หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  
  -  
  -  
  -  
  -  
  -  การตลาดยุคใหม่ : นักการตลาดยุคใหม่
  -  การตลาดรุ่ง เราต้องมุ่งที่การสร้างความสัมพันธ์
  -  สามก๊กกับกลยุทธ์การตลาด
  -  Digital Marketing for SME
  -  การตลาดสมัยใหม่
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

...
  

...
  

...
  

...
  

...
  
การตลาดยุคใหม่ : นักการตลาดยุคใหม่
การตลาดยุคใหม่ : นักการตลาดยุคใหม่
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
สงครามการตลาดในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันที่ดุเดือด บางธุรกิจยอมที่จะลดราคา ตามคู่แข่งขัน ทั้งๆที่ต้นทุนของบริษัทตนเองนั้นสูงกว่าคู่แข่ง การตลาดกับการขายมีส่วนคล้ายคลึงกันอย่างหนึ่งคือ มีการตอบรับและการถูกปฏิเสธ ดังนั้น หากทำการตลาดไปแล้ว ผลสะท้อนกลับมาอาจไม่ดีพอ เราอาจจะต้องทำใจ เพราะสิ่งทุกสิ่งในโลกนี้มักมี 2 ด้าน เสมอ เช่น มีบวกมีลบ , มีสมหวังมีผิดหวัง ฯลฯ นักการตลาดยุคใหม่จึงต้องเข้าใจและยอมรับ
การตลาดในยุคเก่า มักจะต้องหาสินค้าและบริการมาเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้า แต่การตลาดในยุคใหม่ อาจจะต้องเพิ่มในเรื่องของการ “ กระตุ้นต่อมความอยากของลูกค้า” การกระตุ้นต่อมอยากจะทำให้ลูกค้ามีความต้องการที่จะซื้อสินค้า ทั้งๆที่ผ่านมาไม่เคยคิดที่จะซื้อหรือใช้ การกระตุ้นต่อมความอยากจึงเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดมากยิ่งขึ้น เช่น
การกระตุ้นด้วยการใช้ฟรีเซ็นเตอร์ นักโฆษณารู้ดีว่าทำไมจึงต้องเอาดารา นักร้อง ที่มีแฟนคลับเป็นจำนวนมากๆ เพื่อมาโฆษณาสินค้า ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ชีวิตจริง ดารา นักร้องคนนั้นไม่ได้ใช้สินค้าชิ้นนั้นเลย แต่การใช้ฟรีเซ็นเตอร์คนดัง สามารถกระตุ้นให้แฟนคลับของคนดัง ใช้สินค้าและบริการตามไปด้วย
การกระตุ้นด้วยเทรนด์ นักการตลาดสมัยใหม่ มักสร้างกระแสเทรนด์ขึ้นมา เพื่อให้ผู้บริโภคตาม เพราะหากผู้บริโภคไม่ใช้ อาจที่จะถูกมองว่าตกเทรนด์ การกระตุ้นด้วยเทรนด์มักจะสร้างกระแสผ่านสื่อต่างๆ เช่น การสื่อให้เห็นถึงความเป็นคนทันสมัย ล้ำยุคหากว่าใช้สินค้าของตนเอง การสื่อให้เห็นถึงการรักษาสุขภาพ หากว่าใช้สินค้าของตนแล้วสุขภาพจะดีขึ้น เป็นต้น
การกระตุ้นด้วยเรื่องราวหรือ Story ดังเราจะสังเกตเห็น ตามธุรกิจการท่องเที่ยว สถานที่ต่างๆ มักสร้างเรื่องราวออกมานำเสนอ เพื่อให้ลูกค้า เกิดความสนใจที่อยากจะไปเที่ยว อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องราวนั้นๆ วางจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย เช่น กำแพงเมืองจีน , วัดวาอารามต่างๆ , สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ
รู้เขารู้เรา...รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง...การแข่งขันทางการตลาด เรารู้จักผลิตภัณฑ์ของตนเอง เราพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราเองยังไม่เป็นการเพียงพอ เรายังจะต้องรู้ว่าบริษัทคู่แข่ง เขาทำอะไรออกมาบ้าง มีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาเพิ่มอีกหรือเปล่า คู่แข่งรายใดออกนอกตลาดไปแล้ว ฉะนั้น ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหว จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ที่นักการตลาดยุคใหม่จะต้องติดตามอยู่ตลอดเวลา
จงสร้างความแตกต่าง โดดเด่น โดนใจ หากว่าเราสังเกตในการแข่งขันทางธุรกิจทุกประเภท สินค้า บริการ มักจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่นักการตลาดยุคใหม่จะทำอย่างไร เพื่อให้สินค้า บริการ ของเราเป็นที่แตกต่าง โดดเด่น โดนใจ หากว่าทำได้ สินค้า และบริการ นั้นๆ ก็จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันขึ้นมาทันที
สุดท้ายสิ่งที่นักการตลาดยุคใหม่ มีความจำเป็นจะต้องศึกษา เรียนรู้ ก็คือเรื่องของ IMC Integrated Marketing Communication หรือ การสื่อทางการตลาดแบบครบเครื่อง ซึ่งจะต้องไปศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของ การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การขายตรง การสื่อสาร ณ จุดขาย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ฯลฯ
จากข้อความข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า นักการตลาดยุคใหม่ จะต้องทำงานหนัก มีความรู้ มีข้อมูล ข่าวสาร มีทักษะต่างๆ ที่มากขึ้น อีกทั้งต้องมีความกล้าตัดสินใจ กล้าได้ กล้าเสีย อีกทั้งต้องมีความรวดเร็ว เพราะการแข่งขันในยุคนี้ หากช้าไปหนึ่งก้าว คู่แข่งขันก็อาจแซงหน้าไปได้ ฉะนั้น นักการตลาดในยุคใหม่คุณก็สามารถเป็นได้ หากว่าคุณมีความตั้งใจ มีการฝึกฝน เรียนรู้ อย่างสม่ำเสมอ และมีความเชื่อมั่นในตนเอง

...
  
การตลาดรุ่ง เราต้องมุ่งที่การสร้างความสัมพันธ์
การตลาดรุ่ง...เราต้องมุ่งที่การสร้างความสัมพันธ์
....โดย ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
หากถ้าพูดถึงเรื่องการตลาด คำว่า “ลูกค้า ”มีความสำคัญมาก เพราะถ้ามีลูกค้า บริษัทนั้น องค์กรนั้น มีความเจริญเติบโต มีกำไร มีการขยายงาน มีการเพิ่มคนงาน ซึ่งลูกค้านั้น เรามาจาก 2 แหล่งใหญ่ๆ คือ 1.การหาลูกค้าใหม่ และ 2.การรักษาลูกค้าเก่า
1. การหาลูกค้าใหม่ เราต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาข้อมูล หาความต้องการ หาแรงจูงใจ มอบข้อเสนอ และสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าใหม่
2. การรักษาลูกค้าเก่า เราสามารถทำได้ง่ายกว่า เพราะเรามีข้อมูล รู้ความต้องการ และลูกค้าก็ได้ทดลองสินค้า บริการแล้ว อีกทั้ง ถ้าหากลูกค้าเก่ามีการขยายกิจการ มีความต้องการสินค้าใหม่ๆที่ บริษัทเรามีจำหน่ายหรือบริการ เราสามารถนำเสนอขายได้ทันที
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า จึงเป็นปัจจัยหนึ่งในการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน
เพราะลูกค้าเก่าสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้ ด้วยการบอกต่อ ในทางกลับกัน ลูกค้าเก่า ก็สามารถบอกต่อไปยังคนใหม่ๆ ในเรื่องสินค้าและบริการที่ไม่ดีของเราได้เช่นกัน
มีงานวิจัยของสถาบันแห่งหนึ่งในสหรัฐ เคยวิจัยพบว่า ลูกค้าไม่พอใจในบริการ 1 คน จะบอกต่อถึง 78 คน แต่ถ้าบริการดี ลูกค้าพอใจจะบอกต่อ 1 คน ต่อ10 คน และจะกลับมาใช้ใหม่35%
ถ้าหากเราทำให้ลูกค้าพอใจ 1,000 คน เขาจะบอกต่อเพียงแค่ 10,000 คน แต่ตรงกันข้ามถ้าหากเราทำให้ลูกค้าไม่พอใจ 1,000 คน ลูกค้าจะไปบอกต่อถึง 78,000 คนเลยทีเดียว ดังนั้น การทำให้ลูกค้าพอใจในเชิงบวก มีความสำคัญกว่าสิ่งที่ลูกค้ามีประสบการณ์ในเชิงลบต่อหน่วยงาน ต่อสินค้า และบริการของเรา
ซึ่งประสบการณ์ในเชิงบวกหรือเชิงลบ มีความละเอียดอ่อนมาก เพราะมันรวมไปถึงจุดเล็กๆน้อยๆ เช่น คำพูดหรือบริการของ พนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน พนักงานรับโทรศัพท์ ตลอดจนถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและทันสมัยด้วย
ตัวอย่างเช่น หากเราเข้าไปยังร้านขายอาหาร 2 ร้าน
ร้านที่ 1 มีการไหว้ มีการพูดจาอย่างสุภาพ มีการต้อนรับ มีการรับคำสั่งรายการอาหารอย่างรวดเร็ว มีการทวนคำสั่งรายการอาหารเพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาด หากเราไม่รู้จะสั่งอะไร พนักงานก็แนะนำรายการอาหารเมนูพิเศษให้ และคิดเงินไม่ผิดพลาด ตลอดรวมไปถึง การจัดสถานที่ จัดโต๊ะ ที่นั่งมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด
ร้านที่ 2 ไม่มีการต้อนรับลูกค้า มีการรับคำสั่งซื้อสินค้าช้า อีกทั้งยังพูดจาไม่ดี ร้านสกปรก
ถามว่าเราอยากเข้าร้านไหน แล้วถ้าจะแนะนำเพื่อนๆ เราจะแนะนำร้านไหน อีกทั้งเราจะพูดถึงร้านที่ 2 ในลักษณะใด
CRM จึงมีการพูดถึงกันมาก CRM คืออะไร ทำไมต้อง CRM
CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management
CRM คือ การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
CRM หมายถึง วิธีการต่างๆ ที่เราจะนำเอาไปใช้ในการบริหารลูกค้าให้เกิดความรู้สึกที่ดี มีความผูกพันธ์กับสินค้า ,บริการ หรือหน่วยงานของเรา เมื่อลูกค้ามีความผูกพันธ์ในทางที่ดี ชอบเรา รักเรา แล้วลูกค้าคนนั้นก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าหรือบริการอื่น ในขณะเดียวกันก็จะเกิดการบอกต่อไปยังเพื่อนๆ จึงทำให้เรามีฐานลูกค้าที่มั่้นคงและเพิ่มขึ้น
C คือ Customer เราต้องรู้จักลูกค้าของเราก่อนว่าลูกค้าคือใคร แบ่งกลุ่มได้กี่กลุ่ม เราจะเก็บข้อมูลอย่างไร และเราจะสร้างฐานลูกค้าอย่างไร
R คือ Relationship ความสัมพันธ์ ทำอย่างไรจะสร้างความสัมพันธ์เพื่อให้เกิดชุมชนหรือเพื่อให้เกิดครอบครัวใหญ่
M คือ Management เราจะติดต่อกับลูกค้าหรือสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร เมื่อไร จะบริหารจัดการลูกค้าอย่างไร
ฉะนั้น CRM จึงต้องอาศัยเป้าหมายและการวางแผน ว่าปีหนึ่งเราจะติดต่อกับลูกค้ากี่ครั้ง เมื่อไร เดือนไหน พร้อมทั้งมีการเสนอขายสินค้าและบริการเมื่อไร เพราะถ้ามีลูกค้าแต่ไม่มีการสั่งซื้อก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ทั้งนี้ คงต้องถามว่า ลูกค้าต้องการอะไร เพื่อที่จะเสนอขายสินค้าและบริการได้ตรงกับหัวใจของลูกค้า ฉะนั้น ฝ่ายออกแบบสินค้าและฝ่ายผลิตภัณฑ์ ก็ควรที่จะออกไปพบลูกค้าหรือพยายามทำสินค้าให้ออกมาตรงกับความต้องการของลูกค้าด้วย จึงจะทำให้ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดทำงานได้ง่ายขึ้น
ถ้าจะให้ดีองค์กร หน่วยงาน ควรมีการจัดทำใบประเมินความพึงพอใจของสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการ ก็จะทำให้ทราบว่าลูกค้ามีความพอใจและต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่า สร้างกำไร องค์กรมีการเติบโต มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ยังก่อให้เกิดประโยชน์อีกหลายอย่างเช่น ช่วยส่งเสริมการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น , ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน , ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นกับองค์กร , ช่วยในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นต้น
...
  
สามก๊กกับกลยุทธ์การตลาด
สามก๊กกับกลยุทธ์การตลาด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ที่นั่งที่ดีที่สุดคือที่นั่งในหัวใจคน , รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง, อันธรรมดาการทำสงครามจะชนะอย่างเดียวไม่ได้ย่อมมีแพ้บ้างชนะบ้าง....คำคมสุภาษิตเหล่านี้ มีในหนังสือเรื่องสามก๊ก..
สามก๊ก เป็นวรรณกรรมจีนแต่อิงประวัติศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวกับการทำสงครามเพื่อแย่งชิงดินแดน ซึ่งภายในวรรณกรรมเรื่องนี้ ได้ให้ความรู้ทางด้าน ตำราพิชัยสงครามภาคปฏิบัติ การบริหาร การเมือง การจัดการ จิตวิทยา ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ นักการตลาดสามารถนำเอามาประยุกต์ใช้ได้ ดังต่อไปนี้
1.การคิดนวัตกรรมใหม่ๆ การทำสงครามในวรรณกรรมสามก๊ก เราจะเห็นได้ว่า ก๊กใด กลุ่มใด ที่สามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆได้มักจะได้เปรียบในการทำศึกสงคราม เช่น ขงเบ้งประดิษฐ์หรือคิดค้นโคยนต์ซึ่งมีกลไกต่างๆ เพื่อนำเอาไปใช้ขนเสบียง สามารถเดินทางได้ในที่ต่างๆได้อย่างสะดวก ทำให้ประหยัดกำลังและแรงงานของทหารในการขนเสบียง , เครื่องยิงหิน ของ เล่าหัว (กุนซือของโจโฉ) ได้ประดิษฐ์อาวุธนี้เพื่อพิชิตหอรบของอ้วนเสี้ยว ในสงคราม ยุทธการกัวต๋อ
เราจะเห็นได้ว่า ก๊กใด กลุ่มใด ที่มีการคิดค้น ประดิษฐ์ อาวุธหรือเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้ในการทำสงครามย่อมได้เปรียบ ก๊กหรือกลุ่มอื่นๆ เพราะ นวัตกรรมใหม่ๆที่สร้างขึ้นมามักเป็นเครื่องทุ่นแรงในการทำงาน เช่นเดียวกัน หากว่านักการตลาดผู้ใดสามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ในการทำการตลาด นักการตลาดผู้นั้น มักจะได้เปรียบในการต่อสู้ทางการตลาด
2.ลับ ลวง พราง เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ในสามก๊ก ค่อนข้างมาก เช่น กลศึกปิดเมือง ขงเบ้งเจอสุมาอี้ปิดค่าย แต่ขงเบ้งเก่งกาจและมีปัญญาจึงใช้ กลยุทธ์ ลับ ลวง พราง เปิดประตูค่าย แล้วตนเองก็ตีขิมหรือพิณ อย่างสบายอารมณ์ สุมาอี้เป็นคนคิดมาก จึงไม่กล้าบุกเข้าไปในค่าย แล้วสั่งลูกน้องให้ถอยทัพ กลยุทธ์ ลับ ลวง พราง จึงนิยมใช้ในการทหาร การเมือง รวมทั้งการตลาด ตัวอย่างการปล่อยข่าวของบางบริษัท เพื่อทำการเบี่ยงเบนความสนใจหรือทำให้คู่แข่งเข้าใจผิด เป็นต้น
3.กลยุทธ์แบบ กองโจรหรือป่าล้อมเมือง คือกลยุทธ์ในการโจมตีคู่แข่งในจุดที่คู่แข่งไม่ให้ความสนใจ หรือป้องกัน หรือประมาท เช่น การทำการตลาดของสินค้า ในต่างจังหวัดก่อนที่จะเข้าไปทำการตลาดในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ๆ
4.กลยุทธ์ตีชิงตามไฟ เป็นกลยุทธ์ที่ศัตรูยังอยู่ในสถานการณ์ที่อ่อนแอ ย่ำแย่ เราควรรีบฉกฉวยโอกาสเข้าทำศึกเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ตัวอย่างเช่น ตั๋งโต๊ะ ฉกฉวยโอกาสยึดเมืองหลวงและราชสำนักของพระเจ้าหองจูเหียบมาเป็นของตนเอง เช่นกันหากว่าคู่แข่งของเรากำลังอ่อนแอ เจอข่าวร้าย เจอมรสุมทางธุรกิจ นักการตลาดก็ควรใช้จังหวะในการขยายฐานการตลาดหรือทำการตลาดเพื่อช่วงชิงฐานลูกค้า
5.กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิน เป็นกลยุทธ์ที่โจมตีศัตรูในจุดที่ศัตรูคาดไม่ถึง เช่น ขงเบ้งหลอกล่อ เฮ็กเจียวให้เกิดความสับสน หลงกล ในการนำกำลังทหารเฝ้าระวังการบุกโจมตีด่านตันฉอง
6.กลยุทธ์ตีหญ้าให้งูตื่น เป็นกลยุทธ์ที่ หากมีสิ่งใดพึงสงสัย ผิดแผกจากเดิม ควรส่งคนไปสอดแนมให้มั่นใจเสียก่อน และหากศัตรูสงบนิ่งก็พึงสร้างสถานการณ์ให้ศัตรูเคลื่อนไหวเพื่อเกิดช่องโหว่ ดังตัวอย่าง ขงเบ้งต้องการดูชั้นเชิงกองกำลังทหารของโจโฉ เมื่อคราวเล่าปี่นำกำลังทหารไปตีฮันต๋ง จึงหลอกให้โจโฉเคลื่อนไหว กำลังพล
7.กลยุทธ์จับโจรเอาหัวโจก เป็นกลยุทธ์ที่ทำศึกสงคราม ต้องบุกโจมตีศัตรูในจุดยุทธศาสตร์ของกองทัพ เช่น ขงเบ้งทำสงครามกับวุยก๊ก จึงออกอุบายกำจัดสุมาอี้ เพราะขงเบ้งรู้ดีว่า หากขาดสุมาอี้แล้วกองทัพของวุยก๊ก ก็จะไม่มีความยิ่งใหญ่อีกต่อไป
8.กลยุทธ์กวนน้ำจับปลา เป็นกลยุทธ์ที่ฉกฉวยจังหวะที่ศัตรูเกิดความปั่นป่วยภายในกองทัพให้เป็นประโยชน์ เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์มาเป็นของตนเอง แล้วจึงนำกำลังบุกเข้าโจมตีเพื่อให้ได้ชัยชนะ เช่น อ้วนเสี้ยว หลอกกองทัพซุนจ้านในการนำกองกำลังทหารบุกร่วมเข้าโจมตียึดเอากิจิ๋วจากฮันฮก
8.กลยุทธ์ข่าวสาร เป็นกลยุทธ์เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลข่าวสาร ประกอบการตัดสินใจในการทำการตลาด ยิ่งในยุคปัจจุบันนี้ การสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ เพราะโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกไร้พรมแดน เราสามารถสื่อสารไปยังลูกค้าได้ทั่วทั้งประเทศ ทั่วทั้งโลก ก็ด้วยระบบเครือข่ายต่างๆ

9.กลยุทธ์หลบหนี เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ย่อมแพ้ชั่วคราว หากว่ากองกำลังของฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง เราก็ควรที่จะถอยไปตั้งหลักก่อน ไม่ควรปะทะ แต่ควรที่จะหลบเลี่ยงการปะทะหรือการเผชิญหน้า การถอยไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผิด แต่เป็นธรรมดาของการทำสงคราม ไม่ควรคิดว่าตนเองเสียเกียรติหรือเสียหน้า
และยังมีอีกหลายกลยุทธ์ที่กระผมยังไม่ได้พูดถึง ท่านผู้อ่านสามารถไปหาอ่านได้ในหนังสือสามก๊ก หรือ ตำราพิชัยสงครามต่างๆได้ เพราะการทำสงคราม การทหาร การเมือง ไม่มีความแตกต่างกันมากนักกับการทำการตลาด และเราสามารถประยุกต์ใช้ กลยุทธ์ต่างๆเหล่านี้ได้กับการตลาด



...
  
Digital Marketing for SME
Digital Marketing for SME
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ธุรกิจ SME (Small and Medium Enterprises) หรือ ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง ในการประกอบธุรกิจ ธุรกิจ SME อาจเสียเปรียบธุรกิจขนาดใหญ่ ในเรื่องของเงินทุน ในเรื่องของบุคลากร ในเรื่องของเครื่องจักรอุปกรณ์ แต่หากว่าเรามองลงไปให้ลึกซึ้ง เราจะเห็นได้ว่า ธุรกิจ SME จะมีความได้เปรียบธุรกิจขนาดใหญ่ อยู่หลายเรื่องด้วยกัน เช่น เรื่องความคล่องตัว การคิดสร้างสรรค์ การบริหารที่รวดเร็วกว่าในเชิงนโยบาย เปรียบเทียบดังเช่น ธุรกิจขนาดใหญ่เป็นปลาตัวใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กเป็นปลาตัวเล็ก ปลาตัวใหญ่อาจจะมีโอกาสกินปลาตัวเล็กก็จริง แต่ปลาตัวใหญ่ จะเคลื่อนไหวได้ช้ามาก หรือ เปรียบเทียบธุรกิจขนาดใหญ่เป็นเรือลำใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก เปรียบดังเรือลำเล็ก เรือลำเล็ก อาจแล่นไปช้ากว่า แต่ เวลาจะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา เรือลำเล็กจะเลี้ยวได้เร็วกว่าเรือลำใหญ่
โลกในยุคปัจจุบัน เราต้องยอมรับกันว่าเป็นยุคของเทคโนโลยี โลกของยุค Digital หากว่าเราได้มองดูไปรอบๆตัว เราจะเห็นผู้คน ได้อ่าน ได้เล่น ได้ดู ข่าวสาร ข้อมูล ผ่านทาง Social Media ซึ่งส่วนใหญ่จะดูผ่านทางช่องทาง Mobile ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงาน
คนในยุคปัจจุบัน หากไม่ยอมเรียนรู้ เทคโนโลยีหรือDigital ก็จะล้าหลัง การทำธุรกิจ ในยุคปัจจุบันก็เช่นกัน ไม่ว่าจะผลิตสินค้าหรือบริการ หากว่า บริษัท ไม่ได้ทำการตลาดผ่านเทคโนโลยีหรือDigital ก็จะเกิดการเสียเปรียบคู่แข่งขัน
แล้วการทำการตลาด Digital Marketing คือ อะไร Digital Marketing คือ การทำธุรกิจ การขายสินค้า การทำการตลาดเชิงสร้างสรรค์ผ่านช่องทางในโลก Internet และ Technology โดยใช้ Social Network เป็นเครื่องมือทางการตลาด
Digital Marketing Trend – แนวโน้มและภาพรวมในตลาดดิจิทัล มีงานสำรวจของ Morgan Stanley Research ในปี 2010 มีผู้ใช้สื่อ Social Network ผ่าน WebSite ต่างๆมีจำนวนเกือบ 900 ล้านล้านคนและมีอัตราการเพิ่มขึ้นเกือบ 40%ต่อปี เลยทีเดียว

Digital Marketing Planning – การทำการตลาดที่ดีต้องมีการวางแผน การทำการตลาดดิจิทัลก็เช่นเดียวกัน เราจะต้องวางแผนก่อนเป็นอันดับแรกๆ ว่าเราจะใช้เครื่องมืออะไร ในช่วงไหน งบประมาณต้องใช้เท่าไร หรือจะใช้สื่ออะไรผสมผสานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำการตลาดมากขึ้น
Create Online Presence – การทำการตลาดที่ดี เราต้องมีการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของตนเอง เราจำเป็นจะต้องสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ด้วย Web, blog, Apps, และ Social Media Page การสร้างตัวตนของตัวเองจะทำให้ ลูกค้าหรือผู้พบเห็นทราบว่า เรากำลัง ขายอะไร เรากำลังทำธุรกิจอะไร ซึ่งคนที่สร้างสรรค์คำ สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ทั้งภาพ ทั้งเสียง เพื่อนำมาเสนอ จะเป็นที่น่าสนใจของผู้ชมหรือผู้เข้าไปเยี่ยมชม
Search Marketing – การทำการตลาดให้ติดอันดับ เราจำเป็นจะต้องทำเว็บไซต์หรือเครื่องมือของเราให้ติดอันดับที่ดีๆ บน Search Engine(โปรแกรมค้นหา) เช่น Google , Yahoo , MSN
Social Media Marketing – เครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งที่มีความนิยมกันเพื่อจะโปรโมทธุรกิจผ่าน Social Media เครื่องมือต่างๆ ที่นิยม เช่น Facebook, Youtube, Line , twitter และ Instagram ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องมีหรือต้องทำ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับชมหรือติดตาม เพราะถ้าเลือกใช้ช่องทางผิด ก็จะทำให้เราเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปโดยใช่เหตุ ตัวอย่าง twitter ผู้ที่ใช้ twitter มักเป็นกลุ่ม นักข่าว นักการเมือง ซึ่งผู้ใช้ สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษรต่อครั้ง ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
Email Marketing – การขายผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นสิ่งทำกันอย่างแพร่หลาย เพราะราคาถูก รวดเร็ว สะดวก ทำได้ง่าย ประหยัด
Location-Based Marketing – ที่อยู่หรือที่ตั้งธุรกิจบนโลกออนไลน์มีความสำคัญเพราะจะทำให้ลูกค้าทราบว่าสถานที่ของธุรกิจในโลกออนไลน์ของเราอยู่ที่ไหน
Digital Advertising – การที่จะทำให้ Web, blog, Apps, และ Social Media Page คนเข้ามาชมมากมาดูมาก เราอาจมีความจำเป็นที่จะต้องทำการโฆษณา ในยุคนี้มีบริษัทที่เขาช่วยให้ Web, blog, Apps, และ Social Media Page ติดอันดับ 1 มีมากมายเพียงแต่เราต้องเสียเงินจ่ายค่าบริการ
Digital Marketing Performance Monitoring – การบริหารจัดการการตลาด Digital Marketing จำเป็นต้องมี การตรวจสอบ มีการควบคุม มีการวัดผลความสำเร็จ ซึ่งจำเป็นจะต้องเรียนรู้ Google Analytics, Facebook Insight เป็นต้น
แนวโน้มการใช้ Digital Marketing ที่สำคัญคือ So Lo Mo
So = Social ในปัจจุบันนิยมใช้ Facebook จะเป็นตัวสร้างชุมชน ส่วน เว๊ปไซค์จะเป็นตัวให้รายละเอียดของสินค้า บริการ ผลิตภัณฑ์
Lo = Local มีการปักหมุดในแผนที่ เพื่อให้ลูกค้า รู้จักสถานที่ หรือบริษัทของเรา
Mo = Mobile การใช้มือถือในการทำการตลาดเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะในมือถือในปัจจุบันสามารถทำอะไรได้มากมาย อีกทั้งยังมีราคาถูก
ตัวอย่าง Facebook ร้านพี่อ้อ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง(เพชรบุรีซอย 5) ใช้ social คือ Facebook เป็นชุมชน มีการปักหมุนคือ เพชรบุรีซอย 5 ตอนนี้มีคนกดถูกใจเกือบ 300,000 คน
ทูนหัวของบ่าว เป็น Facebook ของคนรักแมว มีคนกดถูกใจเกือบ 2,200,000 คน
ดังนั้น ธุรกิจ SME มีความจำเป็นที่จะต้องมีการทำการตลาดในโลกออนไลน์ เนื่องจากการทำการตลาด Digital Marketing มีราคาถูก ประหยัด สามารถสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆได้ง่ายกว่า อีกทั้งการทำการตลาด Digital Marketing ยังมีแนวโน้มที่ดีและคนรุ่นใหม่เข้าไปใช้กันมากในโลกอนาคตและโลกในยุคปัจจุบัน จึงทำให้มีลูกค้าเพิ่มจำนวนมากขึ้นในทุกๆปี
...
  
การตลาดสมัยใหม่
การตลาดสมัยใหม่
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com

มีนักวิชาการได้แบ่งโลกในยุคปัจจุบันออกเป็น 2 โลก คือ
1.โลกที่เราอาศัยอยู่
2.โลกออนไลน์หรือโลกเสมือน ในอินเตอร์เน็ต
การมีโลกออนไลน์หรือโลกเสมือน จึงทำให้นักการตลาดในยุคนี้ หลายบริษัท ได้ทุ่มทำการตลาดในโลกออนไลน์หรือโลกเสมือน ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า การทำการตลาดในยุคปัจจุบันนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตค่อนข้างมาก เนื่องจากในยุคนี้ เรามีอินเตอร์เน็ต มีเทคโนโลยี มีเครื่องมือที่ช่วยในการทำการตลาดที่ทันสมัย มีความสะดวก รวดเร็ว และราคาถูกมากกว่าในอดีต
ในยุคสมัยนี้ หลายองค์กร หลายบริษัท ได้ทุ่มงบประมาณไปกับการทำการตลาดใน Social Media หรือ สังคมออนไลน์ที่มีผู้ส่งสาร ผู้รับสาร ซึ่งมีเนื้อหาในรูปแบบต่างๆ ทั้ง บทความ รูปภาพ วิดีโอ แล้วนำเอามาแบ่งปันแชร์ให้ผู้อื่นในเครือข่ายได้รับรู้ รับฟัง โดยผ่านทาง Social Network ในระบบ Internet
ซึ่ง การทำการตลาดใน Social Media สามารถทำได้ง่าย เนื่องจาก จะมีระบบต่างๆ ควบคุมอยู่ มีการประเมินจากโปรแกรมต่างๆ ซึ่งทำให้รู้ได้ว่า กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าอยู่ไหน มีตัวเลขผู้ใช้หรือถูกสนใจปรากฏให้เห็น
ความจริง Social Media มีความสำคัญ แต่ในความคิดเห็นของกระผมแล้ว เราไม่ควรทำการตลาดแบบทุ่มงบประมาณมากจนเกินไปหรือทุ่ม 100 เปอร์เซ็นต์ ให้กับโลกออนไลน์หรือโลกเสมือน แต่สิ่งที่ควรทำคือ ทำการตลาดผสมกันระหว่างการตลาดแบบเก่าและการตลาดแบบใหม่ และควรจัดสรรงบประมาณแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรทุ่มงบประมาณไปแบบสุดตัว
การจัดสรรงบประมาณแบบผสม จะทำให้เกิดการส่งต่อได้ดีกว่า เช่น การใช้กลยุทธ์แบบปากต่อปาก หรือ การบอกต่อ ถ้าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเราดี ลูกค้ามักจะบอกต่อ แต่ถ้าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ไม่ดี ลูกค้าก็จะบอกต่อในด้านไม่ดี แล้วเขาก็จะแชร์หรือแบ่งปันกันผ่าน Social Media
เราจะเห็นได้ว่า โลกของเรา ประเทศของเราจะมีการสื่อสารกันมากขึ้น ไม่ว่าการสื่อสารภายในประเทศหรือกับต่างประเทศ ฉะนั้น การสื่อสารจึงเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าในอดีต อีกทั้งมีความสะดวกสบาย ทันสมัย รวดเร็ว คมชัด จึงทำให้นักการตลาดต้องคำนึงถึงคุณภาพของสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริการ มากขึ้น เพราะถ้าหากบริษัทใด ผลิตสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริการ ออกสู่ตลาดแบบ ไม่มีคุณภาพหรือคุณภาพต่ำ ก็คงต้องออกจากตลาดหรือตายจากไป การตลาดในยุคปัจจุบันจึงต้องคำนึง ถึงคุณภาพเป็นหลัก บริษัทต้องมีการปรับตัว มีการพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้น
สำหรับการทำการตลาดในยุคปัจจุบันและในยุคอนาคต จึงเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ไม่หยุดนิ่ง ไร้กลยุทธ์ ไร้กระบวนท่า แต่การทำการตลาด ในยุคปัจจุบันและในยุคอนาคต ควรทำให้ถูกสถานการณ์ ถูกจังหวะเวลา ถูกกาลเวลา และต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ในทันต่อเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ ต้องอาศัยการสังเกตลูกค้า สังเกตสิ่งแวดล้อม สังเกตการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งควรสร้างนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ขึ้นมาให้แก่ลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เช่น สตีฟ จอบส์ แห่งบริษัทแอปเปิล ได้สร้างนวัตกรรมสินค้าตระกูล I ขึ้น( iPad , iPhone , iPod ,iTunes) เพราะถ้าสินค้าเหมือนๆกัน ลูกค้าสามารถซื้อสินค้ายี่ห้อใดๆ ก็ได้ แต่ถ้า สินค้าของเรามีความแตกต่างกับยี่ห้ออื่นๆ และก็มีคุณภาพที่ดีกว่า แน่นอน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็อยากที่จะมาทดลองซื้อ และมีการซื้อซ้ำ ฉะนั้น ความคิดที่มีความแตกต่าง ความคิดที่สร้างสรรค์ จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับโลกการตลาดในยุคนี้
นวัตกรรมจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ในทุกวงการ หากว่า ท่านมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการทำการตลาดสมัยใหม่ เช่น การสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ , การสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาธุรกิจยานยนต์, การสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาธุรกิจการเงินการธนาคาร , การสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาธุรกิจด้านการเกษตรกรรม เป็นต้น
ในยุคนี้ หากต้องการความอยู่รอด และยั่งยืน สินค้า ผลิตภัณฑ์ บริษัท จะต้องมีคุณภาพอย่างแท้จริงและต้องนำเสนอ สินค้า ผลิตภัณฑ์ บริษัท ด้วยความจริงใจ ไม่หลอกลวง แต่ต้องทำทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา ด้วยความโปร่งใส และต้องคำนึงถึงตัวของลูกค้าว่าลูกค้ามีความต้องการอะไร ซึ่งส่วนใหญ่หัวใจของลูกค้าก็จะมีความต้องการดังนี้
1.ลูกค้าต้องการความคุ้มค่าของสินค้าเมื่อเปรียบเทียบกับราคา
2. ลูกค้าต้องการความสะดวกรวดเร็ว ทันใจ ง่าย ในการเข้าถึงตัวของสินค้าและบริการ
3.ลูกค้าต้องการสินค้าที่ “โดนใจ” หรือ สินค้าที่ “ใช่”
4.ลูกค้าต้องการที่จะติดต่อสื่อสารกับ บริษัท แบบ ง่าย สะดวก รวดเร็ว เพื่อที่จะถามคำถามต่างๆ
5.ลูกค้าต้องการให้บริษัท สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น มีการติดต่อกับลูกค้าบ้าง มีการออกโปรโมชั่นใหม่ๆ มีการบริการหลังการขาย ฯลฯ
สำหรับการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในการทำการตลาดสมัยใหม่ เราควรคำนึงถึง เรื่องต่างๆดังนี้
1.การสร้างภาพพจน์หรือภาพลักษณ์ ของสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริษัท
2.การบริการหรือการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ที่ดีกว่าคู่แข่งขัน
3.การสร้างความรวดเร็ว ความสะดวก ความง่าย ในการบริการ
4.การใช้เทคโนโลยี เข้าช่วย ซึ่งจะทำให้เกิดความทันสมัย เกิดภาพลักษณ์ที่ดี เกิดความรวดเร็ว ทันใจ
5.การสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เช่น การนำเสนอมุมมองใหม่ๆ , การนำเสนอสินค้า บริการใหม่ๆ , การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ เป็นต้น
6.การดึงลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรม ในตัวของสินค้าและบริการ
สรุป การตลาดสมัยใหม่ ให้ความสำคัญกับการทำการตลาดและการสื่อสารในโลกออนไลน์หรือโลกเสมือน แต่ไม่ควรทุ่มงบประมาณหรือให้น้ำหนัก 100% แต่ควรจัดงบประมาณในการทำการตลาดในด้านอื่นๆบ้าง การตลาดสมัยใหม่ เป็นเรื่องของการเปลี่ยงแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่หยุดนิ่ง นักการตลาดสมัยใหม่ จึงต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ในตลาด การตลาดสมัยใหม่ เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด การตลาดสมัยใหม่เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นด้านหลัก และการตลาดสมัยใหม่ ควรสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
จากข้อความข้างต้นเราจะเห็นได้ ว่า
นักการตลาดสมัยใหม่ ที่จะทำการตลาดสมัยใหม่ ต้องมีความเก่งกาจ มีความสามารถ มีความขยัน มากกว่านักการตลาดในอดีต ในด้านต่างๆ เพราะ การตลาดยุคนี้ มีความซับซ้อนมากกว่าในอดีต , การตลาดยุคนี้เราไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำหรือคาดการณ์สิ่งต่างๆได้อย่างใกล้เคียงเหมือนอดีต เพราะปัจจัยต่างๆ ทำให้เกิดการคาดเคลื่อนได้อย่างมากมาย เช่น ปัญหาทางด้านการเมือง ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ปัญหาทางด้านสังคม ปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติ กล่าวคือปัจจัยต่างๆ มีความแปรผันอยู่ตลอดเวลา
นักการตลาดสมัยใหม่ จึงต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา เช่น ต้องฝึกภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียนได้ เพื่อที่จะติดต่อสื่อสารและรับข้อมูลต่างๆกับลูกค้าได้ทั่วโลก , การเข้าศึกษาอบรมเพื่อหาความรู้ใหม่ๆ , การปรับความคิดของตนเองไม่ให้ยึดติดกับความสำเร็จเก่าๆหรือทฤษฏีเก่าๆ แต่ควรปรับเปลี่ยน หยืดหยุ่น กับสิ่งต่างๆ ได้ เป็นต้น

...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.