หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
วิธีฝึกการพูดของ หลวงวิจิตรวาทการ
วิธีฝึกการพูดของ หลวงวิจิตรวาทการ
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
หลวงวิจิตรวาทการ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ชาติไทยเรา ท่านได้ทำงานในหลากหลายบทบาท เริ่มจากการเป็นนักธรรม เป็นข้าราชการ เป็นนักการเมือง เป็นนักการทูต เป็นอาจารย์ เป็นนักประพันธ์ เป็นนักปราชญ์ จากบทบาทต่างๆข้างต้น ได้ส่งผลให้ท่านได้รับตำแหน่งมากมาย เช่น
อธิบดีกรมกรมพิธีการทูต , รัฐมนตรีและอธิบดีกรมศิลปากร , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , เอกอัครราชทูตไทยประจำอินเดีย , สวิตเซอร์แลนด์ , ออสเตรีย และยูโกสลาเวีย เป็นต้น และได้รับยศทางทหารสูงสุดถึง พลตรี
ในด้านการพูดท่านเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียง ท่านเป็นนักพูดทางวิชาการที่สามารถพูดเนื้อหาสาระซึ่งฟังได้อย่างเพลิดเพลิน การใช้ถ้อยคำของท่านใช้ถ้อยคำที่ง่ายๆ เต็มไปด้วยพลัง มีการลำดับขั้นตอนที่ไม่สับสน มีลีลาการพูดที่เรียบร้อย แต่สามารถตรึงความสนใจของผู้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
หลวงวิจิตรวาทการ ไม่ได้เป็นคนพูดเก่งมาตั้งแต่เกิด แต่ตรงกันข้าม หลวงวิจิตรวาทการเป็นคนที่พูดติดอ่าง ซึ่งเป็นอุปสรรคเป็นอันมากต่อการสื่อสาร หลังจากนั้นท่านได้ทำการแก้ไขตนเองจนกระทั่งพัฒนาตนเองมาเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาติไทย สำหรับคนที่มีปัญหาพูดติดอ่าง ท่านได้แนะนำวิธีการแก้ไข การพูดติดอ่างไว้ 2 ประการ คือ
1.พยายามทำให้คำพูดหนักแน่นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
2.พยายามเป็นนายตัวเอง และมีดวงจิตเป็นสมาธิแน่วแน่อยู่เสมอ
สำหรับวิธีฝึกการพูดของ หลวงวิจิตรวาทการ ท่านได้แสดงปาฐกถาและมีคนนำเอามาทำเป็นหนังสือเป็นจำนวนมาก ปาฐกถา ชื่อเรื่อง สมบัติของนักพูด โดยมีใจความสรุปย่อๆดังนี้
ประการที่ 1 จงทำตัวให้เป็นคนทันสมัย ทันเหตุการณ์ ท่านแนะนำให้อ่านหนังสือพิมพ์รายวันฉบับที่ดีๆ อย่างน้อยวันละฉบับ การอ่านหนังสือพิมพ์จะทำให้เราพูดเก่ง มีเรื่องที่จะสนทนาและทำให้เป็นคนที่ทันสมัยอยู่เสมอ
ประการที่ 2 พยายามท่องจำสุภาษิต คำพังเพย ให้มากๆ เพราะสุภาษิตหรือคำพังเพย เหล่านี้กว่าจะมีขึ้นมาได้ ผู้ตั้งสุภาษิตหรือคำพังเพยต้องใช้เวลาคิดแล้วคิดอีก ผู้ที่จดจำสุภาษิตได้มากๆย่อมสามารถคิดคำพูดที่สละสลวยขึ้นมาได้
ประการที่ 3 เวลาอ่านหนังสือต่างๆ ที่มีผู้แต่งดีๆ ควรจะจดถ้อยคำที่คมคายเอาไว้ เพื่อใช้ในการพูด และควรที่จะท่องจำให้ได้มากๆ เพราะถ้าหากเราท่องจำได้มากๆ ย่อมจะทำให้เราเกิดมีความคิดที่จะหาคำพูดที่คมคายใหม่ๆ มาเป็นของเราได้
ประการที่ 4 สมาธิ คือ ความคิดแน่วแน่อยู่ในถ้อยคำที่เราพูด อย่าให้มีอะไรมารบกวนใจในเวลาพูด เป็นนายของตนเอง มีดวงจิตที่แน่วแน่ อีกทั้งควรพูดให้มีน้ำหนักคือจะต้องพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ รู้จักเน้นคำตรงที่ควรจะเน้น ส่วนเสียงไม่ดีไม่เป็นของสำคัญ เพราะคนที่มีเสียงไม่ดีเลย แต่ก็เป็นนักพูดที่ดีก็มีถมไป แต่ควรพูดให้เกิดความกระจ่างแจ้ง ควรพูดช้าๆให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอ บางประโยคก็ควรพูดเร็วกว่าธรรมดา หรือควรพูดช้ากว่าธรรมดา อีกประการหนึ่งที่หลวงวิจิตรวาทการให้คำแนะนำคือ ท่าทาง มีคนเป็นจำนวนมากคิดว่า การออกท่าทางประกอบการพูดให้มากๆ เป็นการดี แต่ที่จริงแล้วจะกลับทำให้คำพูดเสียไป หลวงวิจิตรวาทการ สังเกตจากการที่ท่านได้เข้าร่วมประชุมนานาประเทศครั้งใหญ่ๆ ท่านสังเกตเห็นว่า นักพูดที่เก่งที่สุดนั้น เขาจะใช้ท่าทางน้อยที่สุด เขาจะระวังไม่ให้โยกโคลง แต่จะมีการเคลื่อนไหวบ้างก็แต่เล็กน้อย และมีการเคลื่อนไหวที่มีความหนักแน่นอยู่ในตัวเสมอ
ทั้ง 4 ประการนี้ ข้างต้นนี้ ท่านสามารถหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากหนังสือ การพูดเบื้องต้น ของ รศ.ฉัตรวรุณ ตันนะรัตน์ ซึ่งเป็นหนังสือเรียนรายวิชา MC130 ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง


...
  
ปัจจัยที่ส่งผลให้ชนะการเลือกตั้งโดยไม่ใช้เงินซื้อเสียง
ปัจจัยที่ส่งผลให้ชนะการเลือกตั้งโดยไม่ใช้เงินซื้อเสียง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
การเลือกตั้งในยุคปัจจุบัน หากท่านต้องการประสบความสำเร็จหรือได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง การใช้เงินในการซื้อเสียง ถือว่าผิดกฎหมาย แต่ก็เป็นปัจจัยแรกๆ ที่ส่งผลให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีเงินในการซื้อเสียง ท่านอาจจะได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องใช้เงินในการซื้อเสียง ก็ด้วยปัจจัยดังนี้
1.องค์กรของรัฐที่ดูแลการเลือกตั้ง เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องต่อต้านการซื้อเสียงเลือกตั้งอย่างเอาจริงเอาจัง อีกทั้งควรเพิ่มบทลงโทษให้หนักและรุนแรงมากขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้เงินในการซื้อเสียงเลือกตั้ง
2.เกิดกระแสฟีเวอร์ เช่น ในสมัยหนึ่ง มีกระแสนิยมในตัวของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จนกระทั่งเกิดกระแส จำลองฟีเวอร์ ในขณะเดียวกัน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ก็ได้ก่อตั้งพรรคพลังธรรมขึ้นมา แล้วก็ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ผลปรากฏว่า มีประชาชนจำนวนมากได้ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคพลังธรรม ก็เพราะด้วยความศรัทธาในตัวของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นต้น
3.ความเด่น ความดัง ความมีชื่อเสียง หลายๆคนประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องใช้เงินในการซื้อเสียง เช่น อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ นักแสดงดัง เขาแสดงภาพยนตร์หลายๆเรื่อง แต่ที่โด่งดังก็คือเรื่อง คนเหล็ก เขาชนะการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2546 และ ปี 2549 สำหรับประเทศไทยเราก็มีคนเด่น คนดัง คนมีชื่อเสียงอีกจำนวนมากที่ไม่ต้องใช้เงินในการซื้อเสียง
4.การตื่นตัวของประชาชน เช่น หลังเหตุการณ์ วันมหาวิปโยค(14 ตุลาคม 2516) และ หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 17-20 พฤษภาคม 2535 ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นจำนวนมากที่ไม่ใช้เงินในการซื้อเสียง แต่สามารถได้รับชัยชนะ ก็เนื่องมาจากประชาชนในพื้นที่เกิดการตื่นตัวอยากที่จะได้นักการเมืองที่มีคุณภาพมากกว่าต้องการอามิสสินจ้างใดๆ
5.ความโดดเด่นทางการพูด นักการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบัน ชนะการเลือกตั้งโดยไม่ใช้เงินในการซื้อเสียงก็เนื่องมาจากความสามารถในการพูด เช่น อับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั้งๆที่ตนเองก็ไม่ได้มีฐานะการเงินที่ดี แต่เขามีความสามารถในการพูดการสื่อสาร , อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของชาวเยอรมัน ครอบครัวของเขามีฐานะที่ไม่สูงดีนัก เขาเคยไปเป็นกรรมกร เขาเคยเป็นจินตกรขายภาพวาดสีน้ำ แต่สุดท้ายเขาได้เป็นผู้นำของประเทศเยอรมันนี ก็ด้วยเพราะความสามารถในการพูดจูงใจคนของเขานั้นเอง ประเทศไทยของเราก็มีนักการเมืองหลายๆคนที่มีความสามารถในการพูด ซึ่งทำให้ได้รับชนะในการเลือกตั้งโดยที่ไม่ต้องใช้เงินในการซื้อเสียง
6.การสร้างผลงานและการสะสมผลงาน นักการเมืองหลายๆคน ได้รับชัยชนะโดยไม่ได้ใช้เงินในการซื้อเสียง ก็เนื่องมาจากการที่ตนเองได้ สร้างผลงานฝากไว้ให้กับคนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดหลายๆคน ได้มีการพัฒนา ได้มีการปรับปรุง ได้มีการสร้างสิ่งแปลกๆใหม่ๆให้กับจังหวัดหรือในพื้นที่ ที่ตนไปอยู่ การฝากผลงานและการสะสมผลงาน ให้กับคนในพื้นที่เป็นจำนวนมากๆ เมื่อเกษียณอายุแล้ว ไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ผลปรากฏว่าได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นโดยไม่ได้ใช้เงินในการซื้อเสียง
ปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ประสบชัยชนะโดยไม่ต้องใช้เงินในการซื้อเสียง ซึ่งบุคคลที่ประสบชัยชนะไม่จำเป็นจะต้องมีปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทุกปัจจัย บางคนมีแค่ 1-2 ปัจจัยก็สามารถนำมาซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งโดยไม่ต้องใช้เงิน แต่สิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดก็คือ ความรัก ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ใช้เงินในการซื้อเสียงจะต้องมีมากพอที่จะเอาชนะอำนาจเงินของนักเลือกตั้งที่ใช้เงินในการซื้อเสียงได้







...
  
การประชาสัมพันธ์เพื่อการตลาด
การประชาสัมพันธ์เพื่อการตลาด

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก

www.drsuthichai.com

การประชาสัมพันธ์มีความสำคัญต่อการทำการตลาด เพราะการประชาสัมพันธ์ ทำให้เกิดความเข้าใจ ทำให้เกิดการสร้างการยอมรับ ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ทำให้เกิดการชื่มชม ยินดี ทำให้เกิดความร่วมมือ สร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียง แก่บริษัท แก่องค์กร แก่สินค้า

ในความคิดเห็นส่วนตัวของกระผม ถ้าหากบริษัท ห้างร้าน องค์กรใด มีเงินทุนที่จำกัด ถ้าให้เลือกระหว่าง การทำโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ กระผมจะเลือกทำการประชาสัมพันธ์ก่อน เพราะการประชาสัมพันธ์ จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และถ้าหากจะเทียบผลตอบแทนแล้ว ประชาสัมพันธ์จะได้รับผลตอบแทนที่มีความคุ้มค่ามากกว่าการโฆษณา

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นคนหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง ก็โดยการเป็นนักประชาสัมพันธ์ นักการตลาด ให้กับบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด เขาดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ จนได้รับฉายาว่าเป็นนักสร้างภาพชั้นเซียนของบริษัทโตโยต้า จนกระทั่งผู้บริหารของโตโยต้าที่ญี่ปุ่น ให้เขากระโดดจากตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายไปเป็นกรรมการบริหารโดยไม่ต้องเป็น กรรมการสมทบก่อน โดยการเป็นคนเก่งงานด้านการประชาสัมพันธ์และงานด้านการตลาด ต่อมา เขาได้ เป็น สส.พรรคเพื่อไทย หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท.จำกัด

นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าของฉายา Image maker ซึ่งเขาก็เอาหลักการประชาสัมพันธ์และหลักการตลาด มาใช้กับบุคคลโดยการทำธุรกิจปั้นดารา ขึ้นมา เพราะเขาคิดว่า ขนาดรถหรือสินค้าต่างๆ สบู่ ยาสีฟัน รองเท้า เสื้อผ้า กางเกง ยังปั้นได้ ทำไม ดาราจะปั้นไม่ได้ ซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปั้นดารา ดาราที่มีชื่อเสียงหลายคนที่เขาปั้น เช่น วิลลี แมคอินทอช ,จอห์นนี่ แอนโฟเน่ , ดอม เหตระกูล , ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง เป็นต้น





ทำไมต้องมีการประชาสัมพันธ์เชิงการตลาด ก็สืบเนื่องมาจากสาเหตุดังนี้

1. ค่าใช้จ่ายในการใช้สื่อโฆษณามีราคาสูงขึ้น ในทางกลับกัน การประชาสัมพันธ์กลับเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสื่อน้อยกว่า และส่วนใหญ่จะเป็นการขอความอนุเคราะห์ ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนมากกว่า

2. สื่อต่างๆในยุคปัจจุบัน มีหลายชนิด หลายประเภทมากขึ้นกว่าในอดีต จึงทำให้การใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ จำเป็นจะต้องมีการวางแผนใช้สื่อที่แยกย่อยมากขึ้น และควรใช้สื่อให้ครบทุกประเภทเพื่อให้กลุ่มลูกค้าและประชาชนได้เห็น ข่าวสารที่เราต้องการสื่อได้มากที่สุด สรุปคือต้องใช้เครื่องมือสื่อสารแบบผสมผสานกัน

3.ทัศนคติ ความต้องการ รสนิยม ความชอบ กระแส ของกลุ่มเป้าหมายมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่อยู่นิ่ง และมีการเปลี่ยนแปลงไวขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา

การประชาสัมพันธ์เพื่อการตลาดที่ดี เราอาจจะมีการแบ่งกลยุทธ์หรือวางแผนการประชาสัมพันธ์ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

1. แบบรุก เป็นการประชาสัมพันธ์แบบสร้างสรรค์ คือมุ่งสร้างสรรค์หาโอกาสทางการตลาดใหม่ๆให้กับ บริษัท ห้างร้าน สินค้าของตนเองมากกว่า ที่จะรอคอยให้ปัญหาเกิดขึ้นแล้วถึงจะมาแก้ไข ในภาวะปกติหรือภาวะที่มีการแข่งขันอย่างในปัจจุบัน การประชาสัมพันธ์แบบรุก จึงมีความจำเป็นและมีความสำคัญเป็นอันมาก

2. แบบรับ เป็นการประชาสัมพันธ์ที่มุ่งแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น กับ องค์กร บริษัท ห้างร้าน สินค้าของตนเอง ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านั้น มักที่จะทำลายชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าหรือบริษัท แนวทางในการประชาสัมพันธ์แบบตั้งรับ ก็คือ การเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีความถูกต้อง ชัดเจน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา และ มีการตั้งทีมงานคอยควบคุมข่าวลือ ข่าวสารที่เป็นเท็จ มีการตั้งทีมงานการประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะจัดการกับภาวะวิกฤตหรือวิกฤตต่างๆที่จะเกิดขึ้น เป็นต้น

ดังนั้น การประชาสัมพันธ์ จึงมีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำการตลาดให้กับสินค้า บริการ ในยุคปัจจุบัน ซึ่งหลักในการทำการประชาสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ เราอาจจะต้องคำนึงถึงปัจจัยดังนี้

1.ต้องใช้มืออาชีพในการวางแผนการทำประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ที่ดีจะต้องมีนักวางแผนมืออาชีพช่วย ในการวางแผน วางกลุ่มเป้าหมาย วางแนวทางในการทำงาน วางเนื้อหา วางคนในการนำเสนอ วางจังหวะในการรุกและรับ เป็นอย่างดี

2.ต้องเชื่อในพลังแห่งการสื่อสาร มีนักวิชาการเคยกล่าวไว้ว่า “ ใครมีสื่อในมือคนนั้นมีอำนาจ ” หรือ “ สื่อเป็นที่มาของอำนาจ” เพราะหากใคร พูดเก่ง พูดได้ถูกจังหวะ เวลา และรู้ว่าควรพูดผ่านช่องทางไหน เขาย่อมกำชัยชนะ รวมไปถึงงานด้านการตลาดด้วย

3.ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้มีความชัดเจน ไม่คลุมเครือ เช่น ต้องรู้ว่า ลูกค้ากลุ่มใด วัยใด อายุเท่าไร คือลูกค้าของเรา สินค้าใดมีความเหมาะสมกับ คนเพศใด วัยใด อายุเท่าไร เป็นต้น

4.ต้องมีงบประมาณในการประชาสัมพันธ์ เงินคือปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลให้การประชาสัมพันธ์ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว หรือมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน บริษัท ห้างร้าน จึงต้องจัดสรรเงินในการทำการประชาสัมพันธ์ของสินค้าของตนเอง

5.ต้องมีเครือข่ายสนับสนุน การทำงานประชาสัมพันธ์ให้ประสบความสำเร็จ การหาเครือข่ายต่างๆช่วยเหลือ มีความจำเป็น อย่างมาก เช่น มีสื่อมวลชนช่วย , มีดาราหรือมีบุคคลที่มีชื่อเสียงช่วย , มีนักวิชาการ รวมไปถึงมีมวลชนให้การช่วยเหลือ เป็นต้น

6.ต้องสร้างความถี่ในลูกค้าได้เห็น สินค้า หรือ เจ้าของสินค้า ต้องขยันออกสื่อ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำและสมควรทำ การเสนอหน้าต่อสื่อจะทำให้ลูกค้าเกิดความคุ้นเคย และรู้จักสินค้าของเรามากขึ้น

7.ต้องมีการจัดกิจกรรมพิเศษหรือมีการจัดเหตุการณ์พิเศษบ้าง เช่น การจัดงานแสดงต่างๆ งานแสดงการค้า การแสดงโชว์ การแสดงศิลปะ การแสดงโชว์รถ เป็นต้น

8.ต้องมีการประกาศ เผยแพร่ข้อมูลทางสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ นิตยสาร เอกสารแจกลูกค้า วิทยุ สื่อสมัยใหม่โดยผ่านช่องทางทางอินเตอร์เน็ต

9.ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมบ้าง โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมปลูกป่า, กิจกรรมบริจาคหนังสือ , กิจกรรมพัฒนาชนบท ,กิจกรรมสร้างบ้านให้คนยากจน,กิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นต้น

ฉะนั้น การประชาสัมพันธ์จึงมีความสำคัญต่อการทำงานด้านการตลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าทำการประชาสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ก็จะทำให้ บริษัท ห้างร้าน สินค้าของตนเอง ได้รับการยอมรับ ได้รับการสนับสนุน ได้รับผลประโยชน์ จากกลุ่มลูกค้าและประชาชน ตรงกันข้าม ถ้าหาก บริษัทใด ห้างร้านใด สินค้าใด ไม่มีการทำการตลาดผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ บริษัทนั้น ห้างร้านนั้น สินค้านั้น ก็จะขาดซึ่งการยอมรับ การสนับสนุน จากกลุ่มของลูกค้าและประชาชน ...
  
วิธีสร้างความกล้าในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
วิธีสร้างความกล้าในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนเป็นจำนวนมากเมื่อถูกเชิญให้ขึ้นไปพูดต่อหน้าที่ชุมชนแล้ว มักเกิดอาการประหม่า ไม่มีสมาธิ วิตกกังวล ไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง สั่น เกิดความกลัว ไม่สามารถจัดเรียงความคิดให้เป็นปกติได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้ เกิดขึ้นกับผู้พูดต่อหน้าที่ชุมชนทุกๆคน แต่สำหรับคนที่ผ่านการฝึกฝน การพูดต่อหน้าที่ชุมชนมาเป็นจำนวนมากหรือขึ้นเวทีบ่อยๆ อาการต่างๆเหล่านี้ ก็จะลดน้อยลงไป ทั้งนี้ ท่านสามารถแก้ไขตัวท่านเอง จากอาการเหล่านี้ได้โดย
1.เริ่มต้นด้วยความรัก ถ้าท่านถูกเชิญให้ไปพูดในหัวข้อต่างๆ แล้วท่านอยากที่จะไป ท่านอยากที่จะพูด นั้นแสดงว่า เมล็ดพันธุ์แห่งความกล้าในการพูดต่อหน้าที่ชุมชนได้ถูกปลูกฝังไปยังตัวของท่านแล้ว แต่ในทางกลับกัน ถ้าท่านถูกเชิญให้ไปพูดในหัวข้อต่างๆ ท่านรู้สึกไม่ชอบ ไม่มีความสุข ท่านก็จะไม่มีความมั่นใจ ท่านจะไม่สนุกกับมัน ความกล้าของท่านก็จะลดลง
2.เตรียมตัว เตรียมเนื้อหา ในการพูดทุกๆครั้ง การเตรียมตัวจะช่วยให้เกิดความกล้า และความมั่นใจมากขึ้นในการพูด ซึ่งการเตรียมตัว ต้องรวมไปถึง การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนที่จะไปพูดจริงๆ อีกทั้ง การเตรียมเนื้อหา ก็ต้องเตรียมให้มากกว่าที่จะไปพูดจริงๆ เพราะถ้าเราเตรียมเนื้อหาไปน้อยกว่าเวลาที่ผู้จัดได้มอบให้ เวลาพูดก็จะเหลือมาก การเตรียมเนื้อหาจึงควรเตรียมเนื้อหาให้มากกว่าเวลาที่เขามอบให้พูด ซึ่งหากว่าใกล้จะหมดเวลา เราก็สามารถตัดทอนเนื้อหาบางส่วนออก เพื่อให้การพูดของเราจบตรงเวลาที่ได้รับมอบหมาย การเตรียมเนื้อหา ยังรวมไปถึง ว่าเราจะขึ้นต้นอย่างไร ตรงกลางเราจะพูดอย่างไร สรุปจบปิดท้าย เราจะพูดอะไรด้วย
3.ฝึกซ้อมการพูด มีความสำคัญมาก เพราะการฝึกซ้อมการพูดจะทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นในการที่จะนำไปพูดจริงๆ เมื่อเรา เตรียมเนื้อหาแล้ว เราก็ควรฝึกซ้อมการพูดของเรา อาจจะฝึกต่อหน้ากระจก ฝึกซ้อมกับบุคคลที่เราคุ้นเคย ฝึกซ้อมในขณะที่ทำกิจกรรมต่างๆคนเดียว ดังเช่น นักพูดที่โด่งดังในระดับโลกในอดีต ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ ฝึกซ้อมการพูดในขณะเดินทางซึ่งต้องอยู่บนหลังม้า(ในอดีตไม่มีรถ เวลาเดินทางไปไหนเป็นระยะเวลาไกลๆ จึงต้องใช้ม้า) , เดล คาร์เนกี ฝึกซ้อมการพูดคนเดียวในขณะถอนหญ้าอยู่ภายในสวน สำหรับกระผม กระผมจะฝึกซ้อมการพูด เวลาเดินออกกำลังกาย ทั้งนี้ การฝึกซ้อมการพูดไม่มีรูปแบบใดที่ดีที่สุดหรือเหมาะสมกับทุกคน แต่ต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเป็นหลักว่า ชอบหรือมีจริตอย่างไร
4.รู้จักระงับอาการตื่นเวทีบ้าง ในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน อาการตื่นเวที มีด้วยกันทุกคน เพียงแต่ใครจะมีมากหรือน้อย หรือควบคุมมันได้มากหรือน้อยแค่ไหน เริ่มจากความคิดของเราเองก่อนเป็นอันดับแรก เราต้องไม่คิดฟุ้งซ่าน เราต้องไม่คิดกังวล หลังจากที่เราเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เราต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเตรียมมา พูดออกไปให้มันเต็มที อีกทั้งควรมีการผ่อนคลาย ผ่อนอารมณ์ เช่น ดื่มน้ำอุ่นๆ สักเล็กน้อย , สูดหายใจลึกๆ ให้เต็มปอดอย่างช้าๆสัก 3-5 ครั้ง เมื่อถูกเชิญก็ควร ยิ้มแย้ม แจ่มใส ปรับทางเดินอย่างกระตือรือร้น พร้อมทั้งปรากฏกายอย่างสง่าผ่าเผย กระฉับกระเฉง
5.หาเวทีแสดงบ่อยๆ ความขลาดกลัวเกิดจากความไม่มั่นใจ ความไม่มั่นใจเกิดจากการทำสิ่งเหล่านั้นยังไม่มากพอหรือบ่อยพอ วิธีที่ทำให้เกิดความกล้าหรือความมั่นใจก็คือ ทำสิ่งนั้นบ่อยๆ ถ้าท่านกลัวการขี่ม้า ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้ท่านกล้าขี่ม้าได้ นอกจากการที่ท่านต้องขึ้นไปขี่มัน ฉะนั้น ถ้าท่านกลัวสิ่งไหน ก็เข้าไปหาสิ่งนั้น ถ้าท่านกลัวการขึ้นไปพูดต่อหน้าที่ชุมชน ไม่มีทางอื่นที่จะทำให้ท่านกล้าขึ้นมาได้ มีทางเดียว คือ ท่านจะต้องขึ้นไปพูดบ่อยๆ นั้นเอง


...
  
การพูดและการเป็นโฆษกที่ดี
การพูดและการเป็นโฆษกที่ดี
ดร. สุทธิชัยปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพิษณุโลก
www.drsuthichai.com
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของคำว่า
โฆษกหมายถึงผู้ประกาศ ผู้โฆษณา เช่นโฆษณาสถานีวิทยุ ผู้แถลงข่าว แทนเช่นโฆษกพรรคการเมือง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้ความหมายของคำว่า
โฆษกหมายถึง ผู้ประกาศ ผู้โฆษณา หรือผู้แถลงข่าวแทน
ดังนั้น ความหมายของโฆษก โดยรวมก็คือ ผู้เป็นปากเป็นเสียงแทน ผู้ประกาศ ผู้โฆษณา ผู้ที่ทําหน้าที่ ส่งมอบข่าวสาร และข้อมูลต่างๆ ให้แก่สาธารณชน หรือประชาชนได้รับรู้
คุณลักษณะของการเป็นโฆษกที่ดีคือ
1 มีข้อมูลมีข่าวสารมีความรู้ มีความเข้าใจในเรื่องที่ตัวเองพูด
2 มีความน่าไว้วางใจมีความน่าเชื่อถือ
3 เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นที่ชื่นชอบของสาธารณชนหรือสื่อมวลชน
4 มีความสามารถทางด้านการพูดการสื่อสาร
โฆษกควรมีทักษะในการสื่อสารที่ดีดังนี้
1 การใช้คำ อย่างถูกต้อง เหมาะสม
2 การใช้น้ำเสียง การใช้เสียง ประกอบ การพูดให้ถูกต้องกับสถานการณ์ นั้นๆ
3 การใช้อวัจนภาษา การใช้ท่าทางประกอบการพูด อย่างสอดคล้องเหมาะสม
จากเนื้อเพลง ผู้ใหญ่ลี
พศ 2504 ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม
ชาวบ้านต่างมาชุมนุม มาประชุมที่บ้านผู้ใหญ่ลี
ต่อไปนี้ผู้ใหญ่ลีจะขอกล่าว ถึงเรื่องราวที่ได้ประชุมมา
ทางการเขาสั่งมาว่า ทางการเขาสั่งมาว่า
ให้ชาวนาเลี้ยงเป็ดเลี้ยงสุกร
ฝ่ายตาสีหัวคลอน ถามว่าสุกรนั้นคืออะไร
ผู้ใหญ่ลีลุกขึ้นตอบทันใด ผู้ใหญ่ลีลุกขึ้นตอบทันใด
สุกรนั้นไซร้คือหมาน้อยธรรมดา
หมาน้อย หมาน้อยธรรมดา หมาน้อย หมาน้อยธรรมดา
จากเนื้อเพลงข้างต้น จะสะท้อนให้เห็นถึงการสื่อสารระหว่างข้าราชการหรือทางการกับชาวบ้าน ที่มีความผิดพลาด มีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน เราสามารถนำมาวิเคราะห์โดยผ่าน กระบวนการสื่อสาร ว่า เกิดความผิดพลาดตรงไหน อย่างไร
กระบวนการสื่อสาร มีดังนี้
1 ผู้ส่งสาร 2 สาร 3 ช่องทาง 4 ผู้รับสาร
1 ผู้ส่งสาร คือ ข้าราชการ ผู้รับนโยบาย จากรัฐบาล มาส่งต่อให้กับผู้นำชุมชน
2 สาร คือ การส่งเสริมให้ชาวนาและเกษตรกร เลี้ยงเป็ดและ สุกร(หมู)
3 ช่องทาง คือ การประชุม การใช้ไมโครโฟนพูดในที่ประชุม
4 ผู้รับสาร คือ ผู้ใหญ่ลี ที่เข้าใจผิด คิดว่า คำว่าสุกร หมายถึง หมาน้อย
จากกรณีศึกษาข้างนี้ เราจะแก้ไขอย่างไร...ให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดหรือไม่เกิดความผิดพลาดขึ้น...
ข้อที่ 1 ผู้ส่งสาร ควรเปิดโอกาสให้มีการซักถาม ปัญหา หรือความไม่เข้าใจต่างๆ จากผู้รับสาร
ข้อที่ 2 สาร ผู้ส่งสารได้ใช้ภาษาราชการ ซึ่งมาจากส่วนกลาง เพราะในยุคนั้นชาวบ้านหรือผู้นำท้องถิ่นมักจะ คุ้นเคยกับภาษาท้องถิ่น(หมู)มากกว่าภาษาจากส่วนกลาง(สุกร) เพื่อลดความผิดพลาด ควรใช้ภาษาท้องถิ่น หรือภาษาที่ชาวบ้านใช้ในท้องถิ่นนั้นๆ สื่อสารจะเกิด ประสิทธิภาพ มากขึ้น
ข้อ 3 ผู้รับสาร คือผู้ใหญ่ลี เมื่อเกิดความไม่เข้าใจ หรือข้อสงสัย ก็ควรสอบถาม ข้าราชการ หรือทางการ ที่ส่งสาร หรือข้อมูล
...
  
โฆษกกับการพูดที่ดี
โฆษกกับการพูดที่ดี
ดร. สุทธิชัยปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพิษณุโลก
www.drsuthichai.com
การเป็นโฆษกที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การพูด ซึ่งเป็นการสื่อสารระหว่างบุคคลที่ง่ายกว่าการเขียน แต่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายกว่าการเขียน
พล.เอก ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีได้เคยกล่าวไว้ว่า “ ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด หลังพูดคำพูดเป็นนายของเรา”
พวกเราหลายคนคงเคยเล่นเกมส์การสื่อสารโดยการพูด โดยให้คนมาเรียงแถวกัน แล้วให้คนอยู่หัวแถวกระซิบบอกประโยคหนึ่งไปให้คนที่สองและคนที่สองก็กระซิบให้คนถัดไป จนถึงคนสุดท้าย แล้วคนสุดท้ายบอกข้อความที่คนหัวแถวได้พูดเอาไว้ ผลปรากฏว่า เนื้อหามีความผิดเพี้ยนไปจากข้อความเดิม
แต่ในทางกลับกัน หากว่าเราเขียนข้อความให้ คนหัวแถวอ่านแล้วส่งข้อความไปให้คนที่สองอ่านและคนที่สองก็ส่งข้อความให้คนถัดไป จนถึงคนสุดท้าย แล้วให้คนสุดท้ายอ่าน ผลปรากฏว่า เนื้อหาที่เขียนก็ยังคงเดิม
ฉะนั้น ผู้ที่เป็นโฆษกที่ดี จึงต้องมีความสามารถในการถ่ายทอดทางการพูดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความผิดพลาดที่น้อยที่สุด
เพื่อให้ก่อประสิทธิภาพในการพูด โฆษกควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ในเวลาพูด คือ
1.วิเคราะห์ผู้ฟัง ว่าผู้ฟังเป็นใคร มีความต้องการอะไร รวมไปถึงเรื่องของ เพศ วัย อายุ อาชีพ
2.ต้องตั้งใจฟัง เพราะถ้าอยากจะรู้ว่า ผู้ฟัง มีความต้องการอะไร ในเวลาสนทนากัน ผู้ที่เป็นโฆษกจะต้องตั้งใจฟัง เพื่อจะได้รับรู้ความต้องการของผู้ฟังที่แท้จริง
3.น้ำเสียงที่พูดต้องมีความเหมาะสมกับเรื่องที่พูด เพราะถ้อยคำบอกถึงภาษา แต่น้ำเสียงทำให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นภายในจิตใจ เช่น ผมตะคอกสุนัขหรือหมาด้วยน้ำเสียงที่ดุ เสียงดัง แล้วบอกสุนัขหรือหมาให้ “ มา , มา , มานี้ ” ปรากฏว่าสุนัขหรือหมากลัว ถอยห่าง แต่ตรงกันข้าม ผมทำเสียงเบาๆ ไล่หมา “ ไป , ไป , ไป” ปรากฏว่า สุนัขหรือหมากับมาเลียที่เท้า ผม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ผมไล่สุนัขหรือหมาให้ไป มันกับมาเข้าใกล้ผม ผมเรียกมา มันกลับไม่อยากที่จะเข้าใกล้ผม เหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะน้ำเสียงของผมไงครับ
4.การใช้คำพูด ภาษาอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการพูดต่อหน้าที่ชุมชน เมื่อโฆษกได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ผู้ประกาศ ตามเวทีหรือตามรายการวิทยุ ก็คนเรียกชื่อคน ตำแหน่งของคนให้ถูกต้องแม่นยำ ไม่ควรกล่าวชื่อหรือตำแหน่ง ผิดๆ ถูกๆ
5.การใช้สีหน้า ท่าทาง ควรเหมาะสมกับสถานการณ์ที่พูด เช่น เมื่อเกิดสถานการณ์หรือมีภัยพิบัติ ผู้คนล้มตาย เวลาไปพูด ก็ไม่ควรพูดเรื่องที่ตลก ทำหน้าท่าทางยิ้มแย้ม แจ่มใส เพราะผู้คนเขายังอยู่ในอาการที่โศกเศร้า
6.สาระของเนื้อหาที่จะพูด ต้องมีการเตรียมตัว เรียงร้อยลำดับเรื่องที่จะพูด เช่น จะขึ้นต้นอย่างไร เนื้อหาอย่างไร สรุปจบอย่างไร ตลอดจนเนื้อหาควรมีการอ้างอิง ทฤษฏี หลักฐาน ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ
สำหรับข้อควรระวังเมื่อท่านต้องเป็น โฆษก คือ
1.ไม่ควรกล่าวแนะนำตัวเองมากจนเกินไป เพราะผู้ฟังอยากที่จะฟังเนื้อหา สาระ ข้อมูล ข่าวสาร มากกว่า อีกทั้งการพูดถึงตัวเองมากเกินไป คนฟังมักจะหมั่นไส้โฆษกได้
2.ควรอ่านหรือพูดออกเสียง ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง ของวิทยากรหรือบุคคลที่เราแนะนำให้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด
3.ไม่ควรใช้ภาษาที่เข้าใจยาก ในการพูด บางคน ใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษคำไทยคำ
4.ควรเข้าไปสอบถาม วิทยากรหรือผู้พูดที่เราต้องการแนะนำว่า ชื่อ สกุล ตำแหน่ง ข้อมูลต่างๆถูกต้องหรือไม่ ทางที่ดีก็ควรพิมพ์ไปให้เขาอ่าน ตรวจทานความถูกต้องเสียก่อน
...
  
เทคนิคการบริการและการแก้ปัญหาความขัดแย้งตามหลักธรรมาภิบาล
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " เทคนิคการบริการและการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ตามหลักธรรมาภิบาล" ณ โรงแรม เอส ดี อเวนิว ให้แก่พนักงานเดินหมายของกรมบังคดี รุ่นที่ 1 ...
  
การนำเสนอและการพูดต่อหน้าที่ชุมชนที่ดี
การนำเสนอและการพูดต่อหน้าที่ชุมชนที่ดี
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ในการนำเสนอและการพูดต่อหน้าที่ชุมชนที่ดี เป็นทั้งศาสตร์และศิลปะที่สามารถเรียนรู้และพัฒนากันได้ บางคนนำเสนอและมีการพูดต่อหน้าที่ชุมชนที่ดี เช่น สตีฟ จอบส์ ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ทั่วโลกว่า เวลาเปิดตัวสินค้าของบริษัทของเขา จะได้รับความสนใจเป็นอันมาก จากสื่อมวลชนและจากกลุ่มลูกค้าที่ติดตาม
ในบทความฉบับนี้ เราจะมาพูดถึงกันในหัวข้อ เทคนิคในการนำเสนอและการพูดต่อหน้าที่ชุมชนที่ดี ซึ่งกระผมขอเขียนเป็นข้อๆ ดังนี้
1.ต้องมีความสนใจหรือมุ่งความสนใจไปที่ผู้ฟังส่วนใหญ่ กล่าวคือ เวลาที่นำเสนอ ผู้ฟังมีอาการอย่างไร สนใจฟังเราไหม ทำหน้าตา งงๆ ไหม กอดอก มีกริยาอาการอย่างไร ซึ่งผู้นำเสนอที่ดีจะต้องมีทักษะในการอ่านภาษากายได้ด้วยจึงจะเข้าใจ กริยาอาการต่างๆของผู้ฟัง
2.ต้องลบข้อความที่มีมากจนเกินไปใน slider หรือ สรุปใจความสำคัญ เขียนไม่ต้องมากนัก เวลานำเสนอข้อมูลผ่าน โปรเจคเตอร์ อีกทั้งถ้าหากมีรูปประกอบก็ควรเป็นรูปที่สื่อสารไปในทางเดียวกับข้อความที่นำเสนอ
3.ต้องยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมหรือเรื่องราวที่น่าสนใจ เพื่อทำให้สิ่งที่นำเสนอดูง่ายขึ้น เข้าใจได้ง่ายขึ้นหรือเป็นที่สนใจมากขึ้น
4.ต้องพูดหรือนำเสนอ แบบให้เพื่อนฟังหรือคิดว่า พูดให้คนรู้จักฟัง จะทำให้การพูดดูสนุกขึ้น และจะทำให้การนำเสนอไม่เกร็ง พูดด้วยอาการที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส
5.ต้องแต่งตัวหรือแต่งกายให้สุภาพ เรียบร้อย ดูสะอาด รวมถึงทรงผม หน้าตา
6.ต้องยืนให้มั่นคง เวลาเดินก็ควรเดินหรือเคลื่อนไหวด้วยความมั่นใจในตนเอง ใช้มือหรือท่าทางประกอบก็ควรให้มีความหมาย ว่าเราแสดงท่าทางอะไร ออกไป ก็เพราะเนื่องจากเราต้องการสื่ออารมณ์หรือความรู้สึก หรืออะไรบ้างอย่างเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจได้มากขึ้น
7.ต้องนำเสนออย่างกระตือรือร้น เพราะถ้าผู้พูด พูดด้วยความกระตือรือร้น ผู้ฟังก็จะฟังอย่างกระตือรือร้น เราลองสังเกตดูว่า ถ้าผู้พูดคนใด พูดอย่างกระตือรือร้น พูดด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติ พูดด้วยเสียงที่ไวกว่าปกติ พูดด้วยเสียง อารมณ์ อาการที่เมามันส์เวลานำเสนอ เราก็จะมีอารมณ์ร่วมไปกับผู้พูดด้วย
8.ต้องซ้อม ซ้อม ซ้อม โดยส่วนตัวกระผม กระผมคิดว่า ข้อนี้มีความสำคัญที่สุด เราจะเห็นนักพูด นักนำเสนอที่ดี เวลาเขาเขียนสคิปเสร็จ เขาจะลุกขึ้นซ้อม เขาจะซ้อมพูด ซ้อมจัดท่าทาง ซ้อมหลายๆครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และในการพูดจริงๆ ก็จะไม่พูดติดๆขัดๆ
สำหรับเทคนิคเหล่านี้ กระผมเชื่อว่ามีความสำคัญและมีความจำเป็นต่อการนำเสนอและการพูดต่อหน้าที่ชุมชนที่ดี และถ้าใครนำเอาไปประยุกต์ใช้ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาการนำเสนอและการพูดต่อหน้าที่ชุมชนของตนเองในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

...
  
บรรยาย การอ่านภาษาท่าทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ " การอ่านภาษาท่าทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร" หลักสูตร 6 ชั่วโมง ให้แก่ผู้บริหารระดับผู้จัดการแผนก รองผู้จัดการแผนก ของ 7-11(บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)) ณ ศูนย์ฝึกอบรมธาราพาร์ค ห้องอบรม 302 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 ...
  
การใช้มือประกอบการพูด
การใช้มือประกอบการพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
การใช้มือประกอบการพูดมีความจำเป็นและมีความสำคัญมาก เพราะการใช้มือประกอบการพูดจะทำให้การพูดนั้นมีความน่าเชื่อถือ การใช้มือประกอบการพูดในลักษณะต่างๆจะสร้างการจูงใจผู้ฟังได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นศิลปะและศาสตร์ที่สามารถเรียนรู้กันได้
การใช้มือบอกถึงความหมายต่างๆ ทำให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น เข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น
- เมื่อเราพูดคำว่า “ ไม่ ” แล้วไม่ใช่มือประกอบการพูด กับ เราพูดคำว่า “ ไม่” โดยโปกมืออยู่ในระดับหน้าอก ผู้ฟังจะเกิดความรู้สึกที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ผู้ฟังจะเข้าใจว่า การโปกมืออยู่ที่ระดับหน้าอก จะแสดงให้เห็นว่า เป็นการปฏิเสธที่มีความหนักแน่นกว่า การพูดออกมาเฉยๆ โดยไม่ใช่มือประกอบ
- เมื่อเราพูดคำว่า “ทางโน้น” โดยไม่มีการฝายมือ ผู้ฟังอาจงง ว่า เป็นทางไหน แต่ถ้าเราพูดว่า “ ทางโน้น” แล้วฝายมือไปยังทิศที่เราต้องการให้ผู้ฟังรู้ ผู้ฟังก็จะทราบได้ว่าคนพูดต้องการให้ผู้ฟังทราบว่าทิศทางใด
- เมื่อเราต้องการบอกระดับความสูง เราก็สามารถใช้มือของเราวางเท่าระดับความสูงนั้นๆ เช่น ลูกชายผมตอนนี้สูงเท่านี้ ใช้มือคว่ำแล้วแตะที่ระดับเอว ผู้ฟังก็จะรู้ว่าสูงเท่าเอว หรือ ใช้มือคว่ำแล้วแตะอยู่ที่หน้าอก ผู้ฟังก็จะรู้ว่าสูงเท่าหน้าอก เป็นต้น
การใช้มือเพื่อจูงใจให้ผู้ฟังทำตาม
- ในการเป็นวิทยากรบรรยายในงานอบรมแต่ละครั้ง ผมมักจะถามว่า ใครเข้าใจแล้ว ยกมือขึ้น ทุกคนก็เฉยๆ ไม่ยอมให้ความร่วมมือหรืออาจเป็นเพราะผู้ฟังไม่กล้ายุ่งอะไรกับวิทยากร แต่เมื่อผมใช้มือประกอบ เช่น ผมบอกว่า ใครเข้าใจแล้วยกมือขึ้น แล้วผมก็ยกมือของผมขึ้นในขณะพูด ปรากฏว่า มีผู้ฟังบางคนเริ่มยกมือไปกับผม
หรือ บางครั้งเมื่อผมต้องการให้คนฟังยกมือขึ้น ผมก็จะพูดด้วยเสียงที่ดังแล้วยกมือของผมขึ้นก่อน ผู้ฟังหลายคนก็จะเริ่มมีส่วนร่วมในการยกมือไปพร้อมกับผม
การใช้มือประกอบการพูดเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
- มีอยู่หลายครั้งทีเดียว ที่ผมเป็นพิธีกรหรือเป็นวิทยากรในงานต่างๆ แล้วผมจำชื่อของคู่บ่าวสาวไม่ได้หรือชื่องานที่เข้าอบรมไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็มีชื่อคู่บ่าวสาวหรือชื่อข้อความการจัดอบรมอยู่ที่หน้าเวที ถ้าเกิดผมจำไม่ได้แล้ว หันหลังไปอ่าน คนฟังหรือเจ้าภาพย่อมไม่ประทับใจผมแน่
แต่ผมใช้วิธีนี้ ท่านผู้อ่านอาจนำไปใช้ดูก็ได้ครับ คือ เมื่อผมจำชื่อคู่บ่าวสาวไม่ได้ ผมก็จะใช้วิธีการฝายมือไปยัง ชื่อคู่บ่าวสาว ด้านหน้าเวที เพื่อให้ทุกคนที่เข้าร่วมงานดู แต่จริงๆแล้ว ผมลืมครับ ผมดูเอง เพราะผมจำไม่ได้ แต่การใช้วิธีการฝายมือได้ผลครับ ทุกคนต่างดูไปที่ชื่อคู่บ่าวสาวพร้อมๆ กัน กับผม เสมือนหนึ่งว่าผมไม่ได้ดูชื่อคู่บ่าวสาวคนเดียว การอบรมก็เช่นกัน ถ้าผมจำชื่อโครงการหรือจำชื่อหลักสูตรการอบรมไม่ได้ ผมก็จะฝายมือให้คนฟังดูพร้อมๆกันกับผม แล้วผมก็อ่านมัน
ฉะนั้น ถ้าผู้พูดคนใด สามารถนำมือมาใช้ในการประกอบการพูด ก็จะทำให้การพูดของท่านเป็นที่น่าสนใจ และจะทำให้ผู้ฟังเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้พูดก็ไม่ควรใช้มือประกอบการพูดมากเสียจนเกินไป หรือใช้มืออย่างไม่มีความหมาย จนทำให้ผู้พูดสูญเสียบุคลิกภาพได้ในสายตาของผู้ฟัง
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.