หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
มนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน
มนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน

ดร. อนันท์ งามสะอาด
ความสำคัญ
1. บุคคลจะสามารถมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้นั้นจะต้องรู้จักตนเอง ผู้อื่น สังคม สภาพแวดล้อม จึงจะสามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในครอบครัว สังคม และประเทศชาติได้อย่างมีความสุข
2. แนวคิดและหลักมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบุคคลที่จะต้องยึดถือ
เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีความเหมาะสมกับบุคคลอื่นๆ ต่อไป
3. การทำงานร่วมกันในองค์กรให้สำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดีนั้น ทุกคนต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจึงจะช่วยให้การทำงานสำเร็จได้
4. การทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายเพื่อผลผลิตสูงสุดนั้น บุคลากรในหน่วยงานต้องมีความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการร่วมมือกันทำงาน การสร้างมนุษยสัมพันธ์ในหน่วยงาน เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น และจะช่วยให้บรรยากาศการทำงานเต็มไปด้วยความสุข

เนื้อหา
1. ความหมายและความสำคัญของมนุษยสัมพันธ์
2. ประโยชน์ องค์ประกอบและจุดมุ่งหมายของมนุษยสัมพันธ์ แนวคิดและหลักมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน
3. แนวคิดเกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์
4. หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน หลักมนุษยสัมพันธ์ทั่วไป
5. หลักการรู้จักและเข้าใจตนเอง
6. หลักความแตกต่างระหว่างบุคคล
7. หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับบุคคลในการทำงาน


สาระสำคัญของเนื้อหา
คุณลักษณะของบุคคลที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
1. มีท่าทางทีดี (Handssome)
2. มีบุคลิกภาพดี (Personality)
3. มีความเป็นเพื่อน (Friendiness)
4. มีความอ่อนน้อม (Modesty)
5. มีน้ำใจช่วยเหลือ (Helpful)
6. ให้ความร่วมมือ (Cooperation)
7. มีความกรุณา (Kindness)
8. สร้างประโยชน์ (Contribution)
9. การสร้างสรรค์ (Constructive)
10. มีอารมณ์ดี (Good Emotion)
11. มีความกระตือรือร้น (Enthusiasm)
12. มีความรับผิดชอบ (Responsibility)
13. มีความอดทน (Patient)
14. มีความขยัน (Diligent)
15. มีความพยายาม (Attempt)
16. มีปฎิภาณ (Intelligence) ฯลฯ

คุณลักษณะเฉพาะของผู้มีมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน
1. หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น
2. เต็มใจทำงานร่วมกับผู้อื่น
3. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
4. มีความเสียสละ
5. เรียนรู้และเข้าใจผู้อื่น
6. เต็มใจเข้าร่วมกิจกรรมกับคนอื่น
7. เสนอตัวช่วยเหลือการทำงาน
8. ให้คำแนะนำช่วยเหลือ
9. คบหาคนอื่น ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
10. แสดงน้ำใจกับเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ

การสร้างมนุษยสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา
1. เอาใจใส่ในทุกข์สุข
2. มีความจริงใจ และมีความยุติธรรม
3. ไม่ใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา
4. โอบอ้อมอารี
5. เป็นกันเอง
6. สร้างกิจกรรมในกลุ่มสัมพันธ์ ต่างๆ
7. ยกย่องให้เกียรติ ฯลฯ

การสร้างมนุษยสัมพันธ์ระหว่างผู้ใต้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา
1. ให้ความเคารพยกย่องสรรเสริญผู้บังคับบัญชาในโอกาสต่างๆ
2. ปฎิบัติงานตามคำสั่ง หรือที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความรู้ความสามารถให้บังเกิดผลดีที่สุด
3. เข้าพบผู้บังคับบัญชา เพื่อปรึกษาหารือ ขอคำแนะนำในการทำงานให้เหมาะสมกับเวลา
และโอกาส
4. อย่าโกรธหากผู้บังคับมีความคิดเห็นไม่ตรงกับความคิดเห็นของตน
5. เรียนรู้นิสัยการทำงานของผู้บังคับบัญชาเพื่อศึกษาส่วนดี เพื่อนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติ
6. มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส สร้างความเป็นมิตรกับบุคคลทุกคน อย่าก่อเรื่องกับคนอื่น
จนต้องให้ผู้บังคับบัญชารำคาญ
7. ทำความเจริญก้าวหน้า มีความคิดริเริ่ม มีเหตุผล มีการตัดสินใจในการทำงาน
ด้วยความเชื่อมั่น
8. สนใจที่จะศึกษาหาความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีกว่าปัจจุบัน
9. สร้างความไว้วางใจให้แก่ผู้บังคับบัญชา อย่าบ่นถึงความยากลำบาการปฏิบัติงาน
10. ประเมินผลตนเองเป็นระยะๆ ทั้งในเรื่องความก้าวหน้าของงานในความยากลำบากในการปฏิบัติงาน
















อ้างอิง

1.http://www.nfe.go.th/042102/enfe_book_2549/Industrial/working%20human%20relation.htm.
2. http://www.dmsc.moph.go.th/webroot/.
3. อนันท์ งามสะอาด. 2547 มนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ส่งเสริมอาชีวะ, 2547

























ารมณ์ได9. มีการสร้างสรรค์ (Constructive) หมายางสรรค์ ไม่ใช่เป็นคนที่คอยคิด
ทำลาย หรือกลั่นแกล้ง
ไม่ใช่เป็นคนที่คอยคิด
ทำลาย หรือกลั่นแกล้ง










...
  
พูดนั้นสำคัญไฉน...?”
โดย สมชาย หนองฮี
ต้องเสิร์ฟอย่างมีศิลป์ ด้วยรสชาดที่กลมกล่อมเข้ากัน และหากมีน้ำจิ้มเลิศรสช่วยเสริม อาหารจานนั้นก็จะอร่อยเหาะอย่าบอกใครเชียว
การพูดสื่อความหมายได้ดีที่สุด เพราะทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมสารพัดชนิดก็เข้าใจได้ ซ้ำยังสะดวกรวดเร็ว และประหยัดสตางค์ในกระเป๋าอีกด้วย แม้จะมีบางเสียงแอบเถียงว่าไม่จริงซะหน่อย เพราะพูดทีไรคนฟังคิดไปคนละทางคนละเรื่องตลอด เลยพาลโทษคนอื่นว่า “ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด” ผมขอแนะนำแบบเป็นกลางอย่างคนไม่มีเอี่ยวด้วยนะ คืออย่าเพิ่งเอาความผิดไปโปะใส่คนฟังเลยครับ คนพูดควรพิจารณาตัวเองควบคู่ไปด้วย แล้วค่อยหาข้อสรุป(อย่างเป็นกลางเหมือนกัน)ดีกว่าว่า คนพูด พูดไม่เป็นศัพท์(ปะ-รด) หรือคนฟังชอบจับมากระเดียดกันแน่
การพูดช่วยเสริมบุคลิกภาพ เคยได้ยินประโยคนี้ไหม “คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง” เราถึงได้เห็นบ่อย ๆ ว่ามีผู้ชายหน้าตาดูไม่จืดควงมากับสาวหน้าสวยเด้งยังกะนางงาม แต่หากเราได้รู้จักผู้ชายคนนั้นก็อาจพบความจริงว่า “คารม” เค้า “ไม่จืด(อย่างหน้าตา)” ซักนิด แถมยิ่งคุยยิ่งมีเสน่ห์ดูดีมีสกุล อย่าแปลกใจนะถ้าคุณเจอคนอย่างนั้น จงเข้าใจเถอะว่ามันเป็นไปได้ เพราะคนที่รู้จัก “พูด” จะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง และกล้าสบตาผู้อื่น แลดูมีบุคลิกภาพน่าเชื่อถือ ผิดกับคนที่พูดทีไรก็อึกอัก เสียงสั่น เหงื่อแตกพลั่ก แม้วาจาที่เปล่งออกมาจะเยี่ยมยอดขนาดไหน ก็บั่นทอนความคมเฉียบของคำพูดนั้นให้ด้อยค่าลงทันตาเห็นได้เหมือนกัน
การพูดสร้างผู้นำ ผมไม่ได้หมายถึง นักการเมือง ผู้บริหาร เท่านั้นนะครับ พนักงานธรรมดา ๆ ก็เป็นผู้นำได้ หาก “กล้า” แสดงความคิดเห็น และรู้จักใช้วาทศิลป์ เพราะคนเป็นหัวหน้าต้องรู้จักสั่งการ วันนี้คุณอาจเป็นแค่ลูกน้อง แต่ในอนาคต “ความกล้าพูด” ของคุณอาจเป็นประตูสู่โอกาสเลื่อนขั้นก็ได้ กรณีนี้ไม่ได้หมายถึงการใช้ปาก “ชะเลีย” เจ้านายนะครับ อย่าเข้าใจผิด
การพูดสร้างมนุษย์สัมพันธ์ เห็นได้ชัดว่า คนที่ “พูดเป็น” มักห้อมล้อมไปด้วยมิตรสหาย แต่คน “พูดไม่เป็น” อย่างที่เขาเรียกว่า “พูดไม่เข้าหูคน” จะทำให้บรรยากาศอึดอัดโดยไม่รู้ตัว เปิดปากทีไรเป็นได้เรื่อง (หรือบางทีก็ได้เลือดนะ ผมว่า) จะว่าขาดเสน่ห์ก็ไม่ผิดนัก เพราะการพูดเป็นดาบสองคมมีทั้งคุณและโทษในตัวเอง ทั้งสร้างสรรค์สิ่งดีงามจรรโลงโลกและทำลายล้างให้ย่อยยับคาตาได้เช่นเดียวกัน ในที่นี้ตัวคนใช้ดาบอาจโดนลูกหลงไปด้วยก็ได้
การพูดสร้างประชาธิปไตย ผมว่าประชาธิปไตยมีได้หลากหลายความหมายนะ การแสดงความคิดเห็นก็อยู่ในหมวดนี้ด้วย ถ้าทุกคนเอาแต่ใบ้กิน ให้ช่วยออกความเห็นอะไรก็ “No comment” ท่าเดียว คงไม่มีคำว่า “ประชาธิปไตย” บัญญัติอยู่ในพจนานุกรม บ้านเมืองคงเต็มไปด้วยพวก “อะไรก็ได้” แล้วรอคอยให้คนอื่นฟันธงอยู่ร่ำไป ฉะนั้นมาพูดเพื่อ “ประชาธิปไตย” กันเถิดครับ ชาติจะได้พัฒนา


...
  
รู้จัก รู้หลัก และรักที่จะใช้ KM
4
...
  
กลยุทธ์ทะเลสีน้ำเงิน
Blue Ocean Strategy หรือ กลยุทธ์ทะเลสีน้ำเงิน
Wednesday, 18 November 2009 01:01
.....เป็นแนวคิดที่มาจากนักวิชาการสองคนชื่อ W. Chan Kim และ Renee Mauborgne ซึ่งทั้งคู่เป็นอาจารย์จาก INSEAD สถาบันทางด้านบริหารธุรกิจชื่อดังในฝรั่งเศส เช่นเดียวกับพัฒนาการของแนวคิดทางการจัดการอื่นๆ ที่โด่งดัง นักวิชาการทั้งสองท่านได้ร่วมกันเขียนบทความที่นำไปสู่เรื่องของ Blue Ocean ในวารสาร Harvard Business Review

.....หลักการของ Blue Ocean นั้น จะไม่มุ่งเน้นที่จะตอบสนองต่อความต้องการที่มีอยู่ของตลาด แต่จะเน้นในการสร้างความต้องการหรืออุปสงค์ขึ้นมาใหม่ หรือที่เรียกว่า Demand Creation โดยไม่สนใจและให้ความสำคัญกับคู่แข่งเดิมๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรม เป็นการสร้างความต้องการของลูกค้า และอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมา ก่อให้เกิดประโยชน์หรือคุณค่าทั้งต่อองค์กรเองและลูกค้า โดยลูกค้าก็จะได้รับคุณค่าที่ความแตกต่างจากสินค้าอื่นๆในตลาด ในขณะที่องค์กรก็จะลดต้นทุนในส่วนที่ไม่จำเป็น และนำไปสู่การเติบโตขององค์กร

.....หลักการของ Blue Ocean Strategy นำเสนอว่า แทนที่จะมุ่งลอกเลียนแบบและเอาชนะคู่แข่งขัน จะต้องแสวงหาทะเลแห่งใหม่ แทนที่จะเป็นทะเลที่แดงด้วยเลือด(red ocean) แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเขาก็อุปมาเหมือนกับเป็น Blue Ocean Strategy โดยมีแนวทางในการวิเคราะห์อยู่ 4 ข้อได้แก่

1.การยกเลิก (Eliminated) ของบางอย่างที่เราเคยคิดว่า ลูกค้าต้องการ แต่จริงๆ แล้ว ในปัจจุบันลูกค้า อาจจะไม่มีความต้องการเลยก็ได้
2.การลด (Reduced) การนำเสนอคุณค่าบางอย่างให้ต่ำกว่าอุตสาหกรรม ซึ่งเราอาจจะเคยคิดว่าคุณค่านั้นๆ ลูกค้ามีความต้องการมาก แต่จริงๆ อาจจะไม่มากอย่างที่เราคิด
3.การเพิ่ม (Raised) ปัจจัยบางอย่างให้สูงกว่าระดับอุตสาหกรรม
4.การสร้าง (Created) คุณค่าบางประการที่ไม่เคยมีการนำเสนอ ในอุตสาหกรรมมาก่อน


กลยุทธ์ทะเลสีคราม (Blue Ocean Strategy) เป็นการมองเรื่องการเติบโตด้วยแนวทางใหม่ เป็นการโต้แย้งหลังการกลยุทธ์ทะเลสีแดง (Red Ocean Strategy) ซึ่งการมุ่งเน้นเพื่อเอาชนะคู่แข่งและการแย่งส่วนแบ่งตลาดเพียงอย่างเดียวนั้น จะทำให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรมมากขึ้น จนกระทั่งสินค้าที่แข่งขันกันในตลาดมีมากจนไม่แตกต่างกัน จะทำให้องค์กรต้องแข่งขันด้านราคา ซึ่งทำให้เกิดการเจ็บตัวกันขึ้นทำให้เป็นที่มาของการแข่งขันกันแบบทะเลสีแดง ซึ่งกลยุทธ์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นนั้นมีแนวคิดจากกลยุทธ์ทางการทหาร

กลยุทธ์ทะเลสีคราม มุ่งหลีกเลี่ยงการแข่งขันแบบการกลยุทธ์ทะเลสีแดง โดยต้องพยายามพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างหรือต้องสร้างความต้องการใหม่ๆ (New Demand) ขึ้นมาเสมอโดยใช้ นวตกรรมใหม่ๆ (Innovation) หรือเป็นทะเลใหม่ซึ่งเป็นทะเลสีครามนั่นเอง และที่กลยุทธ์ทะเลสีครามได้รับการตอบรับดีเนื่องมาจากมีเครื่องมือสนับสนุนครบ บริษัทต่างๆ ที่นำกลยุทย์นี้มาใช้ ได้แก่ สตาร์บัค ซีเอ็นเอ็น เป็นต้น และถ้าเราต้องการสร้างกลยุทธ์ขององค์กรให้เป็นแบบทะเลสีครามนั้น ต้องมาพิจารณาก่อนว่าลูกค้าในอุตสาหกรรมของเราในตอนนี้ซื้อสินค้าหรือบริการเราเนื่องจากราคาที่ต่ำหรือซื้อที่ความแตกต่าง แล้วจึงมาเริ่มมองว่าใครคือ Non-customer ซึ่ง Non-customer นี้ไม่ได้หมายถึงคนที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของเรา แต่มองว่าเป็นคนที่ไม่ใช่ลูกค้าของดลาดในปัจจุบัน



ลักษณะของตลาดที่ใช้กลยุทธ์แบบทะเลคราม

• เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มีอยู่ในปัจจุบันและไม่ทราบมาก่อนว่ามีอุตสาหกรรมประเภทนี้อยู่ด้วย
• สร้างอุปสงค์ใหม่ขึ้นมา ทำให้มีโอกาสเติบโต และมีสัดส่วนกำไรที่มาก
• ไม่มุ่งเน้นแข่งขันกับคู่แข่ง ไม่ปรียบเทียบกัน
• สามารถใช้ได้ทั้งกลยุทธ์ด้านราคาและสร้างความแตกต่างไปพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดนวัตกรรมที่มีคุณค่า (Value Innovation)
• มองภาพใหญ่ โดยไม่มุ่งเน้นเรื่องจำนวน และไม่ยึดติดกับผลการวิเคราะห์
• ใช้แรงจูงใจในการทำงานไม่ใช่แรงผลักดันจากรอบข้าง

...
  
กลยุทธ์ทะเลสีน้ำเงิน
Blue Ocean Strategy หรือ กลยุทธ์ทะเลสีน้ำเงิน
Wednesday, 18 November 2009 01:01
.....เป็นแนวคิดที่มาจากนักวิชาการสองคนชื่อ W. Chan Kim และ Renee Mauborgne ซึ่งทั้งคู่เป็นอาจารย์จาก INSEAD สถาบันทางด้านบริหารธุรกิจชื่อดังในฝรั่งเศส เช่นเดียวกับพัฒนาการของแนวคิดทางการจัดการอื่นๆ ที่โด่งดัง นักวิชาการทั้งสองท่านได้ร่วมกันเขียนบทความที่นำไปสู่เรื่องของ Blue Ocean ในวารสาร Harvard Business Review

.....หลักการของ Blue Ocean นั้น จะไม่มุ่งเน้นที่จะตอบสนองต่อความต้องการที่มีอยู่ของตลาด แต่จะเน้นในการสร้างความต้องการหรืออุปสงค์ขึ้นมาใหม่ หรือที่เรียกว่า Demand Creation โดยไม่สนใจและให้ความสำคัญกับคู่แข่งเดิมๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรม เป็นการสร้างความต้องการของลูกค้า และอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมา ก่อให้เกิดประโยชน์หรือคุณค่าทั้งต่อองค์กรเองและลูกค้า โดยลูกค้าก็จะได้รับคุณค่าที่ความแตกต่างจากสินค้าอื่นๆในตลาด ในขณะที่องค์กรก็จะลดต้นทุนในส่วนที่ไม่จำเป็น และนำไปสู่การเติบโตขององค์กร

.....หลักการของ Blue Ocean Strategy นำเสนอว่า แทนที่จะมุ่งลอกเลียนแบบและเอาชนะคู่แข่งขัน จะต้องแสวงหาทะเลแห่งใหม่ แทนที่จะเป็นทะเลที่แดงด้วยเลือด(red ocean) แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเขาก็อุปมาเหมือนกับเป็น Blue Ocean Strategy โดยมีแนวทางในการวิเคราะห์อยู่ 4 ข้อได้แก่

1.การยกเลิก (Eliminated) ของบางอย่างที่เราเคยคิดว่า ลูกค้าต้องการ แต่จริงๆ แล้ว ในปัจจุบันลูกค้า อาจจะไม่มีความต้องการเลยก็ได้
2.การลด (Reduced) การนำเสนอคุณค่าบางอย่างให้ต่ำกว่าอุตสาหกรรม ซึ่งเราอาจจะเคยคิดว่าคุณค่านั้นๆ ลูกค้ามีความต้องการมาก แต่จริงๆ อาจจะไม่มากอย่างที่เราคิด
3.การเพิ่ม (Raised) ปัจจัยบางอย่างให้สูงกว่าระดับอุตสาหกรรม
4.การสร้าง (Created) คุณค่าบางประการที่ไม่เคยมีการนำเสนอ ในอุตสาหกรรมมาก่อน


กลยุทธ์ทะเลสีคราม (Blue Ocean Strategy) เป็นการมองเรื่องการเติบโตด้วยแนวทางใหม่ เป็นการโต้แย้งหลังการกลยุทธ์ทะเลสีแดง (Red Ocean Strategy) ซึ่งการมุ่งเน้นเพื่อเอาชนะคู่แข่งและการแย่งส่วนแบ่งตลาดเพียงอย่างเดียวนั้น จะทำให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรมมากขึ้น จนกระทั่งสินค้าที่แข่งขันกันในตลาดมีมากจนไม่แตกต่างกัน จะทำให้องค์กรต้องแข่งขันด้านราคา ซึ่งทำให้เกิดการเจ็บตัวกันขึ้นทำให้เป็นที่มาของการแข่งขันกันแบบทะเลสีแดง ซึ่งกลยุทธ์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นนั้นมีแนวคิดจากกลยุทธ์ทางการทหาร

กลยุทธ์ทะเลสีคราม มุ่งหลีกเลี่ยงการแข่งขันแบบการกลยุทธ์ทะเลสีแดง โดยต้องพยายามพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างหรือต้องสร้างความต้องการใหม่ๆ (New Demand) ขึ้นมาเสมอโดยใช้ นวตกรรมใหม่ๆ (Innovation) หรือเป็นทะเลใหม่ซึ่งเป็นทะเลสีครามนั่นเอง และที่กลยุทธ์ทะเลสีครามได้รับการตอบรับดีเนื่องมาจากมีเครื่องมือสนับสนุนครบ บริษัทต่างๆ ที่นำกลยุทย์นี้มาใช้ ได้แก่ สตาร์บัค ซีเอ็นเอ็น เป็นต้น และถ้าเราต้องการสร้างกลยุทธ์ขององค์กรให้เป็นแบบทะเลสีครามนั้น ต้องมาพิจารณาก่อนว่าลูกค้าในอุตสาหกรรมของเราในตอนนี้ซื้อสินค้าหรือบริการเราเนื่องจากราคาที่ต่ำหรือซื้อที่ความแตกต่าง แล้วจึงมาเริ่มมองว่าใครคือ Non-customer ซึ่ง Non-customer นี้ไม่ได้หมายถึงคนที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของเรา แต่มองว่าเป็นคนที่ไม่ใช่ลูกค้าของดลาดในปัจจุบัน



ลักษณะของตลาดที่ใช้กลยุทธ์แบบทะเลคราม

• เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มีอยู่ในปัจจุบันและไม่ทราบมาก่อนว่ามีอุตสาหกรรมประเภทนี้อยู่ด้วย
• สร้างอุปสงค์ใหม่ขึ้นมา ทำให้มีโอกาสเติบโต และมีสัดส่วนกำไรที่มาก
• ไม่มุ่งเน้นแข่งขันกับคู่แข่ง ไม่ปรียบเทียบกัน
• สามารถใช้ได้ทั้งกลยุทธ์ด้านราคาและสร้างความแตกต่างไปพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดนวัตกรรมที่มีคุณค่า (Value Innovation)
• มองภาพใหญ่ โดยไม่มุ่งเน้นเรื่องจำนวน และไม่ยึดติดกับผลการวิเคราะห์
• ใช้แรงจูงใจในการทำงานไม่ใช่แรงผลักดันจากรอบข้าง

...
  
การตลาดไร้รูปแบบ
4
...
  
การสื่อสารเพื่อพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง
การสื่อสารเพื่อพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
เมื่อสมัยมนุษย์ดำรงชีวิตในยุคหินมนุษย์ต้องล่าสัตว์ หาอาหาร การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก มนุษย์มีการติดต่อสื่อสารกันน้อยมาก ต่อสภาพสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยเข้าสู่ยุคเกษตรกรรม มนุษย์มีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน แต่ก็ยังเป็นการค้าขายและแลกเปลี่ยนกันไม่มากนัก ต่อมาก็พัฒนาเข้ามาสู่สังคมอุตสาหกรรม ยุคนี้มนุษย์เริ่มมีการสื่อสารกันมากกว่าเดิม เนื่องจากจะต้องค้าขายกันมากขึ้น สำหรับยุคปัจจุบันสังคมของมนุษย์ก็เข้าสู่ยุคสังคมของการสื่อสาร มนุษย์เรามีการสื่อสารกันอย่างมากมาย และกว้างขว้างมากกว่ายุคใดๆ
การสื่อสารในยุคแรกๆ เรามักจะสื่อสารในรูปแบบ คนต่อคนหรือบุคคลต่อบุคคล ต่อมาเป็นการสื่อสารระหว่าง บุคคลกับกลุ่มคน มนุษย์เริ่มใช้เครื่องมือเข้ามาช่วย เช่น วิทยุ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงเป็นเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นอันได้แก่ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ
สำหรับปัจจุบันถ้าพูดถึงเรื่องชุมชนเข้มแข็ง ประเด็นเรื่องค้าปลีก ร้านโชห่วยของไทย ต้องพ่ายแพ้ กับร้านเทสโก้ โลตัส ซึ่งมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหนึ่งก็คือ เทสโก้ โลตัส ใช้การสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตทำให้รู้ข้อมูลจำนวนสินค้าต่างๆ โดยมีการเชื่อมโยงกับร้านค้า โรงสี ต่างๆ ซึ่งคงไม่แตกต่างกับ 7-11 คาร์ฟูร์ แม็คโคร ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ซึ่งก็มีการเชื่อมโยงโดยระบบการสื่อสารโดยมีการเชื่อมโยงในลักษณะเช่นเดียวกับ เทสโก้ โลตัส ซึ่งทำให้ลดต้นทุน ลดการเก็บสินค้าคงคลัง ฯลฯ
การได้เปรียบในการสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีในลักษณะนี้ ทำให้ร้านโชห่วยของไทยต้องมีการปิดตัวลงเป็นอันมาก
ระบบโทรศัพท์มือถือ มีความจำเป็นมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้โทรศัพท์มีราคาถูก เราคงเห็นในปัจจุบัน การใช้โทรศัพท์บ้านในหลายๆบ้าน แทบไม่ได้ใช้เลย รวมทั้งธุรกิจค่ายเพลงก็มีการปรับตัวอันเนื่องมาจากเทคโนโลยี โดย ผู้บริโภคหันมาฟังทางโทรศัพท์กันมากขึ้น และฟังทางเครื่องเล่น MP3 มากขึ้น ทำให้กิจการเทป รวมทั้งกิจการแผ่นซีดีต้องปิดตัวไป ตัวแทนจำหน่ายก็ต้องปิดกิจการไป ทำให้โทรศัพท์มือถือมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน
ระบบการส่งจดหมายก็มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการรับส่งจดหมายทางอินเตอร์เน็ตกันมาก
ระบบการทำหนังสือต่างๆ ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มมีการจัดเก็บโดยใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต อีกทั้งกิจการโรงพิมพ์ต่างๆ ที่พิมพ์หนังสือออกมาเป็นเล่ม ในปัจจุบันและอนาคตคงต้องปรับตัว อันเนื่องจากเทคโนโลยีโดยเปลี่ยนจากหนังสือเป็นเล่มมาเป็นการทำหนังสือในลักษณะ E-BOOK แทน
ระบบการส่งข่าวและเครื่องมือการส่งข่าวมีความง่ายมากกว่าในอดีต ในยุคปัจจุบันใครๆ ก็สามารถเป็นนักข่าวได้ โดยการเขียนข่าวส่งข่าวผ่านอินเตอร์เน็ต วิทยุชุมชนหรือโทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งเราจะเห็นว่าเครื่องมือไม่ว่า จะเป็นโปรแกรมตัดต่อ คอมพิวเตอร์มีความทันสมัยขึ้น
ระบบกล้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูปแบบเคลื่อนไหวหรือกล้องถ่ายรูปนิ่ง ทำให้กล้องฟิล์ม กล้องบันทึกเทป หายไปจากตลาด
ระบบสถานีออกอากาศหรือสถานีส่ง เช่น การก่อตั้งวิทยุชุมชนซึ่งง่ายกว่าในอดีต รวมทั้ง โทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งการก่อตั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์ดาวเทียมมีต้นทุนที่ราคาถูกกว่าในอดีตเป็นอันมาก
ระบบสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องมาจากการสื่อสาร โดยเฉพาะ สังคมเครือข่าย เช่น Facebook , twitter HI5 ฯลฯ
มีเด็กรุ่นๆใหม่เล่นอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นในทุกๆปีซึ่ง กลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 24 ปี ใช้ Facebook เยอะที่สุด ในประเทศไทยและประมาณ 40 % ของประชากรทั้งหมด โดยมีคนใช้ประมาณเกือบ 8,000,000 คน (เป็นผู้ชาย 46 % ผู้หญิง 54 %)
ระบบการจัดเก็บข้อมูล เช่น YOUTUBE เปิดโอกาสให้คนโด่งดังได้ง่ายกว่าการใช้สื่ออื่นที่ต้องใช้ต้นทุนที่สูง เช่น หลายประเทศมีนักร้องที่ไม่ได้ไปแข่งขันในรายการทางโทรทัศน์ต่างๆ แต่ เอาคลิปไปลงใน YOUTUBE แล้วมีคนเปิดดูกันมาก ทำให้บริษัทค่ายเพลงต้องเซ็นต์สัญญาจ้างให้เป็นนักร้องในสังกัด ซึ่งการใช้หรือการลงคลิปใน YOUTUBE เปิดโอกาสให้คนเกือบทุกคนมากกว่าโทรทัศน์ อีกทั้งเราสามารถดูซ้ำได้ไม่เหมือนการดูโทรทัศน์ที่ไม่สามารถดูซ้ำได้
ดังนั้น การสื่อสารจึงมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน การสร้างความเข้มแข็งในชุมชนก็เช่นกัน เรามีความจำเป็นจะต้องมีการสื่อสารเพื่อให้เกิดข้อมูลต่างๆ แก่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้เกิดความเรียนรู้ มีการพัฒนาองค์ความรู้มากยิ่งขึ้น
ทำให้ชุมชนเกิดความสามัคคี เกิดการมีส่วนร่วมในชุมชนมากขึ้น
การสื่อสาร ความรัก ความสามัคคี ช่วยพัฒนาความเข้มแข็งแก่ชุมชน
...
  
รับสมัครสส สุขุม นวลสกุลวิเคราะห์
4
...
  
ปรัชญา หรือฮิกมะฮ์ในอิสลาม
4
...
  
ทอล์คโชว์4
4
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.