หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  
  -  
  -  
  -  เป้าหมายเปลี่ยนชีวิต
  -  ขายปลุกพลังชีวิต
  -  ระบบ P.K.S.C กับนักขาย
  -  ธุรกิจเครือข่ายโอกาสทางธุรกิจ
  -  การพูดเพื่อขาย
  -  ขายตัวคุณเองก่อน....แล้วจึงขายของ...
  -  นักการตลาดมืออาชีพ
  -  กล้าเสี่ยงและลองทำสิ่งใหม่ๆแล้วท่านจะเป็นผู้ชนะ
  -  การจัดประชุมทีมในธุรกิจเครือข่าย
  -  การจัดการเวลา
  -  ข้อห้ามสำหรับเจ้าหน้าที่ในการจัดการแสดงสินค้า
  -  ความสำเร็จเริ่มต้นที่ความกล้า
  -  การตลาดยุคใหม่ : Modern Marketing
  -  การตลาดยุคใหม่ : นักการตลาดยุคใหม่
  -  คิดต่าง
  -  การตลาดรุ่ง เราต้องมุ่งที่การสร้างความสัมพันธ์
  -  ยุทธวิธีการตลาด
  -  ชนะคู่แข่งด้วย SERVICE
  -  การตลาดกับธุรกิจบริการ
  -  แนวความคิดทางการตลาด ยิ่งให้ยิ่งได้ ของมหาเศรษฐีโลก
  -  การตลาดของมหาเศรษฐีโลก
  -  ธุรกิจเล็กชนะธุรกิจใหญ่
  -  การตลาดของมหาเศรษฐี
  -  แนวคิดเกี่ยวกับเวลา
  -  ชนะใจลูกค้าด้วยการบริการ
  -  อาวุธทางการตลาด สื่อนอกบ้าน
  -  กลยุทธ์การตลาด 10 P สำหรับนักธุรกิจ
  -  Marketing Environment
  -  การสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ทางด้านการตลาด
  -  จงเข้าใจการตลาด...ก่อนลงมือทำการตลาด
  -  จะแข่งขันทางการตลาด....อย่างไรในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
  -  Attraction Marketing การตลาดแบบดึงดูด
  -  Celebrity Marketing
  -  สู่ความเป็นสุดยอด...นักการตลาดมือทอง....
  -  เทคนิคในการสร้างนวัตกรรมและคิดสร้างสรรค์ทางด้านการตลาด
  -  คุณสมบัตินักขายมืออาชีพ
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

...
  

...
  

...
  
เป้าหมายเปลี่ยนชีวิต
เป้าหมายเปลี่ยนชีวิต
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ คือ การเดินทางไปให้ถึงเป้าหมาย
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตย่อมมีเป้าหมายเสมอ การมีเป้าหมายจะทำให้เรามีทิศทางในการทำงาน ตรงกันข้าม บุคคลที่ไม่มีเป้าหมาย ย่อมทำงานโดยไม่มีทิศทางและไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ นักขายก็เช่นกัน
มีนิทานเรื่องหนึ่ง เล่าว่า มีชาย 4 คน นั่งเรือลำเดียวกันไปเที่ยวทะเล ในขณะเที่ยวทะเล เรือเกิดประสบอุบัติเหตุล่ม ชายทั้ง 4 คน จึงติดอยู่ที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง ไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครได้ จึงหาผลไม้ อาหาร ที่บนเกาะปะทังชีวิต อยู่หลายปี จนกระทั่งวันหนึ่ง ชายทั้ง 4 คน เดินริมชายหาดไปเจอ ตะเกียงวิเศษ เลยจับตะเกียงขึ้นมาดู ปรากฏว่า มียักษ์ตนหนึ่ง โผล่ออกมาจากตะเกียงวิเศษ พร้อมกล่าวว่า เจ้าทั้ง สี่ ปล่อยข้าออกจากตะเกียง เจ้ามีสิทธิ์ขอสิ่งที่เจ้าปรารถนาได้คนละหนึ่งอย่าง ชายคนแรกเริ่มขอ ข้าอยากกลับบ้าน ยักษ์บอกว่า เจ้าได้ตามคำขอ ว่าแล้วยักษ์ ก็ชี้ไปที่ชายคนแรก ปรากฏว่า ชายคนแรกก็หายไป ได้กลับบ้านตามคำขอ ชายคนที่สองก็เริ่มขอทันที ข้อขอบ้านหลังใหญ่ มีเงินทองและขอกลับบ้าน ว่าแล้วยักษ์ ก็ชี้ไปที่ชายคนที่สอง ปรากฏว่า ชายคนที่สองหายไป แล้วยักษ์ก็ชี้ไปที่ชายคนที่สาม แล้วเจ้าละ ชายคนที่สามไม่คิดมาก เริ่มขอ ข้าขอเมียสวยๆ มีทรัพย์สมบัติมากๆ และขอกลับบ้าน ยักษ์บอกเจ้าได้ดังที่ขอ แล้วยักษ์ก็ชี้ไปคนสุดท้าย แล้วเจ้าละขออะไร รีบขอมา ชายคนสุดท้าย เกาหัว ทำท่าลังเล พร้อมบ่นอยู่คนเดียวจะขออะไรดี แล้ว ยักษ์ก็ถาม ขึ้นอีกครั้ง เจ้าต้องการอะไร ชายคนสุดท้ายรีบตอบ ข้าขอปรึกษาเพื่อน อีก 3 คน ก่อน ว่าแล้ว ยักษ์ ก็ชี้ไปยัง ชายคนสุดท้าย เจ้าได้ตามคำขอ และแล้วเพื่อน 3 คน ที่กลับบ้านก็ปรากฏกายขึ้น แล้วไล่ เตะ ไล่ต่อย ชายคนสุดท้าย แล้วพูดว่า มึงขออะไรยักษ์วะ
จากนิทานเรื่องนี้ เราจะเห็นว่า คนที่ไม่มีเป้าหมายหรือไม่รู้ความต้องการของตนเอง นอกจากตัวเองจะไม่ประสบความสำเร็จแล้ว ยังดึงคนอื่นให้ล้มเหลวตามไปด้วย
ดังนั้น ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จ ในการเป็นนักขาย เราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายไว้
อาจเป็นตัวเลขการขาย เป้าหมายเป็นปี เป็นเดือน และก็เป็นวัน แล้วจึงทุ่มเท มุ่งมั่น ไปให้ถึงเป้าหมาย บางครั้ง อาจท้อแท้ แต่ก็ต้องอดทน
นักขาย จำเป็นต้องอดทนต่อการปฏิเสธ รักที่จะเป็นนักขาย ต้อง อดทน ต่อการถูกปฏิเสธ
และถ้าถูกปฏิเสธ จากลูกค้า จำนวนมากเท่าไร ก็จะทำให้เราเข้าใกล้ การเป็นสุดยอดนักขายฉันนั้น
เช่น ในวงการขายประกัน นักขายบางคนบอกว่า เสนอขายลูกค้า 10 คน มีคนตอบรับ 3 คน ปฏิเสธ
7 คน แต่ถ้าเป็นนักขายประกันที่เก่ง บางคนเสนอขายลูกค้า 10 คน อาจมีคนตอบรับ 8 คน แต่ก็ต้องมีคนปฏิเสธ การขายเสมอ ดังนั้น รักที่จะเป็นนักขาย ก็ไม่ต้องกลัวการถูกปฏิเสธ
จงมุ่งมั่น ฝึกฝน ทักษะในการขาย การชำนาญย่อมเกิดจากการฝึกฝน การเป็นสุดยอดนักขาย เราจำเป็นต้องฝึกฝน ทุ่มเท มุ่งมั่น ที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ย่อท้อ การขายสินค้า บ่อยๆ จะทำให้เรารู้กระบวนการขาย ทำให้เรารู้ทักษะต่างๆในการขาย บางครั้ง ครูที่ดีของนักขาย ไม่ใช่ใคร อื่น ครูที่สอนให้เราเป็นสุดยอดนักขาย ก็คือ ลูกค้า นั่นเอง
พูดถึงเรื่องการ ไม่ยอมแพ้ บุคคลที่ประสบความสำเร็จ จะไม่ยอมแพ้ อะไรง่ายๆ เช่น
ผู้พันแซนเดอร์ส เจ้าของสูตรไก่ทอด KFC ( Kentucky Fried Chicken) ที่มีขายทั่วโลก เขาไม่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันอะไรในชีวิตเลย อายุ 5 ขวบ เขากำพร้าพ่อ ต้องรแเลี้ยงดูน้องๆอีกต้องช่วยแม่ทำงานบ้าน ทำอาหาร เพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ เมื่ออายุ 16 ปี เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนต้องออกจากโรงเรียน ต่อมาแม่แต่งงานใหม่ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อเลี้ยงไม่สู้จะดี พ่อเลี้ยงชอบตีเขาเป็นประจำจนต้องหนีออกจากบ้าน เขาพยายามหางานทำแต่ก็ต้องตกงานเป็นประจำ เมื่ออายุ 18 ปี เขาได้แต่งงาน มีลูกสาว 1 คน เขาจึงไปเป็นพนักงานขายตั๋วรถไฟ แต่ก็ล้มเหลวอีก เขาสมัครเป็นทหารในกองทัพสหรัฐ ทำงานได้ช่วงหนึ่งก็ถูกให้ออกจากกองทัพสหรัฐ ภรรยาของเขาทนในความไม่เอาไหนของเขาไม่ได้จึงตัดสินใจหอบลูกสาวหนี เขาต้องทนทุกข์กับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าในอาชีพการทำงานของเขาอีกทั้งครอบครัวที่แตกแยก จนกระทั่งเกษียณตอนอายุ 65 ปี เขาจึงคิดที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต เขาจึงคิดว่ามีสิ่งหนึ่งที่เขารักและทำได้ดีที่สุดในชีวิตก็คือทำอาหาร รุ่งขึ้นเขาจึงไปซื้อไก่มาจำนวนหนึ่งแล้วลงมือทอดไก่ด้วยสูตรของเขาเอง แล้วจึงขายไก่ทอดตามบ้านของเขาที่เมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้ ต่อมาเขาต้องการให้คนในสหรัฐได้กินไก่ทอดของเขาทั้งประเทศ เขาไม่มีเงินทุน จึงต้องเดินเร่ขาย สูตรไก่ทอดของเขา ให้นักธุรกิจ จากคนที่ 1 คนที่ 10 , 100 , 1,000 ก็ไม่มีใครสนใจสูตรไก่ของเขา เขาก็ไม่ย่อท้อ เขาไม่ยอมพ่ายแพ้ เขาเร่ขายต่อ จนกระทั่ง คนที่ 1,009 จึงมีคนซื้อสูตรไก่ของเขา
พวกเราเชื่อกระผมไหมครับ ถ้าเขาเกิดยอมแพ้ ก่อนเวลาอันควรหรือเสนอขายสูตรไก่ให้กับนักธุรกิจคนที่ 1,008 แล้วยอมแพ้ก่อนจะถึงคนที่ 1,009 ตอนนี้ พวกเราคงไม่มีโอกาสกินไก่ทอดที่อร่อยในยี่ห้อ KFC ซึ่งมีสาขามากว่า 13,000 แห่ง ทั่วโลก
สำหรับบุคคลที่ประสบความสำเร็จอีกท่านหนึ่ง เฉินหลงหรือชื่อจริง เฉินกั่งเซิง ผมได้มีโอกาสอ่านประวัติของเฉินหลง บุคคลผู้นี้ เราสามารถนำเอาเป็นแบบอย่างได้ เฉินหลง ชอบการชกต่อยมาตั้งแต่เด็กๆ พ่อของเฉินหลงจึงตัดสินใจฝากเฉินหลงกับอาจารย์หวี่ ซึ่งขณะนั้นอาจารย์หวี่ เป็นอาจารย์หรือครูมวยชื่อดังและได้เปิดโรงเรียนสอนการเล่นงิ้วโดยสัญญาว่าจะให้เฉินหลงเรียนวิชาต่างๆของโรงเรียนเป็นเวลาสิบปี ซึ่งตอนนั้นเฉินหลงอายุไม่ครบแปดปีบริบูรณ์ด้วยซ้ำ ซึ่งเด็กรุ่นๆเฉินหลงในโรงเรียน ได้กลายเป็นดาราดังเช่น หมูหินหงจินเป่าและหยวนเปียว เฉินหลงฝึกเล่นงิ้ว ฝึกกังฟู ฝึกวิทยายุทธ์ของครูหวี่ ต่อมาจึงได้มีโอกาสไปแสดงงิ้วในที่ต่างๆรวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งการแสดงส่วนใหญ่เฉินหลงมักเป็นตัวแสดงที่ต้องใช้กำลัง หลังจากนั้นเฉินหลงก็รับจ้างเป็นนักแสดงคิวบู๊ ซึ่งเป็นตัวประกอบหลายเรื่องในขณะนั้นยังไม่มีชื่อเสียง จนกระทั่งเขามีโอกาสเล่นหนังเรื่องไอ้หนุ่มพันมือ ตามด้วยหนังเรื่องไอ้หนุ่มหมัดเมา เฉินหลงจึงค่อยๆเป็นที่ยอมรับของผู้ชมในระดับหนึ่ง หลังจากนั้นเฉินหลงกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในระดับเอเชียโดยเซ็นสัญญากับโกลเด้นฮาร์เวสต์ หนังที่ทำให้เขาแจ้งเกิดในระดับเอเชียคือ วิ่งสู้ฟัด เอไกหว่า ต่อมาดังระเบิดในสหรัฐในหนังเรื่องใหญ่ฟัดโลก ในการแสดงของเฉินหลงมักเป็นที่ยอมรับของผู้ชม เนื่องจากเฉินหลงลงทุนแสดงบทเสี่ยงตาย โดยกระโดดลงจากที่สูง บางเรื่องถึงขนาดใส่เสื้อตัวเดียว ถ่ายหนังท่ามกลางอุณหภูมิที่ติดลบ โดยไม่ใช้นักแสดงแทนหรือสตันแมนเหมือนดาราคนอื่นๆทำ พวกเราลองคิดดูเฉินหลงฝึกการแสดงต่างๆตอนอายุไม่ครบแปดปีบริบูรณ์ ฝึกสิบปีแล้วจึงไปเป็นนักแสดงตัวประกอบแล้วในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในที่สุด ถ้าหากพวกเราพยายามที่จะประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาแค่สองสามปีหรือห้าหกปี พวกเรายังห่างไกลจากความสำเร็จเป็นอันมากเมื่อเปรียบเทียบกับเฉินหลง
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ไม่เคยได้มาง่ายๆ
...
  
ขายปลุกพลังชีวิต
โดย..ดร.สุทธิ่ชัย ปัญญโรจน์
น้ำทีละหยด ยังกลายเป็น แม่น้ำ ลำคลอง
หินทีละก้อน กำเนิด เป็นภูเขา
ต้นไม้ทีละต้น ยังกลายเป็น ป่าไม้
นักขายที่ขยันไม่หยุด ย่อม สร้างตำนาน สุดยอดนักขาย
ความสำเร็จอันใหญ่ยิ่ง จะมีขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีการเริ่มต้นหรือเริ่มทำ ระยะทางแสนไกล จะมีขึ้นไม่ได้
ถ้าไม่มีก้าวแรก เขาทรายจะไม่ใช่นักชกผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าไม่เริ่มต้นชก ภราดร ศรีชาพันธุ์จะไม่ใช่แชมป์นักเทนนิส ถ้าไม่เริ่มต้นตีเทนนิส นักว่ายน้ำที่ยิ่งใหญ่ จะยิ่งใหญ่ไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มต้นว่ายน้ำ ซิโก้จะไม่ใช่นักเตะบอลทีมชาติไทย ถ้าไม่มีการเริ่มต้นเตะบอล นักขายผู้ยิ่งยงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่เริ่มต้นขายให้ลูกค้ารายแรก
การจะเอาชนะสงครามอันยิ่งใหญ่ได้ ก็ด้วยการเอาชนะสงครามขนาดเล็กๆ ก่อน นาฬิกาถ้ารู้ว่าตัวเองต้องเดินวันหนึ่งๆ หลายหมื่นวินาที หลายแสนวินาที นาฬิกาถ้ามีชีวิต ก็คงท้อแท้ หมดกำลังใจ แต่ นาฬิกาเริ่มต้นเดินวินาทีแรก เดินก้าวแรกแล้วก็สะสมไปทีละวินาที ทีละวินาที จากวินาทีแรก ก็สามารถเดินได้หลายล้านวินาที
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ย่อมเกิดจากความสำเร็จอันเล็กๆ น้อยๆ แล้วรวมกัน เมื่อสะสมกันเข้าก็เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ ปีเกิดขึ้นได้จากการสะสมของเดือน เดือนเกิดขึ้นได้จากการสะสมของสัปดาห์ สัปดาห์เกิดขึ้นได้จากการสะสมของวัน วันเกิดขึ้นได้จากการสะสมของชั่วโมง ชั่วโมงก็เกิดขึ้นได้จากการสะสมของนาที นาทีเกิดขึ้นได้จากการสะสมของวินาที
พญาช้างสารตัวใหญ่โตก็จริง แต่เราสามารถกินช้างทั้งตัวได้ด้วยการกินทีละคำ สุดยอดนักขายเป็นได้ยากก็จริง แต่เราก็สามารถเป็นยอดนักขายได้จากการขายทีละราย เมื่อสะสมกันเข้าก็สามารถเป็นยอดนักขาย
และเมื่อท่านรู้สึกท้อแท้ใจในเป้าหมายของชีวิต ขอให้ท่านนึกถึงบุคคลสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์โลกว่า เขาเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จได้นั้น เขาต้องอาศัยความอดทน ผ่านความยากลำบากและล้มเหลว
เอดิสัน นักประดิษฐ์เอกของโลกก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า เขาต้องล้มเหลวนับ ร้อยๆ ครั้ง พันๆ ครั้ง แต่เขาไม่เคยท้อแท้ใจ ถึงที่สุดแล้ว เขาก็กลายเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์เอกของโลก
อับราฮัม ลินคอล์น เกิดในเคนตั๊กกี้ ไม่เคยเข้าโรงเรียนเกิน 1 ปี ในชีวิตของเขา เขาล้มเหลวในการประกอบธุรกิจร้านขายของชำเขาประกอบอาชีพช่างสำรวจ ทหารและทนายความ ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการประกอบอาชีพดังกล่าว อีกทั้งการลงสมัครรับเลือกตั้งหลายตำแหน่งก็สอบตกคือไม่ได้รับการเลือกตั้ง เช่น เคยแพ้การเลือกตั้งในตำแหน่งนิติบัญญัติ แพ้เลือกตั้งในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทน แพ้เลือกตั้งในตำแหน่งวุฒิสภา แพ้การเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดี แต่ความล้มเหลวดังกล่าวนำเขาไปสู่การเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
วิลเบอร์ ไรท์ และ ออร์วิล 2 พี่น้องตระกูล ไรท์ มีความปรารถนาจะสร้างเครื่องลำแรกของโลก เขาทดสอบแล้วทดสอบอีก ทดลองแล้วทดลองอีก ผ่านการล้มเหลวมานับไม่ถ้วน จนในที่สุด เครื่องบินลำแรกของโลกได้แก่ขึ้นในปี พ.ศ.2446
ไม่มีความสำเร็จอันใดหรือกิจการงานใด ได้มาโดยไม่มีความลำบากและปราศจากการเริ่มต้น




...
  
ระบบ P.K.S.C กับนักขาย
ระบบ P.K.S.C กับนักขาย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักขายเขาจะเป็นนักเรียนรู้ ซึ่งจำเป็นจะต้องเรียนรู้ทั้งทฤษฏี และ มีการเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติจริง ซึ่งในปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร นักขายจึงสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา เพราะวิชาการต่างๆ มีการพัฒนาขึ้น ในตอนนี้เรามาเรียนรู้หลักการของ P.K.S.C ซึ่งหลักการมีดังนี้
P = POSSITIVE ATTITUD ทัศนคติที่ดี
การจะเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จ การมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับงานขายมีความสำคัญมาก ถ้านักขายมีทัศนคติในทางบวก ก็จะทำให้นักขายเกิดแรงกระตุ้นที่มีพลัง มีความกล้าที่จะเสนอขายสินค้า มีความขยันในการทำงานขาย ในทางกลับกัน หากนักขายมีทัศนคติในทางลบ ก็จะทำให้นักขายผู้นั้นเกิดการท้อแท้ใจ ไม่กล้าที่จะเสนอขายสินค้า เช่น ถ้านักขายคิดแต่เรื่องของผลประโยชน์ต้องการเอาแต่ค่าคอมมิชชั่น พอถูกปฏิเสธจากลูกค้ามากๆ นักขายก็จะหมดกำลังใจในการทำงานด้านการขาย ดังเช่น ตัวแทนขายประกันชีวิต บางคนต้องการขายประกันชีวิตเพื่อที่จะเอาเงินลูกค้า เมื่อคิดอย่างนี้ก็เกิดความเกรงใจลูกค้า ไม่กล้าที่จะนำเสนอการขายประกันชีวิต แต่ถ้าตัวแทนประกันชีวิตที่มีทัศนคติที่ดี ก็จะคิดใหม่ว่าถ้าเกิดลูกค้าไม่ทำประกันชีวิตถ้าเกิดลูกค้าตายไปแล้วใครจะเดือดร้อน แล้วลูกและภรรยาของเขาจะหาเงินมาจากไหนเพื่อใช้จ่ายในสิ่งต่างๆ แต่ถ้าหากลูกค้าประกันชีวิตท่านนั้นซื้อประกันชีวิตจากเราเป็นวงเงิน 1,000,000 บาท เมื่อลูกค้าตายไป ลูกและภรรยาก็สามารถนำเงิน 1,000,000 บาท มาใช้จ่ายในครอบครัวได้
K = KNOWLEDGE ความรู้
นักขายที่ประสบความสำเร็จในอาชีพงานขาย จำเป็นจะต้องหาความรู้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความรู้ที่เกี่ยวกับตัว สินค้า บริการ บริษัท สัญญาต่างๆ (ทั้งของตัวเราและของคู่แข่ง) ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถทำให้นักขายเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เช่น หนังสือ cd vcd dvd วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ ฉะนั้น ถ้าต้องการเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จในอาชีพงานขาย จะต้องเป็นคนที่อ่านหนังสือต่างๆมากๆ ฟังข่าวสารข้อมูลของบริษัทและวิชาการต่างๆให้มากๆ ซักถามนักขายรุ่นพี่ๆที่มีประสบการณ์ในการขายมากๆ เมื่อนักขายมีความรู้มาก นักขายก็จะเกิดความมั่นใจในการขาย
S = SKIL ทักษะ ความชำนาญ
นักขายที่ประสบความสำเร็จ เมื่อมีทัศนคติที่ดี คิดบวก ต่ออาชีพการขาย แล้วมีการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการขาย ยังไม่พอ นักขายที่ประสบความสำเร็จจะต้องแสวงหาความชำนาญ ทักษะในด้านการขาย การแสวงหาความชำนาญ หรือทักษะในการขาย ไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากการ ขาย ขาย และก็ขาย ดังนั้นนักขายจะต้องหมั่นออกตลาด เพื่อพบปะพูดคุยกับลูกค้า พร้อมทั้งเสนอขายสินค้าและบริการ ความชำนาญ เกิดจากการฝึกฝน การที่เราฝึกฝน ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกก็จะเกิดความชำนาญนั้นเอง และครูที่ดีของนักขายก็คือ ตัวของลูกค้านั้นเอง
C = CONTROL การควบคุม
การควบคุมมีความสำคัญมากในการทำงานทุกอย่าง การทำงานด้านการขายก็เช่นกัน หากนักขายวางแผนจะไปพบลูกค้าจำนวน 60 รายต่อเดือน เท่ากับ 2 รายต่อวัน ถ้าปราศจากการควบคุมตนเอง เป้าหมายตามแผนที่วางไว้ก็ไปไม่ถึงฝั่ง อีกทั้งนักขายที่ดีจะต้องมีการควบคุมตนเองในเรื่องต่างๆ จึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพด้านการขาย เช่น ควบคุมตนเองในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ควบคุมความประพฤติของตนเองไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ควบคุมบุคลิกภาพของตนเองให้ดูดีในการไปพบปะพูดคุยกับลูกค้า
หลักการ P.K.S.C เป็นหลักการที่นักขายควรนำไปใช้และปฏิบัติเพื่อใช้ในการพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักขายมืออาชีพ
...
  
ธุรกิจเครือข่ายโอกาสทางธุรกิจ
ธุรกิจเครือข่ายโอกาสทางธุรกิจ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ธุรกิจเครือข่ายเกิดขึ้นมากมายในยุคปัจจุบัน ซึ่งความสวยงามของธุรกิจเครือข่ายมีมากมาย เช่น เป็นธุรกิจของตัวเอง , เป็นธุรกิจแห่งการแบ่งปัน ,เป็นธุรกิจแห่งการเป็นอิสรภาพ และเป็นธุรกิจในการเปิดโอกาส
- ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจของตัวเอง หมายถึง ใครที่มีเงินทุนน้อย สามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้และเป็นเจ้าของ
กิจการธุรกิจเครือข่ายร่วมกัน ไม่มีนายเจ้าไม่มีลูกจ้าง ไม่ต้องลงเวลาทำงาน มีความเสี่ยงน้อย มีระบบให้สามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งธุรกิจเครือข่ายหลายแห่งยังสามารถเป็นมรดกตกทอดให้แก่ลูกหลานได้ด้วย
- ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจแห่งการแบ่งปัน หมายถึง คนที่ประสบความสำเร็จมักมาบอกเล่าเรื่องราว วิธีการ
ทำงานให้แก่ คนที่เข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ อีกทั้งมีการแบ่งปันเวลาให้ความช่วยเหลือ เมื่อลูกทีมหรือหัวหน้าทีมต้องการความช่วยเหลือ เป็นการแบ่งปันรายได้ แบ่งปันโอกาสทางธุรกิจให้แก่คนอื่นๆ
- ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจแห่งการเป็นอิสรภาพ หมายถึง เมื่อท่านทำงานหนักในช่วงแรก แล้วประสบ
ความสำเร็จ ท่านจะได้ไปท่องเที่ยว อีกทั้งมีรายได้ที่ไร้ขีดจำกัดเนื่องจากลูกทีมในเครือข่ายของท่านทำงาน อีกทั้งท่านจะมีอิสรภาพทางด้านเวลา
- ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจแห่งการเปิดโอกาส หมายถึง เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาในการสมัครทำ
ธุรกิจ ท่านไม่จำเป็นต้องจบปริญญาตรี หรือจบปริญญาเอก เหมือนตอนไปสมัครทำงาน แต่หากใครสมัครเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย ต้องเริ่มนับหนึ่งเหมือนกันหมด อีกทั้งเมื่อประสบความสำเร็จท่านจะได้รับการยกย่องเชิดชูจากคนในองค์กรหรือคนในธุรกิจเครือของท่าน
แต่อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย ท่านจำเป็นจะต้องมีการคัดเลือก หลักในการคัดเลือกบริษัทเครือข่ายมีดังนี้
1.ความมั่นคงของบริษัท มีความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เนื่องจากหลายบริษัทไม่มีความมั่นคง ไม่มีความน่าเชื่อถือ เมื่อดำเนินธุรกิจเครือข่ายไปสักระยะหนึ่ง ก็มีการปิดตัว ซึ่งทำให้สิ่งที่เราลงทุนลงแรงลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา เงินทอง ค่าใช้จ่ายต่างๆ เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งต้องเสียความรู้สึกอีกด้วย
2.ความเป็นมืออาชีพของนักบริหาร หากว่านักบริหารของบริษัทในธุรกิจเครือข่ายขาดประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจก็จะทำให้ธุรกิจเครือข่ายนั้นๆ เจริญเติบโตได้ช้ามาก แต่หากนักบริหารมีประสบการณ์ หากเกิดปัญหาต่างๆ ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
3.สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต้องเด่นและแปลกใหม่ ผลิตภัณฑ์หรือสินค้า มีความสำคัญมาก เนื่องจากธุรกิจเครือข่ายในยุคปัจจุบัน มักมีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน ส่วนใหญ่มักเป็น อาหารเสริม เครื่องสำอาง ของใช้ภายในบ้าน ซึ่งคุณสมบัติก็ไม่ต่างแตกกัน หากบริษัทหรือธุรกิจเครือข่ายใดมีสินค้าที่แตกต่าง แปลกใหม่ ก็จะได้รับการตอบรับ จากลูกค้าหรือผู้บริโภคได้มากกว่าสินค้าที่มีความคล้ายคลึงกัน
4.แผนการตลาดต้องโดน หมายถึง แผนการตลาดมีความสำคัญมากเช่นกัน เราต้องยอมรับว่าธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่ของใหม่สำหรับเมืองไทยอีกต่อไป เนื่องจากมีคนไทยเป็นจำนวนมากได้เข้าไปสัมผัสกับธุรกิจเครือข่ายหลายบริษัท อีกทั้งมีการหมุนเวียนกันในธุรกิจเครือข่าย กล่าวคือ เมื่อทำธุรกิจเครือข่ายนี้ไม่ประสบความสำเร็จหรือผลประโยชน์ได้น้อยก็เปลี่ยนไปทำธุรกิจเครือข่ายอีกบริษัทหนึ่ง ดังนั้น แผนการตลาดต้องโดนใจ ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเครือข่าย
5.ระบบของบริษัทต้องดี ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่เน้นเรื่องระบบ ฉะนั้น บริษัทที่ทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ควรเปลี่ยนระบบบ่อย เช่น ทำไปสักระยะหนึ่งก็เปลี่ยนแผนการตลาดใหม่ หรือ ระบบอินเตอร์เน็ต ระบบออนไลน์ต่างๆ ไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้เกิดผลเสียแก่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพพจน์ ฯลฯ
ฉะนั้น ธุรกิจเครือข่ายมีความหลากหลาย มีความสวยงามก็จริงอยู่ แต่ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการสมัครหรือทำธุรกิจเครือข่ายควรต้องระมัดระวัง ควรเลือกบริษัทในการทำธุรกิจเครือข่าย เพราะหากท่านเลือกธุรกิจเครือข่ายผิด ก็จะทำให้ท่านเสียใจในภายหน้าได้ เนื่องจาก ในแต่ละปีมีธุรกิจเครือข่ายปิดตัวเป็นจำนวนมาก
...
  
การพูดเพื่อขาย
การพูดเพื่อขาย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การพูดเพื่อขายเป็นการพูดให้ผู้ฟังเกิดความคล้อยตาม เป็นการชักจูงใจให้ผู้ฟังเกิดการซื้อสินค้า บริการ หรือชักชวนให้ผู้ฟังมาทำธุรกิจเครือข่าย ซึ่งผู้พูดต้องอาศัยการฝึกฝน ประสบการณ์ จากตำราและการทำงานขายภาคสนามจริงๆ
สำหรับการพูดเพื่อขาย สิ่งที่ผู้พูดควรแสวงหา ควรเรียนรู้ เพื่อนำมาประกอบการพูดเพื่อขายคือ
1.ข้อมูลต่างๆ ที่ผู้พูดควรรู้ เช่น
- รู้บริษัท กล่าวคือต้องรู้ประวัติของบริษัท รู้ระเบียบ กฎเกณฑ์ การแข่งขันภายในของบริษัท นโยบาย ตลอดจนผู้บริหารบริษัทโดยเฉพาะคนที่สำคัญๆของบริษัท
- รู้สินค้า ต้องรู้ประเภทของสินค้า มีกี่แบบกี่สี กี่รุ่น วิธีการใช้ การดูแลรักษา
- รู้บริษัทคู่แข่ง ต้องรู้ว่าสินค้าประเภทเดียวกันสินค้าของเราบริษัทไหนเป็นคู่แข่ง เขาขายสินค้าราคาเท่าไร ถูกหรือแพงกว่าสินค้าของเรา
- รู้เกี่ยวกับตัวของลูกค้า ต้องรู้ว่าลูกค้าของเราคือใคร ชอบสินค้าประเภทไหน รู้เพื่อจะปรับวิธีการพูดเพื่อนำเสนอขายได้อย่างเหมาะสมกับตัวลูกค้า
2.เทคนิค ทฤษฏี ที่เกี่ยวกับการขาย กล่าวคือ ผู้พูดต้องศึกษา เรียนรู้ เทคนิคการขาย จากการอ่าน การอบรม การ
สัมมนาหรือสอบถามจากนักขายรุ่นพี่ การรู้จักเทคนิคการขาย จะทำให้ผู้พูดรู้จัก จังหวะในการพูด ว่าควรจะพูดอย่างไรเมื่อไร เช่น ขั้นตอนการขายมีอยู่ 4 ขั้น
คือ 1.ขั้นเปิดใจ 2.ขั้นถามปัญหา 3.ขั้นแก้ปัญหา 4.ขั้นปิดการขาย ฉะนั้น เมื่อเราทราบว่าขั้นตอนการขายมีอยู่ 4 ขั้น เราจะใช้คำพูดแต่ละขั้นที่แตกต่างกัน กล่าวคือ
ขั้นที่ 1 เปิดใจ เราควรพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับตัวของสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริการ เป็นการพูดในเรื่องที่ผู้ฟังเกิดความสนใจ เรื่องที่ผู้ฟังเกิดความภาคภูมิใจ เรื่องที่ผู้ฟังอยากฟัง
ขั้นที่ 2 ขั้นถามปัญหา เป็นขั้นตอนที่ผู้พูดตั้งคำถามหรือถามปัญหาของลูกค้าเพื่อที่จะได้นำเอาสินค้าและบริการของเราไปช่วยแก้ปัญหา
ขั้นที่ 3 ขั้นแก้ปัญหา กล่าวคือผู้พูดต้องพูดนำเสนอสินค้าและบริการของเรา เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาให้แก่
ผู้ฟังหรือลูกค้า
และขั้นที่ 4 ขั้นปิดการขาย เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในการพูดเพื่อขาย ผู้พูดจะต้องพูดจูงใจให้ผู้ฟังตัดสินใจซื้อ
สินค้าและบริการ
3.การพูดสาธิตสินค้า เป็นการพูดที่ต้องใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ สื่อ สินค้าตัวอย่าง ประกอบ ควรพูดให้มีการลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน ควรพูดให้ผู้ฟังทราบถึงผลประโยชน์ของสินค้า หากต้องการเป็นมืออาชีพ ช่วงขั้นตอนในการสาธิตควรแนะนำชื่อผู้พูดสาธิต ทีมงาน แนะนำขั้นตอนเวลาใช้สินค้า เน้นย้ำประโยชน์ของสินค้า ความแตกต่างระหว่างสินค้าอื่นๆกับสินค้าของผู้พูด อีกทั้งควรพูดตอบคำถามอย่างมั่นใจ
การพูดเพื่อขาย ยังคงต้องคำนึงถึงสถานการณ์ ลักษณะของธุรกิจ เช่นการพูดเพื่อขายในธุรกิจเครือข่าย ยังต้องมีการพูดเพื่อขายธุรกิจ(ชักชวนคนมาร่วมทำธุรกิจเครือข่าย) , การพูดหน้าเวทีเพื่อสาธิตสินค้า , การพูดนำเสนอแผนการตลาด , การพูดคุยกับลูกทีมกับแม่ทีม , การพูดขายทางโทรศัพท์ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม การพูดเพื่องานขายมีความสำคัญอย่างมาก ผู้ที่ต้องการเป็นนักขายจึงต้องควรฝึกฝน เพื่อให้เกิดความชำนาญ เกิดประสบการณ์ เกิดทักษะ และจะทำให้ผู้พูดเกิดความมั่นใจในการพูด ไม่ประหม่า ไม่ตื่นเต้น บางคนฝึกฝนมาน้อยหรือนักขายหน้าใหม่ เมื่อพูดนำเสนอขายก็จะพูดวกไปวนมา จนผู้ฟังเกิดความสับสน น้ำเสียงในการพูดก็สั่นเครือ อีกทั้งการพูดเพื่อขายจะต้องใช้ความอดทน ความสุภาพ ความอ่อนน้อม และต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าอีกด้วย



...
  
ขายตัวคุณเองก่อน....แล้วจึงขายของ...
ขายตัวคุณเองก่อน....แล้วจึงขายของ...
โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
สินค้าดี....ถ้าคนขายพูดไม่ดี...ก็ขายไม่ดี
สินค้าดีน้อยกว่า....แต่ถ้าคนขายพูดดี....สินค้านั้นก็ขายได้ดี
จากคำกล่าวข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า คนขายมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในอาชีพนักขาย เพราะถ้าคนขายมีบุคลิกภาพดี พูดจาดี มีความน่าเชื่อถือ มีความจริงใจ ก็มีโอกาสขายของได้มาก แต่ตรงกันข้ามถ้า คนขาย มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี พูดจาไม่ดี ไม่มีความน่าเชื่อถือ ขาดความจริงใจ การประกอบอาชีพด้านการขายก็จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
การพัฒนาตัวเองของนักขายหรือคนขาย จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จในอาชีพการขาย เช่น
1.First Impression หรือการสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งตัว บุคลิกภาพ ลักษณะ นิสัย ท่าทาง การเดิน การนั่ง การพูดจา จะทำให้ลูกค้า “ ชอบ” หรือ “ ไม่ชอบ”
2.การเรียนรู้และศึกษาข้อมูลของสินค้า ของบริษัท เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักขายหรือคนขายสินค้าจะละเลยเสียมิได้ เพราะจะทำให้ตอบคำถามหรือข้อมูลต่างๆกับลูกค้าด้วยความมั่นใจ และส่งผลให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อ
3.การบริการการขาย จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในตัวนักขายหรือคนขาย ไม่ว่าจะเป็นการบริการก่อนการขาย ระหว่างการขายและหลังการขาย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าเกิดการบอกต่อหรือแนะนำลูกค้าให้กับนักการขายต่อไป
4.จงเรียนรู้เทคนิคการขายหรือกระบวนการขาย ดังนี้ 4.1.การสรรหาลูกค้า 4.2.การเตรียมตัวเข้าพบลูกค้า 4.3.การเข้าพบลูกค้า 4.4.การเสนอขาย 4.5.การตอบข้อโต้แย้งในการขาย 4.6.การปิดการขาย
4.7.การติดตามหรือการบริการหลังการขาย
5.ฝึกการคิดบวก อาชีพการขายเป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องถูกลูกค้าปฏิเสธการซื้อเป็นจำนวนมาก ในบางครั้งอาจทำให้นักขายหรือคนขาย ท้อแท้ ผิดหวัง หมดกำลังใจ การคิดบวกจะช่วยให้เกิดกำลังใจ และทำให้สามารถเดินในเส้นทางอาชีพนักขายต่อไปได้
6.มีความรักในการขายหรือชื่นชอบในอาชีพการขาย ความรักหรือความชอบ ทำให้บุคคลสามารถประกอบอาชีพนั้นไปได้อย่างยาวนาน แต่ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่มีความรักหรือความชอบในอาชีพหรือการทำงานในวงการนั้นๆ ก็มักจะทำไปด้วยความเบื่อหน่าย ดังนั้น ถ้าท่านอย่างประสบความสำเร็จในการเป็นนักขาย ท่านจะต้องรักหรือชอบ ในการขายหรืออาชีพนักขาย
7.ต้องดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ ต้องยอมรับว่า การทำงานทุกอย่าง บุคคลต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบุคคลจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ บุคคลนั้นจะต้องดูแลตนเองทั้งทางด้านร่างกายให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์และจิตใจ ต้องให้มีความร่าเริงแจ่มใส ไม่เคร่งเครียดกับการทำงานมากนัก
ดังนั้น ถ้าท่านต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพนักขาย ท่านจะต้องขายตนเองและพัฒนาตนเองเสียก่อน ก่อนที่จะนำเสนอขายสินค้าให้แก่ลูกค้า และข้อแนะนำข้างต้นเป็นสิ่งที่นักขายที่ต้องการประสบความสำเร็จควรที่จะนำไปฝึกปฏิบัติ
...
  
นักการตลาดมืออาชีพ
นักการตลาดมืออาชีพ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ยุคปัจจุบัน ธุรกิจทุกประเภท สินค้าทุกตัว มีการแข่งขันอย่างรุนแรง เช่น ธุรกิจเครื่องดื่ม เราจะเห็นได้ว่า เครื่องดื่มมีหลากหลายยี่ห้อ เครื่องดื่มมีหลากหลายประเภท เครื่องดื่มมีหลากหลายรสชาติ เครื่องดื่มมีหลากหลายสี เครื่องดื่มมีหลากหลายขนาด เครื่องดื่มมีหลากหลายรูปแบบ ฯลฯ
ทั้งนี้ ธุรกิจทุกประเภท สินค้าทุกประเภท ยังคงต้องเผชิญกับคู่แข่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน คู่แข่งรายเก่า คู่แข่งรายใหม่ คู่แข่งจากต่างประเทศ จึงทำให้นักการตลาดที่ทำงานด้านการตลาดให้กับธุรกิจประเภทต่างๆ สินค้าประเภทต่างๆ จำเป็นจะต้องมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ผมขอยกตัวอย่างแค่ธุรกิจน้ำดื่มในประเทศไทยของเรา สำหรับการตลาดในธุรกิจน้ำดื่มในยุคปัจจุบัน ภาพรวมตลาดรวมเครื่องดื่มกว่า 130,000-140,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดน้ำอัดลม 44,000-45,000 ล้านบาท น้ำดื่ม 23,000ล้านบาท เครื่องดื่มชูกำลัง 20,000ล้านบาท ชาพร้อมดื่ม 13,000 ล้านบาท น้ำผลไม้ 12,000 ล้านบาท กาแฟพร้อมดื่มประมาณ 10,000ล้านบาท ฟังก์ชันนอลดริงค์และเครื่องดื่มผสมวิตามิน 5,000ล้านบาท และเครื่องดื่มเกลือแร่ 4,200 ล้านบาท
เราจะเห็นว่า แค่เครื่องดื่มประเภทชาพร้อมดื่ม บริษัทใหญ่ๆ หรือยี่ห้อที่มีส่วนแบ่ง
การตลาดอันดับต้นๆ มักจะใช้กลยุทธ์ ลด แลก แจก แถม จนทำให้คู่แข่งบางราย ที่มีทุนไม่มาก ถึงขนาดออกจากตลาดไปเลยก็มี เช่น
1.อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยง ตอน ทอง หมื่น แสน ล้าน แจกหนัก 1,110 รางวัล มูลค่า 30 ล้านบาท วิธีการส่ง SMS : พิมพ์ *711* ตามด้วยหมายเลข 10 หลัก ใต้ฝาขวด รหัส อิชิตัน แจกทุกวันจันทร์ วันที่ 10 กันยายน - 12 ตุลาคม 2558
2.โออิชิ รหัสโออิชิ แจกเยอะ จัดหนัก กองทัพรถ 600 คัน และลุ้นเป็นเจ้าของรถยนต์ โตโยต้า ยาริส ระบบเกียร์อัตโนมัติ กติกา ส่งรหัสใต้ฝา ทางมือถือ กด *494*รหัส# ระยะเวลาโปรโมชั่น ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558
ในสมรภูมิเครื่องดื่มประเภทชาเขียว มีการแจกยังไม่พอ ยังมีการแข่งขันลดราคากันอย่างรุนแรงดังที่เราได้เห็นกันมา เช่น
- มิเรอิ ลดราคาทันทีขนาด 500 มล.ราคา 20 บาท เหลือ 16 บาท จึงส่งผลกระทบอิชิตันที่เพิ่งหมด
โปรโมชั่นลดราคาจาก 16 บาท เหลือ 14 บาท ในช่วงเดือน กรกฏาคม – สิงหาคม 2554
- คิริน ขายในเซเว่น อีเลฟเว่น ขนาด 350 มล. ขวดละ 15 บาท ขายคู่ 2 ขวด 22 บาท ช่วง
สิงหาคม – กันยายน 2554
- โออิชิ ซื้อสินค้าที่เซเว่น อีเลฟเว่น ครบ 40 บาท แลกซื้อโออิชิ 2 ขวด 25 บาท จากปกติขวดละ
20 บาท เหลือเพียงขวดละ 12.50 บาท ช่วงเดือน สิงหาคม – กันยายน 2554
- ทีเบรก ขาย 2 ขวดคู่จากราคา 30 บาท เหลือ 22 บาท เฉพาะในเซเว่นอีเลฟเว่น สิงหาคม –
กันยายน 2554
ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า ตลาดชาเขียว ในยุคปัจจุบัน จึงปิดตายสำหรับคู่แข่งรายเล็กๆ หรือ คู่แข่ง
ที่ไม่มีทุนหรือสายป่านยาวพอ อีกทั้งการแข่งขันกันในสงครามของราคา จะทำให้ยี่ห้อบางยี่ห้อต้องถูกออกจากการแข่งขันในที่สุด ซึ่งเหตุผลหลักๆก็คือ ต้นทุนสูงขึ้น ราคาถูกลง จึงทำให้กำไรน้อยลง และถ้าขายไม่ออกก็จะประสบกับภาวการณ์ขาดทุนในที่สุด
ฉะนั้น นักการตลาดมืออาชีพ จึงต้องหาทางออกให้กับสินค้าของตนเอง ก่อนที่จะประสบกับภาวะการขาดทุนหรือการออกนอกตลาด เช่น อาจจะต้องมีการขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศ เหมือนเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อกระทิงแดงที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม , การขยายธุรกิจออกไปทำธุรกิจเครื่องดื่มประเภทอื่น โดยการสร้างแบรนด์ใหม่ๆหรือแบรนด์เดิม (กาแฟ , เครื่องดื่มชูกำลัง , น้ำผลไม้) , การสร้างนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆออกมาเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างกัน(เอาชาเขียวมาผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ เช่น ชาเขียวผสมโซดา , ชาเขียวผสมน้ำผลไม้,ชาเขียวผสมเครื่องดื่มชูกำลัง) , การสร้างความหลากหลายในตัวของสินค้า(รสชาติ บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย ขนาด รูปขวด ราคา) , การสร้างผลิตภัณฑ์ดื่มเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง , การสื่อสารเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อถือ เกิดการศรัธทา เกิดการบอกต่อ ฯลฯ
สิ่งที่กล่าวมานี้ จึงเป็นเรื่องที่นักการตลาดมืออาชีพ จะมองข้ามไม่ได้ ไม่ว่าท่านจะเป็นนักการตลาดในธุรกิจประเภทใด สิ่งที่ท่านจะต้องเจอก็คือ คู่แข่งขัน และถ้าเป็นการแข่งขันอย่างรุนแรง ท่านซึ่งเป็นนักการตลาด ท่านจะทำอย่างไรเพื่อเอาตัวรอดหรือให้ชนะคู่แข่งขัน
สุดท้ายนี้ จึง ฝากนักการตลาดไว่ว่า “ ความคิดมีความสำคัญมาก ท่านจงคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงสินค้า เปลี่ยนแปลงบริษัทอย่างไรให้เจริญขึ้น จงสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขึ้น อย่ารอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อนแล้วจึงหาทางแก้ไข เพราะถ้าท่านรอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อนแล้วจึงลงไปแก้ไข ถึงตอนนั้นท่านอาจจะแก้ไขไม่ทันการณ์”
ถามว่า ทำไม บริษัท แอปเปิ้ล ของสตีฟ จอบส์ จึงประสบความสำเร็จ คำตอบก็เพราะว่า บริษัทแอปเปิ้ล ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดเวลา เขาจะไม่รอขายของเก่าหรือรอให้คู่แข่งตามทัน แต่คู่แข่งต่างหากที่ต้องตามเขา


...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.