หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  
  -  ขายปลุกพลังชีวิต
  -  ระบบ P.K.S.C กับนักขาย
  -  อิทธิบาท 4 สู่ความสำเร็จในงานขาย
  -  การพัฒนาบุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
  -  อยากสำเร็จต้อง.
  -  ความสำเร็จของนักขาย
  -  ความล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่าย
  -  นักการตลาดมืออาชีพ
  -  กล้าเสี่ยงและลองทำสิ่งใหม่ๆแล้วท่านจะเป็นผู้ชนะ
  -  ผู้นำทีมในธุรกิจเครือข่าย
  -  การขายทางโทรศัพท์
  -  การจัดการเวลา
  -  การสร้างชื่อให้เป็นที่ยอมรับของตลาด
  -  เหนือคู่แข่งด้วยการบริการ
  -  ข้อห้ามสำหรับเจ้าหน้าที่ในการจัดการแสดงสินค้า
  -  ใช้ชีวิต...ให้เต็มชีวิต...
  -  การตลาดยุคใหม่ : Modern Marketing
  -  นิสัยความสำเร็จ...สำคัญกว่าทำก่อน
  -  การตลาดยุคใหม่ : นักการตลาดยุคใหม่
  -  Brand Experience
  -  คิดต่าง
  -  การตลาด.ภิวัตน์
  -  อยากดัง ต้อง สร้างแบรนด์
  -  การตลาดขั้นเทพ
  -  แนวความคิดทางการตลาด ยิ่งให้ยิ่งได้ ของมหาเศรษฐีโลก
  -  การตลาดของมหาเศรษฐีโลก
  -  สามก๊กกับกลยุทธ์การตลาด
  -  Digital Marketing for SME
  -  ธุรกิจเล็กชนะธุรกิจใหญ่
  -  การตลาดของมหาเศรษฐี
  -  แนวคิดเกี่ยวกับเวลา
  -  Marketing 3.0
  -  ธรรมชาติของงานบริการ
  -  ชนะใจลูกค้าด้วยการบริการ
  -  อาวุธทางการตลาด สื่อนอกบ้าน
  -  อาวุธทางการตลาดคือการสร้างไอเดีย
  -  กลยุทธ์การตลาด 10 P สำหรับนักธุรกิจ
  -  จะแข่งขันทางการตลาด....อย่างไรในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
  -  นักการตลาดยุคดิจิทัล
  -  สู่ความเป็นสุดยอด...นักการตลาดมือทอง....
  -  นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ทางด้านการตลาด
  -  จงสร้างความเชื่อมั่นในตนเองให้แก่พนักงานขาย
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

...
  
ขายปลุกพลังชีวิต
โดย..ดร.สุทธิ่ชัย ปัญญโรจน์
น้ำทีละหยด ยังกลายเป็น แม่น้ำ ลำคลอง
หินทีละก้อน กำเนิด เป็นภูเขา
ต้นไม้ทีละต้น ยังกลายเป็น ป่าไม้
นักขายที่ขยันไม่หยุด ย่อม สร้างตำนาน สุดยอดนักขาย
ความสำเร็จอันใหญ่ยิ่ง จะมีขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีการเริ่มต้นหรือเริ่มทำ ระยะทางแสนไกล จะมีขึ้นไม่ได้
ถ้าไม่มีก้าวแรก เขาทรายจะไม่ใช่นักชกผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าไม่เริ่มต้นชก ภราดร ศรีชาพันธุ์จะไม่ใช่แชมป์นักเทนนิส ถ้าไม่เริ่มต้นตีเทนนิส นักว่ายน้ำที่ยิ่งใหญ่ จะยิ่งใหญ่ไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มต้นว่ายน้ำ ซิโก้จะไม่ใช่นักเตะบอลทีมชาติไทย ถ้าไม่มีการเริ่มต้นเตะบอล นักขายผู้ยิ่งยงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่เริ่มต้นขายให้ลูกค้ารายแรก
การจะเอาชนะสงครามอันยิ่งใหญ่ได้ ก็ด้วยการเอาชนะสงครามขนาดเล็กๆ ก่อน นาฬิกาถ้ารู้ว่าตัวเองต้องเดินวันหนึ่งๆ หลายหมื่นวินาที หลายแสนวินาที นาฬิกาถ้ามีชีวิต ก็คงท้อแท้ หมดกำลังใจ แต่ นาฬิกาเริ่มต้นเดินวินาทีแรก เดินก้าวแรกแล้วก็สะสมไปทีละวินาที ทีละวินาที จากวินาทีแรก ก็สามารถเดินได้หลายล้านวินาที
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ย่อมเกิดจากความสำเร็จอันเล็กๆ น้อยๆ แล้วรวมกัน เมื่อสะสมกันเข้าก็เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ ปีเกิดขึ้นได้จากการสะสมของเดือน เดือนเกิดขึ้นได้จากการสะสมของสัปดาห์ สัปดาห์เกิดขึ้นได้จากการสะสมของวัน วันเกิดขึ้นได้จากการสะสมของชั่วโมง ชั่วโมงก็เกิดขึ้นได้จากการสะสมของนาที นาทีเกิดขึ้นได้จากการสะสมของวินาที
พญาช้างสารตัวใหญ่โตก็จริง แต่เราสามารถกินช้างทั้งตัวได้ด้วยการกินทีละคำ สุดยอดนักขายเป็นได้ยากก็จริง แต่เราก็สามารถเป็นยอดนักขายได้จากการขายทีละราย เมื่อสะสมกันเข้าก็สามารถเป็นยอดนักขาย
และเมื่อท่านรู้สึกท้อแท้ใจในเป้าหมายของชีวิต ขอให้ท่านนึกถึงบุคคลสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์โลกว่า เขาเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จได้นั้น เขาต้องอาศัยความอดทน ผ่านความยากลำบากและล้มเหลว
เอดิสัน นักประดิษฐ์เอกของโลกก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า เขาต้องล้มเหลวนับ ร้อยๆ ครั้ง พันๆ ครั้ง แต่เขาไม่เคยท้อแท้ใจ ถึงที่สุดแล้ว เขาก็กลายเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์เอกของโลก
อับราฮัม ลินคอล์น เกิดในเคนตั๊กกี้ ไม่เคยเข้าโรงเรียนเกิน 1 ปี ในชีวิตของเขา เขาล้มเหลวในการประกอบธุรกิจร้านขายของชำเขาประกอบอาชีพช่างสำรวจ ทหารและทนายความ ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการประกอบอาชีพดังกล่าว อีกทั้งการลงสมัครรับเลือกตั้งหลายตำแหน่งก็สอบตกคือไม่ได้รับการเลือกตั้ง เช่น เคยแพ้การเลือกตั้งในตำแหน่งนิติบัญญัติ แพ้เลือกตั้งในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทน แพ้เลือกตั้งในตำแหน่งวุฒิสภา แพ้การเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดี แต่ความล้มเหลวดังกล่าวนำเขาไปสู่การเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
วิลเบอร์ ไรท์ และ ออร์วิล 2 พี่น้องตระกูล ไรท์ มีความปรารถนาจะสร้างเครื่องลำแรกของโลก เขาทดสอบแล้วทดสอบอีก ทดลองแล้วทดลองอีก ผ่านการล้มเหลวมานับไม่ถ้วน จนในที่สุด เครื่องบินลำแรกของโลกได้แก่ขึ้นในปี พ.ศ.2446
ไม่มีความสำเร็จอันใดหรือกิจการงานใด ได้มาโดยไม่มีความลำบากและปราศจากการเริ่มต้น




...
  
ระบบ P.K.S.C กับนักขาย
ระบบ P.K.S.C กับนักขาย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักขายเขาจะเป็นนักเรียนรู้ ซึ่งจำเป็นจะต้องเรียนรู้ทั้งทฤษฏี และ มีการเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติจริง ซึ่งในปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร นักขายจึงสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา เพราะวิชาการต่างๆ มีการพัฒนาขึ้น ในตอนนี้เรามาเรียนรู้หลักการของ P.K.S.C ซึ่งหลักการมีดังนี้
P = POSSITIVE ATTITUD ทัศนคติที่ดี
การจะเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จ การมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับงานขายมีความสำคัญมาก ถ้านักขายมีทัศนคติในทางบวก ก็จะทำให้นักขายเกิดแรงกระตุ้นที่มีพลัง มีความกล้าที่จะเสนอขายสินค้า มีความขยันในการทำงานขาย ในทางกลับกัน หากนักขายมีทัศนคติในทางลบ ก็จะทำให้นักขายผู้นั้นเกิดการท้อแท้ใจ ไม่กล้าที่จะเสนอขายสินค้า เช่น ถ้านักขายคิดแต่เรื่องของผลประโยชน์ต้องการเอาแต่ค่าคอมมิชชั่น พอถูกปฏิเสธจากลูกค้ามากๆ นักขายก็จะหมดกำลังใจในการทำงานด้านการขาย ดังเช่น ตัวแทนขายประกันชีวิต บางคนต้องการขายประกันชีวิตเพื่อที่จะเอาเงินลูกค้า เมื่อคิดอย่างนี้ก็เกิดความเกรงใจลูกค้า ไม่กล้าที่จะนำเสนอการขายประกันชีวิต แต่ถ้าตัวแทนประกันชีวิตที่มีทัศนคติที่ดี ก็จะคิดใหม่ว่าถ้าเกิดลูกค้าไม่ทำประกันชีวิตถ้าเกิดลูกค้าตายไปแล้วใครจะเดือดร้อน แล้วลูกและภรรยาของเขาจะหาเงินมาจากไหนเพื่อใช้จ่ายในสิ่งต่างๆ แต่ถ้าหากลูกค้าประกันชีวิตท่านนั้นซื้อประกันชีวิตจากเราเป็นวงเงิน 1,000,000 บาท เมื่อลูกค้าตายไป ลูกและภรรยาก็สามารถนำเงิน 1,000,000 บาท มาใช้จ่ายในครอบครัวได้
K = KNOWLEDGE ความรู้
นักขายที่ประสบความสำเร็จในอาชีพงานขาย จำเป็นจะต้องหาความรู้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความรู้ที่เกี่ยวกับตัว สินค้า บริการ บริษัท สัญญาต่างๆ (ทั้งของตัวเราและของคู่แข่ง) ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถทำให้นักขายเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เช่น หนังสือ cd vcd dvd วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ ฉะนั้น ถ้าต้องการเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จในอาชีพงานขาย จะต้องเป็นคนที่อ่านหนังสือต่างๆมากๆ ฟังข่าวสารข้อมูลของบริษัทและวิชาการต่างๆให้มากๆ ซักถามนักขายรุ่นพี่ๆที่มีประสบการณ์ในการขายมากๆ เมื่อนักขายมีความรู้มาก นักขายก็จะเกิดความมั่นใจในการขาย
S = SKIL ทักษะ ความชำนาญ
นักขายที่ประสบความสำเร็จ เมื่อมีทัศนคติที่ดี คิดบวก ต่ออาชีพการขาย แล้วมีการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการขาย ยังไม่พอ นักขายที่ประสบความสำเร็จจะต้องแสวงหาความชำนาญ ทักษะในด้านการขาย การแสวงหาความชำนาญ หรือทักษะในการขาย ไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากการ ขาย ขาย และก็ขาย ดังนั้นนักขายจะต้องหมั่นออกตลาด เพื่อพบปะพูดคุยกับลูกค้า พร้อมทั้งเสนอขายสินค้าและบริการ ความชำนาญ เกิดจากการฝึกฝน การที่เราฝึกฝน ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกก็จะเกิดความชำนาญนั้นเอง และครูที่ดีของนักขายก็คือ ตัวของลูกค้านั้นเอง
C = CONTROL การควบคุม
การควบคุมมีความสำคัญมากในการทำงานทุกอย่าง การทำงานด้านการขายก็เช่นกัน หากนักขายวางแผนจะไปพบลูกค้าจำนวน 60 รายต่อเดือน เท่ากับ 2 รายต่อวัน ถ้าปราศจากการควบคุมตนเอง เป้าหมายตามแผนที่วางไว้ก็ไปไม่ถึงฝั่ง อีกทั้งนักขายที่ดีจะต้องมีการควบคุมตนเองในเรื่องต่างๆ จึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพด้านการขาย เช่น ควบคุมตนเองในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ควบคุมความประพฤติของตนเองไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ควบคุมบุคลิกภาพของตนเองให้ดูดีในการไปพบปะพูดคุยกับลูกค้า
หลักการ P.K.S.C เป็นหลักการที่นักขายควรนำไปใช้และปฏิบัติเพื่อใช้ในการพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักขายมืออาชีพ
...
  
อิทธิบาท 4 สู่ความสำเร็จในงานขาย
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา มีมากมาย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับ การดำรงชีวิต การทำงาน การทำสมาธิ การรักษาศีล การทำอย่างไรให้เกิดปัญญา แต่ในบทความนี้ ผมอยากจะพูดถึงเรื่องของ


ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา คือ หลักอิทธิบาท 4 ซึ่งเป็นคำสอนทางพุทธศาสนา หากใครต้องการประสบความสำเร็จไม่ว่าทางใดทางหนึ่งจึงต้องยึดหลักอิทธิบาท 4 นี้ ไว้ งานด้านการขายก็เช่นกัน

ฉันทะคือ ความรัก ความพอใจ ความชอบ ในสิ่งที่เราต้องการอยากเป็นหรือต้องการประสบความสำเร็จ เช่น ถ้าเราต้องการเป็นนักพูด เราต้องมีความรักในด้านการพูดก่อน หรือ ถ้าเราอยากเป็นนักขาย เราต้องมีความรัก ความพอใจ ในการเป็นนักขายก่อน ถ้าเรามีความรักความชอบหรือมีพอใจ ในงานนั้นๆ ก็จะทำให้เราทำงานนั้นๆได้ดี เช่น ถ้าเรารักที่จะทำงานในบริษัทประกันชีวิตที่เราทำอยู่ เรารักในอาชีพการขายประกันชีวิต เราก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า คนที่ไม่มีความรักในอาชีพการขายประกันชีวิต ซึ่งจะต้องทนทำงานด้วยความทรมานใจมากกว่าคนที่มีจิตใจรักในอาชีพขายประกันชีวิต


วิริยะ คือ ความเพียรพยายาม ความขยันขันแข็ง ถ้าเรามีความรักอย่างเดียว ความชอบอย่างเดียวหรือมีฉันทะอย่างเดียวคงไม่พอ คนที่ประสบความสำเร็จจึงต้องมีวิริยะตามมา เช่น ถ้าเราอยากเป็นนักพูด เราต้องมีความเพียรพยายาม ความขยันขันแข็งในการฝึกพูด หรือ ถ้าเราอยากเป็นนักขาย เราต้องมีความเพียรพยายาม ความขยันขันแข็งในการออกไปขายสินค้าให้กับผู้คน หากไม่มีความเพียรเสียแล้วเราคงไปได้ไม่ไกล เช่น วงการประกันชีวิตมักพูดว่ายิ่งมีคนปฏิเสธการซื้อประกันชีวิตมากเท่าไรนั้นย่อมหมายถึงว่าจะมีคนซื้อประกันชีวิตมากขึ้นเท่านั้น นักขายประกันบางคนที่ประสบความสำเร็จมักพูดว่า ถ้าไปขายประกันให้คน 10 คน จะมีคนตอบรับ 3 คน อีก 7 คนปฏิเสธการซื้อดังนั้น หากจะให้คนซื้อ 30 คน นักขายคนนั้นต้องเดินขายถึง 100 คน ในขณะเดียวกันก็จะมีคนปฏิเสธการซื้อถึง 70 คน ดังนั้นนักขายต้องมีวิริยะครับคือ มีความขยัน ความเพียร


จิตตะ คือ การเอาใจใส่ ใจ จดจ่อกับสิ่งที่เราอยากประสบความสำเร็จ เช่น ถ้าเราอยากเป็นนักพูดหรือถ้าเราอยากเป็นนักขาย ถ้าเรามีใจจดจ่อ คิดถึงทุกวัน ฝันถึงทุกวัน เมื่อมีใจจดจ่อ เราก็จะหาวิธีการเพื่อไปถึงเป้าหมายที่เราต้องการ

วิมังสา คือ รู้จักคิดพิจารณา ใคร่ครวญ วิเคราะห์ว่าทำไมถึงไม่ประสบความสำเร็จ หรือ เกิดปัญหาอะไรขึ้น เมื่อมีการวิเคราะห์ ใคร่ครวญ พิจารณา เราก็จะเกิดการแก้ไขสิ่งเหล่านี้ เช่น ถ้าเราอยากเป็นนักพูด ถามว่าทำไมเราถึงไม่ประสบความสำเร็จ หรือ ถ้าเราอยากเป็นนักขาย ถามว่าทำไมเราถึงขายไม่ได้ เมื่อเรามีวิมังสา ใคร่ครวญ คิดพิจารณา ก็จะทำให้เราหาวิธีแก้ไข ปัญหาซึ่งเมื่อมีปัญหาดังกล่าวเกิด ก็สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นได้

ดังนั้น หากเราต้องการประสบความสำเร็จในการทำงานของวงการต่างๆ หรือ แวดวงต่างๆ คนเหล่านั้นต้องมีหลักอิทธิบาท 4 ได้แก่ 1.ฉันทะคือ มีความรัก ความชอบ ในสิ่งนั้น แต่ถ้าต้องการประสบความสำเร็จมาก คนๆนั้นจะต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในสิ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จ 2.วิริยะ คือ มีความเพียรพยายาม ความขยันขันแข็งในงานที่เราต้องการประสบความสำเร็จ หรือ ความพากเพียรบากบั่นที่จะทำให้สำเร็จ 3.จิตตะ คือ จดจ่อกับเป้าหมาย หรือมีความเอาใจใส่ กับสิ่งที่เราอยากได้ อยากเป็น และ 4.วิมังสา คือ มีความคิดใคร่ครวญ พิจารณา แก้ไขปัญหาสิ่งต่างๆ เมื่อแก้ไขปัญหาได้แล้ว เราก็สามารถประสบความสำเร็จในวงการนั้นๆ ได้

หลักอิทธิบาท 4 ถึงแม้จะเป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีมา 2553 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีความทันสมัย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตของพวกเราได้ ดังนั้น คนที่ต้องการประสบความสำเร็จจะต้องมีหลักอิทธิบาท 4 เสมอ ไม่ว่า เป็นนักพูด นักเขียน นักแสดง หรืออาชีพอื่น ๆ ก็ตาม จำเป็นจะต้องมีหลักอิทธิบาท 4 จึงจะประสบความสำเร็จไม่เว้นแม้กระทั่ง งานอาชีพนักขาย

...
  
การพัฒนาบุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
การพัฒนาบุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าแวดวงการเมือง แวดวงธุรกิจ แวดวงการศึกษา และแวดวงต่างๆ มักจะมีความเป็นผู้นำ มักจะมีความรู้ ความสามารถ กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก อีกทั้งยังคงเป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพที่ดี
ในบทความชิ้นนี้ เราจะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่อง “ การพัฒนาบุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ ”
บุคลิกภาพ หมายถึง ลักษณะเฉพาะของบุคคลที่แสดงปรากฏออกมายังภายนอก ซึ่งบุคลิกภาพมีทั้งบุคลิกภาพภายใน คือ ความรู้สึก อารมณ์ ความฉลาด ความจริงใจ ความเชื่อมั่นในตนเอง ความคิดริเริ่ม และ บุคลิกภาพภายนอก คือ การแต่งกาย ท่านั่ง ท่ายืน รูปร่างหน้าตา ทรงผม การปรากฏตัว การใช้น้ำเสียง การพูด
ทำไมเราต้องมีการพัฒนาบุคลิกภาพ เพราะการพัฒนาบุคลิกภาพจะทำให้เป็นที่ยอมรับในสังคม ใครเห็นก็รู้สึกประทับใจ อีกทั้งทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีทั้งต่อตนเองและองค์กรที่ตนสังกัด
สำหรับการพัฒนาบุคลิกภาพ เราต้องมีการพัฒนาบุคลิกภาพทั้งภายในและภายนอก
การพัฒนาบุคลิกภาพภายนอกที่จำเป็นต้องพัฒนา ได้แก่ การแต่งกาย มารยาทสังคม
การแต่งกายที่ดี ควรยึดหลัก สะอาด สวยงาม สุภาพเรียบร้อยและเหมาะกับกาลเทศะ
สะอาด คือ ต้องสะอาดทั้งร่างกายและเครื่องแต่งกายก็มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผม เสื้อผ้า รองเท้า กลิ่นปาก กลิ่นตัว เล็บ ถุงเท้า
สวยงาม คือ การแต่งกายควรเพิ่มสีสันโดยประมาณไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ควรมีเครื่องประทับเล็กน้อยประกอบการแต่งกายไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา ปากกาถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรเกิน 2 ด้าม ตุ้มหู การทาปาก แต่งหน้า เป็นต้น
สุภาพเรียบร้อยและเหมาะกับกาลเทศะ กล่าวคือ แต่งกายให้เหมาะสมกับงานหรือสถานที่ที่จะไปร่วม สีเสื้อให้เหมาะสม เช่นไปงานศพ ก็ไม่ควรใส่เสื้อสีแดง (งานศพทั่วไปควรแต่งกายสุภาพ ใส่ชุดเสื้อดำ แต่หากเป็นพิธีงานศพที่สำคัญ เช่นมีหมายกำหนดการ ควรแต่งกายสากลไว้ทุกข์ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไทดำ สวมรองเท้าดำหุ้มส้น) ถ้าไปโรงแรมชั้นหนึ่งเราก็สามารถใส่ชุดสูทเข้าร่วมงานได้ แต่หากไปร่วมงานประเพณีตามสถานที่ต่างจังหวัด ตามท้องทุ่งนา ก็ไม่ควรใส่ชุดสูทไป ควรใส่เสื้อผ้าพื้นเมือง หรือชุดไทยไปจะเหมาะสมกว่า (ในปัจจุบันชุดไทยมีหลากหลายเราต้องควรศึกษาเพื่อใช้ในงานต่างๆให้เหมาะสม เช่น ชุดไทยประจำชาติ ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยประยุกต์ ชุดไทยจิตรลดา เป็นต้น)
ดังนั้น การพัฒนาบุคลิกภาพ การแต่งกายจึงมีความสำคัญดังคำโบราณกล่าวไว้ว่า “ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” เพราะการแต่งกายที่ดีจะช่วยเสริมบุคลิกภาพและสามารถสื่อสารได้ การแต่งกายก็เหมือนหีบห่อของผลิตภัณฑ์หรือตัวสินค้า เช่น กล่องยาสีฟัน กล่องสบู่ กล่องขนม หากการแต่งกายสะอาด ดูดี สวยงาม เหมาะสม ก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าภายในของผู้แต่งกาย
มารยาททางสังคมก็มีความสำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพ เนื่องจากทุกประเทศมีมารยาทสังคมที่แตกต่างกัน หรือในประเทศเดียวกันก็ยังมีประเพณีท้องถิ่น ภาษาถิ่น ดังนั้นเราต้องเรียนรู้กัน
มารยาททางสังคมสำหรับสังคมไทยที่ควรรู้ก็คือ การทักทาย การไหว้ การใช้โทรศัพท์ การพูดคุย การนั่ง การยืน กับผู้ใหญ่ การซื้อขอฝากตามเทศกาลต่างๆ การใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกัน การไม่โทรศัพท์หรือพูดคุยกันในห้องประชุม ฯลฯ
ดังนั้น หากท่านต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตหรือในหน้าที่การทำงาน ท่านควรพัฒนาตนเองหลายๆด้าน การพัฒนาบุคลิกภาพก็เป็นด้านหนึ่งที่ท่านควรพัฒนาเพราะการพัฒนาบุคลิกภาพจะนำพาท่านสู่ความสำเร็จ







...
  
อยากสำเร็จต้อง.
อยากสำเร็จต้อง...
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตในแวดวงต่างๆ มักเป็นบุคคลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่เสมอ ฉะนั้นหากท่านต้องการประสบความสำเร็จ ท่านจึงต้องควรมีการเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ท่านจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองหลายด้าน สำหรับบุคคลที่ประสบความสำเร็จมักเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
1.ท่านต้องเป็นคนที่มี “ เป้าหมายชัดเจน ” อีกทั้งควรเขียนเป้าหมายเป็นลายลักษณ์อักษร เขียนเพื่อให้จดจำ การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร หรือ วางเป้าหมายเป็นภาพต่างๆ แล้วติดตามโต๊ะทำงาน ห้องนอน ห้องน้ำ ฯลฯ จะทำให้เราเกิดการจดจำได้มากกว่า การมีเป้าหมายแล้วไม่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
2.ท่านต้องเป็นคนที่ “ ทำสม่ำเสมอ ” เมื่อมีการวางเป้าหมายแล้ว หากไม่ลงมือทำ เป้าหมายนั้นก็จะไม่มีความหมายหรือเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งสำคัญก็คือ ต้อง ททท.(ทำทันที) ไม่ต้องรอช้า วางแผนงานแล้วลงมือทำทันที มิใช่นั้น ความสำเร็จก็จะไม่บังเกิด
3.ท่านต้องเป็นคนที่ “ ชอบเข้าใกล้หรือชอบปรึกษาคนที่ประสบความสำเร็จ ” การเรียนรู้หรือคัดลอกจากต้นแบบจะทำให้เราลดเวลาในการเดินทางไปสู่เป้าหมาย เช่น หากเราอยู่ต่างจังหวัดเราจะเดินทางไปกรุงเทพฯ (ครั้งแรกโดยรถยนต์ส่วนตัว) หากเราไม่ถามทางคนที่เคยไปกรุงเทพฯมาแล้ว เราลองเดินทางไปเอง เราอาจหลงทาง เสียเวลา แต่หากเราถามคนที่เคยไปมาแล้ว ก็จะทำให้เราไม่หลงทางถึงกรุงเทพฯ ไวยิ่งขึ้น อีกทั้งประหยัดน้ำมันหรืองบประมาณอีกด้วย
4.ท่านต้องเป็นคนที่ “ชอบการเปลี่ยนแปลง ” คนเรามักไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่คนเราจะเจริญก้าวหน้าด้วยการเปลี่ยนแปลง หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพต่างๆ ท่านควรเป็นผู้ที่มีแนวความคิดในการเปลี่ยนแปลง มีความคิดในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
5.ท่านต้องเป็นคนที่ “ ชอบเรียนรู้อยู่เสมอ” โลกยุคปัจจุบันเป็นโลกยุคของข้อมูลข่าวสาร ยุคของความรู้ ซึ่งบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จจะต้องเป็นนักเรียนรู้อยู่เสมอ สามารถนำข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่างๆ มาใช้ประโยชน์ในงานอาชีพของตนเองได้
6.ท่านต้องเป็นคนที่ “ รู้จักใช้ เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ ต่างๆ ช่วย ” โลกยุคปัจจุบันรวมทั้งโลกในอนาคต เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่ประสบความสำเร็จมักต้องรู้จักใช้เครื่องมือ เทคโนโลยี อุปกรณ์ต่างๆเข้าช่วย การใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ จะเป็นการลดต้นทุน ลดเวลา ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการทำงาน เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือช่วยในการชำระเงิน ช่วยบอกทาง ช่วยรับข้อมูลข่าวสาร ช่วยปลุก ช่วยเตือนงาน ฯลฯ
7.ท่านต้องเป็นคนที่ “ แตกต่าง ” หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการความสำเร็จ ท่านควรมีความแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป คนที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนมักคิดแตกต่างจากคนอื่น ทำอะไรๆ ที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เช่นการแต่งกาย ทรงผม บุคลิก การพูดจา ฯลฯ
8.ท่านต้องเป็นคนที่ “ เริ่มต้น ” หากท่านอ่านมาถึงข้อความตรงนี้แล้ว หากท่านไม่เริ่มต้นทำหรือเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ความสำเร็จก็คงไม่เกิดขึ้นกับท่าน แต่หากท่านต้องการความสำเร็จจงเริ่มต้นทำ ระยะทางถึงแม้จะไกลแสนไกล หากเราไม่เริ่มต้นเดินก้าวแรกเราก็จะไม่มีวันไปถึงเป้าหมายปลายทาง
โดยสรุป อาจกล่าวได้ว่า ปัจจัยที่ทำให้คนประสบความสำเร็จมีอีกหลายปัจจัยที่กระผมยังไม่ได้กล่าวถึง แต่สิ่งที่สำคัญ หากเราอ่าน เราศึกษาแล้ว แต่เราไม่นำเอาไปปฏิบัติ ความสำเร็จก็ยากที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จ ท่านคงต้องลงมือปฏิบัติ อีกทั้งต้องคอยควบคุม ตรวจสอบ อยู่เสมอ ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จดังเช่นคนที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้เพียงแต่เราไม่ได้ลงมือทำมัน



...
  
ความสำเร็จของนักขาย
ศาสตร์แห่งความสำเร็จของนักขาย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ถ้าพูดถึงเรื่อง ศาสตร์แห่งความสำเร็จของนักขาย เรามักจะได้ยินหรือได้อ่านจากหนังสือต่างๆ มากมาย ซึ่งศาสตร์แห่งความสำเร็จของนักขายแต่ละท่านอาจแตกต่างกันหรือคล้ายคลึง แต่โดยมากแล้วผู้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักขายส่วนใหญ่จะมีลักษณะ ความคิด ทัศนคติที่มีความคล้ายคลึงกัน เช่น
1.มีเป้าหมายที่แน่นอน บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักขายทั้งในอดีตหรือปัจจุบัน รวมทั้งถึงอนาคต มักเป็นคนที่รู้จักกำหนดเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเรื่องความร่ำรวย เป้าหมายในการขาย เป้าหมายของลูกค้าที่มาใช้บริการ ฯลฯ ถ้าหากท่านต้องการเป็นยอดนักขาย ท่านต้องรู้จักการตั้งเป้าหมาย เช่น ท่านต้องการยอดขายปีหน้าเท่าไร แล้วจึงวางเป้าหมายเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ และรายวันต่อไป
2.มีความมั่นใจในตนเอง ว่าตนทำได้ เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอนแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ท่านต้องมีความมั่นใจในตนเองว่าท่านทำได้ แล้วลงมือทำตามแผนที่วางไว้ในทันที หากท่านไม่มีความมั่นใจในตนเอง ท่านจะประสบความสำเร็จในงานขายได้ยาก
3.มีทัศนคติที่ดีในงานขาย นักขายที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่มักมีทัศนคติที่บวกต่อสินค้า บริษัท และอาชีพงานขาย หากนักขายมีทัศนคติที่ลบต่อสินค้า บริษัทและอาชีพงานขาย กระผมขอแนะนำให้เปลี่ยนอาชีพจะดีกว่า หากท่านมีทัศนคติที่ลบ ท่านจะไม่กล้านำเสนอ ท่านจะไม่กล้าแนะนำสินค้า ท่านจะตอบข้อโต้แย้งด้วยความไม่มั่นใจ อีกทั้งหากว่าท่านต้องการเป็นนักขายท่านควรปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับงานขายเสียใหม่ กล่าวคือ การขายคือการให้(ให้ผลประโยชน์แก่ลูกค้า) ไม่ใช่ การขายคือการรับ(รับผลประโยชน์จากลูกค้า) ถ้าหากท่านมีความรู้สึกว่า ท่านต้องรับผลประโยชน์จากลูกค้า ท่านจะมีความลำบากใจในการขาย
4.มีความกระตือรือร้น นักขายที่เก่งระดับเซียน มักเป็นคนที่กระตือรือร้น ความกระตือรือร้นจะทำให้เกิดชีวิตชีวา ความกระตือรือร้น จะทำให้คนรอบข้างกระตือรือร้นไปด้วย ความกระตือรือร้นจะทำให้การขายเป็นไปด้วยความเร้าใจ ความกระตือรือร้นจะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจและประทับใจในการฟัง
5.มีความกล้าที่จะเผชิญกับการถูกปฏิเสธ งานขายเป็นงานที่ต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธของลูกค้า เมื่อเรานำเสนอขายสินค้า แน่นอนว่าลูกค้าที่เรานำเสนอขายสินค้าทุกคนจะไม่ซื้อของของเรา แต่จะมีบางคนที่ตอบตกลงซื้อ งานขายจึงต้องพบกับการถูกปฏิเสธของลูกค้ามากกว่าอาชีพอื่นๆ โดยเฉพาะการขายประกันชีวิต ประกันภัย การขายสินค้าในธุรกิจเครือข่าย งานขายตรงที่นำเสนอขายตามบ้านเรือนต่างๆ ฯลฯ
6.มีอิทธิบาท 4 นักขายที่ดีและเก่ง เป็นมืออาชีพ ต้องมีอิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ(ความพอใจ ความรักในงานขาย ),วิริยะ(ความพยายามในการขาย มีความเพียรพยายาม) , จิตตะ (ความใจจดใจจ่อ ความเอาใจใส่กับงานขาย)และวิมังสา(เมื่อเกิดปัญหาขายไม่ได้ ก็จะใช้การวิเคราะห์ พิจารณา หาเหตุผล พร้อมทั้งหาวิธีแก้ไขปรับปรุง)
7.มีการรู้จักควบคุมตนเอง กล่าวคือ หากต้องการเป็นนักขายที่ดีต้องเป็นคนที่ควบคุมตนเองได้ มีวินัยในตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนออกไปหาลูกค้าก็ต้องไปตามนัด ควบคุมตนเองเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัว ไม่ฟุ่มเฟือย ประหยัด ไม่ใช่จ่ายเกินตัว จนต้องเดือดร้อนเป็นหนี้เป็นสิน คนเราถึงแม้จะขายเก่งปานใด หากเสียเรื่องเงินหรือมีปัญหาเรื่องเงิน อาชีพในการทำงานการขายก็มักจะเสียหายไปด้วย
ฉะนั้น หากต้องการเป็นนักขายมืออาชีพ นักขายระดับมือเซียน ท่านจะต้องเป็นคนที่รู้จักเรียนรู้ รู้จักพัฒนาตนเองอยู่เสมอ แก้ไขปรับปรุง หาต้นแบบของนักขายรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จแล้วลองลอกเลียนแบบเขาดู ท่านก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักขายมืออาชีพ


...
  
ความล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่าย
ความล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่าย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย มักมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ดีหลายๆอย่าง ซึ่งพวกเราสามารถหาอ่านได้ตามหนังสือ บทความทางสื่อต่างๆ แต่บุคคลที่ล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่ายมักมีการพูดถึงกันน้อย สำหรับบทความฉบับนี้ เราจะมาพูดถึงบุคคลที่ล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่ายว่าเป็นคนที่มีลักษณะอย่างไร
1.ไม่มีเป้าหมายในชีวิต บุคคลที่ล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่ายมักเป็นบุคคลที่ขาดการตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายในเรื่องของตำแหน่งต่างๆ ในธุรกิจเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายในเรื่องของรถ บ้าน การท่องเที่ยว ที่ตนเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายในการขยายเครือข่าย ฯลฯ สำหรับการตั้งเป้าหมายที่ดีเราควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน อีกทั้งต้องกำหนดระยะเวลาในการไปถึงเป้าหมายด้วย
2.ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน การทำธุรกิจเครือข่าย เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการขายและขยายเครือข่าย เป็นธุรกิจอิสระ ซึ่งเราไม่ต้องไปทำงานในสำนักงานเหมือนการทำงานประจำ ดังนั้น ผู้ที่ทำธุรกิจเครือข่ายจะต้องมีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ มีวินัยในการทำงาน เนื่องจากการทำธุรกิจเครือข่ายเราสามารถกำหนดเวลาทำงานได้ด้วยตนเอง
3.ไม่ออกไปชวนคน ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยคน เพื่อให้เกิดการซื้อใช้ เกิดการขาย เกิดการบอกต่อ คนที่ล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่ายมักเป็นคนที่ไม่ออกไปชวนคนมาร่วมทำธุรกิจ เมื่อไม่มีการชวนคนเข้าร่วม การขยายเครือข่ายก็ไม่เกิดขึ้น
4.ไม่เข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท การทำธุรกิจเครือข่าย เรามีความจำเป็นจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท เพื่อให้ทราบข้อมูล ข่าวสาร การแข่งขัน โดยเฉพาะการประชุม การสัมมนา หากท่านไม่ต้องการความล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่าย ท่านควรหาโอกาสเข้าร่วม ประชุม สัมมนา บ่อยๆ เท่าที่จะมีโอกาส เนื่องจากการเข้าประชุม สัมมนา จะทำให้เราเกิดไฟหรือความกระตือรือร้นในการทำงาน
5.ไม่ศึกษาตัวสินค้าของบริษัท การทำธุรกิจเครือข่าย นักธุรกิจเครือข่ายที่ดีต้องรู้จักรายละเอียดของสินค้า ประเภทของสินค้า คุณลักษณะพิเศษของผลิตภัณฑ์ ทั้งของคู่แข่งและของบริษัท เพราะหากเนื่องจากลูกค้าถาม นักธุรกิจเครือข่ายที่ดีจะต้องตอบและอธิบายได้ด้วยความมั่นใจ
6.ไม่ศึกษาแผนการตลาด การทำธุรกิจเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จ นักธุรกิจเครือข่ายมีความจำเป็นจะต้องเขียนแผนการตลาด อธิบายแผนการตลาดของบริษัทได้ หากอธิบายหรือเขียนแผนการตลาดไม่ได้ ท่านก็ไม่สามารถขยายธุรกิจของท่านได้ ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดของแผนการตลาดของบริษัทให้ถูกต้อง เมื่อถูกถามท่านก็สามารถตอบและอธิบายได้ด้วยความมั่นใจ
7.ไม่ติดต่อกับทีมงาน การทำธุรกิจเครือข่าย เป็นการทำธุรกิจแบบเป็นทีม ทุกคนในทีมมักจะช่วยกัน เนื่องจากหากลูกทีมได้ผลประโยชน์ หัวหน้าทีมก็มักจะได้ด้วย ฉะนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย จงพยายามติดต่อกับทีมงาน หัวหน้าทีม เพื่อนร่วมทีม ลูกทีม ให้มากที่สุด
8.ไม่มีความสม่ำเสมอ ทำๆ หยุดๆ ขาดการต่อเนื่อง อีกทั้งเลิกล้มก่อนเวลาที่จะประสบความสำเร็จ การทำกิจการทุกอย่างกว่าจะประสบความสำเร็จต้องใช้เวลา เช่น การปลูกต้นไม้กว่าต้นไม้นั้นจะโตก็ต้องใช้เวลา อีกทั้งต้องเพียรพยายามรดน้ำ พรวนดิน ดังนั้นหากต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย ท่านจำเป็นจะต้องมีความอดทน มีความสม่ำเสมอในการทำงาน จึงจะประสบความสำเร็จ
เราจะเห็นได้ว่าปัจจัยต่างๆข้างต้นนี้ หากมีในบุคคลใด บุคคลนั้นมักล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่าย ดังนั้นหากต้องการประสบความสำเร็จ ท่านจะต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน ท่านจะต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ท่านจะต้องออกไปชวนคนเข้าร่วมทำธุรกิจเครือข่าย ท่านจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท ท่านจะต้องศึกษาตัวสินค้าของบริษัท ท่านจะต้องศึกษาแผนการตลาด ท่านจะต้องมีการติดต่อกับทีมงานและท่านจะต้องมีความสม่ำเสมอในการทำงานธุรกิจเครือข่าย


...
  
นักการตลาดมืออาชีพ
นักการตลาดมืออาชีพ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ยุคปัจจุบัน ธุรกิจทุกประเภท สินค้าทุกตัว มีการแข่งขันอย่างรุนแรง เช่น ธุรกิจเครื่องดื่ม เราจะเห็นได้ว่า เครื่องดื่มมีหลากหลายยี่ห้อ เครื่องดื่มมีหลากหลายประเภท เครื่องดื่มมีหลากหลายรสชาติ เครื่องดื่มมีหลากหลายสี เครื่องดื่มมีหลากหลายขนาด เครื่องดื่มมีหลากหลายรูปแบบ ฯลฯ
ทั้งนี้ ธุรกิจทุกประเภท สินค้าทุกประเภท ยังคงต้องเผชิญกับคู่แข่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน คู่แข่งรายเก่า คู่แข่งรายใหม่ คู่แข่งจากต่างประเทศ จึงทำให้นักการตลาดที่ทำงานด้านการตลาดให้กับธุรกิจประเภทต่างๆ สินค้าประเภทต่างๆ จำเป็นจะต้องมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ผมขอยกตัวอย่างแค่ธุรกิจน้ำดื่มในประเทศไทยของเรา สำหรับการตลาดในธุรกิจน้ำดื่มในยุคปัจจุบัน ภาพรวมตลาดรวมเครื่องดื่มกว่า 130,000-140,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดน้ำอัดลม 44,000-45,000 ล้านบาท น้ำดื่ม 23,000ล้านบาท เครื่องดื่มชูกำลัง 20,000ล้านบาท ชาพร้อมดื่ม 13,000 ล้านบาท น้ำผลไม้ 12,000 ล้านบาท กาแฟพร้อมดื่มประมาณ 10,000ล้านบาท ฟังก์ชันนอลดริงค์และเครื่องดื่มผสมวิตามิน 5,000ล้านบาท และเครื่องดื่มเกลือแร่ 4,200 ล้านบาท
เราจะเห็นว่า แค่เครื่องดื่มประเภทชาพร้อมดื่ม บริษัทใหญ่ๆ หรือยี่ห้อที่มีส่วนแบ่ง
การตลาดอันดับต้นๆ มักจะใช้กลยุทธ์ ลด แลก แจก แถม จนทำให้คู่แข่งบางราย ที่มีทุนไม่มาก ถึงขนาดออกจากตลาดไปเลยก็มี เช่น
1.อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยง ตอน ทอง หมื่น แสน ล้าน แจกหนัก 1,110 รางวัล มูลค่า 30 ล้านบาท วิธีการส่ง SMS : พิมพ์ *711* ตามด้วยหมายเลข 10 หลัก ใต้ฝาขวด รหัส อิชิตัน แจกทุกวันจันทร์ วันที่ 10 กันยายน - 12 ตุลาคม 2558
2.โออิชิ รหัสโออิชิ แจกเยอะ จัดหนัก กองทัพรถ 600 คัน และลุ้นเป็นเจ้าของรถยนต์ โตโยต้า ยาริส ระบบเกียร์อัตโนมัติ กติกา ส่งรหัสใต้ฝา ทางมือถือ กด *494*รหัส# ระยะเวลาโปรโมชั่น ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558
ในสมรภูมิเครื่องดื่มประเภทชาเขียว มีการแจกยังไม่พอ ยังมีการแข่งขันลดราคากันอย่างรุนแรงดังที่เราได้เห็นกันมา เช่น
- มิเรอิ ลดราคาทันทีขนาด 500 มล.ราคา 20 บาท เหลือ 16 บาท จึงส่งผลกระทบอิชิตันที่เพิ่งหมด
โปรโมชั่นลดราคาจาก 16 บาท เหลือ 14 บาท ในช่วงเดือน กรกฏาคม – สิงหาคม 2554
- คิริน ขายในเซเว่น อีเลฟเว่น ขนาด 350 มล. ขวดละ 15 บาท ขายคู่ 2 ขวด 22 บาท ช่วง
สิงหาคม – กันยายน 2554
- โออิชิ ซื้อสินค้าที่เซเว่น อีเลฟเว่น ครบ 40 บาท แลกซื้อโออิชิ 2 ขวด 25 บาท จากปกติขวดละ
20 บาท เหลือเพียงขวดละ 12.50 บาท ช่วงเดือน สิงหาคม – กันยายน 2554
- ทีเบรก ขาย 2 ขวดคู่จากราคา 30 บาท เหลือ 22 บาท เฉพาะในเซเว่นอีเลฟเว่น สิงหาคม –
กันยายน 2554
ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า ตลาดชาเขียว ในยุคปัจจุบัน จึงปิดตายสำหรับคู่แข่งรายเล็กๆ หรือ คู่แข่ง
ที่ไม่มีทุนหรือสายป่านยาวพอ อีกทั้งการแข่งขันกันในสงครามของราคา จะทำให้ยี่ห้อบางยี่ห้อต้องถูกออกจากการแข่งขันในที่สุด ซึ่งเหตุผลหลักๆก็คือ ต้นทุนสูงขึ้น ราคาถูกลง จึงทำให้กำไรน้อยลง และถ้าขายไม่ออกก็จะประสบกับภาวการณ์ขาดทุนในที่สุด
ฉะนั้น นักการตลาดมืออาชีพ จึงต้องหาทางออกให้กับสินค้าของตนเอง ก่อนที่จะประสบกับภาวะการขาดทุนหรือการออกนอกตลาด เช่น อาจจะต้องมีการขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศ เหมือนเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อกระทิงแดงที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม , การขยายธุรกิจออกไปทำธุรกิจเครื่องดื่มประเภทอื่น โดยการสร้างแบรนด์ใหม่ๆหรือแบรนด์เดิม (กาแฟ , เครื่องดื่มชูกำลัง , น้ำผลไม้) , การสร้างนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆออกมาเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างกัน(เอาชาเขียวมาผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ เช่น ชาเขียวผสมโซดา , ชาเขียวผสมน้ำผลไม้,ชาเขียวผสมเครื่องดื่มชูกำลัง) , การสร้างความหลากหลายในตัวของสินค้า(รสชาติ บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย ขนาด รูปขวด ราคา) , การสร้างผลิตภัณฑ์ดื่มเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง , การสื่อสารเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อถือ เกิดการศรัธทา เกิดการบอกต่อ ฯลฯ
สิ่งที่กล่าวมานี้ จึงเป็นเรื่องที่นักการตลาดมืออาชีพ จะมองข้ามไม่ได้ ไม่ว่าท่านจะเป็นนักการตลาดในธุรกิจประเภทใด สิ่งที่ท่านจะต้องเจอก็คือ คู่แข่งขัน และถ้าเป็นการแข่งขันอย่างรุนแรง ท่านซึ่งเป็นนักการตลาด ท่านจะทำอย่างไรเพื่อเอาตัวรอดหรือให้ชนะคู่แข่งขัน
สุดท้ายนี้ จึง ฝากนักการตลาดไว่ว่า “ ความคิดมีความสำคัญมาก ท่านจงคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงสินค้า เปลี่ยนแปลงบริษัทอย่างไรให้เจริญขึ้น จงสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขึ้น อย่ารอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อนแล้วจึงหาทางแก้ไข เพราะถ้าท่านรอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อนแล้วจึงลงไปแก้ไข ถึงตอนนั้นท่านอาจจะแก้ไขไม่ทันการณ์”
ถามว่า ทำไม บริษัท แอปเปิ้ล ของสตีฟ จอบส์ จึงประสบความสำเร็จ คำตอบก็เพราะว่า บริษัทแอปเปิ้ล ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดเวลา เขาจะไม่รอขายของเก่าหรือรอให้คู่แข่งตามทัน แต่คู่แข่งต่างหากที่ต้องตามเขา


...
  
กล้าเสี่ยงและลองทำสิ่งใหม่ๆแล้วท่านจะเป็นผู้ชนะ
จงกล้าเสี่ยงและลองทำสิ่งใหม่ๆแล้วท่านจะเป็นผู้ชนะ
โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ธุรกิจที่ล้มเหลวมักจะเป็นธุรกิจที่ทำอะไรเดิมๆ และไม่ยอมที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ไอเดียเดิมๆ กระบวนการเดิมๆ คิดและทำแบบเดิมๆ ฉะนั้น ถึงแม้ว่าองค์การธุรกิจจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่ทุกวันนี้ โลกของเราเปลี่ยน ลูกค้าของเราเปลี่ยน และสถานการณ์ต่างๆทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
จงกล้าเสี่ยงและลองทำสิ่งใหม่ๆ ถ้าท่านต้องการประสบความสำเร็จและเป็นผู้ชนะ มีบริษัทยักษ์ใหญ่ในอดีตเคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป โลกเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง แต่บริษัทยังคงติดภาพกับความสำเร็จในอดีต จึงทำให้เป็นผู้พ่ายแพ้ในที่สุด เช่น
ธุรกิจฟิล์ม สมัยอดีต ฟิล์มสีโกดักและฟูจิฟิล์ม โด่งดังมาก เป็นผู้นำในธุรกิจภาพถ่าย แต่เมื่อโลกเปลี่ยน ฟิล์มโกดักไม่ยอมเปลี่ยน จึงต้องล้มละลายและสิ้นชื่อไปจากวงการตลาดไป ส่วนฟูจิฟิล์ม ยังมีการปรับตัวถึงแม้จะช้ากว่าคู่แข่งแต่ก็สามารถอยู่ในวงการต่อไปได้ แต่ก็สูญเสียการนำและส่วนแบ่งทางการตลาดไปให้กับคู่แข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย
ดังนั้นจงกล้าเสี่ยงและลองทำสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยน ในอนาคตโลกก็จะบังคับให้เราเปลี่ยน.....
ในอดีตพวกเรามักได้ยินคำว่า “ ปลาใหญ่ต้องกินปลาเล็ก ” แต่โลกของการแข่งขันในยุคนี้ เราต้องให้ความสำคัญกับความรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงจึงอาจกล่าวได้ว่า “ ปลาเล็กสามารถเอาชนะปลาขนาดใหญ่ได้ด้วยความเร็ว” เรามักจะเห็นว่าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่หรือเปรียบเทียบได้กับปลาตัวใหญ่มักจะเคลื่อนไหวช้า ตัดสินใจช้า หรือไม่ทำอะไรที่รวดเร็วต่อการสนองตอบการเปลี่ยนแปลงของโลกของการแข่งขันในยุคปัจจุบัน ตรงกันข้ามกับองค์การธุรกิจขนาดเล็กหรือปลาตัวเล็ก ที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสนองตอบเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกของการแข่งขัน
มนุษย์เราหรือองค์การธุรกิจมักกลัวการเปลี่ยนแปลง.....แต่มนุษย์และองค์การธุรกิจจะเจริญได้ก็ด้วยการเปลี่ยนแปลง......จงกล้าเสี่ยงที่จะเปลี่ยนแปลงและลองทำสิ่งใหม่ๆ แล้วท่านและองค์การธุรกิจของท่านจะเป็นผู้ชนะ....
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.