หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  
  -  
  -  
  -  
  -  
  -  สู้แล้วรวย
  -  ปัญหาของเด็ก
  -  ประวัติของอาจารย์จตุพล ชมภูนิช
  -  เด็กขายตัว
  -  สู่ผู้นำ
  -  อาหารปลอดภัย
  -  การพูดหน้าชุมชน
  -  ฝึกพูด
  -  คนคือทรัพย์สิน
  -  เหล้ากับเทศกาลสงกรานต์
  -  การเผาป่า
  -  ผู้บริหารกับการตลาด
  -  ผู้นำกับองค์กรเรียนรู้
  -  ศิลปะการฟัง
  -  ทีม
  -  กล้าล้มเหลวจึงสำเร็จ
  -  บทบาทนักบริหาร
  -  เก่งงาน เก่งคน เก่งคิด
  -  ธรรมชาติการขาย
  -  หัวใจงานบริหาร
  -  ลิขสิทธิ์
  -  กิ๊ก
  -  เมืองไทยเมืองเซ็กส์
  -  แฟชั่น นักศึกษา
  -  ปัจจัยในการบริหาร
  -  การเปลี่ยนแปลงกับการบริหาร
  -  น้ำมันลอยติดลมบน
  -  พจนานุกรมวัยรุ่น
  -  น้ำมันยังเป็นปัญหาใหญ่
  -  โลกร้อน
  -  บุหรี่
  -  สายสัมพันธ์กับนักบริหาร
  -  ขยะเป็นทอง
  -  หมวก 6 ใบ
  -  พ่อแม่ รังแกฉัน
  -  สภาประชาชน สภาผู้บริโภค
  -  ความคิดสร้างสรรค์
  -  U R A BRAND !(คุณ คือ แบรนด์)
  -  มึงสู้จริงหรือเปล่า
  -  การเตรียมความพร้อมของบุคลากรสาธารณสุข
  -  นักพูดที่ดีต้องรู้จักวิเคราะห์ภาษากายของผู้ฟัง
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

...
  

...
  

...
  

...
  

...
  
สู้แล้วรวย
สู้แล้วรวย

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ชีวิตของมหาเศรษฐีที่สร้างฐานะมาด้วยตนเอง โดยไม่ได้รับทรัพย์สมบัติจากครอบครัว...ส่วนใหญ่ในโลกรวมทั้งประเทศไทยเราด้วย ไม่มีคนนั้นเลยที่ไม่เคยลำบาก ล้มลุกคลุกคลาน

และมีจำนวนไม่น้อยต้องล้มลุกคลุกคลานไม่น้อยกว่า 7-10 ครั้ง เช่น พตท.ดร.ทักษัณ ชินวัตร กว่าจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีต้องเป็นหนี้เป็นสิน ทำธุรกิจล้มเหลวหลายธุรกิจแล้วจึงมาประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในช่วงหลังๆ


ถามว่า ทำไมคนจนถึงไม่รวย คำตอบคือ คนจนส่วนใหญ่ไม่ใช้ความคิด คนร่ำรวยส่วนใหญ่ใช้ความคิด คนคิดเป็น...ย่อมร่ำรวยก่อนคนไม่ใช้ความคิด...

คนจนหลายพันล้านคนในโลกนี้ ทำงานหากินด้วยการใช้แรงกายด้วยความยากลำบาก ได้รับเงินเดือนต่ำๆ ไม่คุ้มค่า เพราะคนจนเหล่านั้นใช้สมองน้อยมาก ตรงกันข้ามกับคนร่ำรวย เขาจะใช้แรงกายน้อยแต่จะใช้สมองมาก รายได้สูง..คุ้มค่าเหนื่อย

ดังนั้น ความคิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณก็จะทำไม่ได้ จงคิดอย่างผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ควรคิดอย่างขอทานหรือคิดเล็กๆ

เราลองมาพูดถึงความคิดกันอีกสักหน่อย.... คนที่ร่ำรวยมักจะคิดแตกต่าง กว่าคนทั่วไป คนรวยมักจะมีความคิดที่สร้างสรรค์มากกว่าคนทั่วไป ฉะนั้นถ้าพวกเรารู้จักคิดให้แตกต่างจากคนทั่วไป ผลที่ได้รับคือคุณจะร่ำรวยกว่าคนทั่วไปเช่นกัน

อยากรวยต้อง พลิกวิกฤติ...ให้เป็นโอกาส... ถ้าอยากร่ำรวย ต้องหาโอกาสในวิกฤติ เช่น ถ้าคนอื่นมีวิกฤติ เราต้องหาโอกาสในวิกฤตนั้นแล้วเราจะร่ำรวย หลายพื้นที่ในโลก รวมทั้งประเทศไทย ขาดน้ำดื่ม น้ำใช้ สิ่งเหล่านี้คือ วิกฤตของเขา ถ้าเราหาน้ำดื่ม น้ำใช้ ไปขายได้ เราก็จะได้เงินจำนวนมหาศาล

อยากรวย...ต้องขยัน... คนร่ำรวยส่วนใหญ่เป็นนักคิด คิดต่าง คิดสร้างสรรค์ แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้ามีแต่ความคิดแล้วไม่ลงมือทำหรือไม่ขยันทำ ดังนั้น เมื่อมีปัญญา...แต่ขี้เกียจ....ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มีวันรวย

เงินมีอยู่รอบตัวเรา ถ้าเรารู้จักหา รู้จักคิด มันก็จะเข้าสู่กระเป๋าของเรา แม้แต่ดินก็มีเงิน....งอกออกมาได้

ถ้าเรามีที่ดินเราสามารถปลูกกล้วยขายได้ ถ้าเรามีที่ดินเราสามารถปลูกมะละกอขายได้ ถ้าเรามีที่ดินเราก็สามารถปลูกผักขายได้


เงินมีอยู่รอบตัวเรา แม้แต่ขยะก็สามารถสร้างเงินได้ เราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากสิ่งที่คนอื่นเขาทิ้งได้ เช่น เศษเหล็กต่างๆ เราก็สามารถนำมาสร้างเป็นหุ่นยนต์ขายได้ , เศษผ้าที่ไม่มีใครต้องการเราก็สามารถนำมาทำพรมเช็ดเท้า...ได้ และขยะอีกหลายตัวเราสามารถนำมาใช้ใหม่ได้

จบป.5...ก็เป็นเศรษฐีได้...หลายคนมีความคิดว่าต้องเรียนสูงๆ ถึงจะสามารถเป็นเศรษฐีได้ แต่ความจริงไม่ใช่เลย การศึกษาไม่ได้ทำให้คนเป็นเศรษฐีหรือมหาเศรษฐี บางคนจบแค่ป.5...แต่คิดเป็น ขยัน...ก็สามารถร่ำรวยได้...มีธุรกิจเป็นหลายร้อยล้าน มีลูกน้องเรียนจบดอกเตอร์หรือปริญญาเอกอีกต่างหาก ดังนั้น การศึกษาไม่ได้เป็นตัวชี้วัดถึงความร่ำรวย


อยากรวย..ต้องไม่คอยวาสนา...คนร่ำรวยจะไม่เพ้อฝันถึงเรื่องโชคชะตา ดวง การพนัน การถูกหวย การชิงโชคต่างๆ ตรงกันข้าม คนจนเสียอีกที่มักคิดถึงแต่เรื่อง การถูกหวย การพนัน โชคชะตา วาสนา

คิดใหม่...ทำใหม่...ดังนั้น ถ้าเรามีความคิดข้างต้นก็ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่ ถ้าเราคิดแบบเก่าๆ ผลออกมาก็จะได้แบบเดิม แต่ถ้าเราคิดใหม่...ทำใหม่...ผลที่ได้รับก็จะแตกต่างจากเดิม







...
  
ปัญหาของเด็ก
ปัญหาหลากหลาย ของเด็กและเยาวชนไทย


โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


ปัญหาเรื่องเพศของเด็ก ปัญหาเด็กดื่มเหล้า ปัญหาเด็กติดยาเสพติด ปัญหาเด็กติดเกมส์ และอีกหลากหลายปัญหา ของเด็กและเยาวชนไทย ปัญหาต่างๆเหล่านี้มีความซับซ้อนกว่าในอดีต เนื่องจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ทำให้ปัญหาเด็ก เยาวชนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก ซึ่งการเกิดปัญหาต่างๆ มีหลายปัจจัย เช่น เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การเมืองเปลี่ยนแปลงไป ฯลฯ เช่น


ปัญหาเรื่องเพศของเด็ก เรามักจะเห็นในข่าวหน้าหนึ่งทางหน้าหนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ


- “ รวบ 3 นักศึกษาสาว ขายตัวทาง HI5 อ้างหลงผิด-ใช้เงินฟุ่มเฟือย ”

- รายการ คม ชัด ลึก ประจำวันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ตอน "ขายตัว สวิงกิ้ง-ความเหลวแหลกวัยรุ่น" ได้หยิบยกปัญหาดังกล่าวมาพูดกันในรายการ เพื่อร่วมเสนอทางออกของปัญหา

- รวบแม่เล้าสาว ม.2พาเพื่อนส่งเสี่ยขายตัว จากหนังสือพิมพ์รายวัน เชียงใหม่นิวส์

- และมีอีกหลากหลายข่าวตามสื่อต่างๆ


ปัญหาเรื่องเด็กดื่มเหล้า เบียร์ เป็นปัญหาที่พูดกันมายาวนานแล้ว ไม่ใช่แค่เด็กแต่ว่ามีปัญหากับประชาชนหรือพลเมืองของชาติด้วย แต่ในปัจจุบัน ปัญหาเหล้า เบียร์ เริ่มมีปัญหามากยิ่งขึ้นสำหรับเด็ก และเยาวชน ดังจะเห็นได้จากหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ หรือสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ เช่น ภาพอุบัติเหตุ ภาพทำร้ายร่างกายกัน ภาพทะเลาะเบาะแว้งกันของเด็ก เยาวชน ส่วนใหญ่แล้วก็เกิดขึ้นมาจากการดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ ยิ่งช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ , สงกรานต์ , ลอยกระทง ฯลฯ การดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ ยิ่งมีมาก ปัญหาต่างๆ ( อุบัติเหตุ ,ทำร้ายร่างกายกัน,ทะเลาะเบาะแว้งกัน) ก็มากตามด้วย


และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เคยวิเคราะห์อย่างน่าฟังว่า หากสามารถลดอุบัติเหตุจากคนเมาได้ร้อยละ 50 จะลดการเสียชีวิตปีละ 2,900 ราย ลดการบาดเจ็บปีละ 29,625 ราย และ ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจได้อีกประมาณ 13,975 ล้านบาทเลยทีเดียว


ปัญหาเด็กติดยาเสพติด ในยุคปัจจุบัน ปัญหายาเสพติดมีเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ ซึ่งต้องขอฝากรัฐบาลช่วยแก้ ช่วยปราบปรามไว้ด้วย เนื่องจากปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน ได้ลงมายังเด็กและเยาวชน เพิ่มมากขึ้น ยาเสพติดหาซื้อได้ง่ายและมีรูปแบบใหม่ๆเพื่อตอบสนองเด็กและเยาวชนของชาติ


ปัญหาเด็กติดเกมส์ เด็กติดเกมส์ในยุคปัจจุบันมีมากขึ้น การติดเกมส์ สำหรับเด็กบางคนไม่ต้องไปไหน เด็ก เยาวชน สามารถเล่นได้ภายในบ้าน


ปัญหา เหล่านี้ ได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับ ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ สำหรับการแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ มีความยากลำบากมาก เพราะ การแก้ปัญหาหนึ่งมันจะไปกระทบกับอีกปัญหาหนึ่ง เมื่อแก้เรื่องนี้ ก็จะก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้น เปรียบเหมือนกับที่เราแก้เชือกที่มี หลายปม เมื่อแก้ ปมนี้ เสร็จ ก็ยังต้องมีอีก หลายปมให้ต้องแก้ เช่น การแก้ปัญหาเรื่องเพศของเด็ก เรามีความจำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาเรื่องของสื่อลามก เนื่องจากเราต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน ปัญหาสื่อลามกมีมากกว่าในอดีตเป็นอย่างยิ่ง หาซื้อได้ง่าย ในอินเตอร์เน็ต ก็สามารถ หาดูได้ทันที การแก้ไขปัญหาเรื่องเพศของเด็ก อาจจะต้องมีการออกกฎหมายใหม่ๆ มาเพื่อใช้บังคับและลงโทษผู้กระทำผิดให้เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป



























...
  
ประวัติของอาจารย์จตุพล ชมภูนิช
อาจารย์จตุพล ชมภูนิช นักพูดชื่อดัง ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ร่วมเสวนา "บนเส้นทางสู่อาชีพนักพูด" แก่นักศึกษา บุคลากร และผู้สนใจ ซึ่งจัดโดยภาควิชาสื่อสารมวลชน ในโอกาสครบรอบ 38 ปีแห่งการสถาปนาคณะมนุษยศาสตร์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 ณ ห้องประชุมพวงแสด คณะมนุษยศาสตร์

อาจารยจตุพล ชมพูนิช นักพูดชื่อดังและศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสกลับมาเยือนรามคำแหง ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่ไม่ด้อยกว่าใคร แม้ว่าหลายคนที่เข้ามาเรียนที่นี่สอบเอนทรานซ์ไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราแพ้หรือจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะการสอบเข้าเรียนได้ถือเป็นเพียงการวิ่ง 100 เมตรแรกเท่านั้น และการที่เราแพ้ใน 100 เมตรแรก ก็ไม่ใช่ว่าเราจะแพ้ทั้งชีวิต

"ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า ถ้าไม่มีรามคำแหง ก็คงไม่มีผมในวันนี้ รามคำแหงจึงอยู่ในหัวใจของผมเสมอมา ซึ่งสมัยเรียนที่รามคำแหง ผมมีความตั้งใจเรียนอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว แต่เข้าร่วมกับชมรมต่างๆ ทั้งชมรมปาฐกถาโต้วาที และชมรมภาษาอังกฤษ เวลาว่างมักจะเข้าห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือ เพราะผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก และมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักพูด ซึ่งการเป็นนักพูดที่ดีจะต้องมีความรู้ และต้องพยายามฝึกฝนทักษะการพูด ซ้อมพูดกับตัวเอง และสอนตัวเองตลอดเวลา

ครั้งแรกที่มีโอกาสได้พูด ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะพูดแล้วไม่มีคนสนใจฟัง แต่ผมก็ยังพยายามฝึกฝนไปเรื่อยๆ และหากเราทำอะไรไม่สำเร็จ อย่าคิดว่าเป็นเพราะของสิ่งนั้นอยู่ไกล แต่อาจเป็นเพราะว่ามือเราสั้นไป ฉะนั้นจึงควรพยายามขยับไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรสูงเกินไปถ้าเราจะไขว่คว้า ผมฝึกพูดระหว่างเดินเข้าซอยทุกวัน และต้องสรุปการพูดของตัวเองในแต่ละวัน" อ.จตุพล กล่าว

อาจารย์จตุพล กล่าวต่อว่า ทุกความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน อย่างแรกอยากให้เริ่มต้นที่หัวใจ ถ้าอยากเป็นนักพูด ใจก็ต้องมุ่งมั่นต่อสิ่งเดียวคือการเป็นนักพูด เหมือนกับกล้องที่ต้องโฟกัสให้นิ่งแล้วเป้าหมายจะชัด แต่ถ้าขยับเขยื้อนไปมา ภาพก็จะไม่นิ่ง เมื่อเป้าหมายไม่ชัดเจนแล้ว การที่เราจะทำความฝันเป็นความจริงก็เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเรามุ่งมั่นฝ่าฟันและลงมือทำมาตลอด สิ่งนั้นก็จะมาสู่ตัวเรา

ฉะนั้น ถ้าอยากทำสิ่งใดให้สำเร็จ 1. ต้องโฟกัสให้ชัด ให้นิ่ง อย่าเปลี่ยนบ่อย 2. ใจต้องรัก เมื่อใจรักแล้ว ปัญหาเล็กจะกลายเป็นไม่เป็นปัญหา ปัญหาใหญ่จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าใจรักแต่ไม่ลงมือทำก็ไม่เกิดประโยชน์ คนที่เก่งกว่าคือคนที่พยายามมากกว่า ซึ่งการพยายามมากกว่าคือการที่พยายามฝึกพูดตลอดเวลา ล้มแล้วต้องลุก และคนที่พูดบ่อยก็จะเป็นเหมือนการได้ฝึกฝน และจะมีทักษะในที่สุด และนอกจากจะมีฝัน มีใจแล้ว ต้องลงแรงลงกาย และต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

"การเรียนในรั้วมหาลัย ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย รับรองว่าเรียนจบทุกคน แต่ถ้าทำเกินกว่าการเป็นนักศึกษา หน้าที่ที่สำคัญคือตั้งใจเรียนหนังสือ หลายคนอยากจะมีความฝัน อยากเป็นโน่นเป็นนี่ แต่ถ้าได้เป็นแล้วไม่เรียนหนังสือ ผมก็ไม่เห็นด้วย อยากให้เห็นความสำคัญของการเรียนเป็นอันดับแรก เรียนให้เต็มที่และเสริมสร้างความสามารถให้มากที่สุด เพราะถ้าคนมีความสามารถมากกว่าย่อมได้เปรียบกว่า อย่าเรียนอย่างเดียวโดยไม่มีความสามารถพิเศษอะไร เราต้องมีความสามารถพิเศษซึ่งเป็นสิ่งที่เราสนใจ

ผมเป็นคนชอบภาษาอังกฤษ มนุษย์ที่ได้เปรียบจะต้องรู้ภาษาและรู้เทคโนโลยี จะต้องสร้างเขี้ยวเล็บให้กับตนเอง แต่ต้องเรียนเป็นหลัก เช่น ถ้าอยากเป็นดารา ซึ่งอาชีพดารานั้นไม่ยั่งยน วันนี้แสดงเป็นพระเอก พรุ่งนี้อาจแสดงเป็นพ่อก็ได้ ฉะนั้น จะต้องมีปริญญาเป็นอาวุธ ต้องเสริมสร้างกระดูก เสริมสร้างความสามารถให้เพิ่มขึ้น แล้วรอโอกาส แต่ถ้าโอกาสยังไม่มา จะต้องสร้างโอกาสขึ้นมาเอง เช่น รายการตีสิบ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถได้แสดงความสามารถของตน ถ้าเรามีความสามารถ ก็ย่อมเข้าร่วมแสดงความสามารถได้ ถึงจะไม่ได้รับรางวัลชนะเลิศ แต่อาจจะตรงตามความต้องการของคนอื่นได้" อ.จตุพลกล่าว

อาจารย์จตุพล กล่าวอีกว่า การพูดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป ซึ่งศาสตร์คือการที่เราสามารถเรียนรู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้หลักการออกเสียง อักขระ หรือการใช้ช่วงเสียงทำนองที่มีความเป็นธรรมชาติ ทำให้ดึงดูดใจผู้ฟัง ตลอดจนศิลปะการใช้ท่าทาง การสร้างอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ แต่ศิลป์คือ เมื่อเราเรียนรู้แล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมๆ กัน ศิลปะแต่ละคนก็จะต่างกัน เสมือนกับการเรียนวาดรูป ที่เรียนมาเหมือนกัน แต่ความมีศิลป์ต่างกัน ซึ่งศิลป์เป็นสิ่งที่เราต้องเสริมหลังจากได้ความรู้ไปแล้ว

อ.จตุพล กล่าวว่า การเป็นนักพูดต้องมีความรู้ ตนเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ทำให้ได้รับความรู้จากหนังสือแล้วนำมาผ่านกระบวนการปรุงแต่งให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ และต้องเสิร์ฟออก ซึ่งการพูด ถ้าจะพูดอย่างมีศิลป์ต้องสามารถพูดแล้วถูกใจคนฟัง ซึ่งการศึกษาเป็นกระบนการที่ทำให้เราค้นพบตัวเองอย่างแท้จริง ช่วงเวลาเรียนเป็นช่วงเวลานาทีทอง ทำให้เราได้รับความรู้และเป็นการเพิ่มความสามารถ ทำให้ค้นพบตัวเอง เพระาถ้าค้นพบตัวเองได้เร็วกว่า ก็สามารถพัฒนาต่อยอดไปได้เร็วกว่าคนอื่น

"การแสดงท่าทางประกอบการพูดถือเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่การใช้ท่าทางจะต้องมีความเป็นธรรมชาติ และเสียงที่พูดต้องเป็นเธรรมชาติ เสียงต้องขึ้นลงตามจังหวะการพูด ซึ่งเทคนิคที่จะทำให้พูดได้อย่างคล่องแคล่วคือ จะต้องฝึกอ่านหนังสือดังๆ และฝึกออกเสียงให้ถูกอักขระวิธี ถ้าอยากเป็นนักพูดต้องบรรจุความรู้เข้าสมองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และสามารถดึงออกมาใช้ได้ตลอดเวลา ต้องฝึกฝน เตรียมพร้อม เตรียมตัวมีจิตใจที่มุ่งมั่น และค้นหาตัวเองให้พบ

คนเกิดมาไม่ต่างกัน มีมือมีเท้าเท่ากัน อะไรที่เขาทำได้เราย่อมทำได้ อย่าขังตัวเองไว้กับสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ เพราะทุกหนึ่งความคิดจะเป็นหนึ่งปมที่ขังตัวเอง โลกของเรากว้างใหญ่เสมอ และท้องฟ้าไม่มีขีดจำกัดสำหรับคนที่ต้องการบิน เราสามารถจะบินได้สูงที่สุดเท่าที่ใจเราต้องการ ที่รามคำแหง พร้อมจะเปลี่ยนคุณให้มีราคา มากเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่หัวใจเราต้องการ ชีวิตเราเกิดมาเราสามารถเลือกได้ และขอให้ทุกคนเป็นบัณฑิตที่ทรงคุณค่าของรามคำแหงต่อไป" อ.จตุพลกล่าว

ข่าววันที่: 12/10/2009
แหล่งข่าว: หนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหง (12-18 ตุลาคม 2552)


...
  
เด็กขายตัว
ห่วงค่านิยม “ เด็กขายตัว”


โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)


ในยุคปัจจุบันเราต้องยอมรับกันว่า สังคมไทยเราเข้าสู่ยุคทุนนิยม หรือ ยุคแห่งการบริโภคนิยมมากขึ้น ทำให้ผู้คนในสังคมไม่ว่าวัยต่างๆ ต่างก็ต้องหาเงินมาเพื่อบริโภคกันมากขึ้น สินค้าบางอย่างไม่มีความจำเป็นเพราะเป็นสินค้าที่ฟุ้งเฟ้อ ก็ยังซื้อบริโภคกัน มาอวดกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา


เมื่อมีความต้องการบริโภคสิ่งที่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยมากขึ้น ไม่ว่าเป็นสินค้าแบรนด์เนม สินค้าราคาแพง โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ฯลฯ จึงทำให้เงินที่ผู้ปกครองให้เพื่อมาใช้จ่ายจึงไม่พอ จึงต้องมาขายบริการทางเพศ เพื่อให้ได้เงินมาซื้อสิ่งเหล่านี้ จึงมีข่าวเกี่ยวกับ “ เด็กและเยาวชน ขายตัวกันมากขึ้น ” เช่น


- เด็กขายตัว ผ่านเน็ต “มาร์ค” เร่งแก้ ( ที่มา..ASTVผู้จัดการออนไลน์)


- สลดเด็กไทยคลั่งสวิงกิ้ง-ขายตัวซื้อมือถือ ( ที่มาจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด)


- รวบ 3 นักศึกษาโฆษณาขายตัว ผ่าน HI5 (ที่มาจาก..สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น)


- ขายตัวกระหึ่มเว็บโสเภณีออนไลน์(ที่มาจาก..หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)


จากข่าวดังกล่าวข้างต้นทำให้รู้ได้ว่า ในสังคมไทยเราปัจจุบันมีการขายตัวกันมากขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะ


เป็นเด็กนักเรียน นิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท ยันไปกระทั่งสาวที่ทำงานในออฟฟิศ และการเกิดปัญหาหนึ่ง ก็มักจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ติดตามมา


ที่สถาบันราชภัฏสวนดุสิต มีการสัมมนาเรื่อง " นักเรียน/นักศึกษา ขายตัว : สัมมนาปัญหาเชิงลึก/วิเคราะห์ " จัดโดยนักศึกษาปริญญาโท สาขาบริหารการศึกษา สถาบันราชภัฏสวนดุสิต เพื่อระดมความคิดเห็นในการแก้ปัญหา การขายตัวของนักเรียน นักศึกษา โดยเชิญผู้ขายบริการ ผู้ใช้บริการ และผู้จัดบริการ (แม่เล้า) ร่วมสัมมนา มีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้


น้องหน่อย (นามสมมุติ) นักศึกษาที่ขาย บริการทางเพศ "--สาเหตุที่มาทำอาชีพนี้เพราะต้องการนำเงินไปใช้ในการศึกษา เกี่ยวกับอุปกรณ์ ต้องส่งเสีย ครอบครัว เนื่องจากพ่อเสียชีวิต ไม่มีอาชีพอื่นที่ได้ผลตอบแทนสูง ผิดหวังเรื่องแฟน ต้องการมีวัตถุนิยมตาม เพื่อนและสังคม อยากมีโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าสวยๆ อยากมีเงินใช้จ่ายตลอด และอยากมีเงินเที่ยวสถานเริงรมย์ ส่วนแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหานั้น อยากให้ส่งเสริมอาชีพ ที่มีรายได้กระจายทั่วถึง ให้การศึกษา ที่เข้าใจ การดำเนินชีวิต มีความภาคภูมิใจในชีวิต จัดหางานให้เมื่อเรียนจบ และรัฐควรจัดหางานให้ ระหว่างเรียน เพื่อ เป็นรายได้เสริม ที่เข้ามาสู่อาชีพนี้เพราะได้รับการติดต่อจากเพื่อน ตอนที่เพื่อนชวนก็คิดอยู่นาน แต่เพื่อนบอก ว่า ทำแล้วจะได้เงินง่าย อย่างไรก็ตาม ไม่คิดที่จะทำอาชีพนี้ตลอดไป อนาคตคิดจะหยุด และหางานดีๆ ทำ แม้จะได้เงินน้อยกว่า—


" น้องฟิว (นามสมมุติ) นักศึกษา "--สาเหตุเข้าสู่อาชีพเสริมเพราะ ความต้องการ ทาง เศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าลงทะเบียน ค่าที่พัก และค่าเครื่องสำอาง รวมถึงได้รับการชักจูง จาก เพื่อน ในกลุ่มที่ทำอาชีพเสริมอยู่ มีเงินใช้จ่ายคล่องตัวมากขึ้น ที่สำคัญคือผู้ที่ทำอาชีพ เสริมคิดว่า พวกเขา ได้เดินมาถูกต้องแล้ว เพราะชีวิตเป็นของเขาเอง ฉะนั้นจะทำอะไรกับชีวิตของเขาก็ได้ ที่เลือกอาชีพนี้ เพราะ มีรายได้สูง ที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่อทางบ้านเลย จึงต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายเอง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 400 บาทต่อวัน ถ้าไปทำอาชีพอื่นรายได้จะน้อย แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการ หารายได้จากการขายบริการทางเพศเลย ส่วนแนวทางป้องกันนั้น เห็นว่าต้องสร้างจิตสำนึกในการ ยอมรับ สภาพความจริง พ่อแม่ ครูอาจารย์ต้องสอดส่องใกล้ชิด สร้างความอบอุ่นในครอบครัว หาอาชีพเสริมที่สุจริต และสถานศึกษาจัดหางานพิเศษให้--
แน่นอนปัจจัยที่ทำให้เด็กขายตัว อาจจะมีหลายปัจจัย ได้แก่ ปัญหาความตกต่ำทางด้านเศรษฐกิจ เงินไม่พอใช้ ปัญหาวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป คือ นำวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้มากขึ้น ปัญหาการบริโภคนิยมหรือนิยมวัตถุ ฯลฯ


แต่ปัญหาเหล่านี้ เด็กและเยาวชน ไม่ควรแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการง่ายๆ โดยไม่คำนึงถึงเกียรติยศศักดิ์ของตน โดยการนำร่างกายมาขาย ซึ่งถ้าทำกันมากๆ แนวคิดนี้ก็จะเป็นอันตรายต่อสังคมไทยในอนาคต

...
  
สู่ผู้นำ
เส้นทางสู่ความเป็นผู้นำ
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

บางคนเกิดมามีชาติตระกูลดี มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัว บางคนเกิดมาต้องมาฝึกฝนตนเองก่อนจึงจะสามารถเป็นผู้นำได้ แต่บางคนเมื่อเกิดเหตุการณ์สถานการณ์ที่วิกฤตจึงได้เป็นผู้นำตามสถานการณ์นั้นๆ


แล้วถ้าเราเกิดมา ไม่ได้มีชาติตระกูลที่ดี แต่เราต้องการเป็นผู้นำ เราก็สามารถฝึกฝนได้ ซึ่งคนเราสามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้หลายทาง ดังนี้


- ต้องมีจิตใจที่มุ่งหมั้น อดทน ตั้งเป้าหมายว่าเราจะเป็นผู้นำให้ได้และเมื่อได้เป็นผู้นำในองค์กรใด องค์หนึ่งแล้ว จงแสดงฝีมือออกมาให้ปรากฏ ถ้ามีปัญหาอุปสรรคก็ขอให้ทำใจเยือกเย็น รับสถานการณ์ต่างๆให้ได้


- ต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องบ้าง แต่ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดก็ได้ เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้นำ


- กล้าที่จะคิดอะไรใหม่ๆ แน่นอน มนุษย์เราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงแต่มนุษย์ของเราจะเจริญก้าวหน้าได้ด้วยการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การคิดอะไรใหม่ๆ การทำอะไรใหม่ๆ ช่วยให้เกิดการพัฒนาตนเอง พัฒนาองค์กร รวมทั้งพัฒนาประเทศชาติด้วย จงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา


- กล้าที่จะเสี่ยง พร้อมที่จะยอมรับความล้มเหลว คนเราเมื่อดูภาพคนที่ประสบความสำเร็จมักจะดูด้วยความสรรเสริญ แต่หารู้ไม่ว่า คนที่ประสบความสำเร็จโดยมากมักผ่านการล้มเหลวมาแล้วทั้งนั้น เช่น อดีตนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ อดีตประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่มักผ่านการสอบตกหรือไม่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วตั้งมากมาย แต่สุดท้ายและท้ายสุด เขาเหล่านั้นจึงประสบความสำเร็จ


- กล้ารับผิดชอบ คุณสมบัติของผู้นำที่ดีมีอยู่ข้อหนึ่ง ก็คือ ความรับผิดชอบ แน่นอนไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด หรือ ผิดพลาด การตัดสินใจบางอย่างอาจก่อให้เกิดการผิดพลาด แต่คนที่เป็นผู้นำที่ดีต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนเอง


- มีความซื่อสัตย์ การเป็นผู้นำนอกจากทำงานเก่งแล้ว ยังต้องมีความซื่อสัตย์และสัตย์ซื่อต่อองค์กร


เพราะถ้าผู้นำไม่มีความซื่อสัตย์เสียแล้ว เช่น โกงกินเงินขององค์กร เวลาลูกน้องโกงกินบ้างผู้นำมักจะไม่กล้าว่าให้แก่ลูกน้อง เพราะตนเองก็ทำมาก่อน


- ผู้นำที่ดีและมีใจที่กว้างต้องรู้จักสนับสนุนลูกน้อง และมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ผู้นำที่ดีต้องรู้จักสร้าง


คนในองค์กร เพราะถ้าคนในองค์กรไม่มีความรู้ความสามารถ ก็มักจะทำให้องค์กรมีปัญหาได้


ดังนั้น ผู้นำที่ดีจำเป็นจะต้องสนับสนุนลูกน้องให้คนที่ทำงานได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง และเลื่อน


ขั้นเงินเดือนให้สูงขึ้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ลูกน้อง


- ผู้นำที่ดีต้องมีบุคลิกภาพที่ดีเยี่ยม สุขภาพร่างกายดีแข็งแรง ไม่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ มีใครเคยเห็น


ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ที่เจ็บป่วย เดินแทบไม่ได้ ขึ้นไปพูดหาเสียง พูดสุนทรพจน์บ้างไหม


ถ้ามีก็ดูแล้วไม่ค่อยสง่างาม ดังนั้น ผู้นำต้องรู้จักรักษาสุขภาพของตนเอง พัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การพูด การเจรจาต่อรอง ต่างๆ


และมีอีกหลายปัจจัย ที่ผู้นำต้องนำไปฝึกฝน เรียนรู้กัน เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำที่ดีได้ คนเราสามารถฝึกฝนกันได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียน การพูด บุคลิกภาพ นิสัย ใจคอ จิตใจ ดังนั้น ผู้ต้องการเป็นผู้นำต้องอดทน พัฒนาตนเอง ปรับปรุงตนเอง แล้วเส้นทางสู่ความเป็นผู้นำจะอยู่ไม่ไกลจากเราครับ

...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.