หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
การบริหารเวลา
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยาย ณ บริษัทสินธานี ให้แก่ผู้จัดการสาขาของบริษัทสินธานีสาขาเชียงรายทุกสาขา หัวข้อ " การบริหารเวลา" ...
  
สาธารณสุขไทยกับอาเซียน
สาธารณสุขไทยกับอาเซียน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
31 ธันวาคม 2558 ไทยเรากับอีก 9 ประเทศต้องเข้าสู่อาเซียน กระทรวงสาธารณสุขไทย จึงต้องเผชิญกับความท้าทาย และต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่อาเซียน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องเตรียมตัวหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
อาชีพที่สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานในอาเซียนได้ ได้แก่ ทันตแพทย์ แพทย์ พยาบาล วิศวกรรม สถาปัตยกรรม บัญชี และการสำรวจ จึงเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ต้องเร่งผลิตวิชาชีพเหล่านี้ อีกทั้งจุดอ่อนที่สำคัญของระบบการศึกษาของประเทศไทยก็คือ เรื่องของภาษาอังกฤษ คนที่จบหลักสูตรเหล่านี้และหลักสูตรต่างๆ ที่ผ่านมา มักไม่สามารถทำให้ผู้เรียนสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้
ฉะนั้นนี่คือจุดอ่อนที่สำคัญของคนไทย คนไทยมักมีปัญหาเรื่องของการสื่อสารโดยเฉพาะการใช้ภาษาอังกฤษ หากเทียบกับประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย และอีกหลายประเทศในอาเซียน อาจเป็นเพราะประเทศไทยและคนไทยบางส่วน มัวแต่ภูมิใจว่าประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร ฉะนั้นภาษาอังกฤษไม่ต้องฝึกก็ได้ แต่แท้จริงแล้ว ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือ เป็นอาวุธ เป็นกุญแจ ที่จะทำให้เราเกิดความรู้ เกิดการสร้างเครือข่าย เกิดการเชื่อมโยง ระหว่างคนทั่วโลก
อีกทั้งอาเซียนยังตกลงให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาอาเซียน ดังนั้น เวลามีปัญหา มีเรื่องกัน ขึ้นศาล หรือติดต่อราชการต่างๆในประเทศอาเซียนจะต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ
แพทย์เป็นอาชีพที่ขาดแคลนในประเทศอาเซียน สำหรับหลายประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะ แพทย์ บางประเทศขาดแคลนมากจนมีอัตราเฉลี่ย แพทย์ 1 คน ต่อประชากร 100,000 คน สำหรับประเทศไทยจากตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2554 แพทย์ 1 คนต่อประชากร 2,893 คน
สำหรับการผลิตแพทย์ มหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศไม่ได้ผลิตแพทย์เพื่อคนไทย 60 กว่าล้านคน แต่ต้องผลิตให้กับอาเซียน 600 ล้านคน ตลาดจะใหญ่ขึ้น อีกทั้งมหาวิทยาลัยต่างๆที่ผลิตแพทย์ต้องยกระดับมาตราฐานคุณภาพของแพทย์ให้สูงขึ้นเพื่อให้เป็นมาตราฐานเดียวกับอาเซียน และในอนาคตก็ควรยกระดับมาตราฐานการผลิตแพทย์ให้มีมาตราฐานในระดับโลก เพื่อรองรับคนในโลก 7,200 ล้านคน และในปี 2559 คาดว่าจะมีประชากรโลก 9,000 ล้านคน และคาดว่า 2560 จะมีประชากรถึง 10,000 ล้านคน สำหรับปัจจัยที่ทำให้มีประชากรโลกเพิ่มมากขึ้น ก็เนื่องมาจากคนเรามีอายุที่ยืนยาวขึ้นนั้นเอง
สำหรับอาชีพพยาบาล ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งซึ่งขาดแคลนและสามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานในอาเซียนได้อย่างเสรีมากขึ้น ซึ่งพยาบาลมีจุดดีคือเรื่องของกิริยา มารยาท ความสุภาพ ความอ่อนโยน อดทน และมีความสามารถในการช่วยเหลือผู้ป่วย จึงทำให้หลายประเทศได้มีการจ้างงานพยาบาลไทยในค่าใช้จ่ายที่สูง อีกทั้งในด้านสถาบันการศึกษาก็มีความสามารถในการผลิตได้ดีมีคุณภาพในอันดับต้นของอาเซียน จนมีหลายประเทศส่งคนมาเรื่องรู้การพยาบาลจากไทย เช่น พม่า ลาว ภูตาล ฯลฯ
ผลกระทบต่อสาธารณสุขเมื่อเปิดอาเซียน ประเทศไทยเราจะมีการลงทุนสร้างสถานบริการด้านสุขภาพและโรงพยาบาลมากขึ้นเพื่อรองรับ ลูกค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ปัญหาเรื่องยาเสพติด ปัญหาสังคม ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาโรคติดต่อต่างๆและการเผชิญกับโรคอุบัติใหม่(โรคติดเชื้ออุบัติใหม่ หรือ โรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ (Emerging Infectious Diseases, EID) คือโรคที่เกิดจากสาเหตุการติดเชื้อโรคหรือโรคที่ติดต่อกันได้ ที่มีการอุบัติเกิดเพิ่มมากขึ้นในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา และมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นภัยคุกคามมากขึ้นแก่มนุษยชาติในอนาคตต่อไป “ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี” )
กระทรวงสาธารณสุขต้องนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ สำหรับเทคโนโลยีที่มีอยู่ ก็ต้องนำมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะเครื่องมือบางอย่างสามารถทำงานได้มากมาย แต่เรานำไปใช้กับงานเล็กๆน้อยๆ
ฉะนั้น กระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงหนึ่งที่ต้องทำงานหนัก เป็นกระทรวงที่จะต้องเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่อาเซียน เป็นกระทรวงหลักกระทรวงหนึ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญ ให้ความเอาใจใส่

...
  
ลิขสิทธิ์
กฎหมายลิขสิทธิ์


โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


www.drsuthichai.com


085-0294726


ถ้าพูดถึงเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องถือว่าคนไทยจำนวนมากยังไม่ค่อยเข้าใจและหลายคนทำผิดกฎหมายลิขสิทธิ์โดยไม่รู้ตัวหรือตั้งใจ เช่น การคัดลอกถ่ายเอกสารหนังสือ ตำราต่างๆ ตามร้านถ่ายเอกสารเพื่อจำหน่าย , การคัดลอกแผ่น vcd dvd ภาพยนตร์ เพลง ต่าง ๆ , การที่คนหนึ่งถ่ายภาพวัดวาอารามต่างๆ แล้ว ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของผู้ถ่ายแล้วมีคนนำไปใช้โดยไม่ขออนุญาต ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ มีความผิดตามกฎหมายแต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ทราบเพราะเห็นหลายๆคนเขาทำกันในบทความฉบับนี้เราจะมาพูดถึงกฎหมายลิขสิทธิ์กัน


กฎหมายลิขสิทธิ์เป็นกฎหมายที่ให้การคุ้มครองแก่ผู้สร้างสรรค์งานของตนเอง โดยไม่ให้มีผู้อื่นกระทำการผลิตซ้ำ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งงานคุ้มครองเหล่านี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 กำหนดงานที่ได้รับการคุ้มครอง คือ งานสร้างสรรค์ประเภท นาฏกรรม ศิลปกรรม วรรณกรรม ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง โสตทัศนวัสดุ ดนตรี งานแพร่ภาพแพร่เสียง ฯลฯ


สำหรับงานด้านวรรณกรรม กระผมขอขยายรายละเอียดเพิ่มเติมได้แก่พวกงานนิพนธ์ทุกชนิด เช่น จุลสาร หนังสือ สิ่งเขียน สิ่งพิมพ์ สุนทรพจน์ คำปราศรัย ปาฐกถา เทศนา รวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิ่งเหล่านี้จะคุ้มครองลิขสิทธิ์ทันทีเมื่อสร้างเสร็จโดยไม่ต้องมีขั้นตอนทางกฎหมายใดๆ อีกทั้งยังไม่ต้องเผยแพร่แก่สาธารณชนก่อน


ดังนั้น ผู้ใดจะเอาผลงานของเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องได้รับการยินยอมก่อน การมีกฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครองทำให้ผู้ผลิตงานมีกำลังใจในการทำงานอีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนได้ ดังเช่น มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคนหนึ่ง อย่างบิลเกต ซึ่งได้ผลิตซอฟแวร์ไมโครซอฟขึ้นแล้วนำไปขายทั่วโลกจนร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือ เจ้าของกูเกิ้ล เซริร์ชเอนจินระดับโลก หรือ เจ้าของผลงานหนังสือ แฮรี่ พอลเตอร์ เป็นต้น หากไม่มีกฎหมายลิขสิทธิ์ก็จะทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานหมดกำลังใจและไม่อยากสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเป็นประโยชน์แก่สังคมและโลก


สำหรับงานที่ไม่มีลิขสิทธิ์นั้น คือ งานที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อนซึ่งจะนำไปใช้ประโยชน์ส่วนรวมหรือส่วนตัวก็ได้ ได้แก่ ข่าวประจำวัน รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจงและหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ เป็นต้น


มีคนมักถามผมว่า ลักษณะอย่างไรจึงถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ การกระทำที่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ คือ


การนำผลงานของผู้สร้างสรรค์ไป ขาย ให้เช่า เผยแพร่ต่อสาธารณชน นำหรือสั่งเข้ามาในประเทศ แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ ฯลฯ


สำหรับโทษทางกฎหมายมีทั้งทางแพ่งและทางอาญา กล่าวคือ ต้องมีโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หากพฤติกรรมทำละเมิดดังกล่าวเพื่อการค้า ผู้กระทำจะต้องโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ


แต่จากการสังเกตของกระผม ในประเทศไทยเรากฎหมายมีผลบังคับใช้ หรือนำไปปฏิบัติไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร หากวิเคราะห์ดูแล้ว หากปฏิบัติกันอย่างจริงจัง เราจะเห็นผู้กระทำผิดกฎหมายลิขสิทธิ์อีกมากมายเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่เกิดการฟ้องร้องกันขึ้น ส่วนใหญ่มักมีผลประโยชน์มาก แต่หากมีผลประโยชน์น้อย ผู้ฟ้องอาจไม่คุ้มค่าเนื่องจาก เสียเวลา เสียเงิน และปวดหัวกับการมีเรื่องมีราว จึงไม่มีการฟ้องร้องกันขึ้น


ดังนั้น หากจะคัดลอกผลงานหรือดัดแปลงของใคร ก็ควรจะขออนุญาตเจ้าของผลงานเขาด้วย อีกทั้งควรศึกษาด้วยว่า การกระทำในลักษณะไหนจึงถือว่ามีความผิดกฏหมายที่เกี่ยวกับลิขสิทธิ์







...
  
ผู้นำที่ดีในการทำงาน
ผู้นำที่ดีในการทำงาน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนที่จะเป็นผู้นำที่ดีในการทำงานมักมีคุณสมบัติที่ดีอยู่หลายอย่างหรือมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
1.นักคิดริเริ่ม ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการทำงานจำนวนมากมักเป็นนักคิดริเริ่มอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ ตัวอย่าง สตีฟ จอบส์ , บิล เกตต์ ฯลฯ บุคคลเหล่านี้มักออกสินค้าใหม่ๆ มักปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างสร้างสรรค์ตลอดเวลา
2.นักแนะนำ ชี้แนะและเป็นผู้นำในการทำงานที่ดี เขามักเป็นบุคคลที่สามารถแนะนำงานให้แก่ผู้ตามได้ ผู้นำควรศึกษาระเบียบต่างๆของหน่วยงาน ไว้บ้างเผื่อลูกน้องถาม เช่น วันคลอดลูกเขาสามารถลาได้กี่วัน , วันลากิจ ลาป่วยลาได้กี่วัน ฯลฯ อีกทั้งยังต้องมีความรู้ ประสบการณ์ในการชี้แนะ งานให้แก่ลูกน้องได้
3.นักประสานงานที่ดี การทำงานกับคนในองค์กร มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของคนเป็นส่วนใหญ่ ผู้นำในการทำงานจำเป็นจะต้องเป็นนักประสานงาน อีกทั้งควรสร้างพลังในการทำงานให้กับทีมงานได้
4.นักวิเคราะห์ นักคิด กล้าตัดสินใจ เมื่อมีปัญหาต่างๆ ผู้นำที่ดีจะต้องมีความสามารถในการตัดสินใจ ซึ่งการตัดสินใจนั้น อาจมีทั้งถูกและผิด แต่ผู้นำที่ดีจะต้องตัดสินใจถูกให้มากกว่าผิด เขาจึงต้องรู้จักใช้และหาข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็นตัวเลข สถิติต่างๆ เพื่อมาทำการวิเคราะห์แล้วตัดสินใจ
5.นักจัดสรรผลประโยชน์ ในองค์กร ในหน่วยงาน การทำงานในองค์กรหรือในหน่วยงาน มักมีการเมืองในองค์กร ซึ่งปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับการเมืองภายในองค์กรก็คือเรื่องของการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว การจัดสรรผลประโยชน์ของผู้นำ เพื่อที่จะให้ผู้ตามพอใจจึงเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของการเป็นผู้นำที่ดี
6.นักสื่อสารที่ดี ผู้นำที่ดีต้องมีความสามารถในการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพูด การเขียน การแสดงออกทางด้านท่าทาง ซึ่งการสื่อสารจะทำให้ผู้ตามเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และปฏิบัติงานได้ในทิศทางเดียวกัน ปัญหาความไม่เข้าใจกันก็จะลดน้อยลง
7.นักโมติเวท นักกระตุ้นที่ดี ผู้นำที่ดีจะต้องเป็นนักกระตุ้นเพื่อให้คนในองค์กร เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน และใช้ศักยภาพของแต่ละคนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
8.นักสร้างความน่าเชื่อถือ ผู้นำที่ดีต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี ทั้งในเรื่องของบุคลิกภาพ การแต่งตัว การพูดการจา การเดิน การนั่ง อีกทั้งยังต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ตามด้วย
ฉะนั้น ท่านก็สามารถเป็นผู้นำที่ดีได้ หากว่าท่านมีคุณสมบัติตามข้อความข้างต้นหรือมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติอื่นๆต่อไป

...
  
การเข้าสู่อาเซียนของสาธารณสุขไทย
การเข้าสู่อาเซียนของสาธารณสุขไทย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
31 ธันวาคม 2557 ประเทศไทยและอีก 9 ประเทศต้องเข้าสู่อาเซียน กระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงหนึ่งที่ต้องทำงานหนัก ซึ่งรวมไปถึงบุคลากรของกระทรวงที่จะต้องทำงานหนักและมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น โรงพยาบาลต่างๆของรัฐและเอกชน ทุกขนาดจะต้องทำงานมากขึ้น เหตุผลก็คือ เมื่อมีการเปิดอาเซียนจะทำให้อีกหลายประเทศเข้ามาทำงานได้ง่ายขึ้น อีกทั้งจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ตามมาในด้านบวก บุคลากรสาธารณสุขจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนในด้านลบบุคลากรสาธารณสุขต้องระวังการฟ้องร้องโดยเฉพาะแพทย์ พยาบาล
ปัจจุบันไทยเรามีโรงพยาบาล 900 กว่าแห่ง ซึ่งรับรองคนไทย 65 ล้านคน ซึ่งนับว่าไม่พอเพียง แต่หากเปิดอาเซียน ไทยเราคงต้องมีโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลสำหรับคนต่างชาติ
ด้านการสื่อสารโดยเฉพาะช่วงแรกๆ ประเทศไทยเรามีปัญหาทางด้านการสื่อสารโดยเฉพาะการใช้ภาษาอังกฤษ ไม่เว้นหน่วยงานด้านสาธารณสุขเอง คงต้องเผชิญกับปัญหาด้านการสื่อสาร ไม่ว่า การสื่อสารทางด้านการพูด การเขียน ระหว่าง หมอ พยาบาล กับผู้ป่วยชาวต่างชาติ , บุคลากรสาธารณสุขกับผู้ใช้บริการชาวต่างชาติ
แต่ทั้งนี้ หากพูดถึงในเรื่องของการบริการแล้ว ประเทศไทยเรามีความโดดเด่นมาก ไม่เว้นแม้บุคลากรด้านสาธารณสุข เนื่องมาจาก คนไทยและบุคลากรด้านนี้ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีกริยา มารยาท อ่อนโยน อ่อนโน้มถ่อมตน ไม่แข็งกระด้าง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
สำหรับแพทย์ พยาบาล ทัตนแพทย์ จะมีการเคลื่อนย้ายกันมากขึ้น เราจะเห็นบุคลากรเหล่านี้จากประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งบุคลากรเหล่านี้มีจุดเด่นทางด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เขาสามารถเข้ามาเปิดสถานบริการและโรงพยาบาลเพื่อรองรับชาวต่างประเทศซึ่งสามารถทำรายได้ได้มากกว่า การรักษาคนไทยโดยรวม
และแน่นอนแพทย์ที่มีความชำนาญของไทยก็คงต้องเคลื่อนย้ายไปหารายได้ที่สูงกว่ายังประเทศที่มีรายได้ที่ดีกว่า ส่วนคนไทยส่วนหนึ่ง อาจเป็นผู้ป่วยของแพทย์ชาวพม่า ซึ่งบางส่วนก็ได้มีการเตรียมตัวเข้ามาแล้ว เนื่องจากแพทย์ของประเทศพม่ามีจำนวนมากกว่าสัดส่วนของประชาชนชาวพม่า
ด้านงานบริหารสาธารณสุขการเปิดอาเซียน ทำให้เราสามารถมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดูงาน และจ้างงานบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ขาดแคลนได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขอข้อมูล การประสานงานต่างๆ การเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆทางด้านสาธารณสุข
อีกทั้งสาธารณสุขไทยควรใช้ เทคโนโลยีให้มากขึ้น เพื่อเข้าช่วยในการทำงาน เช่น การใช้ไลน์ การใช้เครื่องมือติดต่อสื่อสาร แพทย์ที่ชำนาญอาจอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ อาจใช้กล้องซูมดูอาการคนไข้หรือคนป่วย เพื่อให้แพทย์ที่ชำนาญสิงคโปร์ได้วินิจฉัยโรค อีกทั้งเทคโนโลยีสามารถนำมาช่วยในการประชุมข้ามประเทศได้ในระหว่างการทำงานสาธารณสุขในประเทศอาเซียน ซึ่งจะประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่ายต่างๆ
โรงพยาบาลนานาชาติจะมากขึ้น เหมือนกับโรงเรียนนานาชาติที่มากขึ้นทุกวัน
ประเทศไทยได้มีการวางวิสัยทัศน์ไว้ว่าเราจะเป็น ศูนย์กลางสุขภาพครบวงจรหรือ Medical Hub อีกทั้งรัฐบาลได้มีการลงทุนทางด้านต่างๆเพื่อสนับสนุน หากเปิดเขาไปในเว็ปไซค์กระทรวงสาธารณสุข เราก็จะสามารถสืบค้นข้อมูลของโรงพยาบาลต่างๆได้ ซึ่งภายในบอกข้อมูลต่างๆไว้อย่างมากมาย เช่นมีจำนวนคนกี่คน มีเครื่องมืออะไรบ้าง มีความชำนาญในการรักษาโรคอะไรบ้าง
ปัจจุบันสิ่งที่กระผมเป็นห่วงก็คือ ในยุคปัจจุบันประเทศไทยเราประสบกับปัญหาเรื่องของความแตกแยกทางการเมือง มีการเป็นเป็นขั้วต่างๆ จึงทำให้ สื่อต่างๆ ลงข่าวแต่เรื่องของการการเมือง
ส่วนพื้นที่ข่าวของอาเซียนก็หายไปจากสื่อต่างๆ จำนวนไม่น้อย หากว่า การเมืองมีความเข้มแข็งก็จะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดความสนใจ เรื่องเกี่ยวกับอาเซียนมากยิ่งขึ้น สื่อต่างๆก็จะลงเรื่องของอาเซียนมากขึ้น

...
  
กิ๊ก
กิ๊ก คือ อะไร
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

มีคนเคยถามกระผมว่า “ กิ๊ก หมายถึงอะไร ” “ กิ๊ก คือ อะไร ” เพราะเขาได้ยินน้องๆ นักศึกษาหลายคนบอกว่าวันนี้ไม่ได้ไปกับแฟนแต่ไปกับ “กิ๊ก” เมื่อเจอคำถามนี้ กระผมถึงกับ อึ้ง ตอบไม่ได้ ทำให้ต้องไปค้นคว้า โดยกระผมได้ทำการเปิดพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายไว้ว่าเป็นคำคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์ หมายถึงเสียงของแข็งกระทบกัน


ซึ่งกระผมคิดว่าคงไม่ใช่ความหมายของเด็กนักศึกษาที่เขาพูดกัน จึงได้ค้นคว้าเพิ่มเติม กระผมจึงไปสอบถามเด็กนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา จึงได้รับคำตอบว่า


"กิ๊ก...มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน" แต่เมื่อถามถึงรายละเอียดนักศึกษาคนนี้ ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น กระผมจึงได้ไปหาเอกสารต่างๆ จึงได้ความว่า การจะเป็นกิ๊กกันได้ต้องมีกฎดังนี้เขาเรียกว่า


กฎแห่งการมีกิ๊ก 10 ข้อ
1.ห้ามหึงหวงแต่ห่วงกันได้
2. มี Sex กันได้แต่ไม่ใช่เจ้าของกัน
3.ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องมากเกินเหตุ
4. กิ๊กอาจเปลี่ยนสถานะได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ห้ามเศร้า
5. ห้ามใช้กิ๊กร่วมกันกับเพื่อน
6. ถ้ากิ๊กคิดจะไปมีแฟนเป็นตัวตนโดยไม่ใช่เรา ห้ามฟูมฟายแต่ต้องพยายามยอมรับและยินดีด้วย แล้วค่อยตกลงกันอีกทีว่าจะยังกิ๊กกันต่อรึเปล่า
7. ไม่จำเป็นต้อง take care กันเกินเหตุ เพราะ เป็นแค่กิ๊ก
8. กิ๊กมีได้ไม่จำกัดจำนวนเป็น infinity ไม่จำกัดเพศ วัย และ สถานภาพ
9. กิ๊กสำคัญรองจากแฟน
10. กิ๊กยังไงก็เป็นกิ๊กต้องเจียมตัว (ถ้าแฟนเขาจับได้ต้องเลิก)


นี่ก็เป็นกฎแห่งการมีกิ๊ก แต่กระผมมีความห่วงใยอยู่ในกฎข้อที่ 2 คือ มี Sex กันได้แต่ไม่ใช่เจ้าของกัน ซึ่งกระผมเห็นว่ามันผิดจารีตประเพณีไทยแต่โบราณ ไทยเราสอนให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว ทำให้กระผมรับไม่ได้กับคำว่า “ กิ๊ก ” มี Sex ได้แต่ไม่จำเป็นต้องแต่งงานเป็นสามี-ภรรยากัน หรืออาจมี “ กิ๊ก ” กับสามี-ภรรยาของคนอื่น ถ้าพูดกันตรงๆ ก็อาจพูดได้ว่า “ กิ๊ก ” เป็นการสนับสนุนให้คนเรามี “ ชู้ ” กัน ถ้าเช่นนั้น ท่านผู้อ่านจะรับได้มั้ยถ้า สามี-ภรรยา ของท่านไปมี กิ๊ก หรือ มี ชู้ กับ สามี-ภรรยา ชาวบ้านเขา และถ้าท่านจับได้ คนเขาจับได้ท่านจะรู้สึกอย่างไร


ปัจจุบัน ยุคสมัยอาจเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต สื่อลามกมากขึ้น ลัทธิบริโภคนิยม เข้ามาแทนที่ ทำให้คนต้องการสิ่งต่างๆมากขึ้น ทำให้ความสุขต่างๆ ลดน้อยลง ดังนั้น ค่านิยมที่ดีงามของไทย บางอย่างจึงถูก กระแสดังกล่าว กลืน ทับถม จนหายไปในที่สุด


ในวันนี้กระผมอยากเชิญชวนพวกเรา มาสร้างค่านิยมที่ดีและถูกต้องกัน ค่านิยมที่ รักเดียวใจเดียว ไม่คบชู้สู่ชาย ค่านิยมที่สร้างความคุ้มกันให้กับครอบครัว การมี กิ๊กหรือมีชู้ แน่นอนทำให้ครอบครัวแตกแยก เกิดปัญหาหย่าร้าง ลูกขาดความอบอุ่น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมอื่นๆตามมา ค่านิยมที่ทำให้พ้นภัยจาก โรคติดต่อต่างๆ เช่น โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


ความรัก ความห่วงใย คือ สายใยของครอบครัว


...
  
วิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน
วิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
หากเรามีฐานะเป็นผู้บริหารหรือหัวหน้างานภายในองค์กร เรามีวิธีการอย่างไรถึงจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตัวเราเองกับลูกน้อง ซึ่งในบทความนี้ กระผมขอนำเสนอ 4 วิธี ดังนี้
1.ชื่นชมลูกน้องบ้าง เมื่อมีโอกาส เมื่อลูกน้องทำความดี หรือมีผลงานเป็นที่ปรากฏ โดยหลักการชมลูกน้องที่ดี เราไม่ควรปล่อยเวลาให้นานจนเกินไป ควรชื่นชมในขณะที่เขาทำความดีหรือมีผลงานเป็นที่ปรากฏไม่นานนัก อีกทั้งเราควรชมต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของเขา หรือหากมีการประชุม เราก็ควรหาโอกาสชื่นชมเขาต่อที่ประชุม และควรเก็บหลักฐานการทำความดีต่างๆ เพื่อนำมาเสนอในการประชุม เช่น การตัดข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ , หลักฐานการได้รับรางวัลต่างๆ เป็นต้น
2. ควรมีการตักเตือนบ้าง เมื่อลูกน้องทำผิด เราในฐานะหัวหน้างานก็ควรที่จะว่ากล่าวตักเตือน ชี้แนะเพื่อให้เขาเกิดการปรับปรุงตัว แต่หลักการตักเตือนที่ดี เราไม่ควรตักเตือนเขาต่อหน้าที่สาธารณชน แต่เราควรเรียกเขามาตักเตือนภายในห้องทำงานของเรา สองต่อสอง เพราะจะไม่ทำให้ลูกน้องเสียหน้าหรือขายหน้า
3.เมื่อเกิดมีการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อง เราควรที่จะบอกกล่าวหรือให้ข้อมูลเขา เพื่อให้เขาได้เตรียมตัว หากจำเป็นเราก็ควรชี้แจ้งเหตุผลให้เขายอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น เช่น หากเขาถูกคำสั่งให้ย้ายงาน หรือ มีการสับเปลี่ยนหน้าที่
4.กระตุ้นศักยภาพของลูกน้องออกมาอย่างเต็มที่ คนเราทุกๆคนมีศักยภาพในตัวมากมายแต่คนเราเกือบทุกๆคนใช้ ศักยภาพของตนเองน้อยมาก ดังนั้น หากเรามีโอกาสเราควรกระตุ้นหรือนำเสนอความสามารถที่ซ่อนเร้นของลูกน้องและไม่ควรกีดกันการแสดงศักยภาพของลูกน้องด้วยความอิจฉา ซึ่งความอิจฉานี้ สังคมไทยมีหัวหน้าหลายๆคนเป็นกันมาก กล่าวคือ ไม่อยากให้ลูกน้องของตนเอง โดดเด่นกว่าตน หรือ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแซงตนเอง
หากว่าท่านเป็นผู้บริหารหรือหัวหน้างาน การนำหลักการ 4 ข้อ ข้างต้นไปใช้ กระผมเชื่อแน่ว่า ท่านจะสามารถได้หัวใจของลูกน้องไปครอบครองอย่างแน่นอน

...
  
การจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " การจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน" ให้แก่บริษัทสินธานีเชียงรายและสินธานี ณ ห้องประชุมแห่งใหม่ของบริษัทสินธานี ...
  
ปัจจัยต่างๆที่นำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง
ปัจจัยต่างๆที่นำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งมีหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.เป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพดี รูปร่างหน้าตาดี หรือมีชาติกำเนิดดี เกิดอยู่ในตระกูลที่ดี
2.เป็นผู้ที่มีการศึกษาดี หากจบปริญญาเอกก็จะยิ่งเป็นที่ยอมรับของประชาชน
3.เป็นผู้ที่มีฐานะทางด้านการเงินดี มั่นคง
4.เป็นผู้ที่มีชื่อเสียง คนรู้จักเป็นจำนวนมาก
5.เป็นผู้ที่มีเครือข่ายญาติพี่น้องมากและมีเพื่อนฝูงมาก
6.เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพที่ผู้คนยอมรับและรู้จักมาก เช่น ครู ทนายความ แพทย์ ตำรวจ และข้าราชการที่ได้ทำงานใกล้ชิด ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่
7.เป็นผู้ที่นำเทคนิคใหม่ๆมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง เช่นในอดีต ผู้สมัครบางคนอาจจะจัดให้มีการฉายภาพยนตร์ บางคนอาจจะมีการขี่ช้างขี่ม้าในการหาเสียง บางคนอาจจะจุดตะเกียงเข้าไปสมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น
8.เป็นผู้สมัครที่มีใจกว้าง ใจถึง ใจใหญ่ เช่น มีการเลี้ยงอาหารสุราหัวคะแนนหรือผู้ที่ช่วยทำงาน
9.เป็นผู้ที่มีใจบุญกุศล ชอบช่วยเหลือผู้ยากไร้ บริจาคเงินให้กับวัดวาอาราม และสาธารณกุศลต่างๆ
10.เป็นผู้ที่มีระบบบริหารจัดการหัวคะแนนที่ดี
11.เป็นผู้ที่ใช้เงินในการซื้อเสียงซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย แต่ก็มีนักการเมืองจำนวนมากที่ยังใช้เงินเพื่อซื้อคะแนนเสียง
12.เป็นผู้ที่รู้จักประสานผลประโยชน์หรือใช้ระบบอุปถัมภ์ให้กับกลุ่มต่างๆในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
13.เป็นผู้ที่สร้างและสะสมผลงานต่างๆ อย่างมากมาย เช่น ถูกรับเชิญไปให้ความรู้เป็นวิทยากรให้แก่หน่วยงานและประชาชนในพื้นที่
14.เป็นผู้ที่มีความสามารถในการพูดหาเสียงที่เก่ง สามารถพูดโน้มน้าวใจประชาชนในพื้นที่ได้
15.เป็นผู้ที่มีระบบการจัดการเลือกตั้งที่ดี กล่าวคือ มีการวางแผน มีการจัดองค์กร มีการจัดคนที่เหมาะสมกับงาน มีการสั่งการและมีการประเมินผล
16.เป็นผู้ที่มีความสามารถในการนำหลักการตลาดมาประยุกต์ใช้กับการเมือง
17.เป็นผู้ที่มีความสามารถในการสื่อสารทางการเมืองกับคนในพื้นที่เลือกตั้ง
สำหรับ ปัจจัยที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งได้แก่
1.ไม่มีสร้างผลงานต่างๆในพื้นที่
2.ไม่สม่ำเสมอในการพบปะกับประชาชนในพื้นที่ เช่นบางคนมักจะไปพบปะประชาชนในช่วงหาเสียง เมื่อได้เป็นนักการเมืองแล้วก็ไม่ยอมไปพบปะ ซึ่งคู่แข่งสามารถใช้โจมตีได้
3.ไม่มีระบบจัดตั้งหัวคะแนนที่ดี เพราะหัวคะแนนจำนวนมาก เห็นแก่เงิน เห็นแก่ผลประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็ไม่ยอมให้การช่วยเหลือผู้สมัครอย่างเต็มที่
4.ไม่ซื้อเสียงในการเลือกตั้ง สำหรับในการเลือกตั้งจำนวนมากมีการซื้อเสียง หากผู้สมัครคนใดที่ไม่ซื้อเสียงแต่คู่แข่งซื้อเสียง ผู้สมัครท่านนั้นก็เสี่ยงกับการสอบตกเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้การซื้อเสียงจะผิดกฏหมายแต่ก็มีนักการเมืองจำนวนมากที่เสี่ยงซื้อเสียงเพื่อให้ตัวเองได้รับเลือกตั้ง
5.ไม่รู้จักประชาสัมพันธ์ตนเองหรือประชาสัมพันธ์ผลงานตนเองน้อยเกินไป ทำให้ผู้เลือกตั้งคิดว่าผู้สมัครท่านนั้นไม่มีผลงาน
6.ไม่รู้จักตอบโต้ข่าวลือ ในการเลือกตั้งคู่แข่งมักจะมีการปล่อยข่าวลือ ถ้าหากว่าผู้สมัครไม่ตอบโต้หรือไม่แก้ข่าวก็จะทำให้ประชาชนในพื้นที่หลงเชื่อข่าวลือนั้น จึงทำให้ผู้สมัครท่านนั้นเสียคะแนนเสียง เช่น ข่าวลือว่าผู้สมัครได้วุฒิการศึกษาในระดับปริญญาเอกปลอมแล้วนำมาลงสมัคร เป็นต้น

...
  
รู้จักตนเอง...เพื่ออนาคตการทำงานของตนเอง
รู้จักตนเอง...เพื่ออนาคตการทำงานของตนเอง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
เด็กนักเรียน นิสิต นักศึกษา ควรทำการรู้จัก วิเคราะห์ตนเอง ว่าตนเองเป็นคนอย่างไร ชอบอะไร เพราะถ้าหากเรารู้จักตนเองดี ก็จะทำให้เราสามารถเลือกประกอบอาชีพที่ตนเอง มีความชอบ มีความถนัด มีความชำนาญได้ แต่ถ้าหากใครยังไม่รู้จักตนเอง ท่านสามารถวิเคราะห์ตัวท่านเองดังนี้
1.ท่านทำอะไรแล้วมีความรู้สึกว่าดี ทั้งทางด้านอารมณ์ จิตใจ ความชอบ ความสนุกกับสิ่งๆนั้น
2.ท่านเรียนรู้สิ่งใดได้อย่างรวดเร็ว เช่น บางคนเป็นนักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เขาจะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว จากการลองผิดลองถูก การศึกษาด้วยตนเอง การอ่านหนังสือ โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบังคับให้ทำ
3.ท่านอยากทำสิ่งใดมากที่สุด หลายท่านชอบเล่นกีฬา หลายท่านชอบพูดและอยากเป็นวิทยากร จงค้นหาว่าตนเองอยากที่จะทำอะไรมากที่สุด
4.อะไรที่ท่านทำแล้วได้ผลลัพธ์ออกมาดีและสม่ำเสมอ เช่น หลายคนชอบร้องเพลง แล้วออกมาดี จนมีคนฟังชื่นชอบ หากว่าท่านได้พัฒนาสิ่งนั้นต่อไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ท่านได้เปรียบมากกว่าคนที่ร้องเพลงไม่เป็น อีกทั้งในอนาคตท่านสามารถเป็นนักร้องได้อีกต่างหาก ซึ่งยุคสมัยนี้ นักร้องไม่จำเป็นต้องหล่อและสวยเหมือนในอดีต นักร้องหลายๆคนในต่างประเทศ ไม่หล่อไม่สวยแต่เป็นนักร้องได้ดีมีชื่อเสียง เงินทองอีกต่างหาก
ทั้งนี้กระผมอยากให้ท่านทำการบ้าน โดยการนั่งเขียน นั่งวิเคราะห์ ว่าท่านเป็นคนอย่างไร โดยคำนึงถึงทั้ง 4 ปัจจัย ข้างต้นนี้ เช่น เมื่อท่านถ่ายรูปแล้วมีความรู้สึกที่ดี ท่านรักที่จะเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆในการถ่ายรูป ท่านอยากที่จะทำมันตลอดเวลา และ ผลลัพธ์จากการถ่ายรูปของท่านออกมาสวย เยี่ยมยอดอีกทั้งมีผู้คนขอซื้อภาพถ่ายต่างๆของท่าน ท่านก็สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นนักถ่ายรูปอันดับต้นๆของเมืองไทยได้หรือเป็นวิทยากรฝึกอบรมทางด้านการถ่ายรูปหรือเป็นเจ้าของร้านขายกล้องถ่ายรูป ร้านอัดภาพ ได้ในอนาคต
จงเลือกอาชีพ เพราะท่านมีใจรัก มากกว่าเลือกอาชีพ เพราะเงินหรือเลือกอาชีพเนื่องมาจากปัจจัยอื่นๆ
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  [98]  [99]  [100]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.