หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
สุนทรพจน์ในการพูด
สุนทรพจน์ในการพูด
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การพูดสุนทรพจน์ นับว่าเป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งของบรรดาผู้บริหาร นักการเมือง นักปกครอง โดยเฉพาะการพูดสุนทรพจน์ในงานพิธีสำคัญต่างๆ
การเตรียมตัวสำหรับการพูดสุนทรพจน์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการร่างการเขียนสุนทรพจน์ ตลอดจนการฝึกซ้อมการพูดสุนทรพจน์ ก่อนนำออกไปพูดจริงๆ
แล้ว บรรดานักพูดระดับโลก เขาทำกันอย่างไร
อับราฮัม ลินคอล์น ใช้เวลาในการพูดที่เมืองเกตตี้สเบิร์ก ใช้เวลาพูดไม่ถึง 2 นาที แต่สุนทรพจน์เขากลับโด่งดังไปทั่วโลก สาเหตุหนึ่งก็เนื่องมาจาก เขาเอาใจใส่ต่อการพูดแต่ละครั้งเป็นอย่างยิ่ง อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐผู้นี้จะพิถีพิถันการเลือกใช้ถ้อยคำเป็นพิเศษ จึงทำให้สุนทรพจน์ของท่านมีความเป็นอมตะอยู่หลายสุนทรพจน์ หากยิ่งเป็นการพูดสุนทรพจน์ที่ใช้เวลาสั้นๆ เขาจะเตรียมตัวนานมาก แต่ในทางกลับกัน หากให้เขาพูด 3 ชั่วโมง เขาจะเตรียมตัวน้อยกว่าการพูดสุนทรพจน์ที่ใช้เวลาสั้นๆ ฉะนั้นการพูดสุนทรพจน์ที่ดี ไม่ควรที่จะใช้เวลาพูดที่ยาวจนเกินไปนัก
มาร์ติน ลูเทอร์ คิง ใช้เวลาในการพูดไม่เกิน 17 นาที สำหรับการพูดสุนทรพจน์ I have a dream ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกเหมือนกัน เขามีการพูดที่เป็นจังหวะ มีน้ำเสียงที่ปลุกเร้า มีการเน้นย้ำคำว่า I have a dream อยู่ตลอดในระหว่างการพูดสุนทรพจน์ ทำให้สุนทรพจน์ของเขาสร้างความฝัน สร้างความหวังให้แก่คนอเมริกาในสมัยนั้น ซึ่งการพูดของเขาแต่ละครั้งจะมีคนฟังเป็นจำนวนกว่า 200,000 กว่าคน เลยทีเดียว
จอห์น เอฟ.เคเนดี้ ใช้เวลาการพูดสุนทรพจน์แต่ละครั้งไม่เกิน 20 นาที ซึ่งสุนทรพจน์ของเขาแต่ละครั้งเต็มไปด้วย การใช้คำพูดและถ้อยคำที่กระตือรือร้น กระฉับกระเฉง รวบรัด กล้าหาญ เด็ดขาด ไพเราะ เช่น อย่าได้ถามว่าประเทศของท่านจะทำอะไรให้แก่ท่านได้บ้าง แต่จงถามว่า ท่านจะทำอะไรให้แก่ประเทศของท่านบ้าง , เราขอให้คำมั่นอย่างหนักแน่นในเรื่องนี้ และจะเพิ่มความหนักแน่นยิ่งขึ้นต่อไป เป็นต้น
การพัฒนาสุนทรพจน์ จึงมีส่วนที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหาร ผู้นำ ผู้ปกครอง ซึ่งการพัฒนาสุนทรพจน์นี้ เราควรคำนึงถึง เรื่องของ การตั้งชื่อเรื่อง , การขึ้นต้น , เนื้อเรื่อง,การสรุปจบ , จุดมุ่งหมายของการพูด,การลำดับ , การใช้ถ้อยคำ , น้ำเสียงเวลาพูด , จังหวะในการพูด , การเน้นการย้ำ , จังหวะการหยุดพูด ฯลฯ
สำหรับ สุนทรพจน์ที่ดีไม่ควรจะมีความยาวเกิน 20 นาที เพราะหากยาวมากๆจะทำให้ผู้ฟังเบื่อหน่ายได้ , สุนทรพจน์ที่ดีต้องมีทิศทางไปในทางเดียวกันตลอดทั้งเรื่อง,มีวรรคทอง, มีการใช้ถ้อยคำที่กินใจเห็นภาพพจน์, มีการทบทวน ปรับปรุง แก้ไข ฝึกซ้อมตลอดเวลาก่อนนำไปพูดจริง(ก่อนที่จะพูดสุนทรพจน์หากเป็นไปได้ จงคิดถึงมันสัก 5 วัน 5 คืน ก่อนที่จะนำไปพูด) , มีโครงสร้างสุนทรพจน์(ขึ้นต้น เนื้อเรื่อง สรุป) ,ผู้ฟังฟังแล้วเกิดพลังเกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
ฉะนั้น ผู้ที่ต้องการร่าง ต้องการเขียน ต้องการพูด สุนทรพจน์ให้ได้ดี จึงต้องมีการฝึกฝน เรียนรู้ อีกทั้งควรหาสุนทรพจน์ของบรรดานักพูดชื่อดัง มาอ่านมาศึกษามาวิเคราะห์ ก็จะทำให้เราสามารถ ร่าง เขียน พูด สุนทรพจน์ได้เป็นอย่างดี
...
  
การเตรียมตัวเข้าสู่อาเซียนของหน่วยงานสาธารณสุข
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ณ โรงแรมโกลเด้นซิตี้ จังหวัดราชบุรี หัวข้อ " การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานสาธารณสุขเพื่อเข้าสู่อาเซียน" ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายมาจากโรงพยาบาลต่างๆทั่วราชบุรี ...
  
โต้วาที โลกนี้ไม่ควรมีวันวาเลนไทน์
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เป็นกรรมการและผู้เสนอแนะ ในรายการ U-Debate ของสถานีโทรทัศน์ VOICE TV ในญัตติ โลกไม่ควรมีวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง มหาวิทยาลัยกรุงเทพและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ...
  
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ถ้าหากว่าพวกเราย้อนหลังไปในอดีต สิ่งมหัศจรรย์ ทั้งหลายในโลก ล้วนแล้วแต่ ถูกมนุษย์ สร้างขึ้น ประดิษฐ์ขึ้น คิดค้นขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น ดาวเทียม คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์สี โทรศัพท์มือถือ ในยุค 50 ปีก่อน ไม่มี เดี๋ยวนี้มี
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน F 16 ยานอาวกาศ จรวด ในอดีตไม่มี แต่ปัจจุบันมี
สิ่งต่างๆถูกมนุษย์สร้างขึ้น พัฒนาขึ้น ประดิษฐ์ขึ้น คิดค้นขึ้น
ในอดีต “ ใครๆ ก็บอกว่านกเท่านั้นที่บินได้ ” แต่ด้วยน้ำมือของ 2 พี่น้องตระกูลไรค์ เครื่องบินลำแรกถูกสร้างขึ้น
ในอดีต “ ใครๆ ก็บอกว่า มนุษย์ไม่สามารถวิ่งได้ระยะทาง 1 ไมล์ น้อยกว่า 4 นาที ” และแล้วโรเจอร์ แบนนิสเตอร์ ก็เป็นมนุษย์คนแรกที่วิ่งได้ ในเวลาต่อมาก็มีคนอีก 10 คน 100 คน 1,000 คน 10,000 คน 100,000 คนวิ่งได้
ในอดีต “ ใครๆก็บอกว่า มนุษย์ไม่มีวันเหยียบดวงจันทร์ได้ ” และแล้ว นีล อาร์มสตรอง เป็นมนุษย์คนแรกในโลกที่ได้ลงไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก
ท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลายครับ ท่านจะเห็นได้ว่า สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ จากความคิด ความฝัน การลงมือทำ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆจึงเกิดขึ้น
นโปเลียน ฮิลล์ อดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐ 3 สมัย กล่าวไว้ว่า “ ถ้าหากท่านคิดว่า ท่านทำได้ ท่านจะทำได้ แต่ถ้าหากท่านคิดว่า ท่านทำไม่ได้ ท่านก็จะทำไม่ได้” ความคิดเป็นตัวกำหนดความสำเร็จ ถ้าคุณเปลี่ยนความคิด ชีวิตของคุณเปลี่ยน
บุคคลส่วนใหญ่ในโลกนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะพวกเคยชินกับความคิดเดิมๆ ความคิดเล็กๆ ความคิดที่ว่า “ทำไม่ได้ “ “ฉันไม่กล้า” แล้วเราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร
เรา จนไม่ใช่เพราะพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์ แต่เป็นเพราะ เราไม่เคยคิดที่จะรวย
เรา ไม่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพราะ เทวดา นางฟ้า พระอินทร์ แต่เป็นเพราะเราไม่เคยคิดที่จะประสบความสำเร็จต่างหาก
“ อันใครเล่า กำหนดชีวิตข้า ใช่เทวาดาดฟ้า อะไรหนา
ตัวข้านี้กำหนด มันมา ชั่วดีหนาเกิดจากกรรม ข้าทำเอง”
ฉะนั้นหนทางไปสู่ความสำเร็จนั้นจะว่ายาก มันก็ยาก จะว่าง่ายมันก็ง่าย จะว่าไกลมันก็ไกล จะว่าใกล้มันก็ใกล้ ดังเช่น ระยะทาง จากกรุงเทพถึงภูเก็ต ใครที่คิดว่าไกลมันก็ไกล ใครที่คิดว่าใกล้ มันก็ใกล้ แต่ระยะทางที่ไกลกว่านั้น ก็คือความคิดของคุณต่างหาก
“ ฉันแก่เกินไป” ผู้พันแซนเดอร์ส ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่หลังเกษียณอายุ 60 ปี เขาได้เริ่มทำธุรกิจร้านเคนตั๊กกี้ฟรายด์ชิกเก้นหรือ KFC เขาจึงประสบความสำเร็จภายหลังเกษียณอายุ
“ ฉันเด็กเกินไป” ไมเคิล แจ็คสัน ประสบความสำเร็จกลายเป็นนักร้องชื่อดังในขณะที่เขาเพิ่งออกจากโรงเรียนอนุบาล และด้วยความคิดอย่างผู้ประสบความสำเร็จในที่สุด “เขาคือ ราชาเพลงป๊อบของโลก”
“ ฉันมีการศึกษาน้อย” โธมัส อัลวา เอดิสัน เขาเรียนหนังสืออย่างเป็นทางการได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่เขาก็เป็นนักประดิษฐ์เอกของโลก ซึ่งเขามีสิทธิบัตรเกือบ 1,300 ชิ้น
“ ฉันมันโง่” อัลเบิรต์ ไอนสไตน์ สมัยเด็กๆ เขาเป็นคนพูดช้า ชอบฝันกลางวัน จนครูที่สอนเขากล่าวหาเขาว่า เป็นเด็กที่ผิดปกติ และแล้วในเวลาต่อมา คนทั้งโลกได้ยอมรับเขาว่า เขาคืออัจฉริยะบุคคล เขาคือผู้คิดทฤษฏีซึ่งก่อกำเนิดปรมณู
“ ฉันมันคนขี้คุก” เนลสัน แมนเดลา นักโทษทางการเมืองที่ติดคุกยาวนานที่สุดของโลกคนหนึ่ง เขาติดคุกนานถึง 25 ปี แต่สุดท้ายเขาคือ ประธานาธิบดีของอาฟริกาใต้ ในขณะที่อายุ 76 ปี
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ความคิดของคุณ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ ความคิดของคุณต้องชัดเจน ความฝันของคุณต้องชัดเจน มันจึงจะพาชีวิตของคุณไปสู่เป้าหมาย
ชาวประมงจะเดินเรือต้องมีเข็มทิศ คุณจะดำเนินชีวิตคุณจะต้องมีเป้าหมาย
เป้าหมายสามารถเปลี่ยนแปลงโลก เป้าหมายสร้างคนให้เป็นคน เป้าหมายสามาถควบคุมความคิด ควบคุมการกระทำ ควบคุมบุคลิก ให้คุณกล้าที่จะแสดงออก
คุณต้องกล้าคิด กล้าที่จะตั้งเป้าหมาย กล้าที่จะฝัน แล้วคุณจะเป็นเจ้าของมัน มันอยู่ที่ความคิดของคุณ ว่าคุณจะใส่อะไรเข้าไปในสมอง แล้วคุณต้องดูแลมัน คุณต้องรดน้ำพรวนดิน เพราะ ถ้าคุณไม่ดูแลความคิด ความฝันของคุณ แล้วใครจะดูแลให้คุณ
คนเป็นจำนวนมาก แลกชีวิต แลกร่างกาย แลกค่าตอบแทนกับสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆ แล้วคิดว่า “ ฉันทำได้แค่นี้” ฉันขายได้เท่านั้น ฉันทำรายได้เพียงเท่านี้ แต่จริงๆแล้ว เราสามารถทำรายได้ ได้โดยไม่มีขีดจำกัด
คนจำนวนน้อยคนร่ำรวยมัก Think Big หรือ คิดใหญ่ แต่คนจำนวนมากมัก Think small หรือ คิดเล็ก คิดเพียง 1 คิด ฝันเพียง 1 ฝัน ถ้าคุณจะคิดทั้งที ผมขอแนะนำคุณให้คิดใหญ่ๆ เมื่อคุณจะ ฝันทั้งที ทำไมคุณไม่ ฝันใหญ่
ฉะนั้น คุณจะเป็น นักขาย นักพูด นักการเมือง นักสื่อสารมวลชน นักการทูต คุณจะเป็น นักอะไรก็ได้ ขึ้นอยู่ที่คุณ ถ้าคุณกล้าคิด ถ้าคุณกล้าฝัน ถ้าคุณกล้าตั้งเป้าหมาย คุณสามารถเป็นสิ่งนั้นได้



...
  
จะทำงานอย่างไรให้ก้าวหน้า
จะทำงานอย่างไรให้ก้าวหน้า
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนเราทุกคนเกิดมาแล้วต้องทำงาน และเวลาที่เราใช้ในชีวิตการทำงาน เราใช้เวลาเป็นจำนวนมาก แล้วเราจะทำงานอย่างไรให้มีความก้าวหน้า สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน เขาจะมีปัจจัยที่ทำให้ตนเองก้าวหน้าดังนี้
1.ต้องรักงานที่ตนเองทำ รวมไปถึง รักเพื่อนร่วมงาน รักเจ้านาย รักองค์กร รักสถานที่ทำงาน เมื่อเขามีทัศนคติที่บวก เขาก็จะทำงานอย่างมีความสุข ขยันขันแข็งในการทำงาน แต่ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่รักงานที่ทำ ไม่รักเพื่อนร่วมงาน ไม่รักเจ้านาย ไม่รักองค์กร ไม่รักสถานที่ทำงาน เขาก็จะมีทัศนคติในทางลบ จึงทำให้เขาเกิดการเบื่อหน่าย ไม่มีความสุขที่ต้องทำงาน เกิดอาการที่ท้อแท้ หมดกำลังใจ เมื่อหนักๆ เข้าเขาก็พร้อมที่จะลาออกจากงานที่เขาทำ
แล้วมีคำถามว่า แล้วจะทำอย่างไรถึงจะมีทัศนคติให้มีความรักงานที่ทำ คำตอบคือ ท่านต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ ลองคิดว่างานให้อะไรแก่เราบ้าง เช่น งานทำให้เราได้ช่วยเหลือผู้อื่น งานทำให้เราได้สถานะภาพที่ดีขึ้น งานทำให้เราได้รับรายได้ งานให้เรามีคุณค่าในความเป็นคน งานทำให้เราได้ชื่อเสียง ฯลฯ
2.ต้องให้งานสอนเรา คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากกว่าคนธรรมดา มักจะเป็นคนที่ทำงานมาก การทำงานด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน จึงทำให้เขาทำงานได้เก่งขึ้น ระหว่าง ครูสอน กับให้งานสอน ท่านผู้อ่านคิดว่า อย่างนั้นทำให้เราเก่งงานกว่ากัน แน่นอนครับ ให้งานสอนครับ ฉะนั้น เราจะสังเกตว่า คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเป็นคนที่ขยันทำงาน ทำงานจนเกิดความเชี่ยวชาญ
3.ต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงาน นักข่าวท่านใดมีความกระตือรือร้นในการหาข่าว มักจะได้ข่าวก่อน แต่นักข่าวคนใดเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น ก็มักจะหาข่าวได้ช้า ความกระตือรือร้นจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนทำงานแล้วประสบความสำเร็จ และพบกับความก้าวหน้า
4.ต้องมีความพยามยาม กัดไม่ปล่อย คนที่ประสบความสำเร็จในที่ทำงาน เขาจะเป็นคนทุ่มเท เขาจะไม่หยุดก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งตรงกันข้ามกับคนส่วนใหญ่ เมื่อเจอปัญหาเพียงแค่ครั้ง สองครั้ง ก็จิตใจท้อแท้ ตรงกันข้ามกับคนที่ประสบความสำเร็จในระดับที่สูง เขาจะกัดไม่ปล่อย เช่น เอดิสัน กว่าจะคิดค้นหลอดไฟฟ้าได้ เขาต้องล้มเหลวถึง 1,000 ครั้ง เลยทีเดียว แต่คนส่วนใหญ่ พบกับความล้มเหลวเพียงไม่กี่ 10 กี่ 100 ครั้ง ก็เลิกล้มเสียแล้ว
5.ต้องมีสติในการทำงาน คนไม่มีสติ มักจะเกิดอาการสับสน หลายคนเมื่อออกจากบ้าน ก็คิดว่า ตัวเองลืมปิดไฟ ลืมปิดกุญแจ ลืมปิดน้ำ ก็เนื่องจากตนเองไม่มีสติ เช่นกัน ในการทำงานเราต้องมีสติ บางคน ทำงานแล้วเกิดข้อบกพร่องขึ้นในงาน ก็เนื่องจากความไม่มีสติ ฉะนั้น จงทำงานอย่างมีสติ แล้วก็จะไม่เกิดความเสียหายขึ้นภายในงาน ไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่เกิดความสูญเสียต่างๆ
6.ต้องทำงานอย่างฉลาด หลายคนทำงานมาก ทำงานนาน แต่ไม่มีความก้าวหน้า สาเหตุเนื่องมาจาก เขาไม่ยอมที่จะเรียนรู้งานอะไรใหม่ๆ เขาไม่ยอมที่จะแก้ไข เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน เขาไม่คิดที่จะนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้ในการทำงาน เช่น ไม่เรียนรู้ ไม่นำเอา เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ มาช่วยในการทำงาน
ดังนั้น หากท่านต้องการที่จะมีความก้าวหน้าในการทำงาน ท่านต้องรักงานที่ท่านทำ ท่านต้องให้งานสอนท่าน ท่านต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ท่านต้องมีความพยายาม ท่านต้องมีสติในการทำงานและท่านต้องทำงานอย่างฉลาด
...
  
คิด พูด ทำ ความสำเร็จ
ฟัง คิด พูด ทำ สู่ความสำเร็จของนักบริหาร


โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


ม.นเรศวร พะเยา


นักบริหารที่ต้องการประสบความสำเร็จในงานด้านบริหารจัดการ ควรมีหลักยึดของนักบริหารที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งหลักยึดในการปฏิบัตินั้นมีอยู่หลายทฤษฏี มีอยู่หลายแบบ แล้วแต่ว่าเราจะยึดหลักไหน แต่ในวันนี้กระผมขอนำเสนอ หลักยึดหนึ่งที่ทำให้ผู้บริหารประสบความสำเร็จก็คือ ฟัง คิด พูด ทำ


1.พึงฟัง เพื่อค้นหาความต้องการหรือปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นในงาน นักบริหารที่ดี ต้องรู้จัก ฟัง ฟัง ฟัง ฟัง เพื่อหาความต้องการหรือปัญหาที่แท้จริง ตั้งใจฟังในปัญหาหรือความต้องการของลูกน้องหรือลูกค้า ไม่ควรพูดในขณะที่ลูกน้องหรือลูกค้า บอกหรือบรรยายเกี่ยวกับปัญหาเพราะจะทำให้เราไม่ทราบปัญหาที่แท้จริง


สำหรับศิลปะในการฟัง คือ เมื่อลูกน้องหรือลูกค้า เล่าเรื่องหรือปัญหาอะไร เราอาจมีการตอบรับบ้าง เช่น โอ้โฮ เหรอครับ เยี่ยมเลย ครับ ค่ะ ยอดไปเลย คือฟังแล้วได้อรรถรสได้บรรยากาศ มี Feedback (การตอบสนองกลับมาบ้าง) จะทำให้ลูกน้องหรือลูกค้า รู้สึกว่าเราให้ความสนใจในสิ่งที่เขาพูดมา


2.พึงคิด คิดเป็นระบบ คิดรอบด้าน คิดในการหาทางออกของปัญหา โดยอาจมีวิธีคิด เป็นระบบ คิดในเชิงกลยุทธ์ คิดในอนาคต คิดในเชิงเปรียบเทียบ คิดในการหาทางออกของปัญหาว่าจะแก้ไขอย่างไร จึงจะดีที่สุดในสถานการณ์ในขณะนั้น เพราะ ถ้าผู้บริหารตัดสินใจผิดพลาด องค์กรนั้นอาจถึงขั้น ล้มละลายเลยก็ได้ ดังเช่น สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศในอดีตและปัจจุบัน


ในบางครั้ง ผู้บริหารหรือผู้นำ อาจคิดมากจนเกินกว่าเหตุ ซึ่งสิ่งที่คิดอาจทำให้เกิดความเครียดในการทำงานได้ เป็นความคิดที่ฟุ้งซ่านไม่มีประโยชน์ ดังคำพูดที่บอกว่า “ อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังคำพูด”


3.พึงพูด ระวังคำพูดในการพูดกับผู้ใต้บังคับบัญชา พูดในสิ่งที่ควรพูดเมื่อมีปัญหาหรือคนในองค์กร รวมทั้งลูกค้า เกิดความไม่พอใจ ไม่เข้าใจ ผู้บริหารที่ดีจึงเป็นผู้ที่ต้องรู้จักใช้คำพูด รู้ว่าเมื่อไร ควรพูด เมื่อไร ควรเงียบ เพราะการ ที่พูดออกไปโดยไม่ได้คิด ก็เหมือนกับการยิงกระสุนออกไปโดยไม่ได้เล็งเป้า และถ้าผู้บริหารหรือผู้นำ สื่อสารผิดก็จะทำให้คนในองค์การเกิดความไม่เข้าใจหรือสับสนได้


การพูดของผู้นำมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการพูดต่อหน้าที่ชุมชน จนเคยมีคนเคยกล่าวมาว่า “ ถ้าท่านไม่สามารถลุกขึ้นพูดต่อหน้าที่ชุมชนได้ ท่านอย่าปรารถนาเป็นผู้นำ ” ดังนั้นผู้ที่เป็นผู้นำหรือผู้บริหาร ทุกคนจำเป็นจะต้องลุกขึ้นพูดต่อหน้าที่ชุมชนได้ (ไม่ใช่ว่าผู้ที่ลุกขึ้นพูดต่อหน้าที่ชุมชนจะเป็นผู้นำทุกคน )แต่ผู้นำหรือผู้บริหารทุกคนจะต้องลุกขึ้นพูดต่อหน้าที่ชุมชนได้


4.พึงทำ ควรประพฤติตนให้สมกับเป็นผู้นำ ผู้บริหาร จะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี มีจริยธรรม มีคุณธรรม ถ้าผู้นำหรือผู้บริหาร ทุจริตต่อองค์กร ไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์กร ลูกน้องก็จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ถ้าผู้นำหรือผู้บริหารเป็นคนดี ขยันขันแข็ง ลูกน้องก็จะเอาเยี่ยงอย่างเช่นกันคือ ประพฤติดี ขยันขันแข็งในการทำงาน


ดังนั้น ผู้นำหรือผู้บริหารที่ดี พึงฟัง เพื่อหาความต้องการหรือปัญหาของลูกน้อง ลูกค้า


ดังนั้น ผู้นำหรือผู้บริหารที่ดี พึงคิด คิดเพื่อที่จะนำไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น


ดังนั้น ผู้นำหรือผู้บริหารที่ดี พึงพูด พูดเพื่อทำความเข้าใจกับคนในองค์กรหรือลูกค้า


ดังนั้น ผู้นำหรือผู้บริหารที่ดี พึงทำ ทำตนให้เป็นแบบอย่าง ทำตนให้น่าเชื่อถือ





ความลับของความสำเร็จ คือ เตรียมตัวให้พร้อม พัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรอโอกาสที่จะมาถึง ในวันข้างหน้า




...
  
เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน
เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ที ฮาร์ฟ เอคเคอร์(T.Harv Eker) โค้ช ผู้ฝึกสอนเกี่ยวกับการเป็นมหาเศรษฐี นักพูด วิทยากร ชื่อดังระดับโลกชาวอเมริกา ได้เขียนหนังสือ เล่มหนึ่งชื่อ ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน (Secrets of the Millionaire Mind ) เขาได้เขียนแนวความคิดของเขาในหนังสือเล่มนั้นว่า
คนเราสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้จากการที่เริ่มเปลี่ยนความคิด โดยเขาเขียนว่า
“ ความคิด ทำให้เกิด ความรู้สึก ความรู้สึก ทำให้เกิด การกระทำ เมื่อเปลี่ยนการกระทำ ผลลัพธ์จึงเปลี่ยน”
อีกทั้งเขายังยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่า สมมุติว่า เราได้ปลูกต้นไม้ขึ้นมาต้นหนึ่ง เช่น ต้นแอปเปิ้ล เมื่อต้นแอปเปิ้ล ออกผล แต่ผลแอปเปิ้ล เล็กมาก ไม่สมบูรณ์ เราสามารถเปลี่ยนลูกแอปเปิ้ลภายในต้นนี้ให้สมบูรณ์ได้ ก็ด้วยการ รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ไปที่ราก เพื่อให้ราก ส่งน้ำ ส่งอาหาร ส่งปุ๋ยไปยัง ลูกแอปเปิ้ล จึงทำให้ลูกแอปเปิ้ล สมบูรณ์
หากว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิต เราต้องเปลี่ยนแปลงตรงความคิดของเราก่อน อีกทั้งเราควรให้ความสำคัญกับความคิดของตนเองก่อน เพราะสิ่งที่เรามองไม่เห็น มันอาจจะมีความสำคัญกว่าสิ่งที่เรามองเห็น ดังตัวอย่าง ลูกแอปเปิ้ล รากมีความสำคัญมาก แต่พวกเราส่วนใหญ่มองไม่เห็น แต่พวกเรากลับไปมองเห็นที่ตัวผลของมัน เช่นกัน ชีวิตของพวกเราเป็นเช่นนี้ เหตุที่ส่งผล ก็คือความคิดนั้นเอง
กบฝูงหนึ่ง ได้แข่งขันกันปืนต้นไม้ใหญ่ ปรากฏว่า กบทุกตัว ปีนขึ้นไปก็ตกลงมา อีกทั้งกบที่นั่งเชียร์อยู่ข้างล่างก็ต่างพากัน ส่งเสียง ว่า “ ตกลงมา ” “ ตกลงมา” “ตกลงมา” แล้วกบทุกตัวก็ตกลงมาจริงๆ ทำให้กบที่นั่งเชียร์อยู่ข้างล่าง ต่างพากันหัวเราะ ชอบใจเป็นการใหญ่ แต่ปรากฏว่า มีกบอยู่ 1 ตัว ที่ปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงจุดสูงสุด กบทุกตัวต่างนั่งงง ยืนงง เป็นการใหญ่ว่า กบตัวนี้ทำได้อย่างไร เมื่อกบตัวนั้นลงมา กบทุกตัวก็ต่างไปแสดงความยินดี แล้วถามเหตุผลว่า “ ทำไมถึงปีนได้” ผลปรากฏว่า กบตัวนั้น เป็นกบที่หูหนวกตั้งแต่กำเนิด ซึ่งกบตัวนั้น ไม่ได้ยินเสียง ด่า เสียงเชียร์ว่า “ ตกลงมา” “ตกลงมา” แต่กลับคิดว่า กบทุกตัวที่อยู่ข้างล่าง ส่งเสียงเชียร์ “ ขึ้นไปอีก ขึ้นไปอีก ขึ้นไปอีก ”
ท่านผู้อ่านได้อะไรจากเรื่องนี้ ในบางครั้ง เราคิดจะทำการณ์ใหญ่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จก็เนื่องจากว่า เราอาจจะไปฟัง คำด่า คำพูด ที่เป็นลบ จากผู้คนรอบข้างของเรามากจนเกินไป จนทำให้เราเกิดความท้อแท้ใจ ฉะนั้น ในการทำงาน ในบางครั้งเราก็ควร หูหนวก บ้าง เพราะถ้าเราฟังคำพูดที่เป็นลบมากๆ ก็จะส่งผลทำให้เราเกิดความคิดที่ลบ แล้วความคิดที่ลบ นี่แหละที่จะส่งผลต่อความสำเร็จในการทำงานของเราได้
ถ้าผมถามผู้อ่านว่า “ท่านว่ายน้ำเป็นไหม” หลายคนบอกว่า “ ไม่เป็น” แต่ถ้าถามเหตุผล “ ว่าทำไม ถึงว่ายน้ำไม่เป็น” ผู้อ่านหลายคนจะต้องมีข้ออ้างต่างๆ นาๆ ว่า “ ไม่ได้ฝึก” “ กลัวจมน้ำ” “ อายไม่กล้าลงน้ำ” แต่ถ้าเราลองไปดูชีวิตของนาย นิก วูยิชิช เขาเกิดมาไม่มีแขนไม่มีขาทั้งสองข้าง แต่เขาสามารถว่ายน้ำเป็น เหตุผลที่เขาวาดน้ำเป็น เพราะภายในความคิดของเขา เขาไม่มีข้ออ้าง ว่า ทำไม่ได้ นั่นเอง
นาย นิก วูยิชิช เขาคิดว่า เขาทำได้ เขาจึงว่ายน้ำได้ ทั้งๆที่ไม่มีแขนไม่มีขาทั้ง 2 ขา ฉะนั้น ถ้าผู้อ่านอยากว่ายน้ำเป็น ความคิดของท่านจะต้องมีความเชื่อมั่นว่า ท่านทำได้ ท่านว่ายน้ำเป็นเสียก่อน แล้วท่านจะว่ายน้ำเป็นในที่สุด
สุดท้ายนี้ กระผมอยากเห็น การศึกษาของไทยเรา สอนให้เด็กคิดให้มากขึ้น เพราะการศึกษาในอดีตมักสอนให้ท่องจำ เช่น สมัยที่ผมเรียน ข้อสอบมักจะออกว่า “ กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงเมื่อ พ.ศ.อะไร” ผมเองก็ต้องท่องจำ แสดงว่า ใครที่มีความจำดีมักเป็นเด็กที่ได้คะแนนดี แต่ทำไมเราไม่สอนให้เด็กคิดเป็น เช่น 4+4 = 8 ถ้าเราออกข้อใหม่ว่า 8=........+........... (8=7+1),(8=4+4),(8=2+6),(8=3+5),(8=8+0) เด็กๆก็จะสามารถคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
...
  
หมวก 6 ใบ
หมวก 6 ใบ คิด 6 แบบ( Six Thinking Hats)
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

เมื่อพูดถึงเรื่องของความคิดและเรื่องของระบบสมองของคนเราแล้ว มีความสลับซับซ้อนมากจึงมีคนคิดค้นเครื่องมือหลากหลายชนิดมาเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ เข้าใจและเกิดความสนุกสนานในการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิด ซึ่งมีเครื่องมือต่างๆ เช่น การทำ Mind Mapping , หลักคิดแบบพุทธศาสนา โยนิโสมนสิการ และเครื่องมืออีกหลากหลาย แต่ในที่นี้กระผมขอพูดถึงเครื่องมือตัวหนึ่งคือ หมวก 6 ใบ คิด 6 แบบ หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Six thinking hats


Six thinking hats คือ เครื่องมือที่ช่วยให้การคิดมีระบบเป็นการคิดอย่างมีโฟกัส มีการจำแนกความคิดออกเป็นด้านๆ และคิดอย่างมีคุณภาพ เพื่อช่วยจัดระเบียบการคิด ทำให้การคิดของคนเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น


ดร. Edward de Bono (เอดเวิร์ด เดอ โบโน) เป็นผู้คิดเครื่องมือดังกล่าว เพื่อให้การคิดเป็นระบบเพื่อให้ผู้เรียนมีหลักในการจำแนกความคิดออกเป็น 6 ด้าน ทำให้เกิดความคิดในการแก้ปัญหาและตัดสินใจอย่างเป็นระบบ เป็นการเพิ่มศักยภาพให้ทักษะการคิด ทำให้ไม่คิดข้ามไปข้ามมา หรือคิดพร้อมกันทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ทำให้ประหยัดเวลา


การคิดตามทฤษฏีของดร. Edward de Bono (เอดเวิร์ด เดอ โบโน) ได้แบ่งหมวกออกเป็น 6 สีโดยสมมุติหมวกทั้ง 6 สี แทนความคิดด้านใดด้านหนึ่ง คือ หมวกสีขาว,หมวกสีแดง ,หมวกสีเหลือง ,หมวกสีเขียว,หมวกสีดำ และหมวกสีฟ้า ซึ่งแต่ละสีมีความหมายดังนี้


หมวกสีขาว สีแห่งความเป็นกลาง ไม่มีอคติ ไม่ลำเอียง เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและตัวเลข


หมวกสีแดง แสดงถึงความโกรธ ความเดือดดาลและอารมณ์ แสดงในมุมมองด้านอารมณ์


หมวกสีดำ สีดำมืดมนและจริงจัง หมวกสีดำคือข้อควรระวัง และคำเตือน มันชี้ให้เห็นถึง


จุดอ่อนของความคิดนั้น ๆ


หมวกสีเหลือง สีเหลืองส่องสว่าง และให้ความรู้สึกในทางที่ดี หมวกสีเหลืองจึงเป็นมุมมองในแง่บวก รวมถึงความหวัง และการคิดในแง่ดีด้วย


หมวกสีเขียว สีเขียวคือสีของหญ้า พืชพรรณ ความอุดมสมบูรณ์ การเติบโตงอกงาม


หมวกสีเขียวหมายถึงความคิดริเริ่ม และความคิดใหม่ ๆ


หมวกสีฟ้า สีฟ้าเยือกเย็น และเป็นสีของท้องฟ้าซึ่งอยู่เบื้องบนเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง หมวกสีฟ้าจึงหมายถึงการควบคุม การจัดระบบกระบวนการคิดและการใช้หมวกอื่น ๆ


ประโยชน์ของการใช้ Six Thinking Hats


1. ช่วยลดความขัดแย้งในการประชุมลงไปได้มาก


2. ช่วยให้เกิดการคิดทีละด้าน มองทีละด้าน จากด้านหนึ่งไปมองอีกด้านหนึ่ง ทำให้เห็นภาพจริงที่ชัดเจน


3. ช่วยให้ทุกคนอยากมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เป็นการดึงเอาศักยภาพของแต่ละคนออกมา


4. ช่วยประหยัดเวลาในการประชุม


สรุป เรื่องเกี่ยวกับความคิดของคนเรามีความสำคัญ คนจะร่ำรวยได้ก็เพราะการคิด คนจะประ


สบความสำเร็จก็เพราะความคิดของเขา หากคนเราคิดไปเรื่อยโดยขาดหลักหรือความรู้เกี่ยวกับความคิด ก็จะทำให้เสียเวลา หรือไม่สามารถนำเอาศักยภาพมาใช้ ดังนั้นคนเราควรเรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ หรือควรมีเครื่องมือมาช่วยให้เกิดระบบในการเรียนรู้


ท่านผู้อ่านที่สนใจ ท่านสามารถหาหนังสือ Six thinking hats ของ ดร. Edward de Bono (เอดเวิร์ด เดอ โบโน) มาอ่านได้ โดยมีผู้แปลเป็นภาษาไทย หากท่านผู้อ่านไม่ต้องการอ่านฉบับหนังสือภาษาอังกฤษ

...
  
โต้วาที เรียนต่อต่างแดนผลตอบแทนคุ้มค่า
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ ได้ร่วมเป็นกรรมการตัดสินและให้คะแนน พร้อมทั้งให้ความเห็นเสนอแนะ ในการแข่งขัน รายการ U-Debate ณ สถานีโทรทัศน์ VOICE TV ในญัตติ " เรียนต่อต่างแดนผลตอบแทนคุ้มค่า" ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง ทีม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ...
  
กล้าฝัน กล้าไล่ล่าฝัน
กล้าฝัน กล้าไล่ล่าฝัน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับสูง พวกเขามักจะเป็นคนมีความฝัน และที่สำคัญพวกเขาจะเป็นนักไล่ล่าฝัน พวกเขาจะมีความพยายาม มีความอดทนที่มากกว่าคนทั่วๆไป เมื่อล้มเหลว พวกเขาจะไม่ล้มเลิก พวกเขาเคยผิดหวัง พวกเขาเคยท้อแท้ แต่พวกเขาก็ต้องสู้จนประสบความสำเร็จ
- จิม แคร์รีย์ ดารานักแสดงฮอลลีวู้ดได้ค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน กว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ เขาต้องผ่านความเจ็บปวด เขาเคยเป็นดาราที่ตกอับ เขาเคยขับรถเก่าๆ เขาแทบจะไม่มีเงินติดตัว ครั้งหนึ่งมีคนเล่าว่า จิม แคร์รีย์ มีเป้าหมายว่าอีก 5 ปีข้างหน้าเขาจะได้ค่าตัวหรือค่านักแสดงนำจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (เรื่องนี้เกิดขึ้นปี ค.ศ.1990 ต่อมาอีก 5 ปี คือ ค.ศ.1995 เขาได้รับค่าตัวมากถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ)
มีคนเคยถาม จิม แคร์รีย์ ว่า “ตอนแรกๆที่คุณเข้าวงการคุณได้ค่าตัวไม่กี่หมื่น กี่แสนเหรียญสหรัฐ ทำไมตอนนี้คุณถึงกล้าเรียกค่าตัวมากถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ จิม แคร์รีย์ ตอบว่า “ กว่าผมจะกล้าเรียกค่าตัวขนาดนี้ ผมต้องผ่านการฝึกฝน อดทน ฝึกซ้อมบทต่างๆ มากกว่า ยี่สิบกว่าปี ผมถึงประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้)
- เฉินหลง หรือ เฉินกั่งเซิง เขาเรียนการเล่นงิ้ว เรียนมวยจีน เรียนกังฟู และการแสดงมาตั้งแต่เด็ก
เขาฝันอยากที่จะเป็นดารานักแสดง เขาต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาต้องเรียนภายในโรงเรียนเป็นเวลาสิบปี หลังจากนั้น เขาก็ได้ตระเวน แสดงกังฟู แสดงวิทยายุทธ์ แสดงงิ้ว ณ ที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีนและต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เฉินหลงก็เคยมาแสดงงิ้ว เมื่อตอนยังหนุ่มๆ และเมื่อเขาเข้าวงการแสดงภาพยนตร์ เขาต้องแสดงเป็นตัวประกอบ โดยรับจ้างเป็นนักแสดงคิวบู๊ ต้องทนเจ็บตัว และได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งเขาแจ้งเกิดในหนังเรื่องไอ้หนุ่มพันมือ ตามด้วยเรื่องไอ้หนุ่มหมัดเมา ต่อมาก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้น เฉิงหลงก็ได้เป็นดาราซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย แล้วก้าวขึ้นเป็นดารานำในระดับโลก
หลายคนคงนึกอิจฉา เฉินหลง แต่ถ้าพวกเราลองวิเคราะห์ย้อนไปในอดีต เฉิงหลงต้องฝึกการแสดงต่างๆ ลำบาก อดอยาก อดทน ตั้งแต่อายุไม่ถึง 8 ขวบ และต้องฝึกฝนการแสดงต่างๆ อีกเป็นเวลา 10 ปี แล้วเป็นตัวประกอบ ฉะนั้น หากพวกเราใช้ความพยายามทำอะไร แค่ 2-3 ปี หรือ 6-7 ปี ความสำเร็จย่อมห่างไกลเป็นอันมากเมื่อเปรียบเทียบกับ เฉินหลง มีเรื่องเล่ากันว่า มีคนไปถาม เฉินหลงว่า เคล็ดลับแห่งความสำเร็จของคุณคืออะไร เฉินหลงตอบกลับไปว่า “ คือความพยายาม”
- วอลท์ ดีสนีย์ ราชา การ์ตูน วอลท์ ดีสนีย์ เขามีนิสัยชอบวาดภาพตั้งแต่เด็ก เมื่อ 5 ขวบ เขาเข้า
เรียนวิชาศิลปะในโรงเรียนเมืองชิคาโก กลางคืนก็ยังศึกษางานศิลปะ ต่อมาเขามีความฝันอยากทำหนังการ์ตูน จึงตั้งบริษัทสร้างหนังการ์ตูนขึ้น แต่ปรากฏว่าถูกพนักงานยักยอกเงินแล้วหลบหนีไป ทำให้เขาประสบปัญหาทางการเงินจนล้มละลาย
ต่อมาเขาได้หาเงินชำระหนี้หมด ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแค่ กล้องถ่ายรูปตัวเดียว หลังจากนั้นเขาขอเช่าโรงรถของคุณอาเป็นที่ทำงาน และหยิบยืมเงินจากคุณอาและพี่ชายของเขาอีก 750 เหรียญสหรัฐ แล้วเขาก็ทำตามความฝัน ทำหนังการ์ตูนเรื่องแรกชื่อว่า “อลิซในแดนมหัศจรรย์” ขายได้เงิน 1,500 เหรียญ หักต้นทุน 750 เหรียญ เขาจึงได้กำไรจากการทำหนังเรื่องแรก 750 เหรียญ
ต่อมาเขาจึงผลิต ตัว มิดกี้ เม้าส์ และได้สร้างหนังการ์ตูนขึ้นมาอีกมากมาย ต่อมาได้ขยายกิจการไปทำสวนสนุกและสถานีโทรทัศน์
สำหรับแง่คิดที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือ “ ทำในสิ่งที่รัก ” เขาผลิตผลงานทุกชิ้นจากความรัก เขาได้เดินตามความกระหายของเขา เขาไม่ได้หมกมุ่นเรื่องเงินทอง แต่เขาหมกมุ่นในเรื่องที่เขากระหายอยากที่จะทำ เพราะเขาเชื่อว่า “ ความกระหายที่อยากจะทำ คือ พลังอำนาจ ”
จงกล้าที่จะฝัน จงกล้าที่จะล้มเหลว เพราะคนที่ไม่เคยล้มเหลวมาก่อน มักจะไม่ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.