หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  ธรรมาภิบาล
  -  บทความที่ดี
  -  ขายเก่ง....รวยก่อน.....
  -  ปัญหาของเด็ก
  -  การพูดของอาจารย์จตุพล ชมภูนิช
  -  พูดดี ต้องประเมิน
  -  ลักษณะนักพูด
  -  หัวอกพ่อแม่
  -  พูดโอกาสต่างๆ
  -  สั่นเพราะไมค์
  -  ผู้บริหาร มนุษย์สัมพันธ์
  -  เทคนิคในการพูด
  -  IMC ของไทยรักไทย
  -  อาชีพ ผู้นำ องค์กร
  -  เอดส์ วัยรุ่น สังคมไทย
  -  นักเขียน
  -  เหล้ากับเด็ก
  -  สู่ผู้นำ
  -  อาหารปลอดภัย
  -  ทำไมคนดีๆ จึงลาออก
  -  อารมณ์ขันกับนักพูด
  -  เลิกเหล้าเข้าพรรษา
  -  ฝึกพูด
  -  น้ำเมารอบสถานศึกษา
  -  การมีมนุษย์สัมพันธ์
  -  ยาเสพติดประเทศไทย
  -  เหล้า เบียร์ วัยรุ่น
  -  องค์กรกับผู้บริหาร
  -  ศิลปะในการบริหาร
  -  คนตกงานกับปัญหาสัึงคม
  -  สื่อลามกกับวัยรุ่น
  -  คนคือทรัพย์สิน
  -  การเผาป่า
  -  ผู้บริหารกับการตลาด
  -  ศิลปะการฟัง
  -  เพศกับวัยรุ่น
  -  ทีม
  -  เตรียมพูด
  -  ปัญหาเลิกจ้างงาน
  -  กล้าล้มเหลวจึงสำเร็จ
  -  ทัศนคติกับการขาย
  -  เอดส์ สังคมไทย
  -  เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด
  -  ธรรมชาติการขาย
  -  หัวใจงานบริหาร
  -  ลิขสิทธิ์
  -  กิ๊ก
  -  จริยธรรมของไทย
  -  แฟชั่น นักศึกษา
  -  น้ำมันลอยติดลมบน
  -  อดทนเพื่อชนะ
  -  พจนานุกรมวัยรุ่น
  -  เรียนภาษาอังกฤษให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง
  -  โลกร้อน
  -  สื่ออนาคต
  -  ปัญหามากมายสังคมไทย
  -  ยาเสพติด
  -  สายสัมพันธ์กับนักบริหาร
  -  เลิกเหล้า เลิกจน
  -  ขยะเป็นทอง
  -  ผู้นำ
  -  สนุกกับงาน
  -  คิด พูด ทำ ความสำเร็จ
  -  หมวก 6 ใบ
  -  ยกระดับบริการและความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ
  -  คอร์รัปชั่นภัยร้ายสังคมไทย
  -  พ่อแม่ รังแกฉัน
  -  หลักการเขียนบทความ
  -  สภาประชาชน สภาผู้บริโภค
  -  หลักการนำเสนอ
  -  ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน
  -  ความคิดสร้างสรรค์
  -  U R A BRAND !(คุณ คือ แบรนด์)
  -  มึงสู้จริงหรือเปล่า
  -  การเตรียมความพร้อมของบุคลากรสาธารณสุข
  -  นักพูดที่ดีต้องรู้จักวิเคราะห์ภาษากายของผู้ฟัง
  -  จริยธรรม คุณธรรม ความรับผิดชอบ
  -  การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
ผู้บริหาร มนุษย์สัมพันธ์
ผู้บริหารกับมนุษย์สัมพันธ์
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ผูกสนิทชิดเชื้อนั้นเหลือยาก ถึงเหล็กฟากรัดไว้ก็ไม่มั่น


จะถูกด้วยมนต์เสกลงเลขยันต์ ไม่เหมือนพันผูกไว้ด้วยไมตรี





เป็นคำสอนของคนโบราณ การที่คนเราจะช่วยเหลือกัน ซื้อขายสินค้า ร่วมมือประสานงานกัน การมีไมตรีจิตที่ดีต่อกัน การมีมนุษย์สัมพันธ์ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด


มนุษย์สัมพันธ์ หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ซึ่งอาศัยอยู่ในสังคมร่วมกัน อย่างผาสุก ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจอันดีต่อกัน มุ่งให้เกิดความร่วมมือต่อกัน ดังนั้น มนุษย์สัมพันธ์ เป็นทั้งศาสตร์และศิลปะในการเสริมสร้างสัมพันธ์อันดีกับบุคคลเพื่อให้ได้มา ซึ่ง ความนับถือ ความรัก ความร่วมมือ ความจงรักภักดี และความสัมพันธ์อันดีต่อกัน (ศาสตร์คือ หลักการทฤษฏี องค์ความรู้ ศิลปะคือการประยุกต์ใช้ทฤษฏี องค์ความรู้)


นักบริหารจึงจำเป็นจะต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ในการทำงาน ซึ่งเทคนิคในการสร้างมนุษย์สัมพันธ์มีหลาย ประการดังนี้


1. ต้องเข้าใจธรรมชาติของคนเรา เพราะมนุษย์เรามีความหลากหลาย ทั้งความคิดเห็น แง่มุม ความเชื่อ พฤติกรรม ดังคำโบราณเคยพูดไว้ว่า มนุษย์เรามีร้อยพ่อพันแม่( ถ้าเทียบตามสัดส่วน หนึ่งพ่อย่อมมีสิบแม่) เมื่อเรารู้เช่นนี้ เราจะได้หาวิธีการสร้างสัมพันธภาพได้อย่างเหมาะสม เพราะคนเรามีความชอบ มีรสนิยมแตกต่างกัน มีประวัติภูมิหลังแตกต่างกัน


2. ต้องรู้จักสร้างสัมพันธ์กับคน การที่คนเรามีมนุษย์สัมพันธ์ จะต้องมีเทคนิคและวิธีการสร้างอยู่พอสมควร เช่น เทคนิคในการพูด เทคนิคในการนำเสนอ การพูดของคนเรานี่สำคัญมาก นักบริหารที่ดีจะพูดให้คนชอบ หรือคนเกลียดก็ได้ จะพูดให้คนพอใจ หรือ พูดให้คนไม่พอใจก็ได้ ผู้บริหารที่ดีควรยิ้มแย้ม แจ่มใสซึ่งจะทำให้บรรยากาศในที่ทำงานดียิ่งขึ้น ไม่ใช่ทำหน้าเครียดจริงจังตลอดเวลาจนลูกน้องไม่กล้าเข้าใกล้


3. ต้องสร้างลักษณะของผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เช่น การแต่งกาย บุคลิกภาพ ท่าทางที่ดี มีลักษณะการเข้ากับคน กิริยามารยาทเรียบร้อย ตลกขบขัน เบิกบาน ความกระตือรือร้น คือ มีชีวิตจิตใจ ไม่เซื่องซึม หรือมึนชา มีความเบิก-บาน แจ่มใส


4. ต้องไม่ทำตัวเด่น หรือด้อยเกินไป การทำตัวเด่นไปทำให้คนอื่นดูด้อยค่า เพราะฉะนั้น นักบริหารควรไม่ทำตัวเด่นเกินไป เพราะจะทำให้คนอื่นๆ อิจฉา ในขณะเดียวกัน ผู้บริหารไม่ควรทำตัวด้อยเกินไป ด้อยจนไร้คุณค่าทำให้ลูกน้อง ขาดความเชื่อถือ ศรัทธา


5. ต้องมีอารมณ์หนักแน่น เก็บความรู้สึกได้ ธรรมชาติของคนเรา มีโลภ มีโกรธ มีหลง มีรัก ซึ่งเป็นธรรมดาของความเป็นมนุษย์ แต่ นักบริหารที่เก่ง มักจะต้องเก็บอารมณ์เก่ง โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ เพราะถ้าเกิดหลุด เกิดโกรธแล้ว บางครั้งทำให้งานใหญ่เสียได้


6. ต้องให้ความช่วยเหลือ ให้เกียรติ ให้อภัย ผู้อื่น คนที่จะเป็นผู้บริหารหรือเป็นคนเหนือคน จะต้องให้ความช่วยเหลือคนอื่น เนื่องจากสังคมจะเจริญก้าวหน้าได้ก็ด้วยการช่วยเหลือกันและกัน ผู้บริหารจะต้องให้เกียรติผู้อื่น ต้องให้เกียรติลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ในขณะเดียวกันต้องรู้จักให้อภัยแก่ผู้อื่น คนทุกคนในโลกนี้ ไม่มีใครไม่เคยทำผิด ดังนั้น เมื่อลูกน้องทำผิด คนอื่นทำผิด ผู้บริหารจำเป็นจะต้องรู้จักให้อภัยแก่เขา
สรุปได้ว่า นักบริหาร ที่ประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องอาศัยปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี คือ การมีบุคลิกภาพทั้งภายนอกและภายในที่ดี การมีทักษะในการติดต่อสื่อสารกับผู้คนทั้งทางภาษาคำพูดและภาษาท่าทาง การมีความเข้าใจธรรมชาติ ความต้องการของคนเรา การควบคุมตัวเอง มีจิตวิทยาในการบริหาร รวมถึงบทบาทหน้าที่ และลักษณะงานที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่


งานบริหาร จำเป็นต้องมีความอดทน


งานบริหาร ต้องอาศัยความต่อเนื่อง


นักบริหาร จำเป็นต้องมีหัวใจรักและทุ่มเทในงานบริหาร

...
  
เทคนิคในการพูด
เทคนิคการพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


อันวาจา พาที นี้เป็นเอก

จะปลุกเสก ให้คนชอบ ตอบสนอง

จะต้องพูด ให้สนุก สุขสมปอง

ขอรับรอง สำเร็จกิจ พิชิตชัย


นักพูดที่มีชื่อเสียงหลายคนทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ มักมีเทคนิคแตกต่างกัน

อ.ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ เจ้าตำรับทอล์คโชว์เมืองไทยคนแรกๆ อ.ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ มักจะเขียนสิ่งที่น่าสนใจหรือสิ่งที่ใช้ประกอบการพูดลงในกระดาษแผ่นเล็กๆ แทบทุกวัน เมื่อถึงเวลาแสดงทอล์คโชว์ ก็จะเปิดกล่องแล้วนำมาเขียนบทพูด

ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย มักให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเตรียมคำพูด ท่านจะมีสมุดอยู่เล่มหนึ่ง เวลาอ่านเจอคำพูดของใครที่น่าสนใจหรือที่สามารถจะนำไปใช้ในอนาคตได้ ท่านก็จะจดเป็นข้อมูล แล้วท่านก็เขียนโครงเรื่อง ซ้อมพูด อัดใส่เทป เปิดฟังแล้วแก้ไข เมื่อแก้ไขจนท่านพอใจถึงได้นำออกไปพูด


เดล คาร์เนกี้ อาจารย์สอนด้านการพูดระดับโลกเคยซ้อมบทพูดต่อกองหญ้า ซ้อมพูดขณะถอนหญ้า หรืออดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ ลินคอล์น ซ้อมพูดขณะอยู่บนหลังม้า ขณะที่ขี่ม้าเดินทางเป็นระยะทางไกลๆ

บางคนก็ฝึกพูดต่อหน้ากระจกแล้วก็ได้ผล ในวันนี้กระผมจึงอยากจะเขียนถึงเรื่องเทคนิคการพูด

1. การพูดที่ดีต้องเน้นไปที่ตัวผู้ฟังเป็นหลัก ควรพูดเรื่องที่ใกล้ตัวผู้ฟัง ควรพูดให้ตรงกับวัยของผู้ฟัง เช่น การพูดให้วัยรุ่นควรพูดเรื่องที่สนุกสนาน พูดให้วัยทำงานก็ควรพูดเกี่ยวกับเรื่องอาชีพ ความก้าวหน้าในอนาคต วัยชราหรือวัยสูงอายุ ก็ควรพูดเกี่ยวกับเรื่องศาสนา เรื่องของสุขภาพ


2. การพูดที่ดีต้องยกตัวอย่างให้มากๆ บางครั้งเรื่องที่พูดจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนามธรรมเพราะฉะนั้น นักพูดที่มีประสบการณ์สูง มักจะยกตัวอย่างประกอบการพูดมากๆ เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจ ที่สำคัญการยกตัวอย่างประกอบควรเกี่ยวข้องกับเรื่องที่พูดด้วย ไม่ควรนำตัวอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องมาประกอบกับหัวข้อเรื่องที่บรรยายถึงแม้ว่าตัวอย่างนั้นจะสนุกหรือเป็นตัวอย่างที่ดีก็ตาม


3. การพูดที่ดีต้องสอดใส่อารมณ์ขัน โดยเฉพาะในสังคมไทยเรา นักพูดที่มีอารมณ์มักเป็นที่นิยม เป็นที่ศรัทธาต่อผู้ฟัง การมีอารมณ์ขันมักช่วยให้การพูดเกิดการผ่อนคลาย การมีอารมณ์ขันสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี การมีอารมณ์ขันมักจะสร้างเสน่ห์ให้แก่ตัวผู้พูดเอง


4. การพูดที่ดีต้องครบเครื่อง หมายถึง มีบทกลอนประกอบการพูดบ้าง มีเพลงประกอบการพูดบ้าง มีคำคมประกอบการพูดบ้าง ดังนั้นผู้รักที่จะเป็นนักพูดควรอ่าน ควรท่อง บทกลอน คำคม ควรฝึกร้องเพลงประกอบการพูด เพื่อให้การพูดของตนเกิดความหลากหลายผู้ฟังจะได้ไม่เบื่อหน่ายแต่จะสนุกเมื่อได้ฟังเราพูด


5.การพูดที่ดี ควรมีน้ำเสียงต่างๆประกอบการพูดตามสถานการณ์ต่างๆ ถ้อยคำบ่งบอกถึงความหมาย แต่น้ำเสียงก่อให้เกิดการหวั่นไหวได้ เช่น เราไล่สุนัข ไป ไป ไป ด้วยเสียงเบาๆ สุนัขมักไม่กลัวแต่กลับเดินมาหาเรา แต่ถ้าเราเรียกสุนัข มา มา มาเนี่ย ด้วยเสียงดัง สุนัขมักกลัวกลับไม่มาหาเรา เพราะอะไรครับ ก็เพราะน้ำเสียงของเรานั่นเอง

7. การพูดที่ดี ต้องเป็นตัวของตัวเอง เราอาจจะประทับใจนักพูดคนใดก็ตาม เราอาจจะเรียนรู้จากนักพูดคนใดก็ตาม เราอยากเป็นเหมือนใครก็ตาม แต่สุดท้าย เราต้องเป็นตัวของเราเอง เราอาจจะเลียนแบบนักพูดคนใดก็ตามที่เราชอบ เช่น อาจารย์จตุพล ชมพูนิช เราเลียนแบบ อาจารย์จตุพล ชมพูนิช ได้เหมือนที่สุด เราก็เป็นที่สอง ดังนั้น จงเป็นตัวของตัวเอง แล้ว คุณจะเป็นที่หนึ่งในแบบฉบับของคุณเอง

คนคิดน้อย พูดมาก


คนพูดมาก ทำน้อย


พูดดี มิได้หมายความว่าทำดี


พูดเก่ง มิได้หมายความว่าทำเก่ง


โง่หรือฉลาด อาจทราบได้จาก คำพูด

...
  
IMC ของไทยรักไทย
IMC ไทยรักไทย

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

พรรคไทยรักไทย เป็นพรรคการเมืองที่มีอายุไม่ถึง 5 ปี แต่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองได้ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อน เครื่องมือหนึ่งที่ทางพรรคไทยรักไทยนำมาใช้คือ


IMC (Integrated Marketing Comunication) หรือเรียกว่า การสื่อสารการตลาด หมายถึง กระบวนการของการพัฒนาแผนงานการสื่อสารการตลาดที่ต้องใช้การสื่อสารเพื่อการจูงใจหลายรูปแบบกับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของ IMC คือการที่จะมุ่งสร้างพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายให้สอดคล้องกับความต้องการของการตลาด โดยการพิจารณาวิธีการสื่อสารตราสินค้า(Brand Contacts) เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายจะได้รู้จักสินค้า ที่จะนำไปสู่ความรู้ ความคุ้นเคยและความเชื่อมั่นในสินค้ายี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง(เสรี วงษ์มณฑา)


ดังนั้น IMC จึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเชิงธุรกิจ แต่เมื่อพรรคไทยรักไทยนำมาใช้แล้วพัฒนาอย่างจริงจัง จึงได้สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองขึ้น ด้วยการคว้าคะแนนเสียงกว่า 250 เสียง จากทั้งหมด 500 เสียง(ส.ส.)ซึ่งถือได้ว่าไม่ธรรมดา


ถ้าวิเคราะห์ดูจะเห็นได้ว่าเครื่องมือ IMC ที่พรรคไทยรักไทยใช้จะมุ่งเน้นที่การสร้างตราสินค้า(Brand Name) คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนจำนวนมากกว่าหนึ่งหมื่นคนมีส่วนตั้งชื่อพรรค เพื่อสร้างความรู้สึกในการเป็นเจ้าของ


มีการเลือกวิธีการสื่อสารตราสินค้า(Brand contact point) เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การขายโดยใช้พนักงานขาย การใช้ผลิตภัณฑ์เป็นสื่อ การใช้ยานพาหนะเคลื่อนที่ การตลาดเจาะตรง แผ่นพับ ฯลฯ จึงไม่ต้องแปลกใจที่พรรคไทยรักไทยในสมัยนั้นใช้งบประมาณมากมายมหาศาล


สำหรับคำขวัญของพรรคไทยรักไทยในสมัยนั้นคือ “ คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน ” เป็นการแต่งขึ้นเพื่อสร้างความหวังให้แก่ประชาชนคนไทยในสมัยนั้น เพราะประชาชนเบื่อการบริหารการจัดการในลักษณะเดิมๆ โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นมีภาพลักษณ์ที่เชื่องช้าและตัดสินใจไม่เด็ดขาดรวดเร็ว


ด้านการกำหนดบุคลิกภาพของตราสินค้า(Brand personality) เป็นการกำหนดว่าพรรคการเมืองมีบุคลิกภาพอย่างไร นับตั้งแต่หัวหน้าพรรคและส.ส.ในพรรค เมื่อพิจารณาภาพลักษณ์บุคลิกภาพของหัวหน้าพรรค พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักธุรกิจด้านธุรกิจโทรคมนาคมที่ประสบความสำเร็จ มีประสบการณ์ด้านการบริหารการจัดการ กล้าตัดสินใจ กล้าคิด กล้าทำ สำหรับบุคลิกภาพ ส.ส.ในพรรค เป็นกลุ่มนักธุรกิจ เป็นกลุ่มนักบริหาร เป็นกลุ่มนักการเมืองมืออาชีพ เป็นกลุ่มนักวิชาการ ฯลฯ


เราต้องยอมรับว่าเบื้องหลังความสำเร็จคือคณะทำงานการวางแผน IMC ของพรรคไทยรักไทย มีความสำคัญ มีการสื่อสารได้อย่างมีเอกภาพและได้ผล ยกตัวอย่างเช่น ป้ายหาเสียงของผู้สมัครในช่วงรณรงค์หาเสียงถ้าพวกเราจำได้ ป้ายหาเสียงของผู้สมัครมีมาตรฐานเหมือนกันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสีของป้าย ขนาดของป้าย สามารถสร้างความจดจำให้แก่ตราสินค้าและประชาชนได้ จนทำให้พรรคการเมืองหลายพรรค เลียนแบบในเวลาต่อมา


จากข้อความข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าทฤษฏีและแนวคิด IMC (Integrated Marketing Comunication) สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในทางการเมืองได้ แต่ต้องอาศัยศิลปะในการประยุกต์ด้วย


โดยดูสถานการณ์ ปัจจัยสิ่งแวดล้อมของการเมืองในสมัยนั้นๆ เพราะการเมืองเป็นพลวัต มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่นิ่ง




...
  
อาชีพ ผู้นำ องค์กร
การเลือกอาชีพ ผู้นำและองค์กร

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

การเป็นผู้นำ(Leader) มีความสำคัญมากกับการอยู่รอด การเจริญก้าวหน้า การถดถอย การก้าวกระโดด ขององค์กร ถ้าองค์กรใด มีผู้นำที่เก่ง มีผู้นำที่ดี องค์กรนั้นก็จะเจริญก้าวหน้าไปได้ด้วยดี


ตรงกันข้าม ถ้าองค์กรใดมีผู้นำที่ไม่เก่ง ไร้ซึ่งความสามารถ ก็จะทำให้องค์กรนั้นเจริญก้าวหน้าไปอย่างช้าๆและบางแห่งถึงขนาดถดถอย ล้าหลังไปเลยก็มี


สำหรับทักษะหรือสิ่งที่ผู้นำควรมี ได้แก่ การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน,วิสัยทัศน์ของผู้นำ,เทคนิคในการตัดสินใจ,การสื่อสารที่ดี , คุณธรรมของผู้นำ , การทำงานด้วยความสนุก ฯลฯ


โดยเฉพาะการทำงานด้วยความสนุก บุคคลหรือผู้นำที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มักจะเลือกงาน เลือกองค์กร ที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข มีความสนุก อีกทั้งยังตรงกับเป้าหมายในชีวิต ความสามารถในตัวเอง


การเลือกอาชีพ การเลือกองค์กร ในการทำงานจึงถือว่าสำคัญมากในการที่คนๆ นั้นหรือผู้นำ จะประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือเป็นคนธรรมดา ดังนั้น การเลือกงานหรือการเลือกองค์กรที่ตนเองชอบจึงสำคัญมากกว่าการเลือกงานหรือเลือกองค์กร เพราะมีเงินเดือนมาก หรือได้เงินตอบแทนมาก โดยที่ตนเองอาจไม่ชอบงานนั้นๆ หรือองค์กรนั้น


ผู้นำบางคนเลือกอาชีพ เลือกเข้าไปทำงานในองค์กรตามกระแส คนบางคนอาจจะไม่รู้จักตนเอง ไม่รู้ว่าตนต้องการอะไร เหมือนกับเด็กๆ เห็น ภราดร ตีเทนนิส ประสบความสำเร็จ บางคนก็อยากให้ลูกตีเทนนิส บางคนเห็น ไทเกอร์วูล ตีกอฟล์ ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยเงินทอง ก็อยากให้ลูกเป็นนักกอฟล์บ้าง แต่หารู้ไม่ว่า คนเรามีความสามารถแตกต่างกันไป เราไม่อาจเลียนแบบคนอื่นแล้วประสบความสำเร็จตามคนๆนั้นได้ ถ้าคนเราไม่มีความชอบ มีพรสวรรค์ มีพรแสวง ก็จะทำงานหรือฝึกฝนตนเองด้วยความเบื่อหน่าย


การเลือกอาชีพ ตามเวรตามกรรม ผู้นำบางคนซึ่งอาจเป็นคนส่วนใหญ่ก็ว่าได้ เลือกอาชีพ ตามเวรตามกรรม เห็นว่างานไหน องค์กรไหน มีตำแหน่งว่างก็สมัครไปก่อน เมื่อได้ทำแล้ว ก็ทำแบบสบายๆ ไม่กระตือรือร้น ไม่มีความสนุกในงาน เกิดอาการเบื่อหน่าย ดูสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของที่ทำงานก็เกิด


อาการเซ็ง ถ้าเป็นอย่างนี้ กระผมขอแนะนำให้เปลี่ยนงานใหม่ หรือ เปลี่ยนองค์กร ที่ตรงกับความชอบ ความรัก และตรงกับความสามารถ รวมทั้งความฝันของตนเองจะเป็นการดีกว่า


แต่แท้จริงแล้ว การเลือกอาชีพ หรือ เลือกงานนั้น มีความหมายมากๆ สำหรับการดำเนินชีวิตและผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต การทำงานที่ตนชอบจะทำให้ตนเองเกิดความสนุก การทำงานที่ตนชอบจะทำให้ผู้นั้นทำงานได้นานกว่าปกติ การทำงานที่ตนเองชอบจะทำให้คนนั้น


มีความอดทนต่อความล้มเหลวได้มากกว่าคนธรรมดา การทำงานที่ตนเองชอบจะทำให้คนนั้นอดทนต่อการถูกด่าทอ อดทนต่อการดูถูก กว่าคนที่ไม่มีเป้าหมาย และการทำงานที่ตนเองชอบ เราจะไม่คิดว่าเรากำลังทำงานแต่เราคิดว่าเรากำลังสนุก เรากำลังได้พักผ่อน


ผู้นำหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จ ของจะเลือกทำงานที่ตนเองรัก ไม่ใช่เลือกทำงานตามวุฒิ ตามปริญญาที่ตนเองเรียนจบมา เช่น คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ก็ไม่ได้จบทางด้านประชาสัมพันธ์มา แต่จบปริญญาตรีทางด้านนิติศาสตร์ แต่ก็เป็นหัวหน้าประชาสัมพันธ์ของบริษัทโตโยต้า ประเทศไทย จนทำงานบริษัทโตโยต้า ประเทศไทยมียอดขายมากมาย อาจารย์จตุพล ชมพูนิช ก็จบนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ก็ไม่ได้ประกอบอาชีพในการใช้วิชาทางด้านกฏหมายมา แต่มาเป็นนักพูด นักฝึกอบรม นักบรรยาย นักทอล์คโชว์


ดังนั้น ผู้นำหรือบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จ จงเลือกงานที่ตนเองชอบ จงเลือกองค์กรที่ตนเองรัก แล้วเราจะมีความสุข เราจะมีความสนุก และเราจะประสบความสำเร็จในชีวิต

























...
  
เอดส์ วัยรุ่น สังคมไทย
ปัญหาเอดส์ ปัญหาวัยรุ่น กับสังคมไทย

โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)

เอดส์ เป็นโรคที่ยังไม่มียารักษา เอดส์เป็นโรคที่ฆ่าพลเมืองของโลกไปมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งสังคมไทย เอดส์เป็นโรคที่ทำให้สังคมไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายในการรักษาไม่ว่าจะเป็นค่ารักษา ค่ายาต้านไวรัสเอดส์

สำหรับ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์ในปัจจุบันของประเทศไทยเรา



กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจความชุกการติดเชื้อเอชไอวีประจำปี 2551 ในประชากร 8 กลุ่ม พบส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง ยกเว้นชายขายบริการและนักศึกษาที่มาบริจาคโลหิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังขยายผลไปยังกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อกลุ่มใหม่ๆ ได้แก่ ชายขายบริการทางเพศ ชาวประมง และแรงงานต่างชาติด้วย




สรุปกลุ่มที่มีการติดเชื้อมีหลากหลายกลุ่ม แต่กลุ่มที่น่าสนใจ คือ วัยรุ่น หรือ นักศึกษา เพราะวัยรุ่นหรือนักศึกษาเป็นวัยที่กำลังเริ่มมีเพศสัมพันธ์ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย อารมณ์ ความรู้สึกความต้องการ และจิตใจ อีกทั้งวัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังอยู่ในวัยศึกษาหาความรู้ ซึ่งอยู่ในช่วงเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ


และในปัจจุบันมีสิ่งเร้าต่างๆ มากขึ้น สำหรับที่จะทำให้วัยรุ่นหรือนักศึกษาเสียคนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ยาเสพติด ไฮไฟว์ การโชว์อึ๋ม การมีแฟนควงแบบไม่ซ้ำหน้า การติดเพื่อน ติดแฟน ติดเหล้า ติดเกมส์ การอยากโกอินเตอร์ ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้เป็นตัวเร้า ให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์

ซึ่งติดต่อได้หลายทาง เช่น ทางเลือด ทางเข็มฉีดยา ทางแม่สู่ลูก แต่โดยมากมักจะติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์

ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งที่ห้ามได้ยากมากในยุคปัจจุบัน แต่สิ่งที่สามารถทำได้ก็คือ การสอนให้เด็กวัยรุ่น นักศึกษา ได้รู้จักป้องกันตัวเอง เช่น การสวมถุงยางอนามัย การให้ความรู้เรื่องโรคเอดส์ การรักนวลสงวนตัว ฯลฯ

ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีภาครัฐ ภาคเอกชน ให้ความสนใจเรื่องการแก้ไข เรื่องโรคเอดส์ แต่ก็ทำในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง ไม่สม่ำเสมอ ไม่มีงบประมาณที่เพียงพอ ทำๆ หยุดๆ

และสุดท้าย หลายหน่วยงาน หลายองค์กร หลายครอบครัว ก็มอบให้เป็นภาระแก่ วัดพระบาทน้ำพุ พระอุดมประชาทร ซึ่งขณะนี้ท่านต้อง แบกรับภาระ ผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละปีต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ค่อนข้างหนักยิ่งขึ้นสำหรับค่าใช้จ่ายเนื่องจากภาวะเศษรฐกิจโลกและของประเทศตกต่ำ

อย่างไรต้องขอฝากปัญหาดังกล่าวให้แก่รัฐบาลด้วย ถ้าเรามุ่งเน้นแต่เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมือง เรื่องการหารายได้ แต่เราลืมไปว่า ถ้าเราเน้นหาเงิน เน้นการหาทรัพยากร แต่ บุคลากรในชาติ อ่อนแอ เป็นโรค แล้วเราจะมุ่งเน้นหาสิ่งเหล่านี้ไปเพื่ออะไร หาเงินไปเพื่อซื้อยารักษาโรคเหล่านี้หรือ

ถึงแม้ปัจจุบันในทางแพทย์จะคิดวัคซีนโรคเอดส์แล้วก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จง่ายๆ เพราะอาจจะมีหลายปัจจัยที่ใช้แล้วไม่ได้ผล ฉะนั้นต้องใช้เวลาในการทดลอง ดังนั้นคนที่รักสนุก ควรป้องกันตนเองนะครับ

สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ อย่างได้ประมาท

...
  
นักเขียน
เส้นทางนักเขียน

ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)

ถ้าท่านไม่ได้เป็นนักอ่าน อย่าคิดเป็นนักเขียน


คำพูดข้างต้นเป็นความจริงมากเลยที่เดียว ถ้าท่านอยากเขียนหนังสือเก่ง ท่านจำเป็นต้องอ่านให้มาก อ่านเพื่อเปรียบเทียบ ว่าการเขียนของใครดี ของใครไม่ดี ทำไมงานเขียนชิ้นนี้ ท่านถึงชอบ งานเขียนชิ้นนี้ ทำไมท่านถึงไม่ชอบ การเขียนหนังสือเก่งมักทำให้ท่านได้เปรียบผู้อื่น การเขียนหนังสือเก่งทำให้ท่านได้ชื่อเสียง เงินทอง การเขียนหนังสือเก่งทำให้ท่านได้รับตำแหน่งสูงกว่าผู้อื่น และการเขียนหนังสือเก่งทำให้ท่านได้รับสิ่งต่างๆอีกมากมาย


ในอดีต ท่านอาจจะได้ยินคำพูดที่ว่าการเป็นนักเขียนนั้นไส้แห้ง อาจเป็นความจริง แต่ในยุคปัจจุบันถ้าท่านเขียนหนังสือเก่ง ท่านสามารถมีรายได้มากมายมหาศาลดังเช่น เจ.เค.โรว์ลิ่ง ผู้เขียน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กลายเป็นนักเขียนที่รวยที่สุดในโลกขณะนี้

สำหรับท่านที่ต้องการจะเป็นนักเขียนนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร เราสามารถหาข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายกว่าในอดีตเป็นอันมาก เรามีระบบอินเตอร์เน็ตซึ่งช่วยให้ผู้ที่หัดเขียน

หาข้อมูลเพื่อมาประกอบการเขียนได้ในเวลาอันรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ในอดีต เราต้องไปหาตามห้องสมุด ซึ่งห้องสมุดหลายแห่งไม่มีหนังสือหรือข้อมูลที่เราต้องการ แต่ปัจจุบันเรามีห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ อินเตอร์เน็ตนั้นเอง


สำหรับคนที่ต้องการเป็นนักเขียนจำเป็นจะต้องท่านทราบในเบื้องต้นก่อนว่างานเขียนมีอยู่หลายประเภท เช่น งานเขียนประเภทบทความ งานเขียนสารคดี งานเขียนเรียงความ งานเขียนเรื่องสั้น งานเขียนนวนิยาย งานเขียนตำรา และงานเขียนหนังสือทางวิชาการ ซึ่งงานเขียนแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง การใช้ภาษา สำนวน ความน่าสนใจ รูปแบบ ขั้นตอน ผู้ที่ต้องการเป็นนักเขียนต้องรู้ก่อนว่า ตนต้องการจะเขียนงานเขียนประเภทใดแล้วจึงศึกษาหาความรู้ หาอ่านงานเขียนประเภทที่เราต้องการเขียน ต้องการฝึกฝนให้มากๆ

สำหรับประเทศไทย มีข้อเท็จจริงในเชิงสถิติที่น่าห่วงใย ปัจจุบันอัตราการอ่านหนังสือของเด็กและเยาวชนไทยต่อปีอยู่ในระดับต่ำมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ ๕ เล่มต่อคนต่อปีเท่านั้น ต่ำกว่าประเทศเวียดนามที่กำลังเร่งพัฒนาประเทศไล่กวดไทยอยู่ในขณะนี้ หากเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งของไทยอื่นๆ ปรากฏว่าคนสิงคโปร์มีอัตราการอ่านเฉลี่ย ๑๗ เล่มและมาเลเซีย ๔๐ เล่มต่อคนต่อปี ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น มีอัตราการอ่าน ๕๐ เล่มต่อคนต่อปี(ผู้จัดการรายสัปดาห์ 19 กพ.52)

สำหรับเส้นทางนักเขียนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ถ้าท่านอยากเป็นนักเขียน ท่านต้องมุ่งมั่น ฝึกฝน จง เขียน เขียน และเขียน จงหัดเขียนเรื่องที่ตนถนัดก่อน เพราะการฝืนเขียนเรื่องที่ตนไม่ถนัดนักมันจะทรมานมากกว่าที่จะเกิดความสนุกสนาน ยากนักที่จะประสบความสำเร็จ เมื่อคิดว่าทรมานสุดท้ายก็จะเลิกเขียนในที่สุด จงเขียนด้วยภาษาที่ง่ายๆ บางคนคิดว่าควรเขียนภาษาที่ยากๆ เข้าใจยังหรือคำศัพท์ยากนะดี ความจริงไม่ใช่เลย นักเขียนที่ดีควรใช้ภาษาที่เรียบง่าย เพื่อให้คนอ่านเกิดความเข้าใจที่ตรงกันกับผู้เขียน และถ้าเป็นไปได้จงเขียนทุกๆวัน

สำหรับหลายท่านที่ต้องการเป็นนักเขียน มักจะถามกระผมว่าทำอย่างไรจึงจะเข้าสู่วงการเขียนได้


สำหรับผมคิดว่า ท่านควรเริ่มเวทีเล็กๆก่อนหรือหาโอกาสส่งข้อเขียนของท่านไปยังหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น วารสารท้องถิ่น ของหน่วยงานก่อน หรือ เขียนแจกให้เพื่อนๆ อ่าน ถ้าใครเป็นครู อาจารย์

ก็สามารถเขียนแล้วให้นิสิต นักศึกษา ดูก่อน อย่าไปคิดใหญ่หรือไกลเกินไป เพราะบางคนบอกว่าถ้าไม่ได้ลงในหนังสือพิมพ์ระดับชาติแล้วจะไม่เขียน ในที่สุดท่านอาจจะไม่ได้เขียน เพราะ หนังสือพิมพ์ระดับชาติ วารสารระดับชาติ ส่วนใหญ่เขาก็จะมีนักเขียนที่มีชื่อเสียงเขียนให้อยู่แล้ว

ดังนั้น ขอให้ใช้เวทีเล็กให้เป็นประโยชน์ก่อน เมื่อเขียนเก่ง เมื่อมีชื่อเสียง เดี๋ยว หนังสือพิมพ์ วารสารระดับชาติ เขาก็จะเชิญเอง เนื่องจาก ท่านเขียนดีขึ้น เก่งขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้นนั้นเอง


สำหรับ นักเขียนหน้าใหม่ กระผมแนะนำว่า ท่านควรหางานประจำทำเพื่อเลี้ยงชีพก่อน แล้วจึงใช้เวลาว่างจากการทำงาน เขียนบทความ เขียนงานเขียนที่ตนถนัด เพราะถ้าหวังแต่จะหารายได้จากการเขียน ทั้งๆที่ยังไม่ดัง เกรงว่าท่านจะอดตายเสียก่อน

จงทำให้ผู้อ่านสนุกสนาน ขณะเดียวกันก็สอนเขาไปด้วย







...
  
เหล้ากับเด็ก
เด็ก กับ เหล้า

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ผลวิจัยพบเด็กไทยดื่มเหล้าตั้งแต่ 7 ขวบ (จาก นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันจันทร์ ที่ 07 กันยายน 2552)

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การศึกษา การรับรู้ ทัศนคติ ต่อการมีส่วนร่วมของเยาวชนต่อการยับยั้งปัญหาและพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในครอบครัว สำรวจเมื่อวันที่ 1-31 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 2-6 จำนวน 1,583 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 43% ยอมรับว่าเคยลองดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ซึ่งน่าเป็นห่วงมากเพราะผู้ที่ให้ลองคือ บิดา หรือคนในครอบครัว สำหรับอายุเฉลี่ยที่เริ่มดื่มคือ 9 ขวบ ขณะที่อายุต่ำสุดที่เคยดื่มเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้น และยังพบว่าเด็ก 65% เคยไปซื้อด้วยตนเอง โดยผู้ขายยอมขายทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย 55%
“ที่สำคัญพบว่าเด็ก 100% รู้จักกับสินค้าเหล้าปั่น เบียร์ เบียร์ปั่น เป็นอย่างดีสามารถแยกแยะยี่ห้อได้โดยรู้จักจาก 1.โฆษณา 2.สื่อตามร้านค้าร้านอาหาร 3.เห็นของจริง 4.เคยถูกใช้ไปซื้อ 5.เคยดื่มแล้ว โดยกลุ่มตัวอย่าง 59% บอกว่าอยากลองดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเด็กอยากลองมากที่สุด คือ 1.เบียร์ 2.เหล้าปั่น 3.เบียร์ปั่น สินค้าใหม่มีขายตามร้านขายน้ำผลไม้ปั่น และมีเด็กยอมรับว่าเคยดื่มเหล้าปั่นด้วยตัวเองโดยไม่มีผู้ใหญ่พาไป และคิดว่าเหล้าปั่นไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นความเชื่อและความคิดที่อันตรายมากเพราะร้านเหล่านี้อยู่ในชุมชนไม่ห่างจากโรงเรียน และอยู่รวมกับร้านขายน้ำหวาน น้ำผลไม้ มีแผงลอย รถเร่ ขายอยู่ทั่วไป ทำให้เด็กเข้าถึงได้ง่าย”

จากข้อมูลข้างต้นมีความเป็นจริงมากทีเดียว จึงทำให้กระผมมีความเป็นห่วง เด็กและเยาวชนไทยเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับสิ่งเสพติดประเภทแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็น เบียร์ เหล้า ไวน์และที่มีส่วนประสมจากแอลกอฮอล์

2-3 เดือนก่อนมีข่าวเรื่องการแฉคลิปเด็ดล่อซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บริเวณร้านค้าข้างรั้ว 10 มหาวิทยาลัยดัง โดย ขายเหล้าเบียร์ให้แก่เด็กนักเรียน นักศึกษา ในชุดนักเรียน นักศึกษาอย่างโจ๋งครึ๋ม รวมทั้งมีการขายในหอพักนักเรียน นิสิต นักศึกษาอีกต่างหาก ซึ่งกระผมก็ได้เขียนบทความถึงด้วยความเป็นห่วง รวมทั้งให้ทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ว่า สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน รัฐบาล และผู้ปกครอง

และฝากรัฐบาลช่วยดูแลเรื่องของ ร้านเกมส์ อาบอบนวด และร้านคาราโอเกะ ใกล้สถานศึกษา


แต่เมื่อกระผมมาเจอข่าวและผลการวิจัยของ ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ กระผมยิ่งมีความหนักใจและน่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น เพราะเด็กเหล่านี้ยังเล็กมาก ถ้าเราไม่แก้ไขหรือหยุดยั้ง เด็กเหล่านี้เมื่อโตขึ้นก็จะเป็นนักดื่มกันต่อไปและปัญหาต่างๆ ก็จะมากขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ความรุนแรง เรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเมาแล้วขับ เรื่องของการเรียน เรื่องของครอบครัว เรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องเพศสัมพันธ์ และต่อเนื่องไปใช้หรือเสพยาเสพติดประเภทอื่นๆ

การแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเหล้า หรือเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ นับว่าเป็นปัญหาที่แก้ไขยากมากเพราะเป็นปัญหาที่มีมานานมากแล้ว ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเรา หลายประเทศก็มีปัญหาดังกล่าว แล้วจะไปห้ามไม่ให้ดื่มก็ไม่ได้ ดังนั้นจะเห็นว่ามีการ รณรงค์เรื่องของการดื่มเหล้า เช่น เมาแล้วไม่ขับ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการดื่มเหล้า ฯลฯ จากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น สสส.(สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข และ เครือข่ายของภาครัฐและเอกชน แต่ก็ไม่สามารถหยุดหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ แต่ก็ยังดีที่หน่วยงานต่างๆได้ช่วยกันทำ เพราะบางช่วงเวลา ช่วยลดความเสียหายบางอย่างได้ เช่น อุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ ช่วงปีใหม่ ฯลฯ

อย่างไรเสีย คงต้องขอฝากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้ด้วย เพราะปัญหานี้เกี่ยวข้องกับเด็ก และเด็กก็คือกองกำลังของชาติในอนาคต ถ้ากองกำลังของชาติขาดความเข้มแข็ง ถ้ากองกำลังของชาติติดเหล้า ติดสิ่งเสพติด และมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ แล้วประเทศไทยของเราจะไปแข่งขันกับประเทศไหนได้ครับ




...
  
สู่ผู้นำ
เส้นทางสู่ความเป็นผู้นำ
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

บางคนเกิดมามีชาติตระกูลดี มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัว บางคนเกิดมาต้องมาฝึกฝนตนเองก่อนจึงจะสามารถเป็นผู้นำได้ แต่บางคนเมื่อเกิดเหตุการณ์สถานการณ์ที่วิกฤตจึงได้เป็นผู้นำตามสถานการณ์นั้นๆ


แล้วถ้าเราเกิดมา ไม่ได้มีชาติตระกูลที่ดี แต่เราต้องการเป็นผู้นำ เราก็สามารถฝึกฝนได้ ซึ่งคนเราสามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้หลายทาง ดังนี้


- ต้องมีจิตใจที่มุ่งหมั้น อดทน ตั้งเป้าหมายว่าเราจะเป็นผู้นำให้ได้และเมื่อได้เป็นผู้นำในองค์กรใด องค์หนึ่งแล้ว จงแสดงฝีมือออกมาให้ปรากฏ ถ้ามีปัญหาอุปสรรคก็ขอให้ทำใจเยือกเย็น รับสถานการณ์ต่างๆให้ได้


- ต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องบ้าง แต่ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดก็ได้ เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้นำ


- กล้าที่จะคิดอะไรใหม่ๆ แน่นอน มนุษย์เราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงแต่มนุษย์ของเราจะเจริญก้าวหน้าได้ด้วยการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การคิดอะไรใหม่ๆ การทำอะไรใหม่ๆ ช่วยให้เกิดการพัฒนาตนเอง พัฒนาองค์กร รวมทั้งพัฒนาประเทศชาติด้วย จงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา


- กล้าที่จะเสี่ยง พร้อมที่จะยอมรับความล้มเหลว คนเราเมื่อดูภาพคนที่ประสบความสำเร็จมักจะดูด้วยความสรรเสริญ แต่หารู้ไม่ว่า คนที่ประสบความสำเร็จโดยมากมักผ่านการล้มเหลวมาแล้วทั้งนั้น เช่น อดีตนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ อดีตประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่มักผ่านการสอบตกหรือไม่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วตั้งมากมาย แต่สุดท้ายและท้ายสุด เขาเหล่านั้นจึงประสบความสำเร็จ


- กล้ารับผิดชอบ คุณสมบัติของผู้นำที่ดีมีอยู่ข้อหนึ่ง ก็คือ ความรับผิดชอบ แน่นอนไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด หรือ ผิดพลาด การตัดสินใจบางอย่างอาจก่อให้เกิดการผิดพลาด แต่คนที่เป็นผู้นำที่ดีต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนเอง


- มีความซื่อสัตย์ การเป็นผู้นำนอกจากทำงานเก่งแล้ว ยังต้องมีความซื่อสัตย์และสัตย์ซื่อต่อองค์กร


เพราะถ้าผู้นำไม่มีความซื่อสัตย์เสียแล้ว เช่น โกงกินเงินขององค์กร เวลาลูกน้องโกงกินบ้างผู้นำมักจะไม่กล้าว่าให้แก่ลูกน้อง เพราะตนเองก็ทำมาก่อน


- ผู้นำที่ดีและมีใจที่กว้างต้องรู้จักสนับสนุนลูกน้อง และมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ผู้นำที่ดีต้องรู้จักสร้าง


คนในองค์กร เพราะถ้าคนในองค์กรไม่มีความรู้ความสามารถ ก็มักจะทำให้องค์กรมีปัญหาได้


ดังนั้น ผู้นำที่ดีจำเป็นจะต้องสนับสนุนลูกน้องให้คนที่ทำงานได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง และเลื่อน


ขั้นเงินเดือนให้สูงขึ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ลูกน้อง


- ผู้นำที่ดีต้องมีบุคลิกภาพที่ดีเยี่ยม สุขภาพร่างกายดีแข็งแรง ไม่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ มีใครเคยเห็น


ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ที่เจ็บป่วย เดินแทบไม่ได้ ขึ้นไปพูดหาเสียง พูดสุนทรพจน์บ้างไหม


ถ้ามีก็ดูแล้วไม่ค่อยสง่างาม ดังนั้น ผู้นำต้องรู้จักรักษาสุขภาพของตนเอง พัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การพูด การเจรจาต่อรอง ต่างๆ


และมีอีกหลายปัจจัย ที่ผู้นำต้องนำไปฝึกฝน เรียนรู้กัน เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำที่ดีได้ คนเราสามารถฝึกฝนกันได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียน การพูด บุคลิกภาพ นิสัย ใจคอ จิตใจ ดังนั้น ผู้ต้องการเป็นผู้นำต้องอดทน พัฒนาตนเอง ปรับปรุงตนเอง แล้วเส้นทางสู่ความเป็นผู้นำจะอยู่ไม่ไกลจากเราครับ

...
  
อาหารปลอดภัย
ตลาดอาหารปลอดภัย

ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ความจริงการขายอาหารปลอดภัย ผักไร้สารพิษ นับว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากทำให้สุขภาพของคนไทยในปัจจุบันดีขึ้น แต่ผู้ปลูกผักไร้สารพิษหรือผู้ผลิตอาหารปลอดภัย มักจะบ่นว่าไม่มีตลาดรองรับ โดยเฉพาะผู้ผลิตและผู้จำหน่ายในต่างจังหวัด


ถึงแม้ว่าหลายจังหวัดได้มีโครงการและส่งเสริมการตลาดสำหรับอาหารปลอดภัย เช่น จังหวัดจันทบุรี ได้จัดโครงการตลาดอาหารปลอดภัย ผักไร้สารพิษ ในช่วงเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา ภายในงานมีการตรวจเลือดหาสารพิษในร่างกายจำนวน 152 คน โดยมีประชาชนที่ตรวจมากถึง 77 คน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้มาตรวจเลือดหาสารพิษก็ว่าได้


หรือที่กรุงเทพมหานคร ก็ได้มีการจัดให้มีการประกวดตลาดสะอาดได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย ตั้งแต่ มีนาคมที่ผ่านมาโดยมีตลาดที่เข้าประกวดทั้งสิ้น 61 แห่ง แต่เข้าเกณฑ์ตลาดสะอาดได้มาตรฐานเพียง 41 แห่ง


และจังหวัดพะเยา ก็ได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษฅรคุณภาพจากผู้ผลิตส่งผู้บริโภคจังหวัดพะเยา ในวันที่ 19 สิงหาคม 2552 ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดพะเยาภายในงานก็มีการเสวนาเรื่อง “ สินค้าปลอดภัยจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค ” โดยมีการจัดบอร์ดนิทรรศการ, การจัดตลาดนัดสินค้าเกษตรปลอดภัย,การตอบปัญหาด้านเกษตรและการตรวจสารพิษตกค้างในเลือดอีกทั้งสารปนเปื้อนในอาหารด้วย


ถามว่าทำไมเกษตรกรถึงใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมีต่างๆ ทั้งๆที่รู้ว่าทำให้ผู้บริโภคไม่ปลอดภัย คำตอบอาจเป็นเพราะ ค่านิยมที่เกิดจากตัวผู้บริโภคเองที่ต้องการ ผัก ผลไม้ต้องสวย จึงทำให้ผู้ผลิตต้องหันมาพึ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืช สำหรับผัก ผลไม้ที่ไม่ใช่สารเคมี ต้องคัดแยกผัก ผลไม้ที่ต้นหรือผลไม่สวยออก จนบางครั้งต้องคัดทิ้งถึง


25 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว


สำหรับกระผมเชื่อว่า ถ้าพวกเราเลือกได้อยากรับประทานอาหารปลอดภัย ไม่ว่า ไก่ กุ้งแช่แข็ง ผักสด ผลไม้ และสินค้าผลิตภัณฑ์เกษตรอื่นๆ มากกว่า อาหารที่มีสารพิษ ที่เกิดจากยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี และสารเคมีต่างๆ ถึงแม้อาหารปลอดภัย อาจจะแพงกว่าอาหารที่มีสารเคมีเพียงเล็กน้อยก็ตาม


ปัญหามีอยู่ว่า ผู้ผลิตผู้ขาย สินค้าปลอดภัยมักบ่นว่าไม่มีตลาดสำหรับการขายให้แก่ผู้บริโภค และผู้บริโภคก็ไม่รู้จะไปซื้อสินค้าอาหารปลอดภัยจากไหน ถ้าไม่มีการจัดโครงการที่ให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคมาพบกัน และสิ่งที่สำคัญ เราจะทราบได้อย่างไรถ้าซื้อสินค้านั้นในตลาดทั่วไปว่านี่คือ อาหารปลอดภัย เพราะ ผัก ผลไม้ ไก่ สินค้าเกษตรที่เห็นมันไม่สามารถแยกได้ด้วยสายตาคนเรา ถ้าไม่มีการตรวจสารปนเปื้อน


ดังนั้น ผมคิดว่า ผู้ผลิตและผู้ขายอาหารปลอดภัย ควรพัฒนาตราสินค้าของผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยโดยเฉพาะการเกษตร โดยอาจนำคนกลางมีการควบคุมมาตรฐาน ดังตัวอย่าง ถ้าใครต้องการส่งออกต้องมี ISO ก่อน ฉะนั้น จังหวัดควรให้การสนับสนุนและหาหน่วยงานมาดูแลเป็นพิเศษ ถ้ารอนโยบายจากส่วนกลางอาจล่าช้า อีกทั้งควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำโครงการเสร็จแล้วก็ปล่อยให้เกษตรกรที่ผลิตอาหารปลอดภัยตามยถากรรม


เช่นจังหวัดนครปฐมมีกลุ่มแม่บ้านเกษตรผู้ปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ บ้านห้วยพระ ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม รวมกลุ่มผลิตผลไม้ ผักปลอดสารส่งให้กับ บริษัท กำแพงแสน คอมเมอร์เชียล จำกัด หรือ KC Fresh


ดังนั้น การตลาดหรือช่องทางการตลาด อาหารปลอดภัยจากสารพิษ เกษตรกรภายในจังหวัด หน่วยงานราชการ รวมทั้งคนในจังหวัดต้องร่วมมือกัน


เกษตรกรภายในจังหวัดที่ปลูกหรือผลิต อาหารสารพิษ ต้องจริงจังและจริงใจ ในการปลูกโดยไม่ใช่สารเคมีจริงๆ เพราะบางกรณี เมื่อขายได้แล้ว มีคนเชื่อว่าเป็นอาหารปลอดภัยจริง ไม่มีสารพิษจริง ถึงตอนนั้นเกษตรกรบางรายกลับหันไปใช้สารเคมี เนื่องจากขายไม่ทัน การใช้สารเคมีทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และไม่ต้องทิ้งผักหรือผลไม้ที่ไม่สวย 25 เปอร์เซ็นต์ทิ้ง


หน่วยงานราชการ ต้องช่วยกันสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานเกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ สนับสนุน มีหน่วยงานพิเศษที่ลงมาดูแลเรื่องดังกล่าว มีหน่วยงานรับรองอาจให้ป้ายรับรองว่าร้านนี้เป็น อาหารปลอดภัยจริง


ประชาชนภายในจังหวัดก็ควรให้การสนับสนุน ซื้ออาหารปลอดภัย ภายในจังหวัดของตนก่อน การซื้อของประชาชนภายในจังหวัดจะทำให้ เกษตรกรที่ผลิตหรือขาย อาหารปลอดภัย อยู่ได้ อีกทั้งสุขภาพของผู้บริโภคก็จะดี ไม่มีโรคภัยที่เกิดจาก อาหารที่ปนกับสารเคมี







...
  
ทำไมคนดีๆ จึงลาออก
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)

ทำไมคนดีๆ จึงไม่ยอมอยู่ในองค์กร


ถามว่าทุกองค์กรต้องการคนดี คนเก่ง คนมีความสามารถ คนมีฝีมือ และคนมีคุณภาพ มาอยู่ในองค์กรหรือไม่

ขอตอบว่า ทุกองค์กร อยากที่จะมีคนดี คนเก่ง คนมีความสามารถ คนมีฝีมือ และ คนมีคุณภาพ เข้ามาอยู่ในองค์กรทั้งสิ้น บางองค์กร ถึงขนาดจ้างหรือให้เงินเดือน คนเหล่านี้ สูงมากๆ เพื่อจูงใจให้คนเหล่านี้อยู่ในองค์กร

แต่ทำไม เมื่อคนเหล่านี้ เข้ามาอยู่ในองค์กรแล้ว แค่ระยะเวลาหนึ่งคนเหล่านี้ก็ขอ ลาออกไป สาเหตุที่คนมีคุณภาพเหล่านี้ ต้องออกไป อาจมีอยู่หลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักของคนทำงานให้องค์กรไม่นานก็คือ เรื่องของคนนั่นเอง และปัญหาโดยมากที่เกิดมักเกิดจากหัวหน้างานนั่นเอง ในวันนี้ เราจะมาพูดลักษณะที่ไม่ดีของหัวหน้างานที่ทำให้ลูกน้องไม่อยากอยู่ร่วมองค์กร มีดังนี้

1.ขาดความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง คำพูด การกระทำและหน้าที่การงาน


การเป็นหัวหน้างานหรือหัวหน้าคน คำพูดสำคัญมากครับ ดังนั้น ก่อนที่จะสัญญากับลูกน้องเรื่องอะไรต้องมั่นใจว่าทำได้เสียก่อน เช่น การรับปากว่าจะเลื่อนตำแหน่งให้ แล้วไม่เลื่อนจึงถือว่าเป็นการขาดความรับผิดชอบทางการพูด หรือ รับปากว่าจะให้ผลประโยชน์ต่างๆ แล้วไม่ให้ (โบนัส ขึ้นเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง) แล้วไม่ให้ จึงถือว่าเป็นการขาดความรับผิดชอบทางคำพูดอย่างยิ่ง แล้วในที่สุดจะไม่มีลูกน้องเชื่อถือ


การเป็นหัวหน้างานหรือหัวหน้าคน ต้องมีความรับผิดชอบทางการกระทำ แต่หัวหน้างานที่ไม่ดีมักจะรับแต่ชอบแต่ไม่ชอบรับผิด คือ สิ่งไหนดีตัวเองบอกว่าเป็นผลงานของตนเอง แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็จะโยนให้ลูกน้อง นี่เป็นลักษณะที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งของหัวหน้างาน


การเป็นหัวหน้างานหรือหัวหน้าคน ต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน เราจะเห็นว่าผู้เป็นหัวหน้างานหรือหัวหน้าคนที่ดี ต้องรับผิดชอบในหน้าที่การงานอย่างสูง บางครั้งเราจะเห็นว่าถ้างานไม่เสร็จ เขาจะทำจนเสร็จบางครั้ง ทำงานจน ตี 1-ตี 2 เลยก็มีเพื่อให้งานนั้นเสร็จ


2.หัวหน้างานที่ดี ต้องมีความสามารถในการบริหาร คือ ต้องมีความรู้ความสามารถในด้านการบริหารงาน ไม่โยนให้ลูกน้องทำแต่ตัวเองไม่ยอมทำ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารคน การบริหารงาน และการบริหารเงิน


3.หัวหน้างานที่ดี ต้องรู้จักสอนงานลูกน้อง หัวหน้างานบางคนใจไม่กว้าง คับแคบ ไม่ยอมสอนงานลูกน้อง หรือ สอนงานให้ไม่หมด เนื่องจากกลัวลูกน้อง ได้ดีกว่า รู้มากกว่า การไม่สอนงานลูกน้อง ทำให้คนองค์กรไม่มีคุณภาพ หรือพัฒนา จึงไม่สามารถแข่งขันกับองค์กรอื่นได้


4.หัวหน้างานที่ดีไม่ควรสร้างความแตกแยกในองค์กร เพราะ ผู้บริหารหรือหัวหน้างาน บางคนเชื่อว่าการสร้างความแตกแยก จะทำให้การบริหารงานนั้นง่ายขึ้น เพราะลูกน้องจะไม่รวมตัวกันกดดัน หัวหน้างาน


5.หัวหน้างานที่ดีต้องรู้จักพัฒนาตนเองไม่ว่าทั้ง การงานและความรู้ อีกทั้งต้องกระตุ้นให้ลูกน้องพัฒนาตนเองด้วยทั้งการงานและความรู้ ดังนั้น หัวหน้างานต้องเป็นแบบอย่างที่ดี


สุดท้ายก็ขอฝากแง่คิดเกี่ยวกับคนไว้ดังนี้ครับ


ฉลาดและขยัน เป็นนายคน


ฉลาดและขี้เกียจ เป็นที่ปรึกษา


โง่และขี้เกียจ เป็นคนรับใช้


โง่และขยัน เป็นอะไรก็ไม่ได้





























...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.