หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
ผู้ค้ำประกัน
16
...
  
พระพยอม กัลยาโณ
พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ)

เกิดวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2492 ปีฉลู

บิดา นายเปล่ง จั่นเพชร

มารดา นางสำเภา จั่นเพชร

ภูมิลำเนา อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

การศึกษา

พ.ศ. 2500 เข้ารับการศึกษา ที่โรงเรียนสังวรพิมลไพบูลย์

พ.ศ. 2513 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดสังวรพิมลไพบูลย์

พ.ศ. 2514 จบนักธรรมตรี ที่วัดอัมพวัน จังหวัดนนทบุรี

พ.ศ. 2515 จบนักธรรมโท ที่วัดบางอ้อยช้าง จังหวัดนนทบุรี

พ.ศ 2516 จบนักธรรมเอกที่วัดบางอ้อยช้าง จังหวัด นนทบุรี




ชีวิตในวัยเด็ก

พระพยอมเกิดในครอบครัวที่ยากจน การใช้ชีวิตจึงไม่เหมือนกับเด็กทั่วไป ในวันที่โรงเรียนหยุด หรือ ช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียนเด็กชายพยอมจะออกหางานพิเศษรับจ้างดายหญ้าตามร่อง สวน

บางครั้งรับจ้างขึ้นต้นหมาก และเก็บมะพร้าวหล่นด้วยการมีไหวพริบฉลาดเฉลียว ทำให้เด็กชายพยอมคิดวิธีขึ้นต้นหมากวิธีลัด คือ ขึ้นต้นหนึ่งเสร็จแล้ว จะโหนยอดหมากไปอีกต้นหนึ่ง โดยไม่ต้องลงและขึ้นทุกต้น ทำให้ได้รับค่าแรงเพิ่ม ขึ้นกว่าปกติ ที่เด็กวัยเดียวกันทำได้

ในสมัยนั้นจะได้รับค่าจ้างต้นละ 3 - 5 บาท แต่เด็กชายพยอมก็มิได้เกี่ยงงานประการใด เพียงขอให้ได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรม และให้สิ่งที่ได้มานั้นโดยชอบธรรมงานดายหญ้าบริเวณร่องสวน ที่เด็กชายพยอมรับจ้างนั้น จะได้รับค่าจ้างวันละ 20-30 บาท

ความขยันขันแข็ง ความมีน้ำใจ ทำให้ชาวบ้านรักและสงสาร และมอบงานพิเศษให้ทำอยู่เสมอ




วัยหนุ่ม

พระพยอมไม่เคยใช้ชีวิตวัยหนุ่มเยี่ยงชายหนุ่มทั่วไป ท่านใช้จ่ายทรัพย์ที่หามาโดยสุจริต ด้วยความประหยัด มัธยัสถ์ เพื่อน ๆ ของท่านจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าตามยุคสมัย แต่ท่านยังคงสวม เสื้อยืดกล้าม กางเกงแบบชาวสวน

ทั่วไปส่วนเรื่องเพศตรงข้าม ท่านเป็นที่สนใจแก่ผู้หญิงทั่วไป แต่ท่านก็ยังคงยึดมั่นในการประกอบอาชีพทำมาหากิน โดยไม่ได้ให้ความสนใจแก่ผู้ใดเป็นพิเศษ

พระดีศรีสังคม

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2492เด็กชายคนหนึ่งที่ถือกำเนิดจากแม่สำเภา จั่นเพชร แม่ที่ยากจนแต่มีความรักลูกสุดประมาณ จากวันนั้น . . . จนถึง . . . วันนี้ เด็กยากจนนั้น คือ .

. . พระนักเทศน์ผู้มีคุณภาพพระดีศรีสังคม พ่อพระของผู้ยากจน พระผู้ร่ำรวยงาน แต่ยากจนเวลา พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) มูลนิธิสวนแก้ว


ในปี 2529 พระพยอม กัลยาโณ จัดตั้ง มูลนิธิสวนแก้วเพื่อช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ ให้แก่เพื่อนมนุษย์โดยไม่คำนึงถึง เชื้อชาติ ศาสนา และสัญชาติ กิจกรรมของมูลนิธิสวนแก้ว มี 18 โครงการ


ประกาศเกียรติคุณ และรางวัล

พ.ศ. 2528 ■ รางวัลสังข์เงิน สาขาใช้ศิลปะในการเผยแพร่
จากสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย

พ.ศ. 2531 ■ โล่โครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จากกรุงเทพมหานคร

พ.ศ. 2535 ■ โล่เกียรติคุณบารมี “พระผู้มีคุณต่อแผ่นดินและสังคม” จากสมเด็จพระสังฆราชฯ

■ โล่โครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จากมูลนิธิหมอชาวบ้าน

พ.ศ. 2536 ■ โล่บุคคลดีเด่นแห่งวงการศึกษาของชาติ สาขาการศึกษานอกระบบ
จากสมาคมศึกษานิเทศแห่งประเทศไทย

■ โล่ผลงานดีเด่นด้านวิชาภาษาไทย จากกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

พ.ศ. 2537 ■ ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพุทธศาสน์
จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

■ ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนาสังคม
จากสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า)

พ.ศ. 2538 ■ รางวัลเหรียญอนามัยโลก การรณรงค์เลิกบุหรี่ จากองค์การอนามัยโลก

■ รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาค ลำดับที่ 3
จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย

■ รางวัลโล่ผู้สนับสนุนกรมประชาสงเคราะห์ดีเด่นปี 2538
จากนายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี

■ รางวัลชมเชยที่ 3 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียแปซิฟิก (เอสแคป) ประจำปี พ.ศ.2538

พ.ศ. 2539 ■ รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาค ลำดับที่ 2
จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย

■ โล่ประกาศเกียรติคุณ “ผู้ร่วมรณรงค์สร้างสรรค์สังคมปลอดบุหรี่”
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี

พ.ศ. 2540 ■ เกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติในด้าน
“อภิปรายถ่ายทอดเสียงวิชาการทางพระพุทธศาสนา”
จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก

■ ประกาศนียบัตรทองคำเชิดชูเกียรติ “พระดีศรีสังคม”
จากสมาคมสื่อมวลชนส่วนภูมิภาค (ประเทศไทย)

■ โล่ประกาศเกียรติคุณ “นักสุขศึกษาดีเด่นแห่งชาติ สาขาสื่อมวลชน” จากกระทรวงสาธารณสุข

พ.ศ. 2541 ■ ได้รับการคัดเลือกเป็น อุทยานการศึกษาในวัดประจำปี 2541
จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ

■ รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคที่ 1 ลำดับที่ 1
จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย

■ ปริญญาศึกษาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศึกษาศาสตร์
เพื่อพัฒนาชุมชนจากสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

■ ปริญญานิเทศศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

พ.ศ. 2542 ■ “เสาเสมาธรรมจักร” ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา

■ รางวัลชมเชย ผู้ประพันธ์หนังสือเรื่อง “เรียนผูกเรียนแก้”
จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ

พ.ศ. 2543 ■ รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคที่ 1 ลำดับที่ 1
จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย

■ โล่รางวัล "มหิดลวรานุสรณ์"
จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ

พ.ศ. 2544 ■ โล่เกียรติคุณ “ผู้สนับสนุนงานกรมประชาสงเคราะห์ดีเด่น ประจำปี 2544”
จาก พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

■ โล่รางวัลอาสาสมัครดีเด่นพิเศษ ปี 2544 จากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี

■ รางวัลมูลนิธิภาคดีเด่น ประจำปี 2543-2544 ลำดับที่ 1
จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

พ.ศ. 2545 ■ โล่รางวัลการสนับสนุนโครงการการจัดการสิ่งปฏิกูลตามแนวพระราชดำริ จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

■ รางวัลมูลนิธิดีเด่นระดับภาคที่ 1 ลำดับที่ 1
จากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

■ เกียรติบัตรยกย่องเป็นครูภูมิปัญญาไทย ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี
จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ

■ โล่รางวัลอาสาสมัครดีเด่น
จากนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

■ โล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรดีเด่นที่ให้การสนับสนุนคนพิการ
จากรองนายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง

พ.ศ. 2546 ■ โล่รางวัล PCD Awards 2002 ด้านบุคคลดีเด่นด้านการจัดการขยะมูลฝอย จากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

■ ปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ
จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

■ เกียรติบัตรสาขาการอภิปรายถ่ายทอดเสียง วิชาการทางพระพุทธศาสนา จากสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

■ โล่เกียรติยศผู้มีส่วนร่วมถวายความจงรักภักดีในการจัดงาน 5 ธันวามหาราชและงาน 12 สิงหาราชินีนาถ
จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ

■ โล่เกียรติยศบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเยาวชน
จากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา

■ รางวัลพระภิกษุผู้อุทิศตนในการป้องกันและต่อต้านยาเสพติด
จากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ

...
  
หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปัญญานันโท) (11 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550) หรือที่รู้จักกันดีทั่วไปคือ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะพระสงฆ์ผู้ปฏิรูปแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ไทย ผู้เป็นสหธรรมิกร่วมอุดมการณ์คนสำคัญของพระธรรมโกษาจารย์ (เงื่อม อินทปัญโญ) และผู้อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจนวาระสุดท้ายของชีวิต

พระพรหมมังคลาจารย์กำเนิดที่ ตำบลคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 เดิมมีนามว่า ปั่น เสน่ห์เจริญ หลังใช้ชีวิตฆราวาสจนมีอายุได้ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอุปนันทนาราม จังหวัดระนอง โดยมี พระรณังคมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดนางลาด อ.เมือง จ.พัทลุง โดยมี พระจรูญกรณีย์ เป็นอุปัชฌาย์เมื่อปี พ.ศ. 2474

ท่านมรณภาพวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ด้วยอาการปอดอักเสบและไตวาย ที่โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุรวม 96 ปี
เนื้อหา
[ซ่อน]

* 1 ศึกษาหาหลักธรรม
* 2 เผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ
* 3 สหายธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุ
* 4 ประกาศธรรมแก่ชาวบ้านที่เชียงใหม่
* 5 วัดชลประทานรังสฤษฎ์
* 6 ผลงานและเกียรติคุณ
o 6.1 งานด้านการปกครอง
o 6.2 งานด้านการศึกษา
o 6.3 งานด้านการเผยแผ่
o 6.4 การปฏิบัติศาสนากิจในต่างประเทศ
o 6.5 งานด้านสาธารณูปการ
o 6.6 งานด้านสาธารณประโยชน์
o 6.7 งานพิเศษ
o 6.8 งานด้านวิทยานิพนธ์
o 6.9 เกียรติคุณที่ได้รับ
o 6.10 สมณศักดิ์ที่ได้รับ
* 7 มรณภาพ
* 8 อ้างอิง

[แก้] ศึกษาหาหลักธรรม

หลังจากอุปสมบทได้ไม่นาน ได้เดินทางไปศึกษาหาหลักธรรมในบวรพุทธศาสนาหลายจังหวัดที่มีสำนักเรียนธรรมะ เช่น นครศรีธรรมราช สงขลา และกรุงเทพมหานคร จนหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรีเป็นที่ 1 ของสังฆมณฑลภูเก็ต และสามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท และเอกในปีถัดมาที่ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นท่านได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านภาษาบาลีจนสามารถสอบเปรียญธรรม 4 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร แต่เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้หลวงพ่อต้องหยุดการศึกษาไว้เพียงเท่านั้น แล้วเดินทางกลับพัทลุงภูมิลำเนาเดิมและได้เริ่มแสดงธรรมในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้ รวมทั้งเดินทางไปจำพรรษาที่วัดสีตวนารามและวัดปิ่นบังอร รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างที่จำพรรษาอยู่นี้ก็ได้ศึกษาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน เพื่อเป็นพื้นฐานในการเผยแพร่ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป
[แก้] เผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ

* พ.ศ. 2475 หลวงพ่อมีโอกาสร่วมเดินทางไปประเทศพม่า กับพระโลกนาถชาวอิตาลีสหายธรรม ร่วมเดินทางแสวงบุญไปประเทศอินเดียและทั่วโลกโดยผ่านทางประเทศพม่าด้วยเท้าเปล่าเพื่อเป็นพุทธบูชา แต่เมื่อเดินทางถึงประเทศพม่าก็ต้องเดินทางกลับ
* ระหว่างปี พ.ศ. 2475-2476 หลวงพ่อได้มีโอกาสเดินทางไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศหลายประเทศ จนหลวงพ่อได้ชื่อว่า เป็นพระสงฆ์รูปแรกของไทยที่ได้เดินทางไปประกาศธรรมในภาคพื้นยุโรป

[แก้] สหายธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุ

พ.ศ. 2477 หลวงพ่อได้เดินทางไปจำพรรษากับพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ที่สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และร่วมเป็นสหายธรรมดำเนินการเผยแพร่หลักธรรมที่แท้จริงตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
[แก้] ประกาศธรรมแก่ชาวบ้านที่เชียงใหม่

* ในปี พ.ศ. 2492 หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ได้รับอาราธนานิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดอุโมงค์ จ.เชียงใหม่ และได้เริ่มแสดงธรรมในทุกวันอาทิตย์และวันพระที่พุทธนิคม จ.เชียงใหม่ พร้อมกันนี้หลวงพ่อได้เขียนบทความต่างๆ ลงในหนังสือพิมพ์และเขียนหนังสือธรรมะขึ้นจำนวนหลายเล่ม นอกจากนี้ หลวงพ่อได้เดินทางไปประกาศธรรมแก่ชาวบ้าน ชาวเขาโดยใช้รถติดเครื่องขยายเสียง จนชื่อเสียงของหลวงพ่อดังกระฉ่อนไปทั่ว จ.เชียงใหม่ ในนาม "ภิกขุปัญญานันทะ"
* ในยุคนี้เองที่หลวงพ่อได้ก่อตั้งมูลนิธิ "เมตตาศึกษา" ที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ และบำเพ็ญศีล กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกมากมาย

[แก้] วัดชลประทานรังสฤษฎ์

* ในปี พ.ศ. 2502 ม.ล.ชูชาติ กำภู อธิบดีกรมชลประทาน ในสมัยนั้น ระหว่างที่ไปเยือนเชียงใหม่มีความประทับใจ ในลีลาการสอนธรรมะแนวใหม่ของหลวงพ่อ จึงเกิดความศรัทธาปสาทะในหลวงพ่อ และในขณะนั้นกรมชลประทานได้สร้างวัดใหม่ขึ้น ชื่อ "วัดชลประทานรังสฤษฎ์" ที่ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้อาราธนาหลวงพ่อไปเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน
* พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) ได้ดำเนินการเผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยวิธีที่ท่านได้เริ่มปฏิวัติรูปแบบการเทศนาแบบดั้งเดิมที่นั่งเทศนาบนธรรมาสน์ถือใบลาน มาเป็นการยืนพูดปาฐกถาธรรมแบบพูดปากเปล่าต่อสาธารณชน พร้อมทั้งยกตัวอย่างเหตุผลร่วมสมัย ทันต่อเหตุการณ์ เป็นการดึงดูดประชาชนให้หันเข้าหาธรรมะได้เป็นเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงแรกๆ ได้รับการต่อต้านอยู่บ้าง แต่ต่อมาภายหลังการปาฐกถาธรรมแบบนี้กลับเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปจนถึงบัดนี้ เมื่อพุทธศาสนิกชนทราบข่าวว่า หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุจะไปปาฐกถาธรรมที่ใดก็จะติดตามไปฟังกันเป็นจำนวนมาก จนในที่สุดหลวงพ่อได้รับอาราธนาให้เป็นองค์แสดงปาฐกถาธรรมในสถานที่ต่างๆ และเทศนาออกอากาศทั้งทางสถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ จนถึงปัจจุบัน
* นอกจากนี้ หลวงพ่อยังได้รับอาราธนาไปแสดงธรรมในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น และยังได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมและกล่าวคำปราศรัยในการประชุมองค์กรศาสนาของ โลกเป็นประจำอีกด้วย
* โดยที่หลวงพ่อท่านเป็นพระมหาเถระผู้มีชื่อเสียงของประเทศไทย ได้สร้างงานไว้มากมายทั้งด้านศาสนาสังคมสงเคราะห์ตลอด จนงานด้านวิชาการ ดังนั้นหลวงพ่อจึงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ได้รับรางวัลเกียรติคุณมากมาย และเป็นประธานในการดำเนินกิจกรรมทั้งที่เป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและ สังคม เช่น สนับสนุนโครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดน เป็นประธานจัดหาทุนสร้างตึกโรงพยาบาล กรมชลประทาน 80 ปี (ปัญญานันทะ) และเป็นประธานในการดำเนินการจัดหาทุนสร้างวัดปัญญานันทาราม ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ แม้ว่าคำสอนของหลวงพ่อจะเป็นคำสอนที่ฟังง่ายต่อการเข้าใจ แต่ลึกซึ้งด้วยหลักธรรมและอุดมการณ์อันหนักแน่นในพระรัตนตรัย หลวงพ่อปัญญานันทภิภขุ เป็นหนึ่งในบรรดาภิกษุผู้มีชื่อเสียง และเปี่ยมด้วยคุณธรรมเมตตาธรรม ผู้นำคำสอนในพระพุทธศาสนา ซึ่งเหมาะสมสำหรับชนทุกชั้นที่จะเข้าถึง หลวงพ่อเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่กล้าในการปฏิรูปพิธีกรรมทางศาสนา ของชาวไทยที่ประกอบพิธีกรรมหรูหรา ฟุ่มเฟือย โดยเปลี่ยนเป็นประหยัด มีประโยชน์และเรียบง่าย ดังนั้น หลวงพ่อจึงได้รับการขนานนามว่า "ผู้ปฏิรูปพิธีกรรมของชาวพุทธไทย" ในปัจจุบัน

[แก้] ผลงานและเกียรติคุณ
Crystal Clear teamwork.png
บทความนี้มีลักษณะเหมือนประวัติสมัครงาน คุณสามารถร่วมแก้ไขปรับปรุงได้ โดยเขียนให้มีลักษณะเป็นสารานุกรมมากยิ่งขึ้น
[แก้] งานด้านการปกครอง

* พ.ศ. 2503 เป็นเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์
* พ.ศ. 2506 ได้รับพระบัญชา แต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
o เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 9
o เป็นรองเจ้าคณะภาค 18
* พ.ศ. 2515 เป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธธรรม ชิคาโก สหรัฐอเมริกา

[แก้] งานด้านการศึกษา

* พ.ศ. 2503 เป็นเจ้าสำนักศาสนาศึกษา แผนกธรรมและบาลีวัดชลประทานรังสฤษฏ์
* พ.ศ. 2512 เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนพุทธศาสนาวัดอาทิตย์ ระดับอนุบาล ประถม มัธยมศึกษา
* พ.ศ. 2524 เป็นผู้อำนวยการจัดการการอบรมพระธรรมทายาทของวัดชลประทานรังสฤษฏ์
o เป็นผู้อำนวยการจัดการอบรมพระนวกะที่บวชในวัดชลประทานรังสฤษฏ์

[แก้] งานด้านการเผยแผ่

* พ.ศ. 2492-2502 เป็นองค์แสดงปาฐกถาธรรมประจำวันพระและวันอาทิตย์ ณ พุทธนิคม สวนพุทธธรรม วัดอุโมงค์ จ.เชียงใหม่
* พ.ศ. 2500 เป็นประธานมูลนิธิ "ชาวพุทธมูลนิธิ" จังหวัดเชียงใหม่
o เป็นประธานก่อตั้งพุทธนิคม จ.เชียงใหม่
* พ.ศ. 2503 เป็นองค์แสดงธรรมทางสถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุโทรทัศน์
o เป็นผู้ริเริ่มการทำบุญ ฟังธรรมในวันอาทิตย์ ณ วัดชลประทานรังสฤษฏ์
o เป็นผู้ก่อตั้งทุนพิมพ์หนังสือเพื่อเผยแผ่ธรรมะแก่ประชาชน พ.ศ. 2520
o เป็นผู้อบรมผู้ช่วยผู้พิพากษา
* พ.ศ. 2525 รับเป็นองค์แสดงธรรมแก่วุฒิสมาชิก และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
* พ.ศ. 2534 เป็นผู้ริเริ่ม ค่ายคุณธรรมแก่เยาวชน เรียกว่า "ค่ายพุทธบุตร" ในโรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ฯลฯ
* พ.ศ. 2536 จำพรรษา ณ วัดพุทธธรรม ชิคาโก สหรัฐอเมริกา

[แก้] การปฏิบัติศาสนากิจในต่างประเทศ

* พ.ศ. 2497 เดินทางเผยแผ่ธรรมรอบโลก
* ช่วยเหลือกิจการพุทธศาสนา เผยแผ่ธรรมะในต่างประเทศ คือ ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เยอรมัน
* เป็นเจ้าอาวาสววัดพุทธธรรม วัดไทยในชิกาโก สหรัฐอเมริกา

[แก้] งานด้านสาธารณูปการ

* พ.ศ. 2516 เป็นประธานในการก่อสร้างกุฏิสี่เหลี่ยม เพื่อเป็นที่อยู่แก่พระภิกษุผู้บวชใหม่
* พ.ศ. 2518 เป็นประธานในการก่อสร้างโรงเรียนพุทธธรรม
* เป็นประธานในการก่อสร้างโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
* พ.ศ. 2537 เป็นประธานก่อสร้างกุฏิสองหลังเป็นกุฏิทรงไทยประยุกต์

[แก้] งานด้านสาธารณประโยชน์

* พ.ศ. 2533 เป็นประธานหาทุนสร้าง "ตึก 80 ปี ปัญญานันทะ" ให้โรงพยาบาลชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
* สร้างศูนย์ฝึกและปฏิบัติงาน มูลนิธิแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
* พ.ศ. 2534 บริจาคเงินสร้างอุโบสถวัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) จ.เชียงใหม่
* พ.ศ. 2537 บริจาคเงินสร้างโรงอาหารแก่โรงเรียนประภัสสรรังสิต อ.เมือง จ.พัทลุง
* บริจาคเงินซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลวชิระ จ.ภูเก็ต
* รับมอบที่ดินและเป็นประธานหาทุนสร้างและอุปถัมภ์ วัดปัญญานันทาราม จ.ปทุมธานี
* บริจาคเงินเป็นทุนอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในโรงเรียนท้องถิ่นที่ขาดแคลนต่างๆ หลายจังหวัด
* ได้แสดงธรรมเพื่อหาเงินสบทบทุนในจัดสร้างอาคารเรียน 100ปี โรงเรียนพัทลุง จังหวัดพัทลุง
* แสดงธรรมเพื่อหาเงินสมบทในจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลพัทลุง จังหวัดพัทลุง
* เป็นประธานหาทุนปรับปรุงและยกฐานะโรงพยาบาลชลประทานเป็นศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ-ชลประทาน

[แก้] งานพิเศษ

* พ.ศ. 2503 เป็นองค์แสดงธรรมถวายสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ณ ตำหนักจิตรลดารโหฐาน
* พ.ศ. 2518 เป็นองค์แสดงธรรมถวายสมเด็จพรเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ณ ศาลาการเปรียญ วัดชลประทานรังสฤษฏ์
* เป็นองค์แสดงธรรมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และ พระบรมวงศานุวงศ์ เนื่องในพระราชพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รามาธิบดีอันมีศักดิ์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
* เป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทแก่ช่าวต่างประเทศ ที่อุปสมบทในประเทศไทย เช่น ชาวอเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมัน ญี่ปุ่น และศรีลังกา เป็นต้น
* พ.ศ. 2529 ได้รับนิมนต์เข้าร่วมประชุมพุทธศาสนิกสัมพันธ์อาเชี่ยนเพื่อสันติภาพ ครั้งที่ 7 ที่ประเทศประชาธิปไตยประชาชนลาว (12th Asain Buddist Conference for Peace)
* พ.ศ. 2536 ได้รับนิมนต์ไปร่วมประชุมและบรรยาย ในการประชุมสภาศาสนาโลก 1993 ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา (The 1993 Parliament of the world's Religion)

[แก้] งานด้านวิทยานิพนธ์

ได้เขียนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น

1. ทางสายกลาง
2. คำถามคำตอบพุทธศาสนา
3. คำสอนในพุทธศาสนา
4. หน้าที่ของคนฉบับสมบูรณ์
5. รักลูกให้ถูกทาง
6. ทางดับทุกข์
7. อยู่กันด้วยความรัก
8. อุดมการณ์ของท่านปัญญา
9. ปัญญาสาส์น
10. ชีวิตและผลงาน
11. มรณานุสติ
12. ทางธรรมสมบูรณ์แบบ
13. 72 ปี ปัญญานันทะ
14. กรรมสนองกรรม เป็นต้น

[แก้] เกียรติคุณที่ได้รับ

* พ.ศ. 2520 ได้รับรางวัล "สังข์เงิน" จากสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ในฐานะพระภิกษุผู้เผยแผ่ธรรมะและศีลธรรมยอดเยี่ยมของประเทศไทย
* พ.ศ. 2521 ได้รับรางวัล "นักพูดดีเด่น" ประเภทเผยแผ่ธรรม จากสมาคมฝึกพูดแห่งประเทศไทย
* พ.ศ. 2525 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระศาสนา เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จากกรมการศาสนา โดยได้รับรางวัลและประกาศเกียรติคุณ 2 รางวัล คือ ประเภท ก.บุคคล และประเภท ข.สื่อสารมวลชน (รายการส่งเสริมธรรมะทางสถานีวิทยุโทรทัศน์)
* พ.ศ. 2524 ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาครุศาสตร์ จาก มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
* พ.ศ. 2531 ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง
* พ.ศ. 2534 ได้รับปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรจน์
* พ.ศ. 2536 ได้รับปริญญาอักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
* พ.ศ. 2536 ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปรัชญาและศาสนา) จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
* พ.ศ. 2537 ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
* พ.ศ. 2548 ได้รับการยกย่องเป็นศิษย์เก่าดีเด่น เนื่องในโอกาสงานครบรอบ 100 ปี โรงเรียนพัทลุง จากโรงเรียนพัทลุง
* พ.ศ. 2550 ได้รับยกย่องเชิดชู ในฐานะ "ผู้สูงอายุแห่งชาติ" ประจำปี 2550 ผู้มีผลงานดีเด่นคนแรก (รูปแรก) ของประเทศ

[แก้] สมณศักดิ์ที่ได้รับ

* วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ "พระปัญญานันทมุนี"
* วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2514 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชนันทมุนี"
* วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ "พระเทพวิสุทธิเมธี"
* วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมโกศาจารย์ สุนทรญาณดิลก สาธกธรรมภาณ วิสาลธรรมวิภูษิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี"
* วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏหรือรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ "พระพรหมมังคลาจารย์ ไพศาลธรรมโกศล วิมลศีลาจารวินิฐ พิพิธธรรมนิเทศ พิเศษวรกิจจานุกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี"

[แก้] มรณภาพ

พระพรหมังคลาจารย์ถึงแก่มรณภาพเมื่อเวลา 9.09 น. ในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยเหตุติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริรวมอายุได้ 96 ปี 5 เดือน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานโกศแปดเหลี่ยมและรับศพไว้ในพระราชานุเคราะห์
[แก้] อ้างอิง

* หนังสือชีวประวัติปัญญานันทภิกขุ (สนพ.ธรรมสภา)
* วัดชลประทานรังสฤษฎ์

สมัยก่อนหน้า พระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปญฺญานนฺโท) สมัยถัดไป
พระธรรมโกษาจารย์ (เงื่อม อินทปัญโญ) 2leftarrow.png พระธรรมโกษาจารย์ (ปั่น ปัญญานันโท)
(พ.ศ. 2537 - พ.ศ. 2547) 2rightarrow.png พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C_(%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99_%E0%B8%9B%E0%B8%8D%E0%B8%BA%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%BA%E0%B9%82%E0%B8%97)".
หมวดหมู่: บทความเหมือนเรซูเม | บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2454 | บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2550 | พระภิกษุสงฆ์ | พระสงฆ์ไทย | ชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธ | เปรียญธรรม ๔ ประโยค | ผู้ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | ผู้ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | ผู้ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง | ชาวพัทลุง | ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร | พระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ | ผู้ได้รับรางวัลพุทธคุณูปการ ...
  
การเขียนรายงานการค้นคว้า
หนังสือ การเขียนรายงานการค้นคว้า มีตัวอย่างประกอบให้ดูให้ศึกษาไม่ว่าจะเป็นภาคนิพนธ์ รายงาน
แต่งโดย รศ.พูนสุข เอกไทยเจริญ ...
  
เฉลิมชัย ศิลปการดำเนินชีวิต 2
16
...
  
English Breakfast - Tea Break "ครูเคท" 29.8.10
16
...
  
Case study โออิชิ (6)
16
...
  
Born To Win เกิดมาเพื่อชนะ
Born To Win เกิดมาเพื่อชนะ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
คนเราในโลกนี้ช่างมีความสวยงาม มีความยิ่งใหญ่ มีความหลากหลาย มีความสามารถ ดังจะเห็นได้ว่าสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกนี้ล้วนเกิดจากน้ำมือของมนุษย์เราหรือคนเราทั้งสิ้น แต่มีสิ่งใดที่แบ่งคนเราให้แตกต่างกัน ทำไมคนบางคนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แต่ทำไมคนอีกจำนวนมากมายกลับล้มเหลว ทำไมคนบางคนเกิดมาเพื่อชนะแต่ทำไมคนบางคนซึ่งเป็นจำนวนมากกลับเกิดมาเพื่อความพ่ายแพ้
จากงานวิจัย จากการสำรวจ จากการศึกษาค้นคว้า สิ่งที่ทำให้มนุษย์ในโลกนี้แตกต่างกันระหว่างผู้ที่ชนะและผู้ที่พ่ายแพ้ แตกต่างระหว่างผู้ที่ประสบความสำเร็จและผู้ที่ล้มเหลว มีหลายสิ่งดังนี้
1.เป้าหมาย ผู้ประสบความสำเร็จหรือผู้ชนะ มักมีเป้าหมายในชีวิตที่แน่นอน แตกต่างกับผู้ที่ล้มเหลวหรือผู้ที่พ่ายแพ้ มักไม่มีเป้าหมายในชีวิต เป้าหมายคือวัตถุประสงค์ที่เราต้องการ เป้าหมายคือสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จ หากท่านต้องการประสบความสำเร็จหรือเป็นผู้ชนะ จงสร้างเป้าหมายขึ้น เช่น อีก 10 ปี ข้างหน้าท่านจะมีรายได้เท่าไร ท่านต้องการตำแหน่งหรือความรับผิดชอบระดับใด มีชื่อเสียงระดับไหน เป็นต้น สำหรับการวางเป้าหมายเราไม่ควรวางให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป ไม่ควรวางเป้าหมายในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ การวางเป้าหมายที่ดีควรมีการวางเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว และเมื่อลงมือทำจนบรรลุเป้าหมายหรือประสบความสำเร็จแล้ว ควรตั้งเป้าหมายครั้งต่อไปให้สูงขึ้น ไม่ควรหยุดในการตั้งเป้าหมาย
2.มีความมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ มีการวางแผนเพื่อไปสู่เป้าหมาย ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่ประสบความสำเร็จ ในโลกนี้ไม่มีใครที่ล้มเหลว หากแต่ว่าเขาล้มเลิกก่อนเวลาที่จะถึงเป้าหมายที่วางไว้ จงกล้ายอมรับการพ่ายแพ้หรือความล้มเหลวเพียงแค่ชั่วคราว จงอย่าได้หมดกำลังใจ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ หากว่าท่านยึดมั่นในเป้าหมายแล้วย่อมมีวิธีการต่างๆไปสู่เป้าหมายนั้น หากว่าวิธีการที่ท่านได้คิดเอาไว้ไม่สำเร็จ ท่านอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่ๆดู แต่เป้าหมายของท่านไม่ควรเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ จงนั่งวางแผนเพื่อไปสู่เป้าหมาย จงนั่งคิดหาวิธีการเพื่อไปสู่เป้าหมาย
3.สร้างนิสัย ททท.หรือทำทันที เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง คนที่ประสบความสำเร็จ คนที่เกิดมาเพื่อที่เป็นผู้ชนะ เมื่อเขากำหนดเป้าหมายแล้ว วางแผนหาวิธีการแล้ว เขาจะลงมือ ทำทันที เขาจะไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เพราะถ้าหากเราไม่ลงมือทำทันทีหรือผัดวันประกันพรุ่ง แผนที่วางเอาไว้หรือวิธีการที่วางเอาไว้ก็จะเปล่าประโยชน์ จงลงมือทำแล้วท่านจะพบกับความสำเร็จ
4.จงคิดบวก จงพูดบวกกับตนเองบ่อยๆ ไม่ควรคิดลบหรือไม่ควรใช้ภาษาที่ลบ การพูดบวกกับตัวเองบ่อยๆ จะช่วยให้เราเกิดทัศนคติในด้านบวกต่อตนเอง ต่อคนรอบข้าง ต่อการดำเนินชีวิต การคิดบวก การพูดบวกมักจะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่ตรงกันข้าม การคิดลบ การพูดลบกับตัวเองมักจะดึงดูดสิ่งที่ร้ายเข้ามาในชีวิตเช่นกัน จงเปลี่ยนความคิดให้เป็นบวก จงเปลี่ยนการพูดให้บวก แล้วชีวิตของเราก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
5.จงบริหารเวลา จงบริหารชีวิต คนเรามีเวลาเท่ากันทุกคน แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือผู้ที่ชนะ มักเป็นผู้ที่บริหารเวลา บริหารชีวิต ได้อย่างสมดุล สำหรับคนๆหนึ่งเรามักใช้เวลาแต่ละวันไปกับสิ่งต่างๆ ซึ่งอาจแบ่งเป็น เรื่องของ 1.ครอบครัว 2.สังคม 3.หน้าที่การทำงานหรือการเรียน 4.สุขภาพ 5.การผักผ่อน ดังนั้นหากใครสามารถวางแผนบริหารเวลาได้อย่างเหมาะสม ชีวิตของท่านก็เกิดความสมดุลขึ้น จะมีประโยชน์อะไรเหล่า ถ้าหากว่าท่านทุ่มเททำงานจนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่สุขภาพของท่านย่ำแย่ เป็นโรคต่างๆ แทบเดินไม่ไหว
6.จงตรวจสอบ ทบทวน สิ่งต่างๆที่ท่านได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายที่วางเอาไว้ ให้หมั่นทบทวน นึกถึงฝันถึงบ่อยๆ จงตรวจสอบวิธีการว่าวิธีการที่ได้วางแผนเอาไว้ สามารถปฏิบัติได้จริงหรือเปล่า หากไม่สามารถปฏิบัติได้จริงท่านไม่ควรเสียเวลา ควรเปลี่ยนวิธีการเสียใหม่ จงตรวจสอบการกระทำของท่านว่าท่านได้ลงมือทำทันทีหรือไม่ เป้าหมายที่วางเอาไว้เป็นรายวัน รายเดือน รายปี ท่านได้ทำไปหรือไม่ แล้วดำเนินการแก้ไขทันที จงตรวจสอบความคิด การพูดของท่านว่าท่านคิดบวกหรือพูดบวกหรือไม่ หากไม่ก็จงรีบแก้ไขปรับปรุง และจงตรวจสอบเรื่องของการบริหารเวลา การบริหารชีวิต ว่าแต่ละวันท่านได้ทำอะไรไปบ้าง เกิดประโยชน์หรือเปล่า แล้วทำการวางแผนบริหารเวลา เสียใหม่
ทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นปัจจัยบางส่วนที่ทำให้ เกิดความแตกต่างกันระหว่างผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือคนที่ล้มเหลว และ เกิดความแตกต่างระหว่างผู้ที่ชนะหรือผู้ที่พ่ายแพ้ คนเราเกิดมาไม่ได้มีแผ่นป้ายผูกติดหรือเขียนติดว่าเราจะเป็นอะไร เช่น เป็นครู เป็นหมอ เป็นทนายความ เป็นอัยการ เป็นนักการเมือง เป็นผู้ประสบความสำเร็จ เป็นผู้ชนะ ท่านสามารถเป็นอะไรก็ได้ ก็ด้วยการฝึกฝนตนเอง การพัฒนาตนเอง จงฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง และท่านสามารถเกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะได้ จงเชื่อว่าท่านเกิดมาเพื่อ Born To Win

...
  
การบริหารโดยให้พนักงานมีส่วนร่วม
การบริหารโดยให้พนักงานมีส่วนร่วม
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
การบริหารงานที่ดีควรเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วม เพราะการเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วม พนักงานจะมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร อีกทั้งยังจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหา เมื่อองค์กรมีปัญหา ซึ่งกิจกรรมที่ควรเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมมีดังนี้
1.การมีส่วนร่วมประชุมภายในองค์กร การเปิดโอกาสให้พนักงานร่วมประชุมจะทำให้พนักงานได้รับรู้ข้อมูล ข่าวสาร สถานการณ์ขององค์กร หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่พนักงานก็จะได้รู้จักกันมากขึ้น
2.การมีส่วนร่วมตัดสินใจ การบริหารงานที่ดีผู้บริหารควรเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมมือและร่วมในการตัดสินใจ เพราะหากพนักงานเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ พนักงานก็จะมีส่วนรับผิดชอบในงานมากกว่าการที่พนักงานไม่มีส่วนร่วมในการร่วมตัดสินใจ
3.การมีส่วนร่วมในการสร้างระบบงาน ในปัจจุบันหลายๆองค์กรได้นำเอาระบบเข้ามาเพื่อพัฒนาองค์กร เช่น ระบบคิวซี ระบบรีเอ็นจิเนียริ่ง ระบบมาตรฐาน ISO เป็นต้น การบริหารงานที่ดีต้องเปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าร่วมในการเรียนรู้ระบบ ศึกษาระบบ อบรมพัฒนาระบบ
4.การมีส่วนร่วมในการสื่อสารภายในและภายนอก การสื่อสารในองค์กรมีหลายรูปแบบ เช่น การสื่อสารแบบบนลงล่าง การสื่อสารแบบล่างขึ้นบน การสื่อสารระดับแนวเดียวกัน การสื่อสารภายนอกองค์กร การเปิดโอกาสให้พนักงานสื่อสารภายในและภายนอกองค์กร จะทำให้พนักงานรับรู้ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น อีกทั้งพนักงานยังเป็นผู้ซึ่งเผยแพร่ข่าวสารจากภายในองค์กรไปยังภายนอกองค์กรได้ด้วย
5.การมีส่วนร่วมในกิจกรรมสัมพันธ์ กิจกรรมสัมพันธ์เป็นการกระทำเพื่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคนในองค์กร เช่น การจัดงานเลี้ยงปีใหม่ การจัดงานครอบครัว การจัดงานพิธีครบรอบขององค์กรพร้อมทั้งมอบรางวัลพนักงานดีเด่น เป็นต้น
6.การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสโมสร ชมรม ต่างๆที่เป็นขององค์กร หลายองค์กรได้มีการจัด สโมสรกีฬา สโมสรฟุตบอล ชมรมโต้วาที ชมรมร้องเพลง ชมรมคาราโอเกะ ชมรมนักสะสม ฯลฯ ผู้บริหารควรสนับสนุนให้พนักงานได้เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เพื่อเป็นการให้พนักงานเกิดสังคมใหม่ๆและเกิดการพัฒนาตนเอง
7.การมีส่วนร่วมในการสัมมนา ฝึกอบรม หลายองค์กรมักไม่ยอมลงทุนในการจัดการสัมมนา จัดการฝึกอบรม เนื่องจากต้องการประหยัดเงิน อีกทั้งไม่ต้องการให้พนักงานใช้เวลาในการทำงานไปสัมมนาหรือไปอบรม แต่ผู้บริหารควรตระหนักว่า การที่มีพนักงานที่เก่ง ฉลาด รอบรู้ ขยัน สามารถแก้ปัญหาให้องค์กรได้ หากว่ามีพนักงานลักษณะนี้มากๆ จะทำให้องค์กรเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วขนาดไหน การจัดอบรม การจัดสัมมนา จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พนักงานเกิดพัฒนาตนเอง
ดังนั้น การบริหารโดยให้พนักงานมีส่วนร่วมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการบริหารงานสมัยใหม่ ซึ่งในอดีตผู้บริหารอาจใช้คำว่า “ ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ”ได้ โดยไม่ต้องให้พนักงานมีส่วนร่วมเช่น ร่วมตัดสินใจหรือให้รับฟังแต่คำสั่งอย่างเดียว แต่การบริหารสมัยใหม่ ผู้บริหารต้องเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมมากที่สุด หากผู้บริหารสามารถทำได้ก็จะทำให้ผู้บริหารทำงานน้อยลง มีเวลามากขึ้น แบกรับภาระน้อยลง และทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น





...
  
Marketing Mindset
Marketing Mindset
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จในวงการต่างๆ เขามักจะมี Mindset เป็นของตนเอง เช่น มหาเศรษฐีโลก เขาก็จะมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ มีความคิดแบบอภิมหาเศรษฐี ซึ่งแตกต่างกับ คนทำงานใช้แรงงาน เช่น กรรมกร ลูกจ้าง เขาก็จะมีความคิดแบบคนใช้แรงงาน หาเช้ากินค่ำ ความคิดแบบลูกจ้าง
โดนัลด์ ทรัมป์ หรือดีที. อภิมหาเศรษฐีวัย 69 ปี ผู้ประกาศตนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เขาอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ เขาใช้ชีวิตที่คุ้มค่ามากมีอยู่หลายครั้งที่ธุรกิจของเขา ประสบปัญหาถึงขั้นล้มละลาย แต่เขาก็สามารถพลิกฟื้นธุรกิจของเขาขึ้นมาใหม่ได้ มีคนวิเคราะห์ว่า ทำไมเขาจึงประสบความสำเร็จ อย่างยิ่งใหญ่ ความจริงมีหลายเหตุผล แต่มีเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือ เขาเป็นคนมี Mindset แบบอภิมหาเศรษฐีนั่นเอง
แล้ว Marketing Mindset คืออะไร Marketing Mindset คือ ความคิด ความเชื่อ ทางการตลาดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมต่อการกระทำของบุคคลนั้นๆ ซึ่งความคิด ความเชื่อ Mindset ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
Mindset จึงเหมือนกับแบบแปลนบ้าน ก่อนที่จะสร้างบ้าน เราควรมีแบบแปลนบ้านเสียก่อน ไม่ใช้คิดจะปลูกบ้าน สร้างบ้าน ก็สร้างเลย ถ้าทำเช่นนี้ อาจจะทำให้เกิดการผิดพลาดในการก่อสร้างได้ แล้วผลที่ตามมาก็คือ ต้องเสียเวลา เสียเงินทอง ในการแก้ไข ปรับปรุง เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตนเอง แต่ถ้าเรามีแบบแปลนบ้าน เราก็จะสร้างบ้านได้ตามแผนหรือแบบแปลน ทำให้ไม่เสียเวลา ไม่เสียค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
Marketing Mindset จึงมีความสำคัญ ถ้าใครมี Marketing Mindset ที่ผิด เขาก็จะเกิดความผิดพลาดในการทำงานด้านการตลาดและต้องเสียเวลาแก้ไข ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ฉะนั้น ก่อนที่จะเป็นนักการตลาดที่ดีและประสบความสำเร็จ นักการตลาดควรมี Marketing Mindset เป็นของตนเองเสียก่อน ซึ่ง Marketing Mindset ของแต่ละคนนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน แต่สำหรับกระผม Marketing Mindset มีดังนี้
1. การตลาดคือ การตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งการทำการตลาด นักการตลาดจะต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าก่อนว่าลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์ การวิจัยทางการตลาดการลงพื้นที่ไปสำรวจความต้องการของลูกค้า แล้วจึงทำการวางแผนการทำการตลาด แล้วลงมือปฏิบัติต่อไป
2.การตลาดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ นักการตลาดต้องเข้าใจก่อนว่า การตลาดเป็นทั้งศาสตร์คือ สามารถเรียนรู้ได้จาก ตำรา หนังสือ การเข้ารับการอบรม แต่จะเก่งหรือไม่เก่ง แต่จะนำเอาหลักวิชาการทางด้านตลาดไปใช้ได้อย่างประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว กระผมคิดว่าขึ้นอยู่กับศิลป์ ซึ่ง ศิลป์ก็คือ การประยุกต์ใช้ ศาสตร์นั้นเอง เราจะเห็นได้ว่า คนที่เรียนหนังสือเก่งสอบได้เกียรตินิยมทางด้านการตลาด เมื่อนำหลักวิชาการทางด้านการตลาดไปปฏิบัติ อาจพ่ายแพ้การแข่งขันทางด้านการตลาดกับ คนที่เรียนหลักวิชาการทางด้านการตลาดน้อยกว่าก็ได้ ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจาก การประยุกต์ใช้นั้นเอง คนที่เรียนวิชาการตลาดมาน้อยกว่าสามารถประยุกต์ใช้เก่งกว่า หรือมีศิลป์ในการประยุกต์ใช้มากกว่านั้นเอง
3.การตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่นิ่ง ฉะนั้น นักการตลาดที่ดีจะต้องไวต่อการปรับตัว ไวต่อการแข่งขัน หลักวิชาการตลาด เรื่องหนึ่งในอดีตอาจใช้ได้ผลในยุคสมัยหนึ่ง แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน นักการตลาดที่ดีจะต้องมีการปรับตัวต่อสถานการณ์นั้นๆ
4.การตลาดที่ดีควรมีการวางแผนก่อนลงมือปฏิบัติจริง เพราะถ้าไม่มีการวางแผนการตลาดที่ดี นักการตลาดก็จะขาดทิศทางในการทำงาน ซึ่งการวางแผนที่ดีควรประกอบไปด้วย เรื่องของ การวิเคราะห์ลูกค้า การวิเคราะห์สถานการณ์ การตั้งวัตถุประสงค์ การตั้งเป้าหมาย การวางแผนในการทำงาน การประเมินผลและการปรับปรุง แก้ไขการทำงานด้านการตลาด
5.การตลาดที่ดีที่สุดต้องรู้จัก ยืดหยุ่น เนื่องจากการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การตลาดเป็นศิลป์ ฉะนั้น นักการตลาดจึงจำเป็นจะต้องยืดหยุ่น เมื่อมีการวางแผนที่ดีแล้ว แต่เมื่อนำไปปฏิบัติ สถานการณ์อาจเกิดความพลิกผัน เปลี่ยนแปลง ฉะนั้น นักการตลาดระดับเซียนจึงต้อง เรียนรู้และรู้จักการยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยน แผนที่วางไว้ ให้เข้ากับสถานการณ์ หรือ การนำแผนการณ์ใหม่ๆมาใช้เมื่อสถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลง
6.การตลาดที่ดีไม่ใช่การเน้นที่การขาย แต่การตลาดที่ดีคือการทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดการอยากที่จะซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ การขายคือการที่บริษัทหรือเจ้าของสินค้า พยามยามให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของตนเองกระจายตัวออกไปให้ถึงมือลูกค้า แต่การตลาดที่ดีคือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าอยากที่จะซื้อสินค้าและบริการ ถ้าเปรียบเทียบกับกลยุทธ์การ ผลักกับการดึงในวิชาการทางด้านการตลาด การขายคือการใช้กลยุทธ์การพลัก แต่ การตลาดคือการใช้กลยุทธ์การดึง
7.การตลาดที่ดีต้องมีการสร้าง Brand การสร้าง Brand คือ หัวใจอย่างหนึ่งของการทำงานทางด้านการตลาด ซึ่งจะทำให้เกิดการจดจำ เกิดการซื้อซ้ำ ดังจะเห็นได้จาก Brand ดังๆ อย่าง Coca-Cola หรือ Red Bull ซึ่งประสบความสำเร็จทางด้านการตลาดจากการสร้าง Brand เป็นต้น
ฉะนั้น นักการตลาดที่เก่ง นักการตลาดที่ประสบความสำเร็จ นักการตลาดระดับเซียน จึงควรมี Mindset ทางด้านการตลาดเป็นของตนเอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือและหลักการในการทำงานทางด้านการตลาด โดยส่วนตัวกระผมเชื่อว่า นักการตลาดที่มี Mindset เป็นของตนเอง จะตัดสินใจ จะทำงาน จะออกแบบ ทางด้านการตลาดได้ดีกว่า นักการตลาดที่ไม่มีหลักการหรือ Mindset เป็นของตนเอง
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.