หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  
  -  
  -  
  -  
  -  
  -  สู้แล้วรวย
  -  ขายเก่ง....รวยก่อน.....
  -  อาชีพ ผู้นำ องค์กร
  -  เด็กขายตัว
  -  สู่ผู้นำ
  -  อาหารปลอดภัย
  -  อารมณ์ขันกับนักพูด
  -  เลิกเหล้าเข้าพรรษา
  -  การมีมนุษย์สัมพันธ์
  -  ยาเสพติดประเทศไทย
  -  เหล้า เบียร์ วัยรุ่น
  -  องค์กรกับผู้บริหาร
  -  คนคือทรัพย์สิน
  -  การเผาป่า
  -  ผู้นำกับองค์กรเรียนรู้
  -  ศิลปะการฟัง
  -  เพศกับวัยรุ่น
  -  ทีม
  -  คำคม 3 ก๊ก
  -  กล้าล้มเหลวจึงสำเร็จ
  -  ทัศนคติกับการขาย
  -  บทบาทนักบริหาร
  -  เอดส์ สังคมไทย
  -  เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด
  -  ผู้บริหารกับประชาสัมพันธ์
  -  หัวใจงานบริหาร
  -  เมืองไทยเมืองเซ็กส์
  -  แฟชั่น นักศึกษา
  -  ปัจจัยในการบริหาร
  -  อดทนเพื่อชนะ
  -  น้ำมันยังเป็นปัญหาใหญ่
  -  โลกร้อน
  -  พ่อแม่
  -  บุหรี่
  -  สายสัมพันธ์กับนักบริหาร
  -  เลิกเหล้า เลิกจน
  -  ขยะเป็นทอง
  -  คิด พูด ทำ ความสำเร็จ
  -  หมวก 6 ใบ
  -  พ่อแม่ รังแกฉัน
  -  เด็กนอกระบบ
  -  สภาประชาชน สภาผู้บริโภค
  -  ความคิดสร้างสรรค์
  -  U R A BRAND !(คุณ คือ แบรนด์)
  -  มึงสู้จริงหรือเปล่า
  -  การเตรียมความพร้อมของบุคลากรสาธารณสุข
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หัวใจงานบริหาร
เสมอต้นเสมอปลาย คือหัวใจของงานบริหาร


โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมพ่ายแพ้ความสม่ำเสมอ


เคยมีคนกล่าวไว้ว่า 3 สิ่งนี้ ต้องการความเสมอต้นเสมอปลาย


“การกิน การเรียน และ ความรัก”


การกิน คนเราต้องกินตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะไม่มีใครกินแค่มื้อเดียวแล้วอยู่ได้ตลอดชีวิตหรือตลอดปี ดังนั้นช่วงชีวิตของคนเรา ย่อมเสียเวลาไปกับการกิน คนเรากินมื้อ เช้า กลางวัน


เย็น และถ้าใครเข้ารับการอบรม สัมมนา เสวนาต่างๆ ก็อาจมี อาหารว่าง ช่วงเช้า ช่วงบ่าย อีกต่างหาก


การเรียน คนเราต้องหมั่นเรียน เขียน อ่าน ท่องตำรา หนังสืออยู่เป็นประจำ มิเช่นนั้น ความรู้จะไม่เพิ่มพูนขึ้นมาได้ ไม่ใช่ อ่านกันปีละครั้ง ย่อมมีความรู้ที่ล้าสมัย แต่คนที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้อง อ่านมาก ศึกษามาก เรียนในวิชาการต่างๆในสาขาอาชีพของตน จึงประสบความสำเร็จ


ความรัก ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ทั้งช่วง ก่อนรัก กำลังรัก หลังแต่งงาน หรือ เมื่อมีครอบครัว มีลูก ก็ต้องสม่ำเสมอในความรักที่มีต่อครอบครัว ต่อลูก





และอีกอย่างหนึ่งต้องอาศัยความสม่ำเสมอ คือ งานด้านบริหาร ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ทั้งก่อนการได้รับมอบหมายให้บริหาร ขณะบริหาร เพื่อให้ลูกน้องและลูกค้าเกิดความมั่นใจ ฉะนั้นผู้บริหาร จำเป็นจะต้องใส่ใจลูกน้องและ ก็ต้องขยันออกไปเจอลูกค้าบ้าง เพื่อไม่ให้งานเกิดความเสียหายขึ้น และเพื่อถามปัญหาเกี่ยวกับสินค้าและบริการ หรือ เพื่อขายสินค้าเพิ่มได้อีก ขยันสำรวจตลาดบ้าง ดูว่ามีคู่แข่งเกิดขึ้นมาใหม่ไหม สินค้าของเราสู้คู่แข่งได้ไหม ทั้ง ราคา บริการ ตัวสินค้า สถานที่ การส่งเสริมการตลาด ขยันไปหาลูกน้องและทีมบ้าง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ทีมงาน จะได้รู้ปัญหาการทำงานของลูกทีมหรือทีมงานของเรา ปีใหม่หรือวันสำคัญ ก็ต้องมีของไปฝากไปเยี่ยมเยือนเขาบ้าง ไม่ใช่ขายประกันชีวิตให้เขาแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่เอาหน้าไปให้เขาดูอีกเลย ก็ใช้ไม่ได้


นักบริหารที่ดี จำเป็นจะต้องประพฤติตนให้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ทุจริต มาทำงานตรงเวลา ไม่เอาเปรียบองค์กร ฯลฯ ถ้าทำอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้ลูกน้องเอาเป็นเยี่ยงอย่าง


นักบริหารที่ดี จำเป็นจะต้องหาความรู้สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีออกใหม่ต้องตามให้ทัน เพราะถ้าลูกน้อง รู้ไวกว่ารู้มากกว่า เราก็อาจมีความคิดไม่ทันสมัย ไม่ก้าวหน้า ไม่ทันเหตุการณ์


นักบริหารที่ดี จำเป็นจะต้องควบคุมอารมณ์ของตนเอง ให้ได้ เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงบางอย่าง ต้องไม่หลุด เพราะถ้าอารมณ์หลุด ก็จะทำให้ตนเองและองค์กร เกิดความเสียหายขึ้นมาได้


คนที่เดินก้าวยาว...ถึงก่อน คนที่เดินเร็ว...ถึงก่อน แต่คนที่เดินไม่หยุด...ถึงก่อนคนอื่นๆ ดังนั้น ผู้บริหารที่ดี จะต้องมีความเสมอต้นเสมอปลาย ในการเอาใจใส่ลูกน้องและลูกค้า


ฉะนั้น งานด้านบริหาร จำเป็นจะต้องมีกิจกรรมที่นักบริหาร ทุกคนพึงยึดถือปฏิบัติไม่ใช่ดีต้น ปลายเสีย


ดังนั้น 3 สิ่งเบื้องต้น ต้องการความสม่ำเสมอฉันใด การบริหารก็ต้องมีหัวใจที่สม่ำเสมอฉันนั้น


กินทุกวัน เรียนสม่ำเสมอ


รักอย่างยืดยาว บริหารด้วยความใส่ใจ










...
  
เมืองไทยเมืองเซ็กส์
หรือเมืองไทยจะเป็นเมืองเซ็กส์
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


เมื่อวานนี้ กระผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือพิมพ์เก่าๆ ได้มีนักการเมืองที่เป็นสุภาพสตรีท่านหนึ่งบอกว่า วิธีการผูกใจสามี ต้องไม่นุ่งชุดชั้นใน ไม่ต้องนุ่งยกทรง และกางเกงใน แล้ว ภรรยาที่ดีต้องเป็นโสเภณีตอนอยู่บนเตียงกับสามี นักการเมืองหญิงท่านนี้ปัจจุบันก็มีข่าวอยู่หน้าหนึ่งตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ คอยวิจารณ์ มรรยาทหรือการแต่งตัว โป๊ ของดาราต่างๆ บ้าง คอยวิจารณ์การสอนลูกของดาราบ้าง แต่สิ่งที่กระผมสนใจก็คือ การบรรยายต่อหน้าที่ชุมชนของท่านเรื่องการผูกใจสามี โดยใช้เซ็กส์เป็นตัวนำ


การผูกใจต่อสามีมีตั้งมากมายแต่ทำไม ต้องมาลงที่เรื่อง เซ็กส์ หรือเมืองไทยจะเป็นเมืองเซ็กส์ นี่ไม่ใช่เรื่องแรกที่เคยได้ยินได้ฟังมา แต่กระผมได้ยินเรื่องพรรณนี้มาตั้งหลายครั้ง แม้กระทั่ง ชาวต่างชาติ ต่างประเทศเอง เขาก็พูดทำนองนี้ กระผมเองได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศอยู่บ้าง และได้มี โอกาสสอบถามชาวต่างประเทศว่า คุณเคยไปเมืองไทยหรือเปล่า เขาตอบว่าเคย แล้ว คุณคิดว่าเมืองไทยเป็นอย่างไร ฝรั่ง หรือ แขก เขาตอบทันทีว่า เป็นเมืองเซ็กส์ ทำไม เขาคิดอย่างนั้น แล้วเราไม่สามารถห้ามให้เขาคิดได้ด้วย เมื่อไม่กี่ปีก่อนเขาก็บันทึกไว้ ในหนังสือบันทึกที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆไว้ในโลก เขาบันทึกว่าเมืองไทยมีดี 2 อย่าง คือ เซ็กส์ และ กอฟส์ กระผมเป็นคนมีนิสัยไม่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือ ถ้าอยากรู้เรื่องอะไร กระผมจะพยายามค้นหาและสืบค้นจนพบ ดังนั้นผมจึงอยากรู้เรื่องว่าทำไมชาวต่างชาติ มาเที่ยวเมืองไทยกลับไปประเทศเขาแล้วทำไมถึงว่าไทยเป็นเมืองเซ็กส์ จึงได้ถาม เขาบอกว่า บริษัทนำเที่ยวพาเขาเที่ยวเมืองไทย ในเมืองต่างๆที่สวยงาม แต่ไปจบที่สถานที่ท่องเที่ยวประเภทขายบริการทางเพศ เช่น ย่านพัฒน์พงษ์ ย่านรัชดา ส่วนต่างจังหวัดก็ไม่น้อยหน้า เช่น พัทยา ไกด์ก็พาไปสถานบริการทางเพศ หรือ แม้แต่โรงแรมดังๆในกรุงเทพฯเอง กระผมก็เคยเจอด้วยตัวกระผมเอง ตอนกลางคืนมักจะมีหญิงขายบริการทางเพศ มาเคาะประตู แล้วถามขายบริการทางเพศ เราเองมักเคยชินกับสิ่งเหล่านี้แต่นักท่องเที่ยว เขาไม่คิดอย่างนั้น เขาคิดว่าถ้ามาเมืองไทย ต้องมานอนกับหญิงสาวไทย


ดังนั้น กระผมต้องขอร้อง บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านท่องเที่ยวบางบริษัท เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวมีตั้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดวาอาราม ทะเล ภูเขา น้ำตก วัฒนธรรม ประเพณีไทยที่งดงาม ฯลฯ ทำไมไม่พาเขาไปดู แต่พาไปดูสถานบริการทางเพศหรือมีการแสดงลามก อนาจาร เกี่ยวกับทางเพศ


ถ้าบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยว ถ้ารักเมืองไทย ถ้าเกิดมาเป็นคนไทย เราต้องช่วยกัน อย่าเห็นแค่เพียง เงินทองแค่เล็กน้อย แต่ทำให้ภาพพจน์ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยต้องเสียไป


อีกธุรกิจหนึ่งที่ทำลายภาพพจน์ของไทยเราเช่นกัน ก็คือ แหล่งขายบริการทางเพศที่มีมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน รวมกับการถ่ายภาพ และ วีดีโอเกี่ยวกับภาพลามก อนาจาร ผ่านทางสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วีซีดี ดีวีดี อินเตอร์เน็ต ฯลฯ


เมื่อสื่อเหล่านี้เผยแพร่ออกไป ทำให้ภาพพจน์ของคนไทยเสียไป ชาวต่างประเทศมักคิดว่า


เมืองไทยมีโสเภณีเด็ก ทั้งชายและหญิง รวมถึงความต้องการมาเมืองไทยเพื่อใช้บริการทางเพศแบบต่างๆ


ดังนั้น การจะรักษาภาพลักษณ์ของเมืองไทย เพื่อให้พ้นจากการเป็นเมือง เซ็กส์ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย เช่น รัฐบาลต้องออกกฎหมายควบคุม ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริงจัง


ธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องเลิกกิจการ และที่สำคัญคือประชาชนทุกคนต้องคอยสอดส่องดูแล

...
  
แฟชั่น นักศึกษา
โดย บ้านเมืองออนไลน์ เมื่อเวลา 8:53:00 วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2550

คอลัมน์ : บ้านเมืองเรื่องวังจันทร์ : แฟชั่นของ นิสิต นักศึกษา

แฟชั่นของ นิสิต นักศึกษา
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
ถ้าพูดถึงปัญหาเรื่องแฟชั่นการแต่งกายของนิสิตนักศึกษา ได้มีการพูดถึงกันมานานหลายปีทีเดียว โดยเฉพาะ การแต่งกายตามแฟชั่นของนิสิต นักศึกษา หญิง ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน ที่นิยมสวมเสื้อติ้วรัดรูปโชว์ส่วนสัด กับกระโปรงสั้นเอวต่ำ

ถามว่ารูปแบบเหล่านี้ ถูกต้องตามระเบียบการแต่งกายหรือ ยูนิฟอร์ม ในชุดนิสิต นักศึกษา ของมหาวิทยาลัยหรือไม่ ตอบว่า ไม่ถูกต้อง

การแต่งกายตามระเบียบหรือ ยูนิฟอร์ม ถือว่าเป็นการให้เกียรติแก่สถาบัน เนื่องจากสถาบันแต่ละแห่งได้กำหนดยูนิฟอร์มไว้แล้ว ก็ต้องเหมือนกันหมด การแต่งกายตามแฟชั่นจึงเป็นการไม่ให้เกียรติแก่สถาบัน ไม่ให้เกียรติแก่อาจารย์ผู้สอน อีกทั้งยังทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศในด้านวัฒนธรรม ขนาดฝรั่งต่างชาติ ยังชี้ว่า ชุดนิสิต นักศึกษา เซ็กซี่มากเกินไป

การแต่งกายตามกระแสแฟชั่นของนิสิตนักศึกษาอาจทำให้หลายๆ คน ต้องยอมอดอาหารเพียงเพื่อต้องการสวมใส่เสื้อติ้วให้สวย การสวมใส่ชุดนิสิต นักศึกษา ตามแฟชั่น ถ้าไปถามนิสิต นักศึกษาชาย หรือผู้ชาย ส่วนใหญ่จะบอกว่า ชอบมอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย

การแต่งกายตามแฟชั่น ของนิสิต นักศึกษาหญิง ซึ่งถ้าเซ็กซี่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดคดีอาชญากรรมขึ้น เช่น การถูกข่มขืน การแอบถ่ายจากพวกโรคจิต ฯลฯ โดยไม่คาดคิด

การที่กระทรวงวัฒนธรรม นำโดย คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและนายกสภามหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ออกมารณรงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งโดยส่วนตัว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

จากกรณีดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรม จึงร่วมกันจัดโครงการรณรงค์เรื่องการแต่งกายของนิสิตนักศึกษา โดยทำเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้นิสิตนักศึกษาแต่งกายด้วยชุดนิสิต นักศึกษาตามระเบียบของมหาวิทยาลัยและการแต่งกายด้วยชุดลำลองภายในมหาวิทยาลัย โดยเชิญรองอธิการบดีฝ่ายกิจการ นิสิต นักศึกษาของมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนกว่า 30 แห่งมาหารือกันในวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ มีความเห็นตรงกันในเรื่องดังกล่าว โดยมีมาตรการต่างๆ เช่น รณรงค์การแต่งกายชุดนิสิต นักศึกษาโดยให้รุ่นพี่เป็นแบบอย่างรุ่นน้อง มีสโมสรนิสิต นักศึกษาช่วยดูแล จัดประกวดแต่งกายชุดนิสิต นักศึกษา มีป้ายรณรงค์ มีอาจารย์และหน่วยงานต่างๆ ในมหาวิทยาลัยดูแล หากแต่งกายไม่เหมาะสม จะไม่ให้เข้าเรียน ไม่ให้ติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ และมีบทลงโทษ เช่น ตักเตือน ตัดคะแนนความประพฤติ ส่วนชุดลำลองดูแลให้แต่งให้เหมาะสม บางแห่งมีการจัดเวทีเสวนาประชาสัมพันธ์โครงการและเวทีแถลงนโยบายการแต่งกายชุดนิสิต นักศึกษา ถูกระเบียบ ทำแผ่นปลิวจดหมายข่าวและโปสเตอร์เชิญชวนผลิตสปอตวิทยุ จัดบอร์ดรณรงค์การแต่งกายเคลื่อนที่ จัดทำสติ๊กเกอร์และที่คั่นหนังสือ จัดเวทีเดินแฟชั่นโชว์และการแสดงละครเวทีกลางแจ้ง ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้นิสิตระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัย ตระหนักถึงความสำคัญและหันมาแต่งกายถูกระเบียบเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นขอฝากท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยทุกแห่ง รวมทั้งครู อาจารย์ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนตัวนิสิต นักศึกษา ช่วยกันตรวจตรา ดูแล ตักเตือน การแต่งกายให้ถูกระเบียบ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง

เป็นการให้แก่เกียรติสถาบัน ครู อาจารย์ และสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเอง ทำให้ตัวนิสิต นักศึกษา เกิดความภาคภูมิใจในสถาบัน และชุดยูนิฟอร์มของสถาบันตัวเอง


...
  
ปัจจัยในการบริหาร
ปัจจัยสำคัญสำหรับการบริหาร
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
การบริหารนั้น จะต้องยุ่งกับการจัดการ 4 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องของคน เรื่องของเงิน เรื่องของวัสดุสิ่งของและเรื่องของเครื่องจักรอุปกรณ์


ในบรรดา 4 เรื่องนี้ ถ้าใครเป็นนักบริหารก็คงจะทราบอยู่แก่ใจว่า การบริหารที่ยากที่สุดก็คือการบริหารคนหรือบุคลากรนั่นเอง


เพราะคน มีจิตใจ มีความอารมณ์ มีความรู้สึก มีชีวิต จิตใจ ไม่เหมือนกับ เงิน วัสดุสิ่งของหรือเครื่องจักรอุปกรณ์


ถ้าเราหยิบเงินออกไปใช้จ่ายซื้อข้าวซื้อของ เงินมันไม่เคยตั้งคำถามหรือบ่น เราใช้เครื่องจักรอุปกรณ์และวัสดุสิ่งของ ก็เหมือนกันมันไม่เคยบ่น หรือถ้าเราว่าใช้มันทำไม


แต่ถ้าเราใช้คนหรือลูกน้องสักคนให้ไปทำอะไร บางทีอาจถูกถามกลับว่า ทำไมถึงใช้ผม ทำไมไม่ใช้คนอื่น


การบริหารก็เช่นกัน บริหารคนหรือบุคลากรนั้นยาก ยิ่งถ้าใครที่จบจากต่างประเทศมา อาจร้อนวิชาที่ได้เรียนมาจาก ต่างประเทศ แล้วนำมาบริหารกับคนไทยอาจไม่ได้ผล เพราะ มันแตกต่างกัน เรื่องบางอย่าง อาจใช้กับคนไทยเราไม่ได้เหมือนกัน เล่นกับคนไทยก็ต้องใช้การบริหารแบบไทยๆ ให้เข้ากับนิสัยใจ วัฒนธรรมแบบคนไทยเรา


เช่น เราคงเคยได้ยินคำว่า “ อเมริกันแชร์ ” วัฒนธรรมแบบนี้ฝรั่งอาจจะคุ้นเคยและพอใจแต่ถ้านำมาใช้กับคนไทยดูอาจไม่ถูกใจคนไทยเรามากนัก เพราะคนไทยเราเคยชินกับคำว่า “ เจ้าภาพจงเจริญ ” มากกว่า จนแต่งเป็นเพลงและร้องกันอย่างสนุกสนาน


ผู้บริหารหรือหัวหน้าฝรั่ง นั่งกินกาแฟกันสองคน เมื่อกินเสร็จลุกขึ้นต่างคนต่างจ่าย ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นผู้บริหารหรือหัวหน้าคนไทย กินกาแฟกันสองคน เมื่อกินเสร็จลุกขึ้นต่างคนต่างจ่าย รับรองได้ว่าหัวหน้าหรือผู้บริหารคนนั้น ถูกลูกน้องนำไปนินทาลับหลังว่า ขี้เหนียว ใจไม่กว้าง เพราะวัฒนธรรมนั่งเองที่แตกต่างกัน


ดังนั้น การเล่าเรียนมาจากต่างประเทศ ที่เกี่ยวกับทฤษฏีการบริหารต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องนำมาปรับใช้กับสังคมไทยเรา รวมถึงการศึกษานิสัยใจคอของคนไทย จึงจะชนะใจลูกน้องซึ่งเป็นคนไทยได้


การตำหนิ อบรม ลูกน้องซึ่งเป็นคนไทย ผู้บริหารแบบไทยที่ดีนั้น ควรตำหนิลูกน้อง โดยเรียกคนที่จะถูกตำหนิมาพบแล้วจึงอบรม ตำหนิกันสองต่อสองในห้องทำงานของผู้จัดการหรือผู้บริหาร เพราะคนไทยเราไม่ชอบเสียหน้า ไม่ชอบถูกตำหนิ ต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน


เวลาตำหนิลูกน้องก็ไม่ควรใส่ท่าทางหรืออารมณ์ความไม่พอใจผสมเข้าไปด้วย จะทำให้ลูกน้องรู้สึกว่าเจ้านายหรือผู้บริหาร เพิ่มดีกรีของความไม่พอใจขึ้นไปอีก


สำหรับการชื่นชม ลูกน้องแบบไทยมัก อยากเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงาน เราก็ควรชื่นชมลูกน้องต่อหน้าที่ประชุมหรือสาธารณชน จึงจะชนะใจของลูกน้องซึ่งเป็นคนไทยได้


ท้ายนี้ขอฝากมงคลชีวิตของพระธรรมดิลก (จันทร์ กุสโล) วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบทประพันธ์ที่ให้แง่คิดได้มากเลยทีเดียว สำหรับผู้บริหาร


ถ้าท่านอยากมีอำนาจ ก็อย่าขาดความยุติธรรม


ถ้าท่านเห็นแก่ได้ ก็อย่าหวังน้ำใจจากผู้อื่น

...
  
อดทนเพื่อชนะ
ความอดทนทำให้ได้ชัยชนะ
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
" คนที่ประสบความสำเร็จ มักไม่ย่อมเลิกล้มอะไรง่ายๆ แต่คนที่ประสบความล้มเหลวมักไม่ทำอะไรจริงจัง "


นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ประสบความสำเร็จกับผู้ที่ประสบความล้มเหลว ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าใครมีความอดทนมากกว่ากัน


คุณสมบัติข้อนี้ นักบริหาร นักธุรกิจ นักการเมือง หรือผู้ใดก็ตาม ถ้ามีไว้เป็นคุณสมบัติส่วนตัว เชื่อแน่ว่าสามารถเอาชนะได้ทุกสนาม เพราะทุกสนามที่มีการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นสนามการแข่งขันทางธุรกิจ สนามการแข่งขันทางการเมือง ชีวิตส่วนตัว ล้วนต้องการบุคคลที่มีความอดทนเป็นเลิศด้วยกันทั้งนั้น


นักมวยต่อสู้กันบนเวที ชกกันแลกหมัดกัน ถ้าถามว่า " เจ็บไหม " ทุกคนก็ต้องตอบว่า " เจ็บซิ "


ก็เป็นคนนี่ เป็นสิ่งที่มีชีวิต แต่ถ้าว่าถ้าเจ็บแล้ว ทำไมไม่ย่อมแพ้ คำตอบก็คือ ต้องการชัยชนะ ฉะนั้นการแข่งขันทุกประเภท ก็เหมือนกับการแข่งขันชกมวย คือต้องมีผู้แพ้ มีผู้ชนะ แต่ใครจะเป็นผู้ชนะก็ต้องอดทนมากกว่าคนอื่นๆ ฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่นๆ


กระผมเคยอยู่วงการกีฬามาก่อน จึงรู้ว่า การฝึกฝน การฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักกีฬา เช่น นักวิ่ง กว่าจะวิ่งแข่งขัน เอาเหรียญหรือเอาถ้วยได้ ก็ต้องใช้เวลาฝึกฝนมาเป็นเวลายาวนานไม่ใช่พรุ่งนี้แข่งขัน วันนี้มาฝึกซ้อม อย่างนี้คงไม่มีวันชนะแน่ และการฝึกซ้อมก็ต้องซ้อมวิ่งเป็นพันๆ หมื่นๆเที่ยว ใช้เวลาเป็นปีๆ จึงจะสามารถทำลายสถิติได้ เช่นกัน นักมวยก็ต้องฝึกซ้อมเป็นร้อยๆ ยก เพื่อการชกแข่งขันเพื่อแค่ วันเดียว บางครั้งใช้เวลาในการแข่งขันเพียงแค่ ยกเดียว


นักบริหารก็เช่นกัน ถ้าท่านอยากประสบความสำเร็จ ท่านก็ต้องฝึกฝน ฝึกซ้อม และอดทน เพื่อรอวันจะชนะ เพราะบางคนทำงานกว่าจะได้เป็นนักบริหาร ก็ต้องใช้เวลาเป็น 10-20 ปี ระยะเวลา 10-20 ปี ถ้าเปรียบเทียบกับนักกีฬา ก็คือการฝึกซ้อมนั้นเอง


การอดทนในการรอคอยความสำเร็จ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ยาก เป็นอย่างยิ่ง เพราะบางคนทำงานแค่ 1-2 ปี ก็อยากเป็นผู้บริหาร แต่พอเจ้าของกิจการไม่แต่งตั้ง ก็น้อยใจลาออก ความจริงถ้าอดทนรอคอยอีก 1-2 ปี โอกาสก็จะเป็นของตัวเอง ถึงแม้ไม่ได้เป็นก็สามารถรู้ระบบต่างๆ ขององค์กร แต่กลับลาออกไปเริ่มหางานใหม่ ซึ่งกว่าจะเรียนรู้งานใหม่ และปรับตัวก็ใช้เวลานานพอควร และถ้าที่ทำงานใหม่เกิดมีคนรอคอยที่จะเป็นผู้บริหารอีกเล่า เราไม่ต้องรอตายเลยหรือ


ดังนั้นความสำเร็จหรือการต่อสู้ในโลกนี้ มีไว้สำหรับผู้ที่อดทนเท่านั้น ผู้ไม่อดทนย่อมไม่มีสิทธิ์ได้รับอะไรทั้งสิ้นส่วนวิธีการสร้างความอดทนนั้น พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ ได้พูดไว้อย่างน่าฟังว่า


" กฏเบื้องต้นของการต่อสู้นั้น จึงอยู่ที่ว่าจะสร้างลักษณะทนทานขึ้นในตัวเราก่อนอย่างอื่น ทนทานต่อความยากลำบาก ทนทานต่อความทุกข์ร้อน ทนทานตลอดถึงอารมณ์ที่จะทำให้กำลังต่อสู้ของเราเสียไป เช่นต้องไม่เป็นคนโกรธง่าย ท้อถอยง่าย ใจเสียง่าย เห็นเรื่องน้อยเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเรามีลักษณะอย่างนี้อยู่ในตัว ให้เรารีบแก้ไขลักษณะของเราเสีย "

...
  
น้ำมันยังเป็นปัญหาใหญ่
โดย บ้านเมืองออนไลน์ เมื่อเวลา 10:27:00 วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2551

หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

โดย ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ม.นเรศวร พะเยา)

คอลัมน์ : บ้านเมืองเรื่องวังจันทร์ : ปัญหาน้ำมัน ยังคงเป็นปัญหาใหญ่

ปัญหาน้ำมัน ยังคงเป็นปัญหาใหญ่

ปัญหาพลังงานยังคงมีการพูดอยู่อย่างต่อเนื่องไม่หยุด โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันแพงในยุคปัจจุบันและยังมีแนวโน้มแพงขึ้นอีกในอนาคต เนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น ถ้าเกิดภาวะสงคราม, การไม่เพิ่มการผลิตของกลุ่มผู้ค้าน้ำมันโอเปก, การเก็งกำไรน้ำมัน, ความต้องการการใช้น้ำมันมีมากกว่าจำนวนน้ำมัน ฯลฯ

มีคนเคยถามกระผมว่ากลุ่มประเทศโอเปกคือใคร คำตอบคือ กลุ่มประเทศที่เป็นเจ้าของบ่อน้ำมันใหญ่ๆ อันได้แก่ อิรัก คูเวต อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และเวเนซุเอลา เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2503 และมีสมาชิกเพิ่มในเวลาต่อมาอีก 6 ประเทศ รวมเป็น 11 ประเทศ อันได้แก่ ไนจีเรีย, กาตาร์, ลิเบีย, แอลจีเรีย, อินโดนีเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีสำนักงานใหญ่เป็นศูนย์ประสานที่ประเทศออสเตรีย ซึ่งประเทศส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม

สำหรับประเทศไทยเองไม่มีบ่อน้ำมันเป็นของตนเอง จึงต้องซื้อน้ำมันดิบจากต่างประเทศกว่า 90% ทำให้ต้องเสียเงินกับการซื้อน้ำมันในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันโลกขึ้น จึงกระทบโดยตรงกับประเทศไทยของเรา และเมื่อรวมกับพลังงานอื่นๆ ปี พ.ศ.2550 ไทยเราใช้พลังงานรวมทั้งสิ้น 869,000 ล้านบาท แยกเป็นน้ำมันดิบ 702,637 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูป 50,140 ล้านบาท ก๊าซเอ็นจีวี 79,761 ล้านบาท ไฟฟ้าซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน 7,087 ล้านบาท และถ่านหิน 29,407 ล้านบาท

ตอนนี้รัฐบาลก็กำลังแก้ไขการใช้พลังงานโดยเฉพาะพลังงานน้ำมัน ในการรณรงค์ให้ใช้พลังงานทดแทนน้ำมัน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ราคาน้ำมันพลังงานทดแทนที่ใช้แทนน้ำมัน ก็เริ่มมีราคาสูงขึ้นเช่นกัน ไม่ทราบว่าหนีเสือปะจระเข้หรือเปล่า เช่น แอลพีจี, พลังงานจากพืช ฯลฯ

แต่ในความคิดกระผม เชื่อว่า ถ้าจะให้ดีควรที่จะต้องเริ่มวางแผนแก้ไขในระยะยาว ด้วยการสร้างระบบขนส่งมวลชนที่ดีมีมาตรฐาน เชื่อมโยงทั่วประเทศ เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง, ระบบขนส่งทางอากาศ, ระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน, ระบบขนส่งทางน้ำ ฯลฯ ถ้าทำได้ถูกและมีประสิทธิภาพก็จะทำให้คนหันมาใช้ แทนที่จะขับรถยนต์ส่วนตัวที่มีจำนวนมากขึ้นทุกวัน

ถ้าสมมุติว่าระบบขนส่งมวลชนที่ดี ราคาถูก กระผมเชื่อแน่ว่า คนทางภาคเหนือ, ภาคใต้, ภาคอีสาน ฯลฯ ก็จะหันมาใช้จะทำให้มีการบริโภคน้ำมันที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน เราจะสังเกตเห็นว่า ประเทศที่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดี ราคาถูก มักจะไม่มีปัญหาเรื่องราคาน้ำมันมากนัก เช่น ประเทศในยุโรป ประเทศที่เจริญแล้ว


ดังนั้น ก็ขอฝากรัฐบาลช่วยแก้ไขและดูแลด้วยครับ เพราะปัญหาน้ำมันแพงมีผลกระทบกับปัญหาอื่นๆ ด้วย เช่น ผลกระทบกับปัญหาเศรษฐกิจ, ผลกระทบกับปัญหาสังคม, ผลกระทบกับปัญหาการเมือง, ผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศ ฯลฯ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน การขึ้นราคาน้ำมันแต่ละลิตรมีผลต่อการขึ้นราคาสินค้า เช่น การขึ้นราคาน้ำมันปาล์มอีกขวดละ 6.50 บาท การขึ้นราคานม-โยเกิร์ตอีก 2 บาท และยังมีสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม 40 รายการ จ่อคิวขึ้นราคา

สรุปปัญหาราคาน้ำมันยังคงต้องมีการพูดถึงกันอีกต่อไปในอนาคต เพราะน้ำมันคือทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด และเป็นที่ต้องการของแต่ละประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทยของเรา สำหรับการแก้ไขปัญหาจะต้องมองดูรอบด้าน ไม่ว่าการจะหาพลังงานอื่นมาทดแทน การทำโครงการขนส่งมวลชนที่ดี การประหยัด การควบคุมนโยบายของรัฐบาล





...
  
โลกร้อน
คอลัมน์ : บ้านเมือง-เรื่องวังจันทร์ โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ ม.นเรศวร พะเยา (นสพ.บ้านเมือง)

: โลกร้อน น้ำมันแพง

ภาวะน้ำมันราคาแพงในปัจจุบัน สร้างปัญหาให้กับทุกประเทศไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทยของเรา เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยเราเองจึงต้องเดือดร้อน เนื่องจากประเทศไทยเราไม่มีน้ำมันดิบเป็นของตนเอง

เมื่อกระแสราคาน้ำมันแพง บวกกับปัญหาโลกร้อนอันเนื่องมาจากการปล่อยมลพิษ ของเสียต่างๆ รวมทั้งสารต่างๆ ที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก และสารต่างๆ เหล่านั้นส่วนหนึ่งมาจากการใช้น้ำมัน ฉะนั้นในปัจจุบันชาวโลกจึงหันมาให้ความสนใจพลังงานบริสุทธิ์หรือพลังงานทดแทน ที่ใช้แล้วไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฟฟ้า รวมทั้งพลังงานอันเกิดจากพืชการเกษตร

พลังงานอันเกิดจากภาคเกษตรนี่เอง ที่ทำให้กระแสของชาวเกษตรกรของไทยเรายิ้มออก

และเริ่มมองเห็นภาพที่สดใสขึ้น ทำให้เกิดมีข่าวอย่างต่อเนื่องในลักษณะว่า ผู้ใช้แรงงาน ชาวไร่ ชาวนา เริ่มหันมาปลูกพืชที่สามารถแปรสภาพเป็นพลังงานทดแทนน้ำมัน เช่น ฉันทนาแห่ปลูกปาล์ม, ตะวันออกเดิมพันโค่นสวนผลไม้ ลุยปาล์ม-ยางพารา, อีสานฮิตไร่มันฯ เป็นต้น

สำหรับพืชที่สามารถนำมาแปรเป็นน้ำมันคือ ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ข้าวโพด ฯลฯ เมื่ออดีตพืชน้ำมันเหล่านี้มักใช้ในอุตสาหกรรมอาหารคนและอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ แต่ในปัจจุบันเริ่มที่จะนำมาใช้กับ อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมากยิ่งขึ้น

ซึ่งโดยส่วนตัวกระผมเอง เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการนำพืชน้ำมันมาใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน จะทำให้เราลดการนำเข้าน้ำมันได้มากและลดการขาดดุลการค้าต่างๆ ได้มากเช่นกัน อีกทั้งเกษตรกรเองก็มีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้ใช้แรงงานที่ทำงานในกรุงเทพฯ ก็สามารถกลับไปทำงานในชนบทหรือบ้านเกิดของตนเองได้ สามารถลดปัญหาสังคมในเมืองหลวงได้ระดับหนึ่ง

เพียงแต่กระผมอยากเห็นการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ ช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ลงทุน เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในการลงทุน ไม่ใช่เพียงแต่สร้างกระแสให้คนปลูกพืชน้ำมันเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนกันมากๆ แล้วก็ลอยแพหรือไม่สนใจให้ความช่วยเหลือในอนาคต

สำหรับประเทศในยุโรปหรือสหรัฐเอง ก็ตื่นตัวกับพลังงานทดแทนไม่น้อยไปกว่าไทยเรา

เช่น ปีที่ผ่านมา (ปี 2550) สหรัฐอเมริกานำข้าวโพดไปใช้ผลิตเอทานอลสูงถึง 80-90 ล้านตัน และปีนี้ (ปี 2551) เองสหรัฐก็ประกาศว่าจะผลิตเอทานอลจากข้าวโพดไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา

ส่วนสหภาพยุโรป ก็เป็นห่วงเรื่องภาวะโลกร้อนและราคาน้ำมันแพง จึงใช้พลังงานทดแทนโดยนำ เรพซีด (น้ำมันพืชเมืองหนาว) ไปใช้สำหรับผลิตไบโอดีเซล เพื่อลดการใช้น้ำมันและภาวะโลกร้อน


สำหรับการใช้พลังงานทดแทนจากพืช นำมาใช้ทดแทนน้ำมันที่มีราคาแพง เราอาจจะมองแต่ส่วนที่ดี แต่ความจริงของชีวิต เมื่อมีส่วนดี ก็มีส่วนเสีย สำหรับปัญหาที่เกิดจากการนำพืชน้ำมันไปใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนนี้ ก็คือ ผู้บริโภคต้องรับมือกับอาหารที่แพง ดังจะเห็นจากราคาน้ำมันปาล์มจากราคาเพดานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดให้ขวดละ 38 บาท (ขนาด 1 ลิตร) จากที่ไม่เคยขายชนราคาเพดาน แต่ปัจจุบันต้องปรับราคาเพดานขึ้นไปอยู่ที่ขวดละ 43.50 บาท สาเหตุเนื่องจากราคาผลปาล์มดิบมีราคาสูงขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาทกว่าเป็น 6 บาทกว่า อีกทั้งน้ำมันถั่วเหลืองต้องนำเข้ามาจากสหรัฐ เนื่องจากวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ สำหรับน้ำมันถั่วเหลืองราคาเพดานในปัจจุบันอยู่ที่ขวดละ 45.50 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าในอดีต

ณ วันนี้จึงเป็นเวลาที่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นเวลาเปลี่ยนผ่าน จากการผลิตพืชน้ำมันเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารคนและอาหารสัตว์ มาเป็นอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เป็นที่น่าจับตาต่อไปว่า การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกหรือไม่ เพราะการแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่ง อาจเกิดปัญหาอีกอย่างหนึ่งตามมาเสมอ


...
  
พ่อแม่
พ่อแม่ รังแกฉัน

โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(โทนี่)


อันชนกชนนีนี้รักเจ้า เทียมเท่าชีวาก็ว่าได้


เมื่อสมัยเด็กๆ เมื่อตอนที่กระผมกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน กระผมได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีเนื้อหาที่ดีและให้แง่คิดมาก กระผมคิดว่าคนรุ่นวัย 20 ปี ขึ้นไป หลายคนคงได้อ่านเช่นกัน หนังสือเล่มนั้นก็คือ หนังสือเรื่อง “ พ่อแม่ รังแกฉัน “ เนื้อเรื่อง เท่าที่จำได้ พอสรุปได้ว่า เป็นเรื่องราวความรักของพ่อแม่ที่ผิดพลาดโดยการ “ ตามใจ” เรื่องมีอยู่ว่าพ่อแม่ เป็นเศรษฐี รักลูกมากๆ มีอะไรก็หามาให้ ตามใจสารพัด ใครจะว่า กล่าวด่าลูกก็ไม่ได้ ลูกจะผิดจะถูกอย่างไรก็ไม่เคยเตือน สอนสั่ง เมื่อลูกไม่สนใจการเรียนก็ไม่เคยเตือน จนลูกเข้าสู่วัยรุ่น ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยไม่เคยห้าม คบเพื่อนไม่ดี พากันไปเที่ยว พากันไปกินเหล้า พากันเที่ยวไม่ยอมเรียนหนังสือ พ่อแม่ก็ไม่ว่า ตามใจทุกอย่าง จนเมื่อลูกโตใหญ่และพ่อแม่ก็แก่ตามไปด้วย ปรากฏลูกเศรษฐี เอาไม่รอด ความประพฤติชั่วช้า จนพ่อแม่ตายไปชีวิตที่ร่ำรวยเงินทองจากพ่อแม่ก็กลับเป็นยากลำบาก เพราะหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ในที่สุดต้องกลายเป็นขอทาน ตอนเป็นขอทานกลับไม่สำนึก โทษพ่อแม่ว่าเป็นความผิดที่ตามใจ(รังแกฉัน) จนกระทั่งได้พบกับซินแส ได้เล่าเรียนจนประกอบอาชีพได้


นี่คือ ยาพิษของการเลี้ยงลูกด้วยการตามใจ


หนังสือเล่มนี้ สอนให้รู้ว่า พ่อแม่ ที่รักลูกมากเกินไป ตามใจเกินไป ใครว่ากล่าว สั่งสอนไม่ได้ ในที่สุด เมื่อลูกโตใหญ่ขึ้น ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่เอาตัวไม่รอด


ฉะนั้น ความรักจึงเป็นเสมือนดาบสองคม ด้านหนึ่งถูกใช้ในการถากถางในการดำเนินชีวิตและอีกด้านหนึ่งก็อาจเป็นอาวุธที่ร้ายแรงคอยทิ่มแทงผู้ที่ใช้ความรักได้เช่นกัน


และถ้าจะให้ดี ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาก็ควรที่จะให้เด็กไทยรุ่นใหม่ได้มีโอกาสอ่าน วรรณกรรมประเภทเหล่านี้ให้มากๆ ในโรงเรียนถ้ากระผมจำไม่ผิด หนังสือเรื่อง “ พ่อแม่รังแกฉัน” น่าจะเป็นหนังสือคำประพันธ์บางเรื่องของ ท่านพระยาอุปกิตศิลปสาร


ในสังคมไทยเราปัจจุบันมีมากมาย ไม่ว่าเศรษฐี ไม่ว่าชาวไร่ชาวนา หาเช้ากินค่ำ ผู้หลักผู้ใหญ่บางคน ที่สอนลูกในลักษณะนี้ คือ ตามใจลูก ลูกผิดครูสั่งสอนก็ไม่ได้ ใครจะเตือนก็ไม่ได้ จึงทำให้เด็กเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จึงมีนิสัย ที่ชั่วร้าย ไม่โต ควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้


ในสังคมไทยเราปัจจุบันเราต้องยอมรับเลยว่า การเลี้ยงลูกในสมัยนี้ยากกว่าสมัยก่อน มาก เพราะ


สังคมปัจจุบันเรามีสิ่งเร้า สิ่งยั่วยุ สิ่งเสพติด สิ่งอบายมุข การพนัน เกมส์ และรวมทั้งสื่อลามกอนาจารเป็นจำนวนมาก


ดังนั้น วิธีการเลี้ยงดูลูกหลาน จึงต้องเปลี่ยนแปลงจากอดีต พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลให้เวลาลูกหลานเพิ่มมากขึ้น มีศาสตร์และมีศิลป์ในการสอน และต้องมีวิธีการดูปัญหา แก้ปัญหา เป็นระบบ


ไม่มองจุดเดียว เพราะปัญหาของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ค่อนข้างเชื่อมโยงกัน เช่น ปัญหาเด็กติดเกมส์ก็มักจะทำให้เด็กเสียการเรียน ร้านเกมส์บางร้านอาจเป็นแหล่งมั่วสุม ซึ่งเป็นที่มาของการขายยาเสพติด การล่อลวงเด็กไปมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเด็กต้องการเล่นเกมส์ ต้องการหาเงินไปซื้อยาเสพติด ก็จะเกิดปัญหาลักขโมยตามมา เด็กบางคนอาจมีปัญหามากจนเกิดอาการซึมเศร้า จนกระทั่งต้องฆ่าตัวตายก็มี และยังมีปัญหาที่เชื่อมโยงกับปัญหาเหล่านี้อีกมากมาย


เราจะเห็นได้ว่าปัญหาเด็กและเยาวชน เป็นปัญหาที่ใหญ่ และถ้ายังไม่ช่วยกันแก้ อนาคตของประเทศไทยเราก็คงต้องแย่ เพราะ เด็กและเยาวชนก็คืออนาคตของชาติ (เด็กในวันนี้เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า)


ความรักความห่วงใย คือ สายใยของครอบครัว

...
  
บุหรี่
นายผู้ทารุณ

โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
เมื่อวันก่อนกระผมได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นจดหมายที่กระผมไม่อยากได้รับ เพราะเป็นจดหมายขอบสีดำ เมื่อเปิดออกดูจึงรู้ว่าเป็นจดหมายเชิญให้ไปร่วมงานศพ ของน้าชายซึ่งเป็นที่รักและเคารพของกระผม


น้าชายคนนี้ตายก่อนวัยอันควรด้วยโรคมะเร็งในปอด ซึ่งเป็นผลเกิดจาก บุหรี่ หรือ “ นายผู้ทารุณ ” นั่นเอง


บุหรี่ มีลักษณะเป็นทรงกระบอกม้วนห่อด้วยกระดาษ (ขนาดปกติจะมีความยาวสั้นกว่า 120 มิลลิเมตร และ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 มิลลิเมตร) มีใบยาสูบบดหรือซอยบรรจุภายในห่อกระดาษ ปลายด้านหนึ่งเป็นปลายเปิดสำหรับจุดไฟ และอีกด้านหนึ่งจะมีตัวกรอง ไว้สำหรับใช้ปากสูดควัน คำนี้ปกติจะใช้หมายถึงเฉพาะที่บรรจุใบยาสูบภายใน แต่ในบางครั้งก็อาจใช้หมายถึงมวนกระดาษที่บรรจุสมุนไพรอื่น ๆ เช่น กัญชา (en:marijuana) ( อ้างอิงจาก วิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี)




บุหรี่ ต่างจาก ซิการ์ (en:cigar) ตรงที่บุหรี่นั้นมีขนาดเล็กว่า และใบยาสูบนั้นจะมีการบดหรือซอย รวมทั้งกระดาษที่ห่อ ซิการ์โดยปกติจะใช้ใบยาสูบทั้งใบ ซิการ์ชนิดที่มีขนาดเล็กพิเศษเท่าบุหรี่ เรียกว่า ซิการ์ริลโล (en:cigarillo) บุหรี่เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนที่ใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่ก่อนสงครามแห่งครายเมีย เมื่อทหารแห่งจักรวรรดิอังกฤษ เริ่มเลียนแบบการใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อใบยาสูบ จากทหารตุรกีแห่งอาณาจักรออตโตมัน


( อ้างอิงจาก วิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี)


ท่านผู้อ่านครับ ทำไมผมถึงเรียกบุหรี่ว่า “นายผู้ทารุณ ” ก็เพราะมันฆ่าคนไทยไปปีหนึ่ง หลายหมื่นคน ทำลายทรัพย์สินปีละหลายหมื่นล้านบาท ในบุหรี่มีสารพิษมากมาย ซึ่งวงการแพทย์ได้ระบุว่ามีมากถึง 1,350 ชนิด แต่ละอย่างสร้างพิษภัยให้กับผู้สูบอย่างมหันต์ เช่น ไนโครชามีน ทำให้เกิดโรคมะเร็งในปอด อัลคาร์ลอยนิโคติน ทำให้หลอดเลือดตีบ ฯลฯ


นอกจากนั้นยังบั่นทอนสุขภาพโดยตรงแล้ว มันยังสามารถทำให้ท่านตายเร็วขึ้น ในแต่ละมวนจะเพิ่มความตายให้ท่านถึง 6 นาที คนสูบบุหรี่วันละ 1 ซอง หรือ 20 มวน จึงต้องอายุสั้นลงอีก 10 ปี ยังไม่นับถึงเรื่องของบุคลิก หน้าซีดเซียว ริมฝีปากเขียวคล้ำ ตาเหลือง นิ้วมือเหลือง เหม็นกลิ่นบุหรี่ติดตัว


เรื่องการสูญเสียเงินทองไม่ต้องพูดถึง ขณะนี้ราคาบุหรี่เฉลี่ยซองละ 50 บาท หากสูบวันละ 1 ซอง ปีหนึ่งจะเผาผลาญเงินไปถึง 18,250 บาท 10 ปี เท่ากับ 182,500 บาท ถ้าหากท่านหยุดสูญวันนี้แล้วเก็บเงินไปฝากธนาคารหรือซื้อพันธบัตรรัฐบาล ภายใน 6 ปี ท่านจะได้ดอกเบี้ยทบต้นกลายเป็น 100 % ( 1 แสน เป็น 2 แสนบาท)


ท่านผู้อ่านครับ .... ขอให้ท่านที่สูบบุหรี่เลิกสูบตั้งแต่วันนี้ ขับไล่ “นายผู้ทารุณ ” ออกไปจากชีวิตของท่าน โดยวิธีการคือ ขยี้บุหรี่ในมือของท่านทิ้งไป(ไม่พกบุหรี่ติดตัว) ทิ้งไฟแช็คของท่านทิ้งไป (ทิ้งอุปกรณ์การสูบบุหรี่ทั้งหมด) ไม่เข้าใกล้คนที่กำลังสูบบุหรี่ เบี่ยงเบนความสนใจถ้าอยากสูบบุหร่ขึ้นมา(อาบน้ำ เล่นกีฬา) เสริมกำลังใจให้ตนเอง เช่น ทบทวนผลเสียของการสูบบุหรี่ บอกคนข้างเคียงว่ากำลังเลิกบุหรี่ เก็บเงินใส่ในออกสิน ให้รางวัลตนเองถ้าเลิกบุหรี่ได้ คิดถึงคนที่ท่านรัก กำหนดจิตใจให้เข้มแข็งหนักแน่น ภายใน 1 อาทิตย์


ท่านจะรู้สึกสดชื่นกับชีวิตใหม่ ที่สำคัญท่านยังประหยัดเงินให้ลูกหลานได้กินขนม แทนที่จะซื้อหาบุหรี่มาฆ่าตัวตายแบบผ่อนส่งอย่างเช่นทุกวัน





...
  
สายสัมพันธ์กับนักบริหาร
ผู้นำ ผู้บริหาร ต้องรู้จักสร้างสายสัมพันธ์เพื่อโอกาสทางธุรกิจ
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ร้อยละ 50 ของความสำเร็จของผู้นำ ผู้บริหาร จะขึ้นอยู่กับ ความสามารถในการโยงใย การสร้างสายสัมพันธ์ อย่างมีประสิทธิผล ( ฮิลเลียด ซัลลิแวน รองประธานกรรมการ มอนซานโต เคมิคัล)


ในยุคปัจจุบัน หมดยุคของคำว่า “ ข้าเก่งคนเดียวหรือข้ามาคนเดียวแล้ว ” แต่โลกธุรกิจยุคปัจจุบันเป็นยุค การโยงใยหรือการสร้างสายสัมพันธ์ เพื่อโอกาสทางธุรกิจ เพราะเราไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้หมด ด้วยพละกำลังของเราเอง ดังคำกล่าวที่ว่า “ นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อนขึ้นสู่ที่สูงยาก” ( แต่บางคนไปจำผิดว่า นกไม่มีเพื่อน คนไม่มีขน ขึ้นสู่ที่สูงยาก อันนี้ต้องระวังครับ)


สำหรับวิธีการโยงใย หรือการสร้างสายสัมพันธ์นั้น มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น เริ่มต้นที่ตัวเราเอง , ทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา , การใช้นามบัตรให้เกิดประโยชน์ , การใช้ข้อมูลข่าวสารและการใช้โทรศัพท์ ฯลฯ


การสร้างสายสัมพันธ์ ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเอง เราลองสำรวจตัวเราเองว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบัน เรารู้จักใครบ้าง อาจจะแบ่งเป็นส่วนๆ เช่น เพื่อนเก่า , เครือญาติ , เพื่อนร่วมธุรกิจในวงการเดียวกัน , ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ ฯลฯ หลังจากนั้นเราจึงต้องรดน้ำ บำรุง สายสัมพันธ์โดยการใช้ ความดี (การมีน้ำใจ และการให้) เพราะบางครั้งในอนาคต ถ้าเราต้องการพึ่งพาเขา ถ้าเราติดต่อเขาเป็นประจำเขาก็จะช่วยเหลือเรา มากกว่าที่เราไม่เคยติดต่อเขาเลย แล้วขอความช่วยเหลือ


ทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา การที่จะทำอย่างไรให้คนรู้จักเรามีความสำคัญพอๆกับการที่เรารู้จักเขา การที่จะทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา คงต้องมีกลยุทธ์อยู่เหมือนกัน เช่น อาจจะต้องไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ ถึงแม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่ก็ต้องทำเพื่อให้คนได้รู้จักเรามากขึ้น หรือ บางครั้งอาจจะต้องเป็นนักเขียน หรือ นักพูด นักจัดรายการวิทยุ บ้าง เพื่อคนจะได้เห็นผลงานของเราตามสื่อต่างๆ


การใช้นามบัตรให้เกิดประโยชน์ การใช้นามบัตรจะทำให้คุณมีโอกาสทางธุรกิจสูงขึ้น


ดังเช่นนักธุรกิจญี่ปุ่น ที่นับว่าเป็นประเทศที่ใช้นามบัตรเก่งที่สุด สำหรับหลักการใช้นามบัตรและบริหารนามบัตร ก็คือ คุณต้องเตรียมนามบัตรให้เพียงพอ ออกแบบนามบัตรพิมพ์ให้สวย สำหรับด้านหลังนามบัตรถ้าว่าง เราอาจเขียนข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการจำของเรา เช่น ลักษณะเด่นของคนนั้นๆ งานอดิเรก สำหรับการบริหารนามบัตร เราต้องหาที่เก็บนามบัตร โดยการจัดเก็บให้เป็นระบบ หรือเราอาจจะต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยเก็บข้อมูลถ้าหากมีนามบัตรจำนวนมาก


การใช้ข้อมูลข่าวสารและการใช้โทรศัพท์ การให้ข้อมูลแก่เครือข่าย หรือ สายสัมพันธ์ที่เราต้องการโยงใยสำคัญมาก ข้อมูลบางอย่างถึงกับต้องลงทุนซื้อเลยทีเดียว ยิ่งโลกยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ ดังนั้น เราต้องพยายามเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เราก็จะได้ข้อมูลใหม่ๆ


สรุป สำหรับ ผู้นำ ผู้บริหาร ต้องรู้จักสร้างสายสัมพันธ์เพื่อโอกาสทางธุรกิจ เพราะโลกยุคนี้เป็นโลกแห่งการแข่งขัน เป็นโลกแห่งข้อมูลข่าวสาร เป็นโลกแห่งเครือข่าย ดังนั้น ใครมีเครือข่าย สายสัมพันธ์มากย่อมได้เปรียบในการแข่งขัน





















...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.