่าเกิดในสถานะภาพใด ไม่ว่า ยากดี มีจน เป็นลูกมหาเศรษฐี ไม่ว่ายากดี มีจน คนเราก็สามารถเป็น ผู้บริหารที่ดีได้

...
  
ปลุกศักยภาพในตัวคุณ
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " ปลุกศักยภาพในตัวคุณ" แก่ พาณิชยการเชียงราย ณ โรงแรมพิมานอินน์ เชียงราย ...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  [98]  [99]  [100]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.