หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
  -  พลังแห่งการไม่ยอมแพ้
  -  บันได 6 ขั้น สู่ความสำเร็จ
  -  จงกล้าที่จะล้มเหลว
  -  พัฒนาตนเองสู่ความสำเร็จ
  -  ทำงานให้สนุกและสร้างความสุขกับการทำงาน
  -  องค์ประกอบของการทำงานเป็นทีม
  -  การพัฒนาตนเอง
  -  ความรุ่งโรจน์อยู่ที่ตัวท่าน
  -  พลังแห่งชีวิต
  -  ฝึกฝึกและฝึก
  -  ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
  -  ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
  -  นิสัยแห่งความสุข
  -  Think Big คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
  -  Born To Win เกิดมาเพื่อชนะ
  -  หลักการทำงาน
  -  การทำงานให้เจริญก้าวหน้า
  -  ความเชื่อมั่นในตนเอง
  -  คุณก็เป็นผู้นำที่ดีได้
  -  จงแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง
  -  เทคนิคการพูดในที่ชุมชน
  -  ชื่อ สโลแกน มีความสำคัญ
  -  ทำงานให้สนุกเป็นสุขกับการทำงาน
  -  จงเผชิญหน้ากับความตกต่ำ
  -  หัวใจนักปราชญ์
  -  ทำไมไม่กำหนดเป้าหมายในชีวิต
  -  จงเรียนรู้ตลอดชีวิต
  -  ท่านสามารถประสบความสำเร็จได้
  -  เข้าสังคมดีก็จะมีสิ่งดีๆเข้ามา
  -  เพียงคิดเป็นภาพความสำเร็จก็มีขึ้น
  -  พลังแห่งการให้
  -  เคล็ดลับความสำเร็จของมหาเศรษฐีระดับโลก
  -  ใช้ความราบรื่นเพิ่มความสุขให้ชีวิต
  -  ประตูสู่ความมั่งคั่ง
  -  ล้มได้ก็ลุกได้
  -  เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ...ท่านก็สามารถทำได้
  -  ผิดเป็นครู
  -  ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ
  -  ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า
  -  อ่านหนังสือได้เร็วชีวิตพัฒนาขึ้น
  -  จงกระตุ้นตัวเองเพื่อการกระตุ้นผู้อื่น
  -  ไม่มีข้ออ้างสำหรับความสำเร็จ
  -  จงรักในสิ่งที่ทำ จงทำให้สิ่งที่รัก
  -  ข้อดีของการให้ออกจากงาน
  -  ความล้มเหลวอาจเป็นสิ่งที่ดี
  -  ความล้มเหลวทำให้ท่านประสบความสำเร็จ
  -  ทำทันที(ททท.)
  -  ความสำเร็จเริ่มต้นที่ตัวเอง
  -  จงพัฒนาตนเอง ทุก 10%
  -  จงอย่าหยุดคิดริเริ่มสร้างสรรค์
  -  5 ส. สร้างสุขในการทำงาน
  -  กฎแห่งความสำเร็จ(กฎแห่งแรงดึงดูด)
  -  เป้าหมายชีวิต
  -  จินตนาการสู่ความสำเร็จ
  -  จงเชื่อมั่นในตนเอง
  -  เรื่องราวที่เกี่ยวกับแรงบันดาลใจ
  -  ปลุกศักยภาพในตัวคุณ
  -  ค้นให้พบโอกาสทอง
  -  อยากประสบความสำเร็จต้องมี Passion
  -  สู้ไม่ถอย
  -  ทำงานอย่างมีความสุข
  -  ปัญญามีมาก แต่ใจเท่าหัวไม้ขีดไฟ
  -  พัฒนาตนเองเพื่อความสำเร็จ
  -  เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกโอกาส
  -  จงทำงานอย่างมีชีวิตชีวา
  -  ความอดทนพากเพียรคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
  -  ขุมทรัพย์แห่งความสำเร็จคือการให้
  -  วิชาชีพการโรงแรมและการท่องเที่ยวกับอาเซียน
  -  พลังแห่งการเคลื่อนไหวร่างกาย
  -  สมองเงินล้าน
  -  ก้าวไปให้ถึงจุดสุดยอดของชีวิต
  -  โมติเวท : คิดแบบเศรษฐี
  -  การสร้างพลังในตัวคุณ
  -   19 แนวคิดที่นำไปสู่ความสำเร็จ
  -  คุณก็สามารถร่ำรวยได้
  -  โมติเวท : ศาสตร์แห่งความร่ำรวย
  -  โมติเวท : ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้จะดีหรือร้าย
  -  โมติเวท : จงเรียนรู้ด้วยตนเอง
  -  ใจมีฝัน ใจมีหวัง ใจยังสู้
  -  ฉันทำได้
  -  อย่ายอมแพ้...หากว่ายังไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่
  -  15 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จในการทำงาน
  -  ทำไมท่านถึงไม่ประสบความสำเร็จในการทำงาน
  -  บัญญัติ 20 ประการทะยานสู่ความสำเร็จในการทำงาน
  -  ผู้นำที่ดีในการทำงาน
  -  วิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน
  -  รู้จักตนเอง...เพื่ออนาคตการทำงานของตนเอง
  -  นักขายต้องมีเป้าหมายและมีความฝัน
  -  ประสบความสำเร็จในการทำงานด้วยหลัก 5 ถึง
  -  ทำงานอย่างมีความสุข
  -  วิธีทำตนให้คนเกลียดในที่ทำงาน
  -  จงสร้างผลลัพธ์ในตัวคุณให้สูงสุด
  -  โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี
  -  อุปสรรค คือ สีสันของชีวิต
  -  สู้ไม่ถอย
  -  การสร้างแรงบันดาลใจ
  -  สร้างนิสัยแห่งความสำเร็จ
  -  ปลุกพลังในตัวคุณ
  -  คุณก็เป็นเศรษฐีได้
  -  เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต
  -  จอจ่อที่เป้าหมาย...ไม่ใช่จอจ่อที่อุปสรรค
  -  การทำงานด้วยหัวใจ
  -  อัจฉริยะพลิกสมอง....เปลี่ยนโลก
  -  อยากประสบความสำเร็จต้องลงมือทำ
  -   9 อุปนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ
  -  ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
  -  จะทำงานอย่างไรให้ก้าวหน้า
  -  เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน
  -  กล้าฝัน กล้าไล่ล่าฝัน
  -  รู้ทิศทาง รู้ทำ รู้ทนทาน
  -  บางครั้งการล้มเหลวก็เป็นสิ่งที่ดี
  -  ผมมีความฝัน ฉันมีความฝัน
  -  ทำไมเราถึงล้มเหลว
  -  คุณมีความสามารถมากกว่าที่คุณคิด
  -  อยากสำเร็จต้องออกแรง
  -  7 วิธีสู่ความสำเร็จในชีวิต
  -  จงมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อนำไปสู่ความเป็นเลิศ
  -  การให้อภัยศัตรู
  -  อภัยทาน
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
จอจ่อที่เป้าหมาย...ไม่ใช่จอจ่อที่อุปสรรค
จอจ่อที่เป้าหมาย...ไม่ใช่จอจ่อที่อุปสรรค
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คุณจะเห็นอุปสรรค์เป็นสิ่งที่น่ากลัว...ถ้าคุณละทิ้งเป้าหมาย เป็นคำพูดของ เฮนรี่ ฟอร์ด
เป้าหมายที่ปราศจากแผนการ เป็นได้แค่ความฝัน.....
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จในโลกนี้....ไม่รู้ว่าตนเองเกิดมาแล้วต้องการอะไร....ก็เนื่องมาจากการขาดเป้าหมายนั่นเอง.....เป้าหมายจึงเปรียบเสมือนทิศทางที่ทำให้เราเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น...
หลายๆคนไม่ยอมบอกเป้าหมายของตนเองกับผู้อื่น....ก็เนื่องมาจากการขาดความมั่นใจในตนเอง บางคนอาย...แต่ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากมักเป็นคนที่ชอบบอกคนรอบข้างว่า....เขาต้องการอะไร...
จงกล้าบอกเป้าหมาย....แล้วท่านจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่.....หากว่าท่านอยากเป็นนักเขียนระดับประเทศ....จงบอกคนรอบข้างของท่าน.....หากว่าท่านอยากมีเงินล้าน....จงบอกคนรอบข้างของท่าน....หากว่าท่านอยากเป็นทนายความ....จงบอกคนรอบข้างของท่าน...แล้วท่านจะได้สิ่งนั้น รวดเร็วยิ่งขึ้น..และหากว่าท่านอยากได้รถเก๋งใหม่สักคัน....จงบอกคนรอบข้างของท่าน.....สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็คือ คนส่วนมาก มักจะละทิ้งเป้าหมายที่ตนต้องการ...แต่การบอกคนรอบข้างจะทำให้คนรอบข้างของท่านคอยที่จะเตือน คอยที่จะย้ำ เป้าหมายของท่านอยู่ตลอดเวลา...
อยากให้เป้าหมายสำเร็จ.....ต้องไปสัมผัสกับของจริง....หลายคนมีเป้าหมาย อยากได้รถเก๋งใหม่....ถ้าท่านอยากได้จริงๆ ท่านลองไปสัมผัสกับรถเก๋งในฝันของท่านบ่อยๆ...ลองทดลองนั่ง....ลองทดลองขับ...หากท่านได้สัมผัสมันบ่อยๆ เป้าหมายนั้นก็จะเป็นจริงได้...
เป้าหมายจะสำเร็จได้ต้อง...ฝึกจินตนาการ....การฝึกจินตนาการถึงเป้าหมายบ่อยๆจะทำให้...ท่านเกิดความถี่ในการได้คิดถึงเป้าหมาย....เช่น การคิดการจินตนาการว่าท่านได้รถเก๋งคันนั้นแล้ว...ท่านกำลังขับ....ท่านกำลังอยู่ในรถเก๋งใหม่คันนั้น.....ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น....เราควรหาภาพรถเก๋งคันที่เราต้องการ...ติดไว้ข้างฝาบ้าน...ก็ยิ่งจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็ว...
เป้าหมายจะสำเร็จได้....ต้องลงมือทำ.....เมื่อคิดแล้ว เมื่อพูดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด....จงลงมือทำ.....ลองเอากระดาษ ปากกาหรือดินสอ มาวาด มาเขียน ดูว่า เราจะมีวิธีการหาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อรถเก๋งในฝันของเรา....เช่น หารายได้จากการเขียนหนังสือ.....หารายได้จากการขายประกันชีวิต....หารายได้จากการขายสินค้าต่างๆ....หารายได้จากการทำธุรกิจเครือข่าย....ฯลฯ
เป้าหมายจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้....ท่านจะต้องกระตือรือร้น....จงเดินอย่างคนกระตือรือร้น....จงพูดอย่างคนกระตือรือร้น....จงทำตัวอย่างคนกระตือรือร้น.....จงขายอย่างคนกระตือรือร้น....แล้วเราก็จะเคลื่อนตัวไปสู่เป้าหมาย....
เป้าหมายดี...ต้องหมั่นบำรุง....จึงจะประสบความสำเร็จ....จงให้กำลังใจตนเอง...จงลุกขึ้นพูด “ ฉันทำได้”, “ ฉันสุดยอด” , “ ฉันยอดเยี่ยม” ...ปลุกพลังด้วยคำพูดกับตัวเองบ่อยๆ
เป้าหมายต้องเขียนบ่อยๆ...การเขียนเป้าหมายบ่อยๆ...จะทำให้เรา...เกิดความตั้งใจที่จะทำตามเป้าหมายยิ่งขึ้น...จงเขียนเป้าหมาย....จงเขียนแผนการไปสู่เป้าหมาย...จงเขียนระยะเวลาที่จะเดินทางไปสู่เป้าหมาย....จงเขียนขั้นตอนต่างๆที่จะทำให้เป้าหมายประสบความสำเร็จ.....
เป้าหมายยิ่งใหญ่....ท่านยิ่งต้องพัฒนาตนเอง....พัฒนาทั้งการอ่าน การฟัง การพูด การกระทำ การขาย การนำเสนอ....ยิ่งท่านพัฒนาตนเองได้มากเท่าไร....เป้าหมายที่ท่านดูว่ายิ่งใหญ่...ก็จะเป็นเพียงเป้าหมายหมายที่เล็กน้อน....เท่านั้น
เมื่อได้...อ่านมาถึงนี้แล้ว...ผมอยากถามว่า....คุณมีเป้าหมายหรือยัง....คุณค้นพบเป้าหมายตัวเองหรือยัง....เพราะถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน...ชีวิตของคุณก็จะมีความตื่นเต้น...ชีวิตของคุณก็จะมีพลังขับเคลื่อน....ชีวิตของคุณก็จะมีพลังมีความหวัง....ถ้าคุณยังไม่มี....จงเขียนมันขึ้นมา....ตอนนี้....ขอให้คุณประสบความสำเร็จ ตามเป้าหมายที่คุณวางเอาไว้ขอให้ทุกๆท่านโชคดี
...
  
การทำงานด้วยหัวใจ
การทำงานด้วยหัวใจ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
การทำงานอย่างไรให้มีความสุข การทำงานอย่างไร ที่จะทำงานออกมาจากหัวใจ ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของการทำงานกันก่อน
- การทำงานกับความเครียด หากจะพูดไปแล้ว ความเครียดในการทำงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรที่จะมีมากจนเกินไปจนกระทั่งเป็นโรคต่างๆ (โรคนอนไม่หลับ โรคความดัน โรคปวดหัว) หรือมีน้อยจนเกินไป คนที่ไม่มีความรับผิดชอบในงานส่วนใหญ่มักจะไม่มีความเครียด ไม่มีความกังวัลใจ ฉะนั้น พระพุทธเจ้าบอกให้เดินสายกลาง คนที่จะทำงานให้ได้ดีมีประสิทธิภาพมักจะเป็นคนที่มีความเครียดแต่ต้องไม่มาก งานจึงจะออกมาดี กระผมขอยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ปัจจุบัน กระผมมีอาชีพวิทยากร หากมีคนเชิญผมให้ไปพูด หากผมไม่มีความเครียดอยู่เลย รู้สึกสบายๆ ไม่ตื่นเต้น กระผมมักจะไม่ได้เตรียมตัวไปบรรยายหรือทำการบ้าน แต่ตรงกันข้ามหากว่าผมมีความเครียดมากจนเกินไป พรุ่งนี้จะไปบรรยาย เลยทำให้นอนไม่หลับ อย่างนี้ก็คงจะไม่ดี ดังนั้น หากว่าผมมีความเครียด มีความรู้สึกต้องรับผิดชอบ ผมจะมีการทำการบ้านหรือการเตรียมตัวไปพูดบรรยายเป็นอย่างดี
- การทำงานกับความขัดแย้ง ความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าองค์กรไหนมีคนทำงาน องค์กรนั้นก็จะมีปัญหาเรื่องความขัดแย้ง ฉะนั้น การทำงานร่วมกันกับคนภายในองค์กร (หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน) และ การทำงานกับบุคคลภายในองค์กร(ลูกค้า) ย่อมจะต้องเกิดปัญหาเป็นธรรมดา เพียงแต่เราต้องรู้จักที่จะลดความขัดแย้งหรือเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งให้เป็นเรื่องสร้างสรรค์ ก็จะทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและองค์กรได้
- การทำงานกับมนุษย์สัมพันธ์ การทำงานร่วมกับคน ยิ่งองค์กรไหนมีคนทำงานเป็นจำนวนมาก บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน มักจะต้องเป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ ซึ่งบุคคลที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มักจะเป็นคนที่มีความเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของบุคคลได้ เช่น ยอมรับความแตกต่างระหว่างเพศ ชาย หญิง , ความแตกต่างระหว่างวัย เด็ก วัยรุ่น ชรา ความแตกต่างขอบุคคล (ร่างกาย , อารมณ์ , จิตใจ , ความรู้สึก , บุคลิกภาพ , ประสบการณ์ )
- การทำงานกับการสื่อสาร คนเราทำงานร่วมกันมักจะมีปัญหาเรื่องของการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้น้ำเสียง การสื่อสารที่ผิดพลาด การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน การสื่อสารที่ขาดการกลั่นกรอง ฯลฯ
- การทำงานกับความรักในงานที่ทำ บุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับสูง มักจะเป็นคนที่รักในงานที่ตนเองทำ ตรงกันข้ามบุคคลโดยทั่วไป มักเลือกทำงานเพราะเห็นแก่เงินเป็นอันดับแรก อีกทั้งไม่รู้จักตัวตน ว่าตนเองชอบทำงานอะไรกันแน่ เขาจึงทำงานด้วยความเบื่อหน่าย ไม่สนุกกับการทำงาน โทมัส อัลวา เอดิสัน เขาชอบประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ เขาสามารถอยู่ในห้องทดลองได้ทั้งวันทั้งคืน โดยไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อหน่าย เหตุเพราะว่าเขารักในงานที่เขาทำ เขาไม่คิดว่านั้นคืองาน แต่เขามีความสนุกกับมันต่างหาก , สตีฟ จอบส์ บิล เกตต์ ชอบคอมพิวเตอร์ เขาสามารถอยู่กับคอมพิวเตอร์ได้อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย เพราะเขารักในเรื่องราวต่างๆของคอมพิวเตอร์นั้นเอง
- การทำงานกับการบริหารเวลา หลายคนที่มีความเครียดในการทำงาน มีความเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ในการทำงาน สาเหตุหนึ่งก็เนื่องมาจาก การที่บุคคลคนนั้น ไม่รู้จักเรื่องของการบริหารเวลา เขาไม่รู้ว่างานไหนเป็นงานสำคัญ งานไหนเป็นงานที่ไม่สำคัญ งานไหนควรทำก่อน งานไหนควรทำทีหลัง จึงทำให้เขาเกิดความเครียด เมื่องานที่จะต้องทำให้เสร็จ กลับยังไม่ได้ทำ ทั้งๆที่ ควรจะทำเสร็จตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว แต่เขาปล่อยให้เวลาผ่านไป(ดินพอกหางหมู) โดยการเลือกทำงานที่ไม่สำคัญก่อน ฉะนั้น การบริหารเวลาดีมักจะทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขในการทำงานมากขึ้น
- การทำงานกับการคิดถึงประโยชน์ที่ได้รับจากงาน งานหลายๆงาน มีเงินเดือนน้อย แต่เมื่อทำไปแล้ว เกิดความสุขอย่างมากมายมหาศาล อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้เกิดความภาคภูมิใจ เช่น ครู อาจารย์ ได้รับเงินเดือนน้อย แต่ก็สามารถเกิดความสุขในงานได้ หากว่าคำนึงถึง เด็กๆที่จบออกไปเป็นอนาคตของประเทศชาติ
- การทำงานกับแนวทางพุทธศาสนา อิทธิบาท 4 เป็นแนวทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เมื่อ 2556 ปี แต่ก็ยังคงทันสมัย คือ ฉันทะ ต้องมีความรักในงานที่ตนเองทำ(ใจรัก) , วิริยะ ต้องมีความพากเพียรในการทำงาน(ใจสู้) , จิตตะ ต้องมีความเอาใจใส่ในงาน(ใจใส่) และวิมังสา ต้องมีความไตร่ตรองในผลงานที่ตนเองทำ(มีใจตรวจสอบ)
ดังนั้น การที่บุคคล คนหนึ่งจะมีหัวใจที่รักงานหรือมีการทำงานด้วยหัวใจ จะต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง ซึ่งองค์ประกอบข้างต้น เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญ หากท่านเป็นคนหนึ่งที่อยากจะทำงานด้วยหัวใจ ท่านควรจะพัฒนาตนเอง ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้ตนเองมีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น
...
  
อัจฉริยะพลิกสมอง....เปลี่ยนโลก
อัจฉริยะพลิกสมอง...เปลี่ยนโลก
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
โทมัส อัลวา เอดิสัน ถือว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลที่โลกยกย่อง แล้วเขาเป็นอิจฉริยะได้อย่างไร จึงเป็นสิ่งที่น่าสมควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวกระผมเองและนักวิชาการอีกเป็นจำนวนมากเชื่อว่า อัจฉริยะสามารถสร้างขึ้นได้ การดูต้นแบบ ชีวิต แนวคิดของบรรดาอัจฉริยะบุคคลเป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถทำให้เราเป็นอัจฉริยะได้ดังเช่นบุคคลต้นแบบ โทมัส อัลวา เอดิสัน เป็นบุคคลคนคนนั้น
มีคนเคยไปถาม โทมัส อัลวา เอดิสัน ว่า อัจฉริยะเกิดจากอะไร โทมัส อัลวา เอดิสัน ตอบว่า “ อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่เกิดจากความพยายาม 99 เปอร์เซ็นต์” จากคำตอบนี้หากเราได้อ่านประวัติของ โทมัส อัลวา เอดิสัน เราจะเห็นถึงความมานะ พยายาม ความขยัน ความอดทนในการทำงานของเขา เขาจะไม่ล้มเลิกง่ายๆ
ชีวิตคือการทดลอง โทมัส อัลวา เอดิสัน ได้ทุ่มเทให้กับเวลาทดลองเป็นอย่างยิ่ง เขาได้ใช้เวลาอย่างมากอยู่ในห้องทดลองและเมื่อออกมานอกห้องเขาก็จะทดลองทุกๆอย่างที่เขาสงสัยและอยากรู้ เขาจะลองผิดลองถูกและเฝ้ามองการทดลองนั้นด้วยตนเอง อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ชอบบันทึกเรื่องราวต่างๆที่ได้จากการทดลอง จนกระทั่งเขาได้รับสิทธิบัตรกว่า 1,000 รายการ
นวัตกรรมนำหน้า ในการทำธุรกิจของเขา เขามักจะคิดนวัตกรรมใหม่ๆออกมาสู่ตลาดเสมอ เขาจะไม่หยุดคิด หยุดทดลอง อีกทั้งเขายังเคยพูดด้วยว่า “ วิธีที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำได้ ก็คือต้องทำการทดลอง ถ้าหยุดทดลองก็คือการเดินถอยหลัง” สตีฟ จอบส์ เองก็มีแนวคิดเรื่องนวัตกรรมไม่ต่างกัน เขาเคยพูดกับทีมงานของเขาว่า “ สิ่งที่เราต้องทำคือ การปฏิวัติวงการทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน สร้างโลกของเราขึ้นมา”
ชอบอ่าน โทมัส อัลวา เอดิสัน นับได้ว่าเป็นนักอ่านคนหนึ่ง ตอนเช้าเขาจะอ่านหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับและช่วงบ่ายอีก 3-4 ฉบับ ส่วนใหญ่เป็นวารสาร หนังสือพิมพ์ในวงการประดิษฐ์ วงการวิทยาศาสตร์ที่เขากำลังทำงานอยู่ จึงทำให้เขามีความคิดที่จะผลิตสินค้าให้สนองตอบกับคนในยุคนั้น เพราะเขาเชื่อว่า คนเราจะอยู่ได้ เติบโตได้ก็ด้วยความรู้ใหม่ๆ
คิดต่าง จึงประสบความสำเร็จ สิ่งประดิษฐ์ของ โทมัส อัลวา เอดิสัน เกิดขึ้นจากการคิดต่าง เช่น หลอดไฟฟ้า เทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว เครื่องส่งสัญญาณโทรศัพท์ สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ถือได้ว่าช่วยทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ จากโลกที่มืดไม่มีไฟฟ้าใช้ กลับกลายเป็นส่องสว่างด้วยหลอดไฟฟ้าที่เขาประดิษฐ์ โลกสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นก็ด้วยเครื่องส่งสัญญาณโทรศัพท์ และโลกสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวเก็บไว้ได้ก็ด้วยฝึกมืออย่างคนอย่างเขา
เมื่อเจอปัญหาต้องไม่หยุด ในการทดลองสิ่งประดิษฐ์เกือบทุกชนิดของเขา เขาต้องพบกับปัญหาแต่เขาไม่เคยหยุดหรือทิ้งกลางคัน ตรงกันข้ามกับบุคคลโดยทั่วไป เมื่อเจอปัญหาก็มักบ่น มักทิ้ง แล้วไม่ทำต่อไป แต่คนอย่าง โทมัส อัลวา เอดิสัน เขาไม่เคยหยุดเมื่อเจอกับปัญหาโดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์ชิ้นสำคัญของโลกอย่างหลอดไฟฟ้า ในการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า เขาต้องล้มเหลวนับเป็นพันๆครั้ง มีคนไปถามเขาว่าเขาไม่เสียใจหรือไม่ ที่พบกับความล้มเหลวเป็นพันๆครั้ง เขาตอบว่า “ เขาไม่ได้ล้มเหลวแต่เขากำลังได้วิธีการใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกพันวิธีต่างหาก” อีกทั้งเขาเป็นคนที่ไม่เคยหยุดยั้ง นักข่าวเคยตั้งคำถามว่า “ หากเขายังไม่สามารถผลิตหลอดไฟฟ้าสำเร็จเขาจะทำอย่างไร” โทมัส อัลวา เอดิสัน ตอบว่า “ ผมจะไม่เสียเวลามานั่งคุยอย่างนี้หรอก แต่ผมจะมุ่งหน้าคิดค้นวิธีการผลิตหลอดไฟฟ้าให้จงได้”
นี่คือวิธีคิด วิธีทำงานของ โทมัส อัลวา เอดิสัน ซึ่งทุกๆท่านสามารถนำเอาไปปฏิบัติได้ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จอย่างอัจฉริยะคนนี้
...
  
อยากประสบความสำเร็จต้องลงมือทำ
อยากประสบความสำเร็จต้องลงมือทำ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหรือบุคคลที่สำคัญๆของโลก มักจะเป็นคนที่มีลักษณะ คิดดี พูดดี และทำดี ซึ่ง หลายๆคน มีความคิดที่ดี มีคำพูดที่ดี แต่เสียอย่างเดียว ก็คือ เขาไม่กล้าที่จะลงมือทำ
หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่อยากประสบความสำเร็จ ท่านต้องกล้าที่จะลงมือทำ
สตีฟ จอบส์ เขากล้าที่จะลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อมาก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ หากว่าเขาเป็นคนที่มีความคิดที่ดี มีคำพูดที่ดี แต่ไม่ยอมที่จะกล้าเสี่ยงที่จะลาออกแล้วมาตั้งบริษัทของตนเอง บริษัทแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ ก็คงจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนในปัจจุบัน
หลุยส์ ราโมล นักเขียนหนังสือแนวนวนิยายซึ่งเขาได้รับรางวัลเบสท์ เซลเลอร์ กว่า 100 เล่ม เมื่อเขาเป็นนักเขียนใหม่ๆยังไม่มีชื่อเสียง เขาเสนอต้นฉบับหนังสือเล่มแรกให้กับสำนักพิมพ์ เขาต้องถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธเกือบ 300 ครั้ง แต่เขายังมีความคิดว่า ต้องมีสำนักพิมพ์สักแห่งที่สนใจหนังสือของเขา เขาจึงลงมือทำต่อไป เขายังคงมุ่งหน้าเสนอ ต้นฉบับกับสำนักพิมพ์ต่อ จนในที่สุดมีสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งสนใจต้นฉบับของเขา สุดท้าย เขาคือ นักเขียนชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลจากสภาครองเกรส ในฐานะที่เป็นผู้แนะนำรูปแบบโครงร่างทางประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ เขาเป็นคนแรกที่ต้องการสร้างประวัติศาสตร์ เขามีความตั้งใจที่จะทำลายประวัติศาสตร์ของโลก โดยเขาต้องการวิ่งระยะทาง 1 ไมล์ ให้ได้เร็วที่สุด จนกระทั่งปี 1954 เขาวิ่ง 1 ไมล์ใช้เวลาเพียงแค่ 4 นาที ซึ่งเขาต้องลงมือซ้อม ฝึกฝน อดทน เขาจึงประสบความสำเร็จ ต่อมาเมื่อคนทั้งโลกเห็น โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ วิ่งได้ ต่อมาจึงมีคนมากกว่า 24 คน วิ่งได้
อุดมพร พลศักดิ์ หรือน้องอร ของชาวไทย เธอต้องการได้เหรียญทองโอลิมปิก เธอต้องทุ่มเท ฝึกซ้อม อดทน ด้วยความมานะ จนกระทั่งในที่สุดเธอคือผู้พิชิต เหรียญทองโอลิมปิกในปี 2547 ในประเภทกีฬายกน้ำหนักโดยเธอยกได้ 97.5 กก.ในท่าสแนตซ์ และ ท่าคลีนแอนด์เจร์กได้ 125 กก. รวมน้ำหนักที่ได้ 222.5 กก. ในขณะที่ตัวของเธอมีน้ำหนักไม่เกิน 53 กก.
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เขาต้องการค้นหาโลกและพิสูจน์ว่าโลกกลม เขาต้องเสี่ยงภัยอยู่กลางทะเล โดยแล่นเรืออยู่เป็นหลายเดือน หลายปี จนในที่สุดเขาค้นพบอเมริกาและพิสูจน์จนได้ว่า โลกของเรากลมซึ่งตรงกันข้ามกับความเชื่อของคนสมัยนั้นว่า โลกแบนและมีความเชื่อว่าไม่ควรเดินทางโดยเรือไปไหนไกลๆ เพราะอาจจะทำให้ ตกโลกได้ เมื่อเขาพิสูจน์แล้วว่าโลกกลม จึงทำให้คนสมัยนั้นไม่กังวลอีกต่อไปว่าจะตกโลก
นีล อัลเดน อาร์มสตรอง เขาต้องการพิชิตดวงจันทร์ ในขณะที่คนสมัยนั้น คิดว่าดวงจันทร์หากไกลแสนไกล ไกลกับโลกมากเหลือเกิน คนเราไม่สามารถไปถึงได้ แต่นีล อัลเดน อาร์มสตรอง เขาไม่ได้คิดเช่นนั้น ในที่สุด คนก็พิชิตดวงจันทร์และเขาก็เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์โลกที่พิชิตดวงจันทร์ได้สำเร็จ
มหาตมะ คานธี ต้องการปลดปล่อยประเทศอินเดียให้เป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักรอังกฤษ เขาลงมือทำ เขาพยายาม เขาอดทน ต่อสู้ โดยใช้หลักการอหิงสาจนในที่สุด โลกก็ได้บันทึกว่าเขาคือนักต่อสู้แบบอหิงสาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากประชาชนชาวอินเดียให้เป็นบิดาแห่งอินเดียอีกด้วย
บุคคลที่กระผมได้กล่าวในข้างต้น ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะว่า เขามีเป้าหมาย เขามีความคิด เขามีการวางแผน เขามีความทะเยนทะยาน เขามีความอดทน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขามีการลงมือกระทำอย่างจริงจัง หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จ จงลงมือทำแล้วท่านจะประสบความสำเร็จ



...
  
9 อุปนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ
9 อุปนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก นักพูด วิทยากร นักเขียน
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จกับคนธรรมดาโดยทั่วไป มักมีความแตกต่างกันหลายอย่าง เช่น เรื่องของความคิด คำพูด การกระทำและอุปนิสัย ในบทความฉบับนี้ เราจะมาพูดคุยกันเรื่องของอุปนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1.พวกเขามีการ “ วางเป้าหมาย” คนที่ไม่ประสบความสำเร็จเขาจะไม่มีการวางเป้าหมาย ซึ่งการวางเป้าหมายมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ คนจำนวนมากมีความฝัน แต่ไม่มีการวางเป้าหมาย ซึ่งการวางเป้าหมายควรมีทั้งเป้าหมาย ระยะยาว ระยะกลาง ระยะสั้น หรือ อาจแบ่งเป็นเป้าหมาย 10 ปี เป้าหมายรายปี เป้าหมายรายเดือน เป้าหมายรายสัปดาห์ เป้าหมายรายวัน เป็นต้น
นักขายจำนวนมากมีความฝันอยากที่จะร่ำรวยเงินทอง แต่ไม่มีการวางเป้าหมายว่าจะสร้างรายได้จากการขายปีละเท่าไร เดือนละเท่าไร สัปดาห์ละเท่าไร วันละเท่าไร หรือ เป้าหมายในการเข้าพบลูกค้าก็เช่นกัน ถ้าไม่มีการวางเป้าหมายในการเข้าพบจำนวนกี่รายต่อปี ต่อเดือน ต่อสัปดาห์ ต่อวัน แล้วนักขายคนนั้นก็จะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักขาย ดั้งนั้น หากเราไม่มีเป้าหมายในการทำงาน เราก็จะไม่รู้ว่าเราจะเดินทางไปในทิศทางไหน
2.พวกเขามี “ ความรับผิดชอบต่อชีวิตของเขาอย่างเต็มที่ ” ซึ่งแตกต่างกับคนโดยทั่วไป ทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จก็มักจะโทษสิ่งต่างๆ ยกเว้นโทษตัวเอง ตอนเด็กๆ เพื่อนของผมหลายคนไม่ได้ส่งการบ้านคุณครู เมื่อคุณครูถาม แทนที่จะยอมรับผิด หลายคนกลับมีข้อแก้ตัวต่างๆนานา ว่า “หมาคาบการบ้านไปบ้าง” “ พ่อแม่พาไปกินข้าวนอกบ้านกลับบ้านมาดึกเลยไม่ได้ทำการบ้านบ้าง” ดั้งนั้น คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะไม่โทษคนอื่นหรือสิ่งต่างๆ รอบตัว แต่เขาจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง พวกเขารู้ว่าถ้าพวกเขาต้องการประสบความสำเร็จ พวกเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตนเองและรับผิดชอบตัวของเขาเอง
3.พวกเขา “ มีวินัย ” หลายคนทำงานที่บ้านโดยไม่มีเจ้านายค่อยควบคุม แต่เขามีวินัยในตนเอง จึงสามารถสร้าง ผลงานได้อย่างมากมายมหาศาล เช่น อาชีพนักเขียน นักเขียนเป็นจำนวนมากที่ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักเขียน เนื่องจากว่าไม่มีวินัยในตนเอง หลายคนวางเป้าหมายว่าจะเขียนหนังสือให้ได้วันละ 10 หน้า แต่ปรากฏว่าเขียนได้วันละ 10 หน้าได้แค่ 2-3 วัน วันที่ 4 เริ่มขี้เกียจจนกระทั่งต่อมา เริ่มสร้างเป็นนิสัยบางวันเขียนบ้าง บางวันไม่เขียนบ้าง แทนที่ถ้ามีวินัย ถ้าเขาเขียนวันละ 10 หน้าต่อวัน ก็จะทำให้ 1 ปี มีผลงานการเขียนถึง 3,650 หน้าเลยทีเดียว หรือ ได้หนังสือถึง 20 เล่มต่อปี(เล่มละ 180-200 หน้าต่อเล่ม)
4.พวกเขามี “ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง” อยู่ตลอดเวลา พวกเขาจะแสวงหาความรู้ใหม่ๆเพื่อนำเอาไปใช้ในการทำงาน เช่น การอ่านหนังสือเป็นจำนวนมาก การเข้ารับการอบรมเพื่อหาความรู้และข้อมูลแปลกๆใหม่ที่เกี่ยวข้องกับงานของตนเอง หรือการฟังหนังสือเสียงในรถเวลาที่รถติดหรือเวลาเดินทางไกล เป็นต้น
5.พวกเขามี “ การบริหารเวลาที่ดี ” คนในเรามีเวลาเท่ากันทุกคนในโลกคือ 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่คนที่ประสบความสำเร็จเขาจะรู้จักการบริหารเวลา จึงทำให้เขาสร้างผลงานได้มากกว่าคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ เขาจะรู้จักการจัดความสำคัญของงานและความเร่งด่วนของงาน กล่าวคือ งานที่มีความสำคัญกว่าและมีความเร่งด่วนเขาจะทำงานชิ้นนั้นก่อน และรู้จักการวางแผนในการทำงานที่มีความสำคัญแต่ไม่มีความเร่งด่วนให้เสร็จก่อน หรือมีการจัดลำดับความสำคัญของงานหรือกิจกรรมเป็น A B C D E F เป็นต้น
6.พวกเขาชอบ “ ความเสี่ยง ” คนจำนวนมากชอบเรื่องของความมั่นคง ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ชอบความเสี่ยง ชีวิตจึงนิ่ง ซึ่งแตกต่างกับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่พวกเขาจะชอบความเสี่ยง เช่น ชอบการลงทุนเพราะการลงทุนสามารถทำให้เกิดกำไรขึ้น ในขณะเดียวกันการลงทุนก็เสี่ยงกับการขาดทุนหรือล้มละลาย คนเป็นจำนวนมากมักไม่ชอบเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเพราะทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมต้องพบการความเสี่ยงอยู่เสมอ คนจำนวนมากเบื่อหน่ายงานที่ตนเองทำมาเกือบ 10 ปี แต่ก็ไม่กล้าที่จะลาออกไปทำงานใหม่หรือออกมาค้าขาย เนื่องจากกลัวความเสี่ยงที่จะขาดทุน เป็นต้น
7.พวกเขา “ กล้าที่จะล้มเหลวหรือลุกขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่ล้มเหลว” เศรษฐีหรือมหาเศรษฐีเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ หลายๆคนต้องพบกับการขาดทุนในกิจการที่ตนเองลงทุนไป แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นใหม่ จนกระทั่งร่ำรวยและประสบความสำเร็จในที่สุด เช่น ผู้พันเซนเดอร์หรือผู้พัน KFC พวกเราลองไปศึกษาชีวิตในอดีตท่านล้มเหลวมาโดยตลอดก่อนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตหลังวัยเกษียณอายุ หรือ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ ลินคอล์น พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเป็นจำนวนมากแต่ท่านไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาต่อสู้ จนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
8.พวกเขา “ จะหาวิธีที่จะเอาชนะในการแข่งขัน “ โลกยุคปัจจุบันเป็นโลกแห่งการแข่งขัน หน่วยงานต่างๆ องค์กรต่างๆ ธุรกิจต่างๆ ต้องมีคู่แข่งขัน คนที่ประสบความสำเร็จเขาจะแสวงหาวิธีการ เครื่องมือ หรือสิ่งใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการทำงานเพื่อที่จะเอาชนะคู่แข่งขัน โดยอาศัยเรื่องของ ความคิดเข้ามาช่วยในการทำงาน “ พวกเขาจะใช้ความคิดของการสร้างสรรค์” เข้ามาช่วย
9.พวกเขา “ รู้ว่าตนเองรักอะไรหรือชอบที่จะทำอะไร” คนที่ประสบความสำเร็จในระดับสูง เขาจะรักในงานที่ตนเองทำหรือเขาจะเลือกทำงานที่ตนเองรัก เขาจึงทำงานอย่างมีความสุขและสามารถทำงานได้เป็นเวลานาน บางคนทำงานได้ตลอดชีวิตถ้าเขาได้ทำงานที่ตนเองรัก “ จงค้นหาให้พบว่าเราชอบทำงานอะไร” แล้วท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

...
  
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ถ้าหากว่าพวกเราย้อนหลังไปในอดีต สิ่งมหัศจรรย์ ทั้งหลายในโลก ล้วนแล้วแต่ ถูกมนุษย์ สร้างขึ้น ประดิษฐ์ขึ้น คิดค้นขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น ดาวเทียม คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์สี โทรศัพท์มือถือ ในยุค 50 ปีก่อน ไม่มี เดี๋ยวนี้มี
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน F 16 ยานอาวกาศ จรวด ในอดีตไม่มี แต่ปัจจุบันมี
สิ่งต่างๆถูกมนุษย์สร้างขึ้น พัฒนาขึ้น ประดิษฐ์ขึ้น คิดค้นขึ้น
ในอดีต “ ใครๆ ก็บอกว่านกเท่านั้นที่บินได้ ” แต่ด้วยน้ำมือของ 2 พี่น้องตระกูลไรค์ เครื่องบินลำแรกถูกสร้างขึ้น
ในอดีต “ ใครๆ ก็บอกว่า มนุษย์ไม่สามารถวิ่งได้ระยะทาง 1 ไมล์ น้อยกว่า 4 นาที ” และแล้วโรเจอร์ แบนนิสเตอร์ ก็เป็นมนุษย์คนแรกที่วิ่งได้ ในเวลาต่อมาก็มีคนอีก 10 คน 100 คน 1,000 คน 10,000 คน 100,000 คนวิ่งได้
ในอดีต “ ใครๆก็บอกว่า มนุษย์ไม่มีวันเหยียบดวงจันทร์ได้ ” และแล้ว นีล อาร์มสตรอง เป็นมนุษย์คนแรกในโลกที่ได้ลงไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก
ท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลายครับ ท่านจะเห็นได้ว่า สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ จากความคิด ความฝัน การลงมือทำ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆจึงเกิดขึ้น
นโปเลียน ฮิลล์ อดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐ 3 สมัย กล่าวไว้ว่า “ ถ้าหากท่านคิดว่า ท่านทำได้ ท่านจะทำได้ แต่ถ้าหากท่านคิดว่า ท่านทำไม่ได้ ท่านก็จะทำไม่ได้” ความคิดเป็นตัวกำหนดความสำเร็จ ถ้าคุณเปลี่ยนความคิด ชีวิตของคุณเปลี่ยน
บุคคลส่วนใหญ่ในโลกนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะพวกเคยชินกับความคิดเดิมๆ ความคิดเล็กๆ ความคิดที่ว่า “ทำไม่ได้ “ “ฉันไม่กล้า” แล้วเราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร
เรา จนไม่ใช่เพราะพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์ แต่เป็นเพราะ เราไม่เคยคิดที่จะรวย
เรา ไม่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพราะ เทวดา นางฟ้า พระอินทร์ แต่เป็นเพราะเราไม่เคยคิดที่จะประสบความสำเร็จต่างหาก
“ อันใครเล่า กำหนดชีวิตข้า ใช่เทวาดาดฟ้า อะไรหนา
ตัวข้านี้กำหนด มันมา ชั่วดีหนาเกิดจากกรรม ข้าทำเอง”
ฉะนั้นหนทางไปสู่ความสำเร็จนั้นจะว่ายาก มันก็ยาก จะว่าง่ายมันก็ง่าย จะว่าไกลมันก็ไกล จะว่าใกล้มันก็ใกล้ ดังเช่น ระยะทาง จากกรุงเทพถึงภูเก็ต ใครที่คิดว่าไกลมันก็ไกล ใครที่คิดว่าใกล้ มันก็ใกล้ แต่ระยะทางที่ไกลกว่านั้น ก็คือความคิดของคุณต่างหาก
“ ฉันแก่เกินไป” ผู้พันแซนเดอร์ส ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่หลังเกษียณอายุ 60 ปี เขาได้เริ่มทำธุรกิจร้านเคนตั๊กกี้ฟรายด์ชิกเก้นหรือ KFC เขาจึงประสบความสำเร็จภายหลังเกษียณอายุ
“ ฉันเด็กเกินไป” ไมเคิล แจ็คสัน ประสบความสำเร็จกลายเป็นนักร้องชื่อดังในขณะที่เขาเพิ่งออกจากโรงเรียนอนุบาล และด้วยความคิดอย่างผู้ประสบความสำเร็จในที่สุด “เขาคือ ราชาเพลงป๊อบของโลก”
“ ฉันมีการศึกษาน้อย” โธมัส อัลวา เอดิสัน เขาเรียนหนังสืออย่างเป็นทางการได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่เขาก็เป็นนักประดิษฐ์เอกของโลก ซึ่งเขามีสิทธิบัตรเกือบ 1,300 ชิ้น
“ ฉันมันโง่” อัลเบิรต์ ไอนสไตน์ สมัยเด็กๆ เขาเป็นคนพูดช้า ชอบฝันกลางวัน จนครูที่สอนเขากล่าวหาเขาว่า เป็นเด็กที่ผิดปกติ และแล้วในเวลาต่อมา คนทั้งโลกได้ยอมรับเขาว่า เขาคืออัจฉริยะบุคคล เขาคือผู้คิดทฤษฏีซึ่งก่อกำเนิดปรมณู
“ ฉันมันคนขี้คุก” เนลสัน แมนเดลา นักโทษทางการเมืองที่ติดคุกยาวนานที่สุดของโลกคนหนึ่ง เขาติดคุกนานถึง 25 ปี แต่สุดท้ายเขาคือ ประธานาธิบดีของอาฟริกาใต้ ในขณะที่อายุ 76 ปี
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ความคิดของคุณ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ ความคิดของคุณต้องชัดเจน ความฝันของคุณต้องชัดเจน มันจึงจะพาชีวิตของคุณไปสู่เป้าหมาย
ชาวประมงจะเดินเรือต้องมีเข็มทิศ คุณจะดำเนินชีวิตคุณจะต้องมีเป้าหมาย
เป้าหมายสามารถเปลี่ยนแปลงโลก เป้าหมายสร้างคนให้เป็นคน เป้าหมายสามาถควบคุมความคิด ควบคุมการกระทำ ควบคุมบุคลิก ให้คุณกล้าที่จะแสดงออก
คุณต้องกล้าคิด กล้าที่จะตั้งเป้าหมาย กล้าที่จะฝัน แล้วคุณจะเป็นเจ้าของมัน มันอยู่ที่ความคิดของคุณ ว่าคุณจะใส่อะไรเข้าไปในสมอง แล้วคุณต้องดูแลมัน คุณต้องรดน้ำพรวนดิน เพราะ ถ้าคุณไม่ดูแลความคิด ความฝันของคุณ แล้วใครจะดูแลให้คุณ
คนเป็นจำนวนมาก แลกชีวิต แลกร่างกาย แลกค่าตอบแทนกับสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆ แล้วคิดว่า “ ฉันทำได้แค่นี้” ฉันขายได้เท่านั้น ฉันทำรายได้เพียงเท่านี้ แต่จริงๆแล้ว เราสามารถทำรายได้ ได้โดยไม่มีขีดจำกัด
คนจำนวนน้อยคนร่ำรวยมัก Think Big หรือ คิดใหญ่ แต่คนจำนวนมากมัก Think small หรือ คิดเล็ก คิดเพียง 1 คิด ฝันเพียง 1 ฝัน ถ้าคุณจะคิดทั้งที ผมขอแนะนำคุณให้คิดใหญ่ๆ เมื่อคุณจะ ฝันทั้งที ทำไมคุณไม่ ฝันใหญ่
ฉะนั้น คุณจะเป็น นักขาย นักพูด นักการเมือง นักสื่อสารมวลชน นักการทูต คุณจะเป็น นักอะไรก็ได้ ขึ้นอยู่ที่คุณ ถ้าคุณกล้าคิด ถ้าคุณกล้าฝัน ถ้าคุณกล้าตั้งเป้าหมาย คุณสามารถเป็นสิ่งนั้นได้



...
  
จะทำงานอย่างไรให้ก้าวหน้า
จะทำงานอย่างไรให้ก้าวหน้า
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนเราทุกคนเกิดมาแล้วต้องทำงาน และเวลาที่เราใช้ในชีวิตการทำงาน เราใช้เวลาเป็นจำนวนมาก แล้วเราจะทำงานอย่างไรให้มีความก้าวหน้า สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน เขาจะมีปัจจัยที่ทำให้ตนเองก้าวหน้าดังนี้
1.ต้องรักงานที่ตนเองทำ รวมไปถึง รักเพื่อนร่วมงาน รักเจ้านาย รักองค์กร รักสถานที่ทำงาน เมื่อเขามีทัศนคติที่บวก เขาก็จะทำงานอย่างมีความสุข ขยันขันแข็งในการทำงาน แต่ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่รักงานที่ทำ ไม่รักเพื่อนร่วมงาน ไม่รักเจ้านาย ไม่รักองค์กร ไม่รักสถานที่ทำงาน เขาก็จะมีทัศนคติในทางลบ จึงทำให้เขาเกิดการเบื่อหน่าย ไม่มีความสุขที่ต้องทำงาน เกิดอาการที่ท้อแท้ หมดกำลังใจ เมื่อหนักๆ เข้าเขาก็พร้อมที่จะลาออกจากงานที่เขาทำ
แล้วมีคำถามว่า แล้วจะทำอย่างไรถึงจะมีทัศนคติให้มีความรักงานที่ทำ คำตอบคือ ท่านต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ ลองคิดว่างานให้อะไรแก่เราบ้าง เช่น งานทำให้เราได้ช่วยเหลือผู้อื่น งานทำให้เราได้สถานะภาพที่ดีขึ้น งานทำให้เราได้รับรายได้ งานให้เรามีคุณค่าในความเป็นคน งานทำให้เราได้ชื่อเสียง ฯลฯ
2.ต้องให้งานสอนเรา คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากกว่าคนธรรมดา มักจะเป็นคนที่ทำงานมาก การทำงานด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน จึงทำให้เขาทำงานได้เก่งขึ้น ระหว่าง ครูสอน กับให้งานสอน ท่านผู้อ่านคิดว่า อย่างนั้นทำให้เราเก่งงานกว่ากัน แน่นอนครับ ให้งานสอนครับ ฉะนั้น เราจะสังเกตว่า คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเป็นคนที่ขยันทำงาน ทำงานจนเกิดความเชี่ยวชาญ
3.ต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงาน นักข่าวท่านใดมีความกระตือรือร้นในการหาข่าว มักจะได้ข่าวก่อน แต่นักข่าวคนใดเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น ก็มักจะหาข่าวได้ช้า ความกระตือรือร้นจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนทำงานแล้วประสบความสำเร็จ และพบกับความก้าวหน้า
4.ต้องมีความพยามยาม กัดไม่ปล่อย คนที่ประสบความสำเร็จในที่ทำงาน เขาจะเป็นคนทุ่มเท เขาจะไม่หยุดก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งตรงกันข้ามกับคนส่วนใหญ่ เมื่อเจอปัญหาเพียงแค่ครั้ง สองครั้ง ก็จิตใจท้อแท้ ตรงกันข้ามกับคนที่ประสบความสำเร็จในระดับที่สูง เขาจะกัดไม่ปล่อย เช่น เอดิสัน กว่าจะคิดค้นหลอดไฟฟ้าได้ เขาต้องล้มเหลวถึง 1,000 ครั้ง เลยทีเดียว แต่คนส่วนใหญ่ พบกับความล้มเหลวเพียงไม่กี่ 10 กี่ 100 ครั้ง ก็เลิกล้มเสียแล้ว
5.ต้องมีสติในการทำงาน คนไม่มีสติ มักจะเกิดอาการสับสน หลายคนเมื่อออกจากบ้าน ก็คิดว่า ตัวเองลืมปิดไฟ ลืมปิดกุญแจ ลืมปิดน้ำ ก็เนื่องจากตนเองไม่มีสติ เช่นกัน ในการทำงานเราต้องมีสติ บางคน ทำงานแล้วเกิดข้อบกพร่องขึ้นในงาน ก็เนื่องจากความไม่มีสติ ฉะนั้น จงทำงานอย่างมีสติ แล้วก็จะไม่เกิดความเสียหายขึ้นภายในงาน ไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่เกิดความสูญเสียต่างๆ
6.ต้องทำงานอย่างฉลาด หลายคนทำงานมาก ทำงานนาน แต่ไม่มีความก้าวหน้า สาเหตุเนื่องมาจาก เขาไม่ยอมที่จะเรียนรู้งานอะไรใหม่ๆ เขาไม่ยอมที่จะแก้ไข เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน เขาไม่คิดที่จะนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้ในการทำงาน เช่น ไม่เรียนรู้ ไม่นำเอา เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ มาช่วยในการทำงาน
ดังนั้น หากท่านต้องการที่จะมีความก้าวหน้าในการทำงาน ท่านต้องรักงานที่ท่านทำ ท่านต้องให้งานสอนท่าน ท่านต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ท่านต้องมีความพยายาม ท่านต้องมีสติในการทำงานและท่านต้องทำงานอย่างฉลาด
...
  
เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน
เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ที ฮาร์ฟ เอคเคอร์(T.Harv Eker) โค้ช ผู้ฝึกสอนเกี่ยวกับการเป็นมหาเศรษฐี นักพูด วิทยากร ชื่อดังระดับโลกชาวอเมริกา ได้เขียนหนังสือ เล่มหนึ่งชื่อ ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน (Secrets of the Millionaire Mind ) เขาได้เขียนแนวความคิดของเขาในหนังสือเล่มนั้นว่า
คนเราสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้จากการที่เริ่มเปลี่ยนความคิด โดยเขาเขียนว่า
“ ความคิด ทำให้เกิด ความรู้สึก ความรู้สึก ทำให้เกิด การกระทำ เมื่อเปลี่ยนการกระทำ ผลลัพธ์จึงเปลี่ยน”
อีกทั้งเขายังยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่า สมมุติว่า เราได้ปลูกต้นไม้ขึ้นมาต้นหนึ่ง เช่น ต้นแอปเปิ้ล เมื่อต้นแอปเปิ้ล ออกผล แต่ผลแอปเปิ้ล เล็กมาก ไม่สมบูรณ์ เราสามารถเปลี่ยนลูกแอปเปิ้ลภายในต้นนี้ให้สมบูรณ์ได้ ก็ด้วยการ รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ไปที่ราก เพื่อให้ราก ส่งน้ำ ส่งอาหาร ส่งปุ๋ยไปยัง ลูกแอปเปิ้ล จึงทำให้ลูกแอปเปิ้ล สมบูรณ์
หากว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิต เราต้องเปลี่ยนแปลงตรงความคิดของเราก่อน อีกทั้งเราควรให้ความสำคัญกับความคิดของตนเองก่อน เพราะสิ่งที่เรามองไม่เห็น มันอาจจะมีความสำคัญกว่าสิ่งที่เรามองเห็น ดังตัวอย่าง ลูกแอปเปิ้ล รากมีความสำคัญมาก แต่พวกเราส่วนใหญ่มองไม่เห็น แต่พวกเรากลับไปมองเห็นที่ตัวผลของมัน เช่นกัน ชีวิตของพวกเราเป็นเช่นนี้ เหตุที่ส่งผล ก็คือความคิดนั้นเอง
กบฝูงหนึ่ง ได้แข่งขันกันปืนต้นไม้ใหญ่ ปรากฏว่า กบทุกตัว ปีนขึ้นไปก็ตกลงมา อีกทั้งกบที่นั่งเชียร์อยู่ข้างล่างก็ต่างพากัน ส่งเสียง ว่า “ ตกลงมา ” “ ตกลงมา” “ตกลงมา” แล้วกบทุกตัวก็ตกลงมาจริงๆ ทำให้กบที่นั่งเชียร์อยู่ข้างล่าง ต่างพากันหัวเราะ ชอบใจเป็นการใหญ่ แต่ปรากฏว่า มีกบอยู่ 1 ตัว ที่ปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงจุดสูงสุด กบทุกตัวต่างนั่งงง ยืนงง เป็นการใหญ่ว่า กบตัวนี้ทำได้อย่างไร เมื่อกบตัวนั้นลงมา กบทุกตัวก็ต่างไปแสดงความยินดี แล้วถามเหตุผลว่า “ ทำไมถึงปีนได้” ผลปรากฏว่า กบตัวนั้น เป็นกบที่หูหนวกตั้งแต่กำเนิด ซึ่งกบตัวนั้น ไม่ได้ยินเสียง ด่า เสียงเชียร์ว่า “ ตกลงมา” “ตกลงมา” แต่กลับคิดว่า กบทุกตัวที่อยู่ข้างล่าง ส่งเสียงเชียร์ “ ขึ้นไปอีก ขึ้นไปอีก ขึ้นไปอีก ”
ท่านผู้อ่านได้อะไรจากเรื่องนี้ ในบางครั้ง เราคิดจะทำการณ์ใหญ่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จก็เนื่องจากว่า เราอาจจะไปฟัง คำด่า คำพูด ที่เป็นลบ จากผู้คนรอบข้างของเรามากจนเกินไป จนทำให้เราเกิดความท้อแท้ใจ ฉะนั้น ในการทำงาน ในบางครั้งเราก็ควร หูหนวก บ้าง เพราะถ้าเราฟังคำพูดที่เป็นลบมากๆ ก็จะส่งผลทำให้เราเกิดความคิดที่ลบ แล้วความคิดที่ลบ นี่แหละที่จะส่งผลต่อความสำเร็จในการทำงานของเราได้
ถ้าผมถามผู้อ่านว่า “ท่านว่ายน้ำเป็นไหม” หลายคนบอกว่า “ ไม่เป็น” แต่ถ้าถามเหตุผล “ ว่าทำไม ถึงว่ายน้ำไม่เป็น” ผู้อ่านหลายคนจะต้องมีข้ออ้างต่างๆ นาๆ ว่า “ ไม่ได้ฝึก” “ กลัวจมน้ำ” “ อายไม่กล้าลงน้ำ” แต่ถ้าเราลองไปดูชีวิตของนาย นิก วูยิชิช เขาเกิดมาไม่มีแขนไม่มีขาทั้งสองข้าง แต่เขาสามารถว่ายน้ำเป็น เหตุผลที่เขาวาดน้ำเป็น เพราะภายในความคิดของเขา เขาไม่มีข้ออ้าง ว่า ทำไม่ได้ นั่นเอง
นาย นิก วูยิชิช เขาคิดว่า เขาทำได้ เขาจึงว่ายน้ำได้ ทั้งๆที่ไม่มีแขนไม่มีขาทั้ง 2 ขา ฉะนั้น ถ้าผู้อ่านอยากว่ายน้ำเป็น ความคิดของท่านจะต้องมีความเชื่อมั่นว่า ท่านทำได้ ท่านว่ายน้ำเป็นเสียก่อน แล้วท่านจะว่ายน้ำเป็นในที่สุด
สุดท้ายนี้ กระผมอยากเห็น การศึกษาของไทยเรา สอนให้เด็กคิดให้มากขึ้น เพราะการศึกษาในอดีตมักสอนให้ท่องจำ เช่น สมัยที่ผมเรียน ข้อสอบมักจะออกว่า “ กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงเมื่อ พ.ศ.อะไร” ผมเองก็ต้องท่องจำ แสดงว่า ใครที่มีความจำดีมักเป็นเด็กที่ได้คะแนนดี แต่ทำไมเราไม่สอนให้เด็กคิดเป็น เช่น 4+4 = 8 ถ้าเราออกข้อใหม่ว่า 8=........+........... (8=7+1),(8=4+4),(8=2+6),(8=3+5),(8=8+0) เด็กๆก็จะสามารถคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
...
  
กล้าฝัน กล้าไล่ล่าฝัน
กล้าฝัน กล้าไล่ล่าฝัน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับสูง พวกเขามักจะเป็นคนมีความฝัน และที่สำคัญพวกเขาจะเป็นนักไล่ล่าฝัน พวกเขาจะมีความพยายาม มีความอดทนที่มากกว่าคนทั่วๆไป เมื่อล้มเหลว พวกเขาจะไม่ล้มเลิก พวกเขาเคยผิดหวัง พวกเขาเคยท้อแท้ แต่พวกเขาก็ต้องสู้จนประสบความสำเร็จ
- จิม แคร์รีย์ ดารานักแสดงฮอลลีวู้ดได้ค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน กว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ เขาต้องผ่านความเจ็บปวด เขาเคยเป็นดาราที่ตกอับ เขาเคยขับรถเก่าๆ เขาแทบจะไม่มีเงินติดตัว ครั้งหนึ่งมีคนเล่าว่า จิม แคร์รีย์ มีเป้าหมายว่าอีก 5 ปีข้างหน้าเขาจะได้ค่าตัวหรือค่านักแสดงนำจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (เรื่องนี้เกิดขึ้นปี ค.ศ.1990 ต่อมาอีก 5 ปี คือ ค.ศ.1995 เขาได้รับค่าตัวมากถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ)
มีคนเคยถาม จิม แคร์รีย์ ว่า “ตอนแรกๆที่คุณเข้าวงการคุณได้ค่าตัวไม่กี่หมื่น กี่แสนเหรียญสหรัฐ ทำไมตอนนี้คุณถึงกล้าเรียกค่าตัวมากถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ จิม แคร์รีย์ ตอบว่า “ กว่าผมจะกล้าเรียกค่าตัวขนาดนี้ ผมต้องผ่านการฝึกฝน อดทน ฝึกซ้อมบทต่างๆ มากกว่า ยี่สิบกว่าปี ผมถึงประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้)
- เฉินหลง หรือ เฉินกั่งเซิง เขาเรียนการเล่นงิ้ว เรียนมวยจีน เรียนกังฟู และการแสดงมาตั้งแต่เด็ก
เขาฝันอยากที่จะเป็นดารานักแสดง เขาต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาต้องเรียนภายในโรงเรียนเป็นเวลาสิบปี หลังจากนั้น เขาก็ได้ตระเวน แสดงกังฟู แสดงวิทยายุทธ์ แสดงงิ้ว ณ ที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีนและต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เฉินหลงก็เคยมาแสดงงิ้ว เมื่อตอนยังหนุ่มๆ และเมื่อเขาเข้าวงการแสดงภาพยนตร์ เขาต้องแสดงเป็นตัวประกอบ โดยรับจ้างเป็นนักแสดงคิวบู๊ ต้องทนเจ็บตัว และได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งเขาแจ้งเกิดในหนังเรื่องไอ้หนุ่มพันมือ ตามด้วยเรื่องไอ้หนุ่มหมัดเมา ต่อมาก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้น เฉิงหลงก็ได้เป็นดาราซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย แล้วก้าวขึ้นเป็นดารานำในระดับโลก
หลายคนคงนึกอิจฉา เฉินหลง แต่ถ้าพวกเราลองวิเคราะห์ย้อนไปในอดีต เฉิงหลงต้องฝึกการแสดงต่างๆ ลำบาก อดอยาก อดทน ตั้งแต่อายุไม่ถึง 8 ขวบ และต้องฝึกฝนการแสดงต่างๆ อีกเป็นเวลา 10 ปี แล้วเป็นตัวประกอบ ฉะนั้น หากพวกเราใช้ความพยายามทำอะไร แค่ 2-3 ปี หรือ 6-7 ปี ความสำเร็จย่อมห่างไกลเป็นอันมากเมื่อเปรียบเทียบกับ เฉินหลง มีเรื่องเล่ากันว่า มีคนไปถาม เฉินหลงว่า เคล็ดลับแห่งความสำเร็จของคุณคืออะไร เฉินหลงตอบกลับไปว่า “ คือความพยายาม”
- วอลท์ ดีสนีย์ ราชา การ์ตูน วอลท์ ดีสนีย์ เขามีนิสัยชอบวาดภาพตั้งแต่เด็ก เมื่อ 5 ขวบ เขาเข้า
เรียนวิชาศิลปะในโรงเรียนเมืองชิคาโก กลางคืนก็ยังศึกษางานศิลปะ ต่อมาเขามีความฝันอยากทำหนังการ์ตูน จึงตั้งบริษัทสร้างหนังการ์ตูนขึ้น แต่ปรากฏว่าถูกพนักงานยักยอกเงินแล้วหลบหนีไป ทำให้เขาประสบปัญหาทางการเงินจนล้มละลาย
ต่อมาเขาได้หาเงินชำระหนี้หมด ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแค่ กล้องถ่ายรูปตัวเดียว หลังจากนั้นเขาขอเช่าโรงรถของคุณอาเป็นที่ทำงาน และหยิบยืมเงินจากคุณอาและพี่ชายของเขาอีก 750 เหรียญสหรัฐ แล้วเขาก็ทำตามความฝัน ทำหนังการ์ตูนเรื่องแรกชื่อว่า “อลิซในแดนมหัศจรรย์” ขายได้เงิน 1,500 เหรียญ หักต้นทุน 750 เหรียญ เขาจึงได้กำไรจากการทำหนังเรื่องแรก 750 เหรียญ
ต่อมาเขาจึงผลิต ตัว มิดกี้ เม้าส์ และได้สร้างหนังการ์ตูนขึ้นมาอีกมากมาย ต่อมาได้ขยายกิจการไปทำสวนสนุกและสถานีโทรทัศน์
สำหรับแง่คิดที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือ “ ทำในสิ่งที่รัก ” เขาผลิตผลงานทุกชิ้นจากความรัก เขาได้เดินตามความกระหายของเขา เขาไม่ได้หมกมุ่นเรื่องเงินทอง แต่เขาหมกมุ่นในเรื่องที่เขากระหายอยากที่จะทำ เพราะเขาเชื่อว่า “ ความกระหายที่อยากจะทำ คือ พลังอำนาจ ”
จงกล้าที่จะฝัน จงกล้าที่จะล้มเหลว เพราะคนที่ไม่เคยล้มเหลวมาก่อน มักจะไม่ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

...
  
รู้ทิศทาง รู้ทำ รู้ทนทาน
รู้ทิศทาง รู้ทำ รู้ทนทาน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จ เขามักจะรู้ความต้องการของตนเอง ว่าเขามีความต้องการอะไรในชีวิตอย่างแท้จริง และเมื่อเขารู้แล้วว่า เขามีความต้องการอะไร อยากเป็น อยากทำอะไร เขาจะใช้เวลาทุกวินาที อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้ทิศทาง : หากว่าเราต้องการประสบความสำเร็จ เรามีความจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า เรามีความต้องการอะไร เรามีเป้าหมายอะไร ความฝันของเราคืออะไร ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องค้นหาตัวเองให้เจอเสียก่อน ถ้าหากว่าพวกเรายังค้นหาตนเองยังไม่เจอ ผมขอแนะนำว่า เราจำเป็นจะต้องลงทุนกับตัวเราเองก่อน เราต้องลงทุนกับความคิดของเราก่อน จงหาที่เงียบๆ จงหลบหนีผู้คนไปสักระยะก่อน แล้วลองทบทวนว่า ตนเองมีความต้องการอะไร ถ้ายังไม่เจอ ก็ลองเข้าห้องสมุดที่ใหญ่หน่อย มีหนังสือมากหน่อย จงลองลงทุนอ่านหนังสือที่เราชอบ แล้วเราจะพบอะไรบ้างอย่าง จงหัดใช้ชีวิตอยู่ด้วยตนเอง สักระยะ แล้วคุณจะพบอะไรบางอย่างกับตัวคุณเอง ชีวิตของคุณ ทิศทางของคุณ
สตีฟ จอบส์ เคยพูดไว้ ก่อนตาย ว่า ตัวเขาโชคดีที่รู้จักตนเองว่าตนเองชอบคอมพิวเตอร์ แล้วเขาก็แนะนำนักศึกษาหรือบุคคลต่างๆว่า จงค้นหาตัวเองให้เจอ ว่าตนเองต้องการอะไร ชอบอะไร ถึงแม้จะต้องค้นหาตลอดชีวิตก็ตาม
Ray Kroc (เรย์ คร็อก) อยากเป็นเศรษฐี อยากที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ เขาเริ่มทำแฟรนไชส์ยี่ห้อแม็คโดนัลด์ ตอนอายุ 52 ปี แต่ตอนที่เขาทำงานในอดีต เขาต้องลำบาก เขาต้องอดทนมาก เขาต้องเป็นพนักงานขายถ้วยกระดาษมาก่อน และเมื่อเขารู้ทิศทางของตนเอง แฟรนไชส์แฮมเบอร์เกอร์ แม็คโดนัลด์ ซึ่งขายไปทั่วโลกก็กำเนิดขึ้น
Harland Sanders(ผู้พัน แซนเดอร์ส) เคยลำบากมาก ภรรยาพาลูกหนีออกจากบ้านและถามหย่า เขาเปลี่ยนแปลงงานที่ทำบ่อย จนกระทั่งเกษียณอายุจากราชการ เขารู้ว่าเขาชอบทำอาหารและรู้ว่า เขาทำไก่ทอดได้อร่อยมากๆ เมื่อเขารู้ทิศทางของตนเองแล้ว เขาก็มาขายไก่ทอด แล้วเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ KFC ตอนอายุ 60 ปี
รู้ทำ : เมื่อรู้ว่าตนเองมีทิศทางอย่างไรแล้ว ที่เนี่ยเราต้องรู้ว่า เราจะต้องทำอะไรต่อไป ในขั้นตอนนี้ ขอให้ท่านไปดูบุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกหรือในระดับประเทศ หรือบุคคลที่ท่านต้องการจะเป็น แล้วลองอ่านประวัติของเขา ว่าเขาใช้วิธีหรือมีวิธีใดหรือทำอย่างไร ถึงประสบความสำเร็จ แล้วเราก็ลงมือทำตามเขา เช่น บางคนอยากที่จะเป็นนักพูดระดับโลก เราก็ควรไปศึกษาชีวิตของ นักพูดระดับโลกว่าเขาทำอย่างไรถึงเก่ง ถึงประสบความสำเร็จ แล้วเราก็ลองทำแบบเขา
บางคนอยากเป็นวิทยากรระดับโลกอย่าง Brian Tracy (ไบรอัน เทรซี่) เราก็ควรดูว่าเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง แล้วเราก็ควรทำเช่นเดียวกับเขา Brian Tracy(ไบรอัน เทรซี่) กว่าที่เขาจะเป็นวิทยากรระดับโลก เขาต้องอ่านหนังสือเป็นจำนวนมาก เขาต้องเขียนหนังสือ เขียนบทความเป็นจำนวนมาก เราก็ควรหัดเขียนและทำหนังสือขึ้นมาบ้าง เขามีคลิปบรรยายให้ความรู้ลงในสื่อต่างๆ เช่น มีเทป มีคลิปลง Youtube มี DVD มี CD มีเว็ปไซค์ มีการทำหลักสูตรต่างๆ เพื่อที่จะบรรยาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ เราก็ต้องหัดทำ หัดผลิตตามเขา แล้วเราก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
รู้ทนทาน : คนที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ได้อะไรง่ายๆ ถ้าคุณคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จได้อะไรมาง่ายๆ คุณคิดผิด ถ้าคุณคิดว่า คนที่ประสบความสำเร็จได้อะไรมาง่ายๆ คุณคิดผิด แต่คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะต้องทุ่มเท เขาจะต้องอดทน เขาจะต้องทนทาน เขาจะต้องพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจะต้องลำบาก เขาจะต้องร้องไห้ เขาจะต้องเสียเวลา สละเวลาทำงานซึ่งหนักและมากกว่าคนทั่วไป ฯลฯ
Sun Yat Sen (ซุน ยัด เซน) เขามีอุดมการณ์ เขามีทิศทางเป็นของตนเองคือต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศจีน ในการทำงาน เขาต้องหลบหนี บุคคลหรือศัตรูที่ตามฆ่าเขา เขาต้องปลอมตัว เขาต้องเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆในประเทศจีนเพื่ออธิบายแนวคิด อุดมการณ์ของเขา เขาล้มเหลวในการปฏิวัติประเทศจีน ถึง 10 ครั้งในเมืองต่างๆ(1.กวางโจว 2.ฮุยโจว 3.เชาโจว 4.ฮุยโจว 5.ชิงโจว 6.เซิ่นหนานกวาน 7.กวางโจว เลียนโจวและชางสี่ 8.ยูนาน อีโฮว 9.กวางโจว 10.กวางโจว) แต่เขาก็ยังพยายามต่อไป จนประสบความสำเร็จในการปฏิวัติในครั้งที่ 11 ที่เมืองวูจาง เขาได้รับชัยชนะและกลายเป็นบิดาแห่งจีน อีกทั้งยังเป็นประธานาธิบดีแห่งชาติของสาธารณรัฐจีนไต้หวันเมื่ออายุ 46 ปี
ฉะนั้น หากว่าท่านต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ท่านจะต้อง รู้ทิศทางว่าท่านต้องการอะไร มีเป้าหมายอะไรในชีวิต ท่านจะต้องรู้ทำคือรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง จึงจะประสบความสำเร็จ และท่านจะต้องรู้ทนทาน คือ รู้จักคำว่า อดทน อดกลั้น อดออม และท่านจะต้องทนทานกว่าคนทั่วไปนั่นเอง
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.