หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  พูดเก่ง เขียนเก่ง… ประสบความสำเร็จก่อน....
  -  ผู้บรหารกับประชาสัมพันธ์
  -  ลักษณะของนักประชาสัมพันธ์
  -  การสื่อสารเพื่อพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง
  -  นักประชาสัมพันธ์
  -  การประชาสัมพันธ์กับองค์กร
  -  การบริหารเวลา
  -  การประชาสัมพันธ์องค์กร
  -  อนาคตที่รออยู่ข้างหน้ากับองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค
  -  คำคม วาทะเกี่ยวกับการบริหารเวลา
  -  สามัคคีสร้างชาติ
  -  การพูดสำหรับนักการเมือง
  -  การประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ต
  -  การประชาสัมพันธ์งานประชุม
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
พูดเก่ง เขียนเก่ง… ประสบความสำเร็จก่อน....

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
ถ้าพวกเราสังเกตคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต คนๆนั้นมักเป็นคนที่พูดเก่งและเป็นคนที่เขียนเก่ง ใครที่พูดเก่งและเขียนเก่ง คนๆนั้นจะได้เปรียบหรือจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือชีวิต ก่อนคนที่พูดไม่เก่งและเขียนไม่เก่ง ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยที่เราเห็นคนมีชื่อเสียงในวงการต่างๆ จะเป็นคนพูดเก่งหรือเขียนเก่ง บางคนก็มีความสามารถทั้งพูดเก่งและเขียนเก่งในคนเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น เร็วขึ้น เช่น


วงการการเมือง ใครที่พูดเก่งมักได้ตำแหน่งทางการเมือง เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง , คุณชวน หลีกภัย(อดีตนายกรัฐมนตรี) , คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ(นายกรัฐมนตรี) ฯลฯ และยิ่งใครสามารถพูดเก่ง เขียนเก่งด้วยย่อมทำให้เป็นที่รู้จักของคนมากยิ่งขึ้น เช่น คุณสมัคร สุนทรเวช(อดีตนายกรัฐมนตรี) , ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช (อดีตนายกรัฐมนตรี) เป็นทั้งนักพูดและนักเขียน


วงการธุรกิจ ปัจจุบันเราจะเห็นได้ตามสื่อสารมวลชนต่างๆ มีนักธุรกิจใหญ่หลายๆคนได้ออกมาบรรยายให้ความรู้แก่สังคม หรือมีการเขียนหนังสือออกมาให้แง่คิดต่างๆ ในเรื่องของการบริหาร การจัดการ รวมทั้งการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน


วงการศาสนา เราจะเห็นว่า พระสงฆ์รูปใดที่พูดเก่ง คนมักจะชื่นชอบ มักจะมีคนติดตามและในยุคปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสารเราสามารถนำคำพูด นำ คำบรรยายและการเทศนา มาถอดเทปที่พูดมาเป็นตัวหนังสือ จึงทำให้เกิดผลงานการเขียนตามมา เช่น พระมหาสมปอง และ ท่านว.วชิระ เมธี ฯลฯ


วงการศึกษา คงต้องยอมรับว่า วงการศึกษา คนที่เป็นนักวิชาการ จะต้องเขียนเก่งและพูดเก่ง จึงจะประสบความสำเร็จในวงการ เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัยต้องพูดสอนบรรยาย นิสิต นักศึกษา ใครที่บรรยายสนุก คนเข้าใจ นิสิตนักศึกษา ก็จะพากันตั้งใจเรียน หรือ การจะทำตำแหน่งทางวิชาการ ผศ. , รศ. และ ศ. จำเป็นจะต้องเขียนเก่ง เช่น การทำ ผศ. จะต้องเขียนเอกสารประกอบการสอน การเขียนบทความทางวิชาการ และ การเขียนวิจัย เพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ ดังนั้น คนที่พูดเก่ง และ เขียนเก่ง มักมีโอกาสก้าวหน้าในวงการศึกษา


วงการสื่อมวลชน ไม่ว่าพิธีกร ผู้ดำเนินรายการ นักข่าว ใครที่พูดเก่งและเขียนเก่ง มักจะมีแฟนรายการติดตาม หรือใครที่เขียนเก่งๆ คนอ่านก็มักจะติดตามอ่าน เช่น คุณสรยุทธ์ คุณฟองสนาม คุณกฤษณะ ฯลฯ นักหนังสือพิมพ์ เช่น เปลว สีเงิน


แม้แต่เวลาทำงานก็เช่นกัน ใครที่นำเสนอเก่ง ใครที่เขียนรายงานเก่ง มักจะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งก่อนคนที่นำเสนอไม่เก่งหรือเขียนรายงานไม่เก่ง ซึ่งเราจะเห็นตัวอย่างได้ที่ทำงานของเรา ถ้าใครพูดเก่ง ใครที่เขียนรายงานเก่ง ก็มักจะถูกนายใช้อยู่บ่อยๆ เมื่อได้รับการไว้วางใจ ก็จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น ตำแหน่งหน้าที่การงานก็สูงขึ้นด้วย


ส่วนนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ใครที่พูดเก่ง ก็มักจะถูกครู อาจารย์ หรือแม้แต่เพื่อนๆ ให้ออกไปนำเสนองานหน้าชั้นเรียน นักเรียน นิสิตและนักศึกษา คนนั้นมักจะได้คะแนนดีหรือสูงกว่า นักเรียน นิสิตและนักศึกษา ที่นำเสนอไม่ได้ การเขียนเก่งก็เช่นกัน ถ้า นักเรียน นิสิตและนักศึกษา คนไหนเขียนเก่งมักได้คะแนนสูงกว่า ดีกว่า ผู้เรียนที่ไม่มีทักษะในด้านนี้ ไม่ว่าการทำข้อสอบ การทำการบ้าน การทำรายงานส่ง


ดังนั้นใครที่อยากประสบความสำเร็จ อยากดัง อยากรวย และอยากมีชื่อเสียง ขอให้เริ่มฝึกฝน การพูดและการเขียนตั้งแต่บัดนี้ อย่าคิดว่าเราอายุมากแล้ว คงฝึกไม่ได้ เพราะบางคนมาฝึกพูดหรือฝึกเขียนในช่วงอายุมากๆ ก็สามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ ขอให้มีความตั้งใจ มุ่งมั่น และทำจริง


การพูดและการเขียนมีความสำคัญกับการทำงาน การใช้ชีวิต ถ้าใครที่สามารถพัฒนาตนเองได้จนถึงระดับเป็นที่ยอมรับว่าเป็นคนพูดเก่งและเขียนเก่ง คนๆนั้น จะได้รับสิ่งต่างๆตามมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ตำแหน่งหน้าที่ ความมีชื่อเสียง การเป็นที่ยอมรับของสังคม ฯลฯ




...
  
ผู้บรหารกับประชาสัมพันธ์
ผู้บริหารจะต้องรู้จักงานประชาสัมพันธ์
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
ในยุคปัจจุบัน คงไม่มีใครปฏิเสธว่า การประชาสัมพันธ์มีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล องค์กร สถานที่ บริษัท และหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีความจำเป็นที่จะต้องประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ตนเอง


องค์กรใด บริษัทใด หรือหน่วยงานใด ในยุคปัจจุบันจะต้องมีงานที่เรียกว่า “ งานประชาสัมพันธ์ ” และที่สำคัญถ้าหน่วยงานไหน มีนักประชาสัมพันธ์ที่เก่งด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หน่วยงานนั้น ได้เปรียบหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งภาวะปัจจุบันโลกเราอยู่ในยุคของการแข่งขัน ไม่ว่าจะแข่งขันกับประเทศอื่นๆ รวมทั้งต้องแข่งขันกับคู่แข่งขันภายในประเทศด้วย


ฉะนั้น การที่จะทำให้หน่วยงานประชาสัมพันธ์แข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารของหน่วยงานนั้นๆ จำเป็นจะต้องรู้จักงานประชาสัมพันธ์


งานประชาสัมพันธ์และนักประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ให้ลูกน้องแต่งตัวสวยๆ แล้วไปนั่งยิ้ม ยืนยิ้ม เพื่อตอบคำถามต่างๆ ที่ Information


งานประชาสัมพันธ์และนักประชาสัมพันธ์ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ลูกน้อง หน้าตาดี รูปร่างดี


งานประชาสัมพันธ์และนักประชาสัมพันธ์ ไม่จำเป็นจะต้องเรียนจบด้านประชาสัมพันธ์เพราะคนที่จบสาขาประชาสัมพันธ์ อาจทำงานประชาสัมพันธ์ไม่เก่ง สู้คนที่เรียนด้านอื่นมาไม่ได้ก็มี ขอให้คนนั้นๆ รักที่จะเรียนรู้ และ รักในงานด้านประชาสัมพันธ์


แต่งานด้านประชาสัมพันธ์และนักประชาสัมพันธ์ เป็นอะไรที่มากกว่านั้น และต้องมีคุณสมบัติต่างๆ ที่สำคัญดังนี้

1.ต้องเป็นนักประสานงานที่เก่ง ไม่ชวนทะเลาะ มีมนุษย์สัมพันธ์ เข้ากับคนอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ผู้บริหาร โดยเฉพาะ นักข่าว เพราะ ถ้าเข้ากับนักข่าวไม่ได้ก็ไม่สามารถใช้พื้นที่สื่อได้ คือไม่ปรากฏข่าวของหน่วยงานเราตามสื่อต่างๆ (หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และอินเตอร์เน็ต ฯลฯ) เนื่องจากนักข่าวไม่ลงข่าวของหน่วยงานเรากับสื่อที่ตนสังกัด


2.ต้องเป็นนักสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ไม่ว่ากับตนเองหรือกับองค์กร ถ้านักประชาสัมพันธ์มีภาพลักษณ์ดี คนมักจะเชื่อถือ แต่ถ้านักประชาสัมพันธ์ มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เช่น เล่นการพนัน ติดยาเสพติด มั่วอบายมุข ฯลฯ ก็มักจะทำให้คนที่พบเห็นเกิดความไม่น่าเชื่อถือ


3.นักประชาสัมพันธ์ ต้องมีลักษณะที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะต้องเป็นนักติดตามข้อมูลข่าวสาร นักประชาสัมพันธ์จำเป็นจะต้องไปติดต่อกับหน่วยงานอื่นๆ อยู่เสมอเพราะฉะนั้น งานประชาสัมพันธ์ไม่ใช่งานที่มีลักษณะที่จะต้องนั่งอยู่กับที่


4.นักประชาสัมพันธ์ จะต้องเป็นคนที่ชอบการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการพูด งานด้านการเขียน เพราะนักประชาสัมพันธ์จำเป็นจะต้องติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น บางครั้งก็ต้องเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ส่งสื่อต่างๆ


และคุณสมบัติอื่นๆ อีก เช่น เป็นนักอ่าน นักเขียน นักพูด นักฟัง ที่ดี ฯลฯ


ฉะนั้น ผู้บริหารที่เก่งในยุคข้อมูลข่าวสาร จำเป็นจะต้องเรียนรู้ หรือรู้จักงานด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อที่จะได้วางแผน ได้สั่งงานลูกน้อง ได้สอนงานลูกน้องได้ ฯลฯ


ถ้าเปรียบเทียบระหว่างองค์กรที่ช่วยเหลือสังคม แต่ไม่รู้จักประชาสัมพันธ์ กับองค์กรที่ช่วยเหลือสังคม แต่รู้จักประชาสัมพันธ์ แน่นอนว่า องค์กรที่รู้จักประชาสัมพันธ์ ย่อมได้เปรียบหลายประการ ไม่ว่าประชาชนหรือลูกค้า เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ประชาชนหรือลูกค้า รู้จัก บริษัทนั้น หรือ หน่วยงานนั้นมากขึ้น


ดังนั้น พอที่จะสรุปได้ว่า ผู้บริหารองค์กรจำเป็นจะต้องเป็นนักประชาสัมพันธ์หรืออย่างน้อยต้องรู้เรื่องงานด้านประชาสัมพันธ์พอสมควร

























...
  
ลักษณะของนักประชาสัมพันธ์
ลักษณะของนักประชาสัมพันธ์
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
การทำงานด้านประชาสัมพันธ์ มักจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายในองค์กร บุคคลภายนอกองค์กร สื่อมวลชน ฯลฯ ฉะนั้นนักประชาสัมพันธ์จะต้องมีคุณสมบัติหลายประการ ดังต่อไปนี้
- เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ การทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ท่านต้องทำงานร่วมกับคน
จำนวนมาก ฉะนั้นท่านต้องเป็นคนไม่ถือตัว ชอบพบปะพูดคุยกับคน มองโลกในแง่ดี รู้จักแสวงหาพวกอยู่ตลอดเวลา “ แสวงหาเพื่อนใหม่ๆ รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่า ”
- เป็นคนที่มีการปรับตัวกับเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างดี นักประชาสัมพันธ์ต้องทำงาน
ร่วมกับผู้บริหาร ทำงานร่วมกับสื่อมวลชน ทำงานร่วมกับคนในองค์กรและภายนอกองค์กร อีกทั้งจะต้องร่วมงานต่างๆ เช่น งานประจำปี งานสื่อมวลชนสัมพันธ์ งานกีฬา งานเลี้ยงงานสังสรรค์ งานเลี้ยงต้อนรับ งานเลี้ยงอำลา ของหน่วยงานหรือองค์กรทั้งภายนอกและภายใน
- เป็นคนที่ต้องรู้จักรักองค์กร นักประชาสัมพันธ์ที่ดี เมื่อมีคนภายในและคนภายนอกพูด
ถึงองค์กรในด้านลบหรือได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นักประชาสัมพันธ์ที่ดีต้องรู้จักพูดทำความเข้าใจ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่บุคคลนั้นๆ เพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์หรือภาพพจน์ขององค์กรที่ตนทำงาน
- เป็นคนที่ต้องมีความรอบรู้ ทั้งความรู้ด้านประชาสัมพันธ์และศาสตร์อื่นๆ เนื่องจาก
ปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร ยุคของเทคโนโลยี ยุคที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ดังนั้น นักประชาสัมพันธ์ที่ดีต้องรู้จักบริโภค ข้อมูล รู้จักเรียนรู้ศาสตร์ประชาสัมพันธ์และความรู้อื่นๆ ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
- เป็นคนที่ต้องมีความอดทน เลี่ยงการโต้เถียง มีการใช้ภาษาพูดหรือคำพูด ดังเช่นนักการฑูต
เวลาปฏิเสธก็ควรปฏิเสธแบบ “ บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น ” ไม่สร้างศัตรูหรือความขัดแย้งขึ้น โดยเฉพาะกับบุคคลที่ทำงานด้านสื่อสารมวลชน เนื่องจากนักประชาสัมพันธ์ต้องพึ่งพาสื่อมวลชน ทำงานร่วมกับสื่อมวลชน หากมีปัญหาความไม่เข้าใจกันทะเลาะกัน ก็คงยากที่สื่อมวลชนจะลงข่าวสารข้อมูลให้
- เป็นคนที่ต้องมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำ การทำงานด้านประชาสัมพันธ์ บางครั้ง
จำเป็นจะต้องทำนอกเวลา เช่น เมื่อมีงานเลี้ยง งานสังสรรค์ต่างๆ นักประชาสัมพันธ์จะต้องเข้าร่วม หรือ เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดหมาย นักประชาสัมพันธ์จะต้องเข้าไปแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ถึงแม้จะเป็นการทำงานนอกเวลาก็ตาม อีกทั้งต้องเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบต่อเวลา คำพูดและการกระทำของตนเอง เวลานัดหมายสื่อมวลชนหรือใครแล้วต้องไปให้ตรงเวลา(ไม่ใช่ไปตามเวลา คือให้เวลาไปก่อนแล้วค่อยเดินตามไปหรือไปสาย)
- เป็นคนมีแบบแผนหรือมีแผนงานที่ดี นักประชาสัมพันธ์จะต้องเป็นนักบริหารภายใน
ตนเอง กล่าวคือ ต้องเป็นคนที่ต้องรู้จักวางแผน เป็นขั้นตอน หาข้อมูล หาข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อมาทำแผนงานในการทำงาน ต้องรู้จักรับผิดชอบต่อตนเอง งานด้านประชาสัมพันธ์ถึงประสบความสำเร็จ
- เป็นคนที่ต้องรู้จัก พูดและเขียน งานประชาสัมพันธ์ เป็นงานที่ต้องใช้การสื่อสารมากกว่างาน
ประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร เป็นคนเขียนข่าวส่งแก่สื่อมวลชน เป็นนักจัดรายการทางวิทยุขององค์กร ฯลฯ
ฉะนั้น นักประชาสัมพันธ์ที่ดีต้องรู้จักพูด รู้จักเขียน
ทั้งหมดข้างต้นเป็นลักษณะที่ดีของนักประชาสัมพันธ์




...
  
การสื่อสารเพื่อพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง
การสื่อสารเพื่อพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
เมื่อสมัยมนุษย์ดำรงชีวิตในยุคหินมนุษย์ต้องล่าสัตว์ หาอาหาร การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก มนุษย์มีการติดต่อสื่อสารกันน้อยมาก ต่อสภาพสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยเข้าสู่ยุคเกษตรกรรม มนุษย์มีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน แต่ก็ยังเป็นการค้าขายและแลกเปลี่ยนกันไม่มากนัก ต่อมาก็พัฒนาเข้ามาสู่สังคมอุตสาหกรรม ยุคนี้มนุษย์เริ่มมีการสื่อสารกันมากกว่าเดิม เนื่องจากจะต้องค้าขายกันมากขึ้น สำหรับยุคปัจจุบันสังคมของมนุษย์ก็เข้าสู่ยุคสังคมของการสื่อสาร มนุษย์เรามีการสื่อสารกันอย่างมากมาย และกว้างขว้างมากกว่ายุคใดๆ
การสื่อสารในยุคแรกๆ เรามักจะสื่อสารในรูปแบบ คนต่อคนหรือบุคคลต่อบุคคล ต่อมาเป็นการสื่อสารระหว่าง บุคคลกับกลุ่มคน มนุษย์เริ่มใช้เครื่องมือเข้ามาช่วย เช่น วิทยุ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงเป็นเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นอันได้แก่ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ
สำหรับปัจจุบันถ้าพูดถึงเรื่องชุมชนเข้มแข็ง ประเด็นเรื่องค้าปลีก ร้านโชห่วยของไทย ต้องพ่ายแพ้ กับร้านเทสโก้ โลตัส ซึ่งมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหนึ่งก็คือ เทสโก้ โลตัส ใช้การสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตทำให้รู้ข้อมูลจำนวนสินค้าต่างๆ โดยมีการเชื่อมโยงกับร้านค้า โรงสี ต่างๆ ซึ่งคงไม่แตกต่างกับ 7-11 คาร์ฟูร์ แม็คโคร ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ซึ่งก็มีการเชื่อมโยงโดยระบบการสื่อสารโดยมีการเชื่อมโยงในลักษณะเช่นเดียวกับ เทสโก้ โลตัส ซึ่งทำให้ลดต้นทุน ลดการเก็บสินค้าคงคลัง ฯลฯ
การได้เปรียบในการสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีในลักษณะนี้ ทำให้ร้านโชห่วยของไทยต้องมีการปิดตัวลงเป็นอันมาก
ระบบโทรศัพท์มือถือ มีความจำเป็นมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้โทรศัพท์มีราคาถูก เราคงเห็นในปัจจุบัน การใช้โทรศัพท์บ้านในหลายๆบ้าน แทบไม่ได้ใช้เลย รวมทั้งธุรกิจค่ายเพลงก็มีการปรับตัวอันเนื่องมาจากเทคโนโลยี โดย ผู้บริโภคหันมาฟังทางโทรศัพท์กันมากขึ้น และฟังทางเครื่องเล่น MP3 มากขึ้น ทำให้กิจการเทป รวมทั้งกิจการแผ่นซีดีต้องปิดตัวไป ตัวแทนจำหน่ายก็ต้องปิดกิจการไป ทำให้โทรศัพท์มือถือมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน
ระบบการส่งจดหมายก็มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการรับส่งจดหมายทางอินเตอร์เน็ตกันมาก
ระบบการทำหนังสือต่างๆ ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มมีการจัดเก็บโดยใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต อีกทั้งกิจการโรงพิมพ์ต่างๆ ที่พิมพ์หนังสือออกมาเป็นเล่ม ในปัจจุบันและอนาคตคงต้องปรับตัว อันเนื่องจากเทคโนโลยีโดยเปลี่ยนจากหนังสือเป็นเล่มมาเป็นการทำหนังสือในลักษณะ E-BOOK แทน
ระบบการส่งข่าวและเครื่องมือการส่งข่าวมีความง่ายมากกว่าในอดีต ในยุคปัจจุบันใครๆ ก็สามารถเป็นนักข่าวได้ โดยการเขียนข่าวส่งข่าวผ่านอินเตอร์เน็ต วิทยุชุมชนหรือโทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งเราจะเห็นว่าเครื่องมือไม่ว่า จะเป็นโปรแกรมตัดต่อ คอมพิวเตอร์มีความทันสมัยขึ้น
ระบบกล้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูปแบบเคลื่อนไหวหรือกล้องถ่ายรูปนิ่ง ทำให้กล้องฟิล์ม กล้องบันทึกเทป หายไปจากตลาด
ระบบสถานีออกอากาศหรือสถานีส่ง เช่น การก่อตั้งวิทยุชุมชนซึ่งง่ายกว่าในอดีต รวมทั้ง โทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งการก่อตั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์ดาวเทียมมีต้นทุนที่ราคาถูกกว่าในอดีตเป็นอันมาก
ระบบสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องมาจากการสื่อสาร โดยเฉพาะ สังคมเครือข่าย เช่น Facebook , twitter HI5 ฯลฯ
มีเด็กรุ่นๆใหม่เล่นอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นในทุกๆปีซึ่ง กลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 24 ปี ใช้ Facebook เยอะที่สุด ในประเทศไทยและประมาณ 40 % ของประชากรทั้งหมด โดยมีคนใช้ประมาณเกือบ 8,000,000 คน (เป็นผู้ชาย 46 % ผู้หญิง 54 %)
ระบบการจัดเก็บข้อมูล เช่น YOUTUBE เปิดโอกาสให้คนโด่งดังได้ง่ายกว่าการใช้สื่ออื่นที่ต้องใช้ต้นทุนที่สูง เช่น หลายประเทศมีนักร้องที่ไม่ได้ไปแข่งขันในรายการทางโทรทัศน์ต่างๆ แต่ เอาคลิปไปลงใน YOUTUBE แล้วมีคนเปิดดูกันมาก ทำให้บริษัทค่ายเพลงต้องเซ็นต์สัญญาจ้างให้เป็นนักร้องในสังกัด ซึ่งการใช้หรือการลงคลิปใน YOUTUBE เปิดโอกาสให้คนเกือบทุกคนมากกว่าโทรทัศน์ อีกทั้งเราสามารถดูซ้ำได้ไม่เหมือนการดูโทรทัศน์ที่ไม่สามารถดูซ้ำได้
ดังนั้น การสื่อสารจึงมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน การสร้างความเข้มแข็งในชุมชนก็เช่นกัน เรามีความจำเป็นจะต้องมีการสื่อสารเพื่อให้เกิดข้อมูลต่างๆ แก่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้เกิดความเรียนรู้ มีการพัฒนาองค์ความรู้มากยิ่งขึ้น
ทำให้ชุมชนเกิดความสามัคคี เกิดการมีส่วนร่วมในชุมชนมากขึ้น
การสื่อสาร ความรัก ความสามัคคี ช่วยพัฒนาความเข้มแข็งแก่ชุมชน
...
  
นักประชาสัมพันธ์
8
...
  
การประชาสัมพันธ์กับองค์กร
องค์กรกับการประชาสัมพันธ์
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
ทำไมจึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ ? การประชาสัมพันธ์มีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างมากกับทุกองค์กร ทุกหน่วยงาน ทุกสถาบัน เพราะการที่ประชาชนหรือลูกค้าจะเลื่อมใสศรัทธา จะต้องอาศัยการสื่อสารเพื่อให้เกิดข้อมูลและ ความรู้ ในยุคปัจจุบันทุกหน่วยงานจึงให้ความสำคัญกับการทำงานด้านประชาสัมพันธ์
การประชาสัมพันธ์ที่ดีควรทำทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ภายในองค์กรเช่น กลุ่มพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในองค์กร และภายนอกองค์กรได้แก่ กลุ่มผู้ถือหุ้น กลุ่มนักวิชาการและกลุ่มผู้บริโภค รวมทั้งประชาชนทั่วไป
การประชาสัมพันธ์ที่ดีมักสร้างภาพพจน์(Image) หรือ สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้เกิดขึ้นภายในใจของผู้บริโภคได้ ซึ่งการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในงานประชาสัมพันธ์มักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของ ชื่อ,สัญลักษณ์,บุคลิกของคนและหน่วยงาน ฯลฯ
ชื่อ ของหน่วยงานหรือองค์กรมีความสำคัญมาก เช่น เมื่อพูดถึงคำว่า “ มติชน “ พวกเราคิดถึงอะไร เมื่อพูดถึงคำว่า “ AIA “ พวกเราคิดถึงอะไร เมื่อพูดถึงคำว่า “ โตโยต้า “ พวกเราคิดถึงอะไร ซึ่งหลักในการตั้งชื่อหน่วยงาน องค์กรหรือสินค้าที่ดีนั้น เราไม่ควรตั้งชื่อยาวเกินไป ควรตั้งชื่อสั้นๆ เรียกง่ายๆ จำง่ายๆ อีกทั้งต้องมีความหมายที่ดี สื่อความหมายไปในทางที่ดี ไม่ควรตั้งชื่อที่มีความหมายในทางลบ
สัญลักษณ์ เช่น โลโก้ ตรา เครื่องหมาย คำขวัญ ควรสร้างหรือออกแบบให้มีความสอดคล้องกับชื่อหน่วยงาน สอดคล้องกับธุรกิจ แต่ให้ดูดึงดูดและเด่น และควรสื่อความหมายที่ชัดเจน ไม่ก่อให้เกิดความสับสน
บุคลิกของคน ในหน่วยงานก็มีความสำคัญ หลายหน่วยงานจะมีเครื่องแบบให้แต่งกายเหมือนๆกัน เช่น ธนาคารหลายแห่งในปัจจุบันก็จะมีชุดทำงานที่เหมือนกัน ใช้สีเสื้อผ้าที่เหมือนกัน มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่ประทับเครื่องแต่งกายเหมือนกัน
บุคลิกของหน่วยงาน มีความสำคัญต่อภาพลักษณ์ภายในใจของผู้บริโภคหรือคนพบเห็น เช่น เมื่อกล่าวถึง สถานที่ราชการในสมัยก่อนกับเอกชนในสมัยก่อน เราจะเห็นภาพชัดเจน ถึงแม้ในยุคปัจจุบัน หน่วยงานราชการหลายแห่งจะมีการปรับปรุงสถานทีทำงานให้ทันสมัยก็ตาม แต่หลายหน่วยงาน เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทเอกชนเราจะเห็นความแตกต่างกันอยู่หลายประการ กล่าวคือ เรื่องของการแต่งกาย เรื่องของสถานที่ทำงาน เรื่องของการบริการ เรื่องของการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เรื่องของความกระตือรือร้นในการทำงานของคนที่ทำงานในหน่วยงานราชการกับหน่วยงานเอกชน ฯลฯ
สื่อกับการประชาสัมพันธ์ในองค์กร ในยุคปัจจุบันเป็นยุคสังคมของสารสนเทศ ฉะนั้นสื่อในปัจจุบันจึงมีการพัฒนาและมีความหลากหลายกว่าในอดีต อีกทั้งการประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ควรต้องใช้สื่อที่มีความหลากหลาย เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต จดหมายข่าว แผ่นป้าย โปสเตอร์ สติกเกอร์ แผ่นพับ ฯลฯ
นักประชาสัมพันธ์กับงานประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร นักประชาสัมพันธ์มีความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร นักประชาสัมพันธ์ที่ดีจึงต้องมีความสามารถที่หลากหลาย เช่น ความสามารถในการสื่อสาร ไม่ว่าเรื่องของการพูดและการเขียน กล่าวคือ สามารถเป็นพิธีกรได้ สามารถให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวได้ สามารถเขียนข่าวส่งข่าวได้ สามารถสร้างความสัมพันธ์กับนักข่าวได้ ฯลฯ
ฉะนั้น เมื่องานประชาสัมพันธ์มีความสำคัญเช่นนี้แล้ว นักบริหารหรือผู้นำในองค์กร ควรให้ความสำคัญแก่งานด้านประชาสัมพันธ์ เช่น การจัดการอบรมให้ความรู้แก่คนภายในองค์กรในเรื่องที่สอดคล้องกับงานประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนในองค์กรเกิดความรู้ ความเข้าใจ และเป็นอีกช่องทางอีกทางหนึ่งในการสื่อสารกับบุคคลภายนอกองค์กร , การจัดงบประมาณให้แก่หน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับค่าใช้จ่าย เป็นต้น










...
  
การบริหารเวลา
การบริหารเวลา
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมง เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นยาจก มหาเศรษฐี คนทุกคนมีเวลาเท่ากัน แต่คนที่ประสบความสำเร็จทำไมถึงประสบความสำเร็จ อีกทั้งหากเราลองไปศึกษาการทำงานในแต่ละวันของเขา เราจะทราบว่าคนที่ประสบความสำเร็จมักใช้เวลาน้อยกว่า แต่สามารถสร้างความร่ำรวยได้มากกว่าคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ นี่คือสิ่งที่น่าสนใจ น่าศึกษาและน่าเรียนรู้
กฎ 80 และ 20 ของ วิลเฟรโด ปาเรโต นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี ได้อธิบายว่า 20 % ของประชากรทั้งหมดจะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติจำนวนถึง 80 % ของประเทศ กฎนี้สามารถประยุกต์ใช้กับกิจกรรมอย่างอื่นๆ ได้ด้วย เช่น เราจะสังเกตว่า เรามักใช้เวลาไปถึง 80 % แต่มักได้ผลตอบแทนเพียงแค่ 20 % แต่คนที่ประสบความสำเร็จ เขาทำในสิ่งที่ตรงข้ามกล่าวคือ เขาใช้เวลาเพียงแค่ 20 % แต่ได้ผลตอบแทนเท่ากับ 80 % ผมขอขยายความในส่วนนี้เพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น นักขายส่วนใหญ่มักเสียเวลาไปนำเสนอขายสินค้าแก่ลูกค้ารายเล็กจำนวนถึง 80 ราย ซึ่งลูกค้ารายเล็กมักมียอดสั่งซื้อเพียง 20 % เมื่อเทียบกับการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้ารายใหญ่เพียง 20 ราย แต่สั่งซื้อสินค้าถึงจำนวน 80% ของยอดขายทั้งหมด
ฉะนั้นหากพวกเราต้องการประสบความสำเร็จก็จงทำตามคนที่ประสบความสำเร็จเขาทำ กล่าวคือ เราต้องขายสินค้าให้แก่ลูกค้ารายใหญ่ที่มีจำนวน 20 % ก็จะทำให้เราทำงานเหนื่อยน้อยลง และประหยัดเวลาได้มากขึ้น
การเป็นนักบริหารเวลาที่ดีควรมีการวางแผนการทำงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายสามเดือน รายปี รายห้าปี เป็นต้น ซึ่งการวางแผนที่ดีเราควรมีเครื่องมือช่วย ก็จะทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และทำให้การทำงานง่ายขึ้น เครื่องมือในที่นี้ก็คือ ตารางเวลาทำงาน ไดอารี่ สมุดบันทึก ปฏิทิน โทรศัพท์มือถือสมัยใหม่มักมีโปรแกรมในการช่วยบริหารเวลา Ipad เป็นต้น
การเป็นนักบริหารเวลาที่ดี มักต้องย่อมให้มีการกระจายอำนาจความรับผิดชอบ กิจกรรมที่มีความสำคัญน้อยก็ควรเปิดโอกาสให้คนอื่นทำแทน กล่าวคือ การใช้เวลาของคนอื่นในการทำงานของเรา เช่น การฝากเงินธนาคาร การชำระค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา การเสียค่าโทรศัพท์ ฯลฯ ควรหาคนทำงานแทน
ผู้ที่ต้องการบริหารเวลาควรที่จะต้องมีการทบทวน ตรวจสอบ เวลาของตนเองในแต่ละวัน ควรพิจารณาดูว่า เราใช้เวลามากไปสำหรับงานที่ให้ผลตอบแทนที่ต่ำหรือเปล่า หากว่าเป็นเช่นนี้ก็ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้เวลามากยิ่งขึ้น เช่น การโทรศัพท์คุยเรื่องส่วนตัวมากไปก็ควรลดเวลาโทรศัพท์ลงแล้วเปลี่ยนไปโทรศัพท์ติดต่องานกับลูกค้าแทน , การเล่นอินเตอร์เน็ต การเล่นเกมส์ การดูโทรทัศน์มากเกินไป ก็ควรลดแล้วหันไปอ่านหนังสือแทน ฯลฯ
ท่านสามารถบริหารเวลาได้โดยการประหยัดเวลาคือการทำกิจกรรมสองอย่างคู่กันได้ เช่น การขับรถพร้อมกับการเปิดเทปวิชาการฟัง การรดน้ำต้นไม้กับการฟังเพลง การทำความสะอาดบ้านกับการฟังข่าวทางวิทยุ ฯลฯ แต่กิจกรรมบางอย่างไม่ควรทำคู่กันเพราะจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ เช่น การโทรศัพท์ขณะขับรถ หรือ ดื่มสุราขณะขับรถ
อีกทั้งท่านสามารถประหยัดเวลาในขณะที่ต้องรอรถ รอดูภาพยนตร์ รอแถว รอเรียน โดยการอ่านหนังสือ การเขียนหนังสือ ฟังเทป ผู้เขียน ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้เวลาในการเดินทางไปที่ต่างๆ บางครั้งต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ต้องไปก่อนเวลาทำให้ต้องรอ แต่ก็ได้ใช้ประโยชน์จากการรอขึ้นเครื่องบิน โดยการเอาคอมพิวเตอร์แบบกระเป๋าหิ้วขึ้นมาทำงาน เตรียมงานในวันพรุ่งนี้ หรือ บางครั้งก็สะสางทำงานที่ค้างไว้
การใช้เทคโนโลยีช่วยในการประหยัดเวลา เมื่อจำเป็นจะต้องเดินทางไปพบลูกค้า เราควรโทรศัพท์ไปหาก่อนเพื่อลดความผิดพลาด อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดการเสียเวลาหากไปหาแล้วลูกค้าไม่อยู่ การส่งอีเมล์แทนจดหมาย ก็ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ หรือหากต้องมีการประชุมแต่ผู้เข้าร่วมประชุมอยู่คนละจังหวัดเราก็สามารถประชุมทางไกลผ่านวิดีโอหรือผ่านทางเว็บไซต์ได้ ดังนั้น หากท่านสามารถทำงานที่บ้านของตนเองได้โดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยก็จะทำให้ท่านลดการใช้เวลาในการเดินทางไปที่ทำงานได้ถึงเฉลี่ยวันละ 1-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
การจัดลำดับความสำคัญของงานก็มีความสำคัญในการบริหารเวลา นักบริหารเวลาที่ดีต้องรู้จักจัดลำดับของงานเพื่อใช้ในการบริหารเวลา เช่น จัดลำดับดูว่า งานไหนสำคัญ งานไหนไม่สำคัญ งานไหนเร่งด่วน งานไหนไม่เร่งด่วน
สุดท้ายในการบริหารเวลาที่ดี เราต้องมีการประเมินผล มีการตรวจสอบ มีการทบทวนเวลา ในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้ปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลงให้การบริหารเวลาของเราเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประสิทธิผล




...
  
การประชาสัมพันธ์องค์กร
การประชาสัมพันธ์องค์กร
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ในยุคปัจจุบันเป็นของการแข่งขัน การประชาสัมพันธ์มีความสำคัญมากต่อบุคคล ต่อหน่วยงาน ต่อองค์กร การประชาสัมพันธ์จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่นักบริหาร นักการตลาดจะต้องศึกษาเรียนรู้ การประชาสัมพันธ์จะก่อให้เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อบุคคล ต่อหน่วยงาน ต่อองค์กร
สำหรับการประชาสัมพันธ์ในยุคปัจจุบันท่านสามารถทำได้ โดยการจ่ายเงินซื้อสื่อหรือแบบไม่ต้องจ่ายเงินซื้อสื่อ และ การประชาสัมพันธ์แบบใช้สื่อมวลชนหรือไม่ใช่สื่อมวลชน
อีกทั้งยุคนี้เป็นยุคที่เทคโนโลยีมีความทันสมัย เจริญก้าวหน้า ท่านสามารถใช้เครื่องมือต่างๆได้ง่ายขึ้น ราคาถูกขึ้นกว่าในอดีต เช่น การตั้งสถานีวิทยุ เมื่อก่อนทำได้ยากมาก อีกทั้งต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก แต่ในยุคปัจจุบัน ท่านมีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ไมโครโฟน เครื่องส่ง ฯลฯ ท่านก็สามารถก่อตั้งสถานีวิทยุได้แล้ว ดังเช่นสถานีวิทยุชุมชนที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน
หรือ หากต้องการตัดต่อภาพวิดีโอประเภทเคลื่อนไหว ท่านสามารถหาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาลงแล้วทำการตัดต่อภาพวิดีโอได้อย่างง่ายดายกว่านั้นอดีต อีกทั้งราคาถูก ท่านสามารถประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย เพียงแต่ท่านต้องเรียนรู้และศึกษาเพิ่มเติม
การประชาสัมพันธ์สมัยใหม่มักใช้ในการสร้างภาพพจน์ขององค์กร ภาพพจน์ของผลิตภัณฑ์ ภาพพจน์ของตัวบุคคล โดยผ่านเครื่องมือการประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น การเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลขององค์กรหรือผลิตภัณฑ์โดยผ่านสื่อต่างๆ , การจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์เป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกับสื่อมวลชนเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรกับสื่อมวลชน เพราะหากองค์กรหรือหน่วยงานใดไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชน เมื่อต้องการเผยแพร่ข่าวหรือประชาสัมพันธ์องค์กรสื่อมักไม่ค่อยลงให้ ดังนั้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ฯลฯ
เคยมีคนตั้งคำถามกับผมว่า แล้วการประชาสัมพันธ์แตกต่างอย่างไรกับการโฆษณา กล่าวคือมีความแตกต่างกันอยู่ด้วยกันหลายประการ เช่น การประชาสัมพันธ์ใช้ในการสร้างภาพพจน์ขององค์กรแต่การโฆษณาใช้ในการจูงใจให้ซื้อสินค้าและบริการ , การประชาสัมพันธ์ใช้สำหรับเป้าหมายในวงกว้างแต่การโฆษณาเป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มคือลูกค้า , การประชาสัมพันธ์มักจะทำแบบใช้สื่อกับแบบไม่ใช่สื่อ(เช่น การจัดแสดงสินค้า การแข่งขันแรลลี่ ) แต่การโฆษณามักใช้สื่อมวลชน เช่น วิทยุ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ป้ายโฆษณา ฯลฯ และการประชาสัมพันธ์ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสื่อ แต่การโฆษณาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสื่อ เป็นต้น
ดังนั้นงานประชาสัมพันธ์จึงเป็นหน่วยงานที่มีความจำเป็นสำหรับองค์กร สำหรับผู้ที่จะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ผู้บริหารควรต้องคัดเลือกเพราะบางคนจบเอกประชาสัมพันธ์มาก็จริงแต่ไม่มีคุณสมบัติของนักประชาสัมพันธ์ก็มีอยู่มาก สำหรับคุณสมบัติของนักประชาสัมพันธ์ควรมีคือ
1.มีความสามารถในการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการเขียน เนื่องจากงานด้านประชาสัมพันธ์จะต้องเกี่ยวข้องกับการสื่อสาร เช่น การเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ การเป็นพิธีกร การประสานงานกับนักข่าว เป็นต้น
2.มีมนุษย์สัมพันธ์ การเป็นนักประชาสัมพันธ์เป็นงานที่ต้องพบปะผู้คน อีกทั้งต้องทำงานร่วมกับคนจำนวนมาก การมีมนุษย์สัมพันธ์ การศึกษาพฤติกรรมมนุษย์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานด้านนี้
3.มีการเรียนรู้อยู่เสมอ นักประชาสัมพันธ์ต้องเป็นนักเรียนรู้ ตลอดเวลา งานด้านประชาสัมพันธ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องมือต่างๆ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้ นักประชาสัมพันธ์จำเป็นจะต้องเรียนรู้
และมีความเฉลียวฉลาด คิดและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดี , มีความซื่อสัตย์สุจริต , มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นต้น
ฉะนั้นการประชาสัมพันธ์องค์กรจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ในการทำงานขององค์กรแต่ละองค์กร เราจะสังเกตว่า บางหน่วยงานทำงานหนักมีผลงานมากมายแต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ผู้คนมักจะไม่ทราบว่าหน่วยงานนั้นได้ทำอะไรไปบ้าง แต่ตรงกันข้ามอีกหน่วยงานหนึ่งทำงานน้อยกว่ามีผลงานน้อยกว่า แต่หน่วยงานนั้นมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารออกไปยังสื่อต่างๆ หน่วยงานนั้นจะเป็นที่รู้จักของประชาชนและเกิดการยอมรับในที่สุด










...
  
อนาคตที่รออยู่ข้างหน้ากับองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค
อนาคตที่รออยู่ข้างหน้ากับองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
เนื่องจากวันที่ 20 ตุลาคม 2554 กระผมได้มีโอกาสเข้าร่วมเวทีสภาผู้บริโภค “ อนาคตที่รออยู่ข้างหน้ากับองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ” ณ โรงแรมพะเยาเกทเวย์ จังหวัดพะเยา จัดโดย...กลุ่มงานภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม , มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา,ศูนย์ให้บริการและสนับสนุนนิสิตพิการ,มหาวิทยาลัยพะเยา,สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.),สำนักงานยุติธรรมจังหวัด,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา,บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ,สำนักงานสภาทนายความจังหวัดพะเยา,เครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดพะเยา และสนับสนุนโดย....กลุ่มงานภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ภายใต้...กสทช.,แผนงานคุ้มครองผู้บริโภค(คคส.),สำนักงานสำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.),มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ภายในเวที มีการแสดงละครสะท้อนปัญหาผู้บริโภค จาก..ชุมชนคุ้มครองผู้บริโภคโรงเรียนพะเยาพิทยาคม พิธีเปิดโดย รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา มีการชมวีดีทัศน์เรื่อง “ เสียงและมุมมองเครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดพะเยากับพรบ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค” และมีช่วงเสวนา “ ประชาชนจะได้อะไรจาก พรบ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครอง”
อีกทั้งยังมีการแบ่งกลุ่มย่อยตามห้อง โดยมีหัวข้อต่างๆ เช่น ด้านการบริการสาธารณะ(รถโดยสารสาธารณะ),ด้านบริการสุขภาพ(หลักประกันสุขภาพ),ด้านสินค้าและบริการทั่วไป(แร่ใยหิน),ด้านสื่อสารและโทรคมนาคมและด้านอาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ช่วงสุดท้ายของงานมีการนำเสนอและหาทางออกแต่ละประเด็น
จากการเข้าร่วมเวทีดังกล่าว ทำให้กระผมได้ทราบข้อมูลและความเคลื่อนไหวของ พรบ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ขณะนี้ยังอยู่ในส่วนของนิติบัญญัติหรือรัฐสภาในการพิจารณา ตามข่าว “ 30 ก.ย.2554 นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 54 ที่ผ่านมานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือถึงประธานรัฐสภา แจ้งผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อร่างพระราชบัญญัติที่ค้างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และได้ลงมติให้ร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติรวมทั้งสิ้น ๒๕ ฉบับ โดยในจำนวนนั้นมี ร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ......... และกฎหมายที่ประชาชนเข้าชื่อหมื่นรายชื่อรวมอยู่ด้วย 9 ฉบับ”
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่จังหวัดพะเยา เนื่องจากผู้บริโภคขาดความรู้ ความเข้าใจ ขาดข้อมูลและถูกผู้ประกอบการเอาเปรียบโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ทางด้านโทรคมนาคม เช่น เรื่องของค่าบริการโทรศัพท์มือถือ , ข้อความรบกวนใจ , บริการเสริมไม่ได้สมัคร , บริการเสริมเพลงรอสาย ฯลฯ
สำหรับในประเด็นรถโดยสารสาธารณะ ผู้บริโภคควรมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ จับตา ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่ดูแลในงานคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อช่วยกันไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบ เช่น ช่วยกันจับตาในเรื่องของคนขับรถโดยสาร หากขับด้วยความประมาท ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ กินเหล้า สูบบุหรี่ ในขณะขับรถโดยสาร โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร , สภาพรถโดยสารบางคันมีสภาพเก่า ยางโล้น ชำรุดทรุดโทรม , พนักงานบริการ บริการด้วยคำพูดไม่สุภาพ ไร้หัวใจในงานบริการ เราสามารถร่วมแจ้งหรือให้ข้อมูลไปที่ หน่วยพิทักษ์ รถโดยสารปลอดภัย โทรศัพท์ 02-2483737 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า รถโดยสารประจำทางบางคัน เก่ามากๆ ซึ่งไม่น่าจะผ่านการตรวจสอบ แต่ก็ยังสามารถใช้เป็นรถโดยสารสาธารณะได้ สำหรับการประกันชีวิตหรือระบบการประกันภัย เมื่อผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการโดยสารรถโดยสารสาธารณะ เงินค่าชดเชย บางรายได้รับค่าชดเชยน้อยมาก อีกทั้งยังต้องมีการฟ้องร้องเป็นคดีความถึงจะได้รับค่าชดเชย
แร่ใยหิน ภัยใกล้ตัวอีกตัวหนึ่ง ที่ควรต้องระวัง แร่ใยหินทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายทำให้เป็นโรคต่างๆ เช่น โรคปอดอักเสบจากแอสเบสตอส , โรคเยื่อหุ้มปอดหนาตัว,โรคมะเร็งปอด และ โรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดหรือเมโสธีลิโอมา กลุ่มที่เสี่ยงมากที่สุดเป็นกลุ่มที่ทำงานในโรงงานที่ใช้แร่ใยหิน ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ใช้แรงงานในการทำงานก่อสร้าง ทำลายรื้ออาคารต่างๆ ที่มีโอกาสสูดฝุ่นละอองของแร่ใยหิน
พฤติกรรมการทานยาหรืออาหารเสริม ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ถูกผลประกอบการเอาเปรียบ ไม่ว่าการมีการโฆษณาทางวิทยุชุมชน โทรทัศน์ดาวเทียม สื่อต่างๆ ที่มีการโฆษณาเกินจริง อาหารเสริมบางตัวมีการโฆษณาถึงการรักษาโรคต่างๆ แบบครอบจักรวาล เช่น การรักษาโรคมะเร็ง , การรักษาโรคเอดส์ , การรักษาโรคติดต่อต่าง ฯลฯ อีกทั้งยังมีรถขายยาเร่ในชุมชนต่างๆ ที่นำยาที่หมดอายุ ยาที่ด้อยคุณภาพ มาขายอีกด้วย
ดังนั้น ในความคิดเห็นของกระผม พรบ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีส่วนสำคัญในการทำให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบน้อยลง อีกทั้งพวกเราทุกคนที่เป็นผู้บริโภคควรช่วยกันสนับสนุน แต่ที่ผ่านมาพวกเราที่อยู่ในฐานะผู้บริโภคมักยินยอม และไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ หรือเรียกร้อง ดังเช่น การยินยอมซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เขียนว่าคู่ละราคาละ 80 บาท แต่ในความเป็นจริงผู้ขาย ขายในราคาเกินความเป็นจริง เป็นต้น
แต่สิ่งที่กระผมให้ความห่วงใย หากมี พรบ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เกิดขึ้นจริงๆ อาจจะต้องแก้ปัญหาในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในสังคมไทยตามมา เนื่องจากผู้ที่บังคับใช้กฎหมาย ยังไม่มีการบังคับใช้กฏหมายกันอย่างจริงจัง ประเทศไทยเรามีการออกกฎหมายมามากมาย แต่มักมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ นี่คืออีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย

...
  
คำคม วาทะเกี่ยวกับการบริหารเวลา
คำคม วาทะเกี่ยวกับการบริหารเวลา
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คำคม วาทะของบรรดาคนดัง นักปราชญ์ ผู้ประสบความสำเร็จมีความสำคัญมาก เพราะคำบางคำ ประโยคบางประโยค มีพลังและมีอิทธิพลมาก เพราะบางประโยคถึงกับเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนการกระทำของคนไปเลยก็มี
คำคม วาทะ มักเป็นคำสั้นๆ ประโยคสั้นๆ แต่กินใจความไปได้มาก อีกทั้งเมื่อได้อ่านหรือได้ฟังแล้วนำไปคิดก็จะเกิดความรู้ สติปัญญาอีกมากมาย คำคม วาทะที่เกี่ยวกับการบริหารเวลามีดังนี้
“ ในทุกๆวันคุณจะต้องคิดไว้ว่า มีอะไรที่คุณสามารถทำได้
มีอะไรที่คุณควรทำ และมีอะไรที่คุณจะต้องทำ ” นิรนาม
“ วันเวลาที่ผ่านพ้นไป อย่าได้หมายพบพานมันอีกเลย” เบนจามิน แฟลงคลิน
“ เวลาเปรียบดังน้ำไหล เมื่อผ่านไปแล้วไม่มีทางหวนคืน ” ปรัชญาจีน
“ เวลาเป็นสิ่งที่มีราคาถูกที่สุดในชีวิต แต่ทว่ามันหาซื้อไม่ได้” นิรนาม
“ ไม่มีใครแก่เกินเรียน” ปรัชญาอังกฤษ
“ จงรีบทำความเพียรเสียแต่ในวันนี้ ใครเล่าจะรู้ว่าความตายจะมีในวันพรุ่งนี้ ” (พุทธพจน์)
“ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไปด้วยเสียเปล่า” พุทธพจน์
“ เวลาแต่ละวัน อย่าให้ผ่านไปเปล่า จะน้อยหรือมาก ก็ให้ได้อะไรบ้าง” (พระเถระ)
“ ที่ควรช้าก็ช้า ที่ควรเร่งก็เร่ง ผลที่หมายจึงจะสำเร็จบริบูรณ์” โพธิสัตว์
“ การงานที่ทำโดยผลีผลาม ทำให้คนโง่ต้องเดือนร้อนในภายหลัง” โพธิสัตว์
“ ทำเรื่อยไป ไม่ท้อถอย ผลประสงค์จะสำเร็จสมหมาย” โพธิสัตว์


...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.