หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
วาทศิลป์พลิกผันโลก
วาทศิลป์พลิกผันโลก(ชิวหาสามนิ้วเหนือกว่ากองทัพ ที่มีรี้พลอันเกรียงไกรถึงร้อยหมื่น)
แปลโดย ศรีวารี
ราคาเล่มละ 115 บาท เป็นหนังสือที่นำเอาตัวอย่างจากการใช้วาทศิลป์ของชาวจีนโบราณมาวิเคราะห์ แยกแยะ ตัวอย่างภายในหนังสือเช่น
การโต้แย้งกับผู้มีปัญญา พึงต้องมีความรู้อันลึกซึ้ง
การโต้แย้งกับผู้มีความรู้อันกว้างขวางลึกซึ้งพึงต้องเชี่ยวชาญในการใช้วาทศิลป์
การโต้แย้งกับผู้มีความเชี่ยวชาญในการอภิปราย พึงต้องมุ่งให้ความสำคัญกับประเด็นสำคัญ
การโต้แย้งกับผู้อยู่ในตำแหน่งอันสูงศักดิ์ พึงต้องปะทะด้วยอำนาจและอิทธิพล
...
  
ควรพูดให้ได้ทั้งสาระและความบันเทิง
ควรพูดให้ได้ทั้งสาระและความบันเทิง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
การเป็นนักพูดที่ดีนั้น ควรพูดให้ได้ทั้งเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ อีกทั้งมีอารมณ์ขันหรือความบันเทิง สอดแทรกในการพูดแต่ละครั้ง เนื่องจากสังคมไทยเรา หนีไม่พ้นความบันเทิง เพราะสังคมไทยเราชอบความสนุกสนาน ดังเราจะสังเกตเห็นว่า นักพูดที่พูดในเชิงวิชาการอย่างเดียว ไม่สอดแทรกความบันเทิงหรืออารมณ์ขันเลย มักไม่เป็นที่นิยมเท่ากับ บรรดานักพูดที่พูดเนื้อหาสาระแล้วมีการสอดแทรกความบันเทิงหรืออารมณ์ขันลงไปด้วย
ดังนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จในการเป็นนักพูดในสังคมไทยเรา ท่านควรพูดให้ได้ทั้งเนื้อหาในด้านหลักวิชา มีทฤษฏี มีการอ้างอิง มีเหตุผล มีทัศนะ ความเชื่อ มีปฏิภาณตอบโต้ปัญหาต่างๆ มีตลกขบขัน อีกทั้งพูดด้วยความเชื่อมั่นและมั่นใจ หากท่านสามารถพูดได้ดังนี้ จะทำให้ท่านเป็นที่ยอมรับและได้รับความเคารพจากผู้ฟัง
มีคนเคยถามกระผมว่า แล้วถ้าถูกเชิญให้ไปพูดในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะพูดเนื้อหาสาระกี่เปอร์เซ็นต์ ความบันเทิงกี่เปอร์เซ็นต์ กระผมขอตอบว่า เราคงต้องดูปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย เช่น ดูบรรยากาศของงาน ดูการศึกษาของผู้ฟัง ดูว่าเจ้าภาพต้องการให้เราพูดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ฯลฯ
หากเจ้าภาพเชิญให้ไปพูดทอล์คโชว์ แน่นอนว่า การพูดครั้งนั้น ต้องพูดโดยมีเนื้อหาความบันเทิงอย่างเดียว สำหรับสาระคงไม่ต้องมีมาก หรือบางแห่ง ถึงกับบอกเลยว่า เราไม่ต้องการสาระ ขอบันเทิงอย่างเดียวพอ กล่าวคือ ต้องพูดให้คนหัวเราะให้ได้ตลอดงาน ( ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากผู้ฟังมีความหลากหลาย )
แต่ถ้าหากถูกเชิญให้ไปพูดบรรยายในเชิงวิชาการ การอบรมต่างๆ เราก็ควรพูดในเชิงวิชาการให้มากขึ้น สำหรับอารมณ์ขัน ก็ควรมีอยู่บ้าง สำหรับสังคมไทยเรา มักชอบฟังคนพูดแล้วคนหัวเราะ มากกว่า ฟังการพูดแล้วคนเครียด
ฉะนั้น นักพูดที่ดีจึงต้องพูดให้ได้ทั้งเนื้อหาสาระและบันเทิง สำหรับเทคนิคการหาข้อมูลในเรื่องความบันเทิง นักพูดควรขยันสรรหาตัวอย่างต่างๆให้มากๆ ไม่ว่าจะได้จากสิ่งต่างๆ รอบตัว ต้องหมั่นจดจำ ต้องเป็นนักบันทึก ต้องเป็นนักเลียนแบบและพัฒนาตนเอง หมั่นหามุข หรือตัวอย่างสนุกๆ เพราะการยกตัวอย่างสนุกๆ เป็นเครื่องมือในการใช้ประกอบการพูดได้มาก
การยกตัวอย่างสนุกๆ ทำให้เราขยายเวลาหรือเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มเวลาในการพูดได้มากขึ้น เช่น หากมีเวลาเหลืออีก 1 ชั่วโมง เนื้อหาที่เตรียมไปหมดแล้ว เราก็สามารถเพิ่มตัวอย่างที่สนุกๆ ไปได้อีก แต่หากเวลาเกิน เราก็สามารถตัดตัวอย่างที่สนุกๆ ที่เตรียมไว้ทิ้งเสีย
สำหรับยุคปัจจุบัน การหาข้อมูลตัวอย่างที่สนุกๆ หาได้ไม่ยากเหมือนในอดีต เนื่องจากยุคปัจจุบัน เราอยู่ในสังคมของ ข้อมูลข่าวสาร เรามีระบบอินเตอร์เน็ต เราจึงสามารถหาข้อมูลได้ง่ายและมากขึ้นกว่าในอดีต ไม่ว่าการหาใน GOOGLE , YOUTUBE ฯลฯ จึงทำให้เกิดนักพูดหน้าใหม่ๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งในยุคปัจจุบันมีการกระตุ้นให้เด็กรุ่นใหม่กล้าแสดงออกกว่าในอดีต เนื่องจาก มีการแข่งขันรายการต่างๆ มากมาย โดยมีถ้วยรางวัล มีโล่ห์ มีเงิน อีกทั้งได้ออกสื่อต่างๆ ทำให้เป็นที่รู้จักกับผู้คนมากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงของนักพูดหน้าใหม่หรือนักพูดรุ่นใหม่ กล่าวคือ เรื่องของกาลเทศะ คำบางคำหรือคำบางประโยค นักพูดรุ่นอาวุโสสามารถพูดได้ แต่นักพูดรุ่นใหม่พูดไม่ได้ เนื่องจากสังคมไทยเรายังถือเรื่องอาวุโส
ฉะนั้น การพูดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ การที่จะเป็นนักพูดที่ดีได้ ต้องไม่หยุดนิ่ง เพราะการพูดในยุคปัจจุบัน กระผมถือว่าเป็นวิชาชีพหนึ่งก็ว่าได้ เป็นวิชาชีพที่ต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเรื่องความคิด ความรู้ ข้อมูล แนวการนำเสนอในการพูดแต่ละครั้ง เราต้องหาเพิ่มเติมตลอดเวลา จะมากินบุญเก่าหรือใช้ความรู้เก่าๆ วิธีการนำเสนอแบบเก่าๆ คงไม่มีใครอยากที่จะฟัง ดังนั้น นักพูดในยุคใหม่จึงต้องมีเครื่องมือต่างๆ ช่วย เพื่อให้การพูดแต่ละครั้งเกิดความแตกต่างกับนักพูดหรือวิทยากร ท่านอื่นๆ เช่น ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ , ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ,ใช้ระบบการเรียนรู้หรือสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยเพื่อให้ผู้เรียนหรือผู้ฟังอยากที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ของนักพูดหรือวิทยากร
ลิ้นเพียงสามนิ้ว ขงเบ้งยกเมืองให้เล่าปี่ได้









...
  
Martin Luther King "I have a dream"
31
...
  
การทำงานด้วยหัวใจ
บรรยาย ณ วัดบูรพา จังหวัดร้อยเอ็ด ในหัวข้อ " การทำงานด้วยหัวใจ " ...
  
หากรู้จักตนเองก็สำเร็จไปกว่าครึ่ง
หากรู้จักตนเองก็สำเร็จไปกว่าครึ่ง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
สตีฟ จอบส์และบิล เกตส์ ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ลาออกในขณะที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ เพราะทั้งคู่รู้ว่าตนเองชอบอะไร , ไทเกอร์ วูดส์ รู้ว่าตนชอบเล่นกีฬาประเภทกอล์ฟ มาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ อีกทั้งหยุดการเรียนมหาวิทยาลัยขณะเรียนปีที่ 2 เพื่อออกไปเล่นกอล์ฟเป็นอาชีพ , มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook ร่วมกับเพื่อนพัฒนา Faecbook ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด หลังจากนั้นก็หยุดการเรียนแล้วเป็นผู้บริหารของFaecbook อย่างเต็มตัว
บุคคลข้างต้นนี้ หยุดเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อออกมาทำในสิ่งที่ตนเองชอบหรือรักและบุคคลที่ประสบความสำเร็จอีกมากมายที่ยังไม่เคยมีโอกาสเรียนในมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าคนที่เรียนในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้เพราะเขาเหล่านั้นรู้ว่าตนเองชอบหรือรักอะไร ดังนั้นหากท่านรู้จักตนเองว่าตนชอบหรือรักอะไร ท่านก็จะประสบความสำเร็จไปกว่าครึ่ง
จงค้นหาสิ่งที่ตนเองรัก ชอบ หรือมีศักยภาพในการทำสิ่งนั้น ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องมีการลองผิดลองถูก หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอาชีพ ถึงแม้ว่าท่านจะต้องใช้เวลาค้นหาชั่วชีวิตของท่านก็ตาม แต่ยังดีกว่าท่านไม่ได้ค้นหาตัวตนของท่านจริงๆ ดังเช่นผู้พันแซนเดอร์สค้นหาตัวตนเจอก็ตอนอายุมากแล้วแต่ก็สามารถประสบความสำเร็จจนโด่งดังไปทั่วโลก
ผู้พันแซนเดอร์ส แห่ง ไก่ทอด KFC ค้นหาตัวตนเจอตอนอายุ 65 ปี หลังจากทำงานมากมายหลากหลายอาชีพ เช่น ทำงานในฟาร์ม คนขับรถบรรทุก พนักงานขายประกัน พนักงานดับเพลิง ทหาร แต่ทักษะด้านการทำอาหารเป็นสิ่งที่เขาทำอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เขาจึงตัดสินใจทำสูตรไก่ทอดที่อร่อยที่สุดในโลกเมื่อตอนอายุ 65 ปี
จงอย่าเลือกงานเพราะได้เงินมาก แต่จงเลือกงานที่ท่านรัก ท่านชอบ ท่านมีความเชี่ยวชาญ ถนัดและท่านมีความสุขกับงานนั้น อีกทั้งท่านก็เชื่อมั่นว่าท่านเกิดมาเพื่อสิ่งนั้น ท่านก็จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
สำหรับคนที่ไม่รู้จักตนเอง ส่วนมากมักจะล้มเหลวในชีวิตการทำงาน เพราะด้วยความไม่รู้จักตนเอง บางคนไม่มีทางเลือก คนเหล่านี้ต้องก้มหน้าทำงานที่ตนเองไม่ถนัด ไม่ชอบ ไม่รัก ไม่มีความเชี่ยวชาญ นานตั้งหลายสิบปี รอจนหมดไฟบางคนต้องทนจนกระทั่งจบฉากของชีวิตไป
คนเรากลัวการเปลี่ยนแปลงแต่คนเราจะเจริญก้าวหน้าก็ด้วยเพราะการเปลี่ยนแปลง คนเราในโลกนี้มักกลัวการเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอาชีพในปัจจุบัน หลายคนรู้ตัวว่าตนรักหรือชอบอะไร แต่ก็ไม่กล้าที่จะลงมือทำ เหตุก็เพราะกลัวสิ่งต่างๆ เช่น กลัวว่าจะไม่มั่นคง กลัวว่าจะทำไม่ได้ กลัวความลำบาก ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นก็จะเป็นได้แค่นักฝัน นักจินตนาการ นักพร่ำบ่น เท่านั้น จงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงหากท่านต้องการความสำเร็จ
...
  
คมวาทะ นายอานันท์ ปันยารชุน(คนดีที่สังคมยังต้องการ)
เป็นหนังสือที่รวบรวมคำคมในการพูดในโอกาสต่างๆ ของ อดีตนายกรัฐมนตรี นายอานันท์ ปันยารชุน
ราคา 100 บาท รวบรวมโดย คุณจรัญ หอมเทียนทอง
โดยมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น รัฐบาล , กฎหมาย , เศรษฐกิจ , ประชาธิปไตย , ผู้ดี ,คุณธรรมในสังคมไทย,ข้าราชการและระบบข้าราชการ ฯลฯ
...
  
ทำไมการพูดถึงล้มเหลว
ทำไมการพูดถึงล้มเหลว
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
ทำไมการพูดต่อหน้าที่ชุมชนของคนบางคนจึงประสบความสำเร็จ แต่ในทางกลับกันการพูดต่อหน้าที่ชุมชนของคนบางคนจึงล้มเหลว ในบทความฉบับนี้ เราจะมาพูดเรื่องนี้กัน ถ้าท่านต้องการให้การพูดของท่านล้มเหลว ท่านควรทำดังนี้
1.จงเตรียมการพูดให้น้อยที่สุด การเตรียมการพูดมีความสำคัญมาก หากท่านเตรียมพูดไม่มากพอ การพูดของท่านก็มักจะล้มเหลว ดังนั้นหากต้องการให้การพูดล้มเหลว ท่านควรเตรียมตัวให้น้อยหรือไม่ต้องเตรียมตัวเลย แต่หากต้องการประสบความสำเร็จในการพูด ท่านควรเตรียมการพูดให้มาก ซึ่งหมายถึง เตรียมเนื้อหา เตรียมข้อมูล เตรียมรูปแบบการนำเสนอ ฯลฯ
2.จงอย่าพยายามยกตัวอย่างประกอบ นักพูดที่ประสบความสำเร็จ มักมีตัวอย่างประกอบเพื่อให้ผู้ฟังได้เห็นภาพ หรือเกิดการเปรียบเทียบ ทำให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายขึ้น แต่ถ้าท่านต้องการให้การพูดของท่านล้มเหลว ท่านควรทำตรงกันข้าม กล่าวคือ ท่านไม่ควรยกตัวอย่างประกอบการพูด
3.จงพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดียวหรือน้ำเสียงระดับเดียวกันตลอดการพูดของท่าน น้ำเสียงมีความสำคัญมากในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน สำคัญจนมีคำกล่าวว่า “ ถ้อยคำแสดงถึงภาษาความหมาย แต่น้ำเสียงทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ความรู้สึกที่หวั่นไหว ” ดังนั้นหากท่านต้องการล้มเหลวในการพูดต่อหน้าที่ชุมชนแต่ละครั้งในการพูดควรพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกันหรือน้ำเสียงระดับเดียวกัน
4.จงเลือกพูดในเรื่องที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน บุคคลผู้นั้นจะต้องมีความรู้ในเรื่องที่จะพูดหรือบรรยายอยู่พอสมควร แต่ถ้ามีความรู้ในเรื่องนั้นๆ มากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้ผู้ฟังเกิดความศรัทธาเชื่อถือ หากต้องการล้มเหลวในการพูด จงเลือกหัวข้อยากๆ หรือเลือกหัวข้อที่ไม่มีความรู้ความชำนาญ แล้วการพูดของท่านก็จะล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัย
5.จงอย่าสนใจผู้ฟัง หากต้องการความล้มเหลวในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน เวลาท่านพูดต่อหน้าที่ชุมชน ท่านไม่ควรใส่ใจกับผู้ฟัง ไม่ต้องสนใจผู้ฟัง ไม่ต้องวิเคราะห์ผู้ฟัง ( เพศ อาชีพ วัย อายุ จำนวนผู้ฟัง ประสบการณ์ของผู้ฟัง การศึกษาของผู้ฟัง)
6.จงพูดด้วยความเฉยชา ไม่ต้องกระตือรือร้น จงอย่าพูดด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง หากพูดด้วยกริยาท่าทางดังกล่าว กระผมเชื่อแน่ว่า ผู้ฟังส่วนใหญ่คงง่วงนอน หรือ ผู้ฟังส่วนใหญ่คงอยากให้การพูดในครั้งนั้นๆ จบโดยเร็ว หากทำได้ดังนี้ การพูดของท่านก็จะล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัย
7.จงพูดด้วยความสับสน วุ่นวาย ไม่ต้องมีลำดับขั้นตอน หรือไม่ต้องมีสุนทรพจน์ หากต้องการให้เกิดความล้มเหลวในการพูด ท่านไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับเวลา ลำดับเหตุการณ์ หากท่านนึกช่วงไหนได้ ท่านก็นำออกมาพูดเลย เช่น นึกถึง ช่วงกลางของเนื้อหาที่จะพูดได้ก็นำมาพูดขึ้นต้นในการพูด หากนึกถึงช่วงสรุปได้ ท่านก็นำมาพูดในช่วงเนื้อหาของเรื่อง จงพูดให้เกิดความสับสน จงพูดจนกระทั่งจับต้นชนปลายไม่ถูก การพูดของท่านก็จะล้มเหลวในที่สุด
8.จงถ่อมตนให้มากที่สุด หากต้องการการล้มเหลวในการพูด เมื่อท่านเริ่มพูดท่านควร ออกตัว ถ่อมตน ถ่อมตัวให้มากที่สุด เช่น ถ่อมตนว่า “ ท่านไม่มีความรู้ในเรื่องที่จะบรรยายหรือพูดนี้เลย ” “ ท่านไม่ได้มีการเตรียมตัวมาพูดในวันนี้เลย ”
“ ความจริงมีคนพูดในเรื่องนี้เก่งกว่ากระผมอีกมากมาย กระผมคงพูดได้ไม่ดีพอ จึงต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า อีกทั้งการมาพูดในครั้งนี้เป็นมวยแทน ” ยิ่งถ้าท่านออกตัวมากเพียงไร ก็ทำให้ผู้ฟังไม่อยากฟังสิ่งที่ท่านพูดมากเพียงนั้น
ถ้าหากท่านต้องการให้การพูดแต่ละครั้งล้มเหลว ท่านควรปฏิบัติตามทั้ง 8 ข้อ ดังกล่าวนี้ แต่ถ้าท่านต้องการให้การพูดของท่านประสบความสำเร็จ ท่านคงไม่มีวิธีอื่นใด นอกจากทำตรงกันข้ามกับคำแนะนำดังกล่าวข้างต้นนี้ แน่นอนการทำให้การพูดแต่ละครั้งล้มเหลว ย่อมง่ายกว่า การทำให้การพูดแต่ละครั้งประสบความสำเร็จ ดังคำเปรียบเทียบว่า การทำความชั่วย่อมง่ายกว่าการทำความดี






...
  
Hip Hop For Obama - I Have a Dream
32
...
  
อัจฉริยะอยู่ที่ตัวท่าน
อัจฉริยะอยู่ที่ตัวท่าน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
พวกเราหลายๆคน คงเคยได้อ่านประวัติของบุคคลที่เป็นอัจฉริยะกันบ้างแล้ว ถ้าว่าอัจฉริยะสามารถสร้างกันได้ไหม ได้ครับ หากว่าเราลองไปศึกษาประวัติของบุคคลที่เป็นอัจฉริยะ หลายๆท่านจะทำให้เราเรียนรู้ว่าอัจฉริยะอยู่ที่ตัวท่านเองและสามารถสร้างกันได้ โดยมีข้อแนะนำดังนี้
1.โทมัส อัลวา เอดิสัน กล่าวว่า “ อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ อีก 99 เปอร์เซ็นต์คือความอุตสาหะ” ฉะนั้นจากคำกล่าวของ โทมัส อัลวา เอดิสัน ทำให้เราทราบว่า ความอุตสาหะ พากเพียร ทำให้เกิดความเป็นอัจฉริยะขึ้น ดังเช่น หลวงวิจิตรวาทการได้ทำงานหนักด้วยความอุตสาหะ พากเพียร จนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีสามารถหลากหลายหรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งได้
2.อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวว่า “ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ” บุคคลที่ประสบความสำเร็จมักมีจินตนาการสูง บุคคลที่เป็นนักประดิษฐ์คิดค้น นักวิทยาศาสตร์ นักสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มักจะจินตนาการเห็นภาพของสิ่งต่างๆหรือสินค้านั้นก่อน หลังจากนั้นก็จะลงมือร่างในกระดาษเปล่า แล้วดำเนินการสร้างหรือประดิษฐ์ทันที จินตนาการจึงมีความสำคัญต่อบุคคลที่ต้องการสร้างสรรค์สิ่งแปลกๆใหม่ๆ ขึ้นในโลกนี้
3.สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวว่า “ การเป็นผู้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งจนมีความเชี่ยวชาญและรู้จักใช้คำพูดที่ดี เหล่านี้คือโชคดี” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอีกผู้หนึ่งที่โลกยกย่องให้เป็นอัจฉริยะบุคคล ท่านเรียนรู้สิ่งที่ท่านสอนผู้คนอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งปฏิบัติจนเกิดความเชี่ยวชาญและยังเป็นบุคคลที่โลกยกย่องให้เป็นนักพูดที่เก่งกาจ ทั้งพูดให้ผู้ฟังคิด พูดให้ผู้ฟังเกิดการปฏิบัติตาม หากท่านต้องการเป็นอัจฉริยะบุคคล ท่านควรเรียนรู้สิ่งที่ท่านทำจนให้เกิดความเชี่ยวชาญและควรฝึกฝนการพูดให้ได้ดี ท่านก็จะประสบความสำเร็จ
4.แฟรงคลิน ดี.รุสเวลทต์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ เราไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวนอกจากเจ้าตัวความกลัวเท่านั้น ” บุคคลธรรมดาทั่วโลก มักมีความกลัวต่างๆ มากมายจึงทำให้ไม่กล้าที่จะลงมือทำงานที่ยิ่งใหญ่ ทำงานที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆและทำงานที่หนักได้ เช่น กลัวถูกวิจารณ์ กลัวถูกตำหนิ กลัวความไม่มั่นคงปลอดภัย กลัวความตาย กลัวพลัดพลาดจนคนที่เรารัก กลัวเจ็บป่วย กลัวอันตราย กลัวการถูกปฏิเสธ ฯลฯ ฉะนั้นหากท่านมีความกล้ามากขึ้น ท่านลดความกลัวต่างๆให้น้อยลง ท่านจะเป็นคนหนึ่งที่สามารถทำงานที่ยิ่งใหญ่ ทำงานที่สร้างสรรค์และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขขึ้น
5.วอลเทอร์ อีเลียส ดิสนีย์หรือวอลท์ ดิสนีย์ เจ้าของสวนสนุกที่มีชื่อเสียงระดับโลก กล่าวว่า “ หากคุณได้ทำงานที่คุณรัก คุณจะประสบผลสำเร็จที่แท้จริง ” บุคคลที่ยิ่งใหญ่หรือเป็นอัจฉริยะบุคคลมักรักในงานที่ตนทำ หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่รักในงานที่ท่านทำแล้วท่านสามารถพัฒนาตนเอง เรียนรู้ ฝึกฝน อดทน สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในงานของท่าน ท่านก็สามารถเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
บุคคลที่มีความเป็นอัจฉริยะทั้ง 5 ท่านที่ได้กระผมได้เขียนไว้ข้างต้น อาจทำให้ท่านผู้อ่านได้แง่คิดและความรู้ในการปรับปรุงพัฒนาตัวท่านเอง ความเป็นอัจฉริยะสามารถ ฝึกฝน เรียนรู้ได้ ด้วยการทุ่มเททำงานอย่างหนัก มีจินตนาการ มีการเรียนรู้ฝึกฝนและการสื่อสารที่ดี มีความกล้าที่จะทำและมีความรักในงานของท่าน ความเป็นอัจฉริยะก็จะอยู่ที่ตัวท่าน





...
  
ใช้ความราบรื่นเพิ่มความสุขให้ชีวิต
ใช้ความราบรื่นเพิ่มความสุขให้ชีวิต
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
การหาความสุขให้กับชีวิตตนเอง บางคนคิดว่าต้องใช้เงินจำนวนมาก บางคนบอกว่าต้องไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ บางคนบอกว่าต้องมีรถมีบ้าน ฯลฯ แต่แท้จริงแล้วเราสามารถเพิ่มความสุขให้ชีวิตของตนเองได้โดยใช้วิธีการง่ายๆอย่างราบรื่น ดังนี้
1.หางานอดิเรกทำ อันว่างานอดิเรกคือ งานที่เราพอใจทำ เพื่อความสนุกสนาน มากกว่าคิดถึงค่าตอบแทนทางด้านการเงิน งานอดิเรกยังก่อให้เกิดประโยชน์หลายอย่างเช่น ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ องค์ความรู้ ทำให้รู้จักผู้คนในวงการที่ทำงานอดิเรกเดียวกันมากขึ้น ตัวอย่างงานอดิเรก การอ่านหนังสือ การสะสมสิ่งของต่างๆ การปลูกต้นไม้ การเล่นกีฬา การวาดรูป การเล่นดนตรี ฯลฯ
2.ดื่มน้ำเปล่าๆดีที่สุด การดื่มน้ำเปล่าจะทำให้เราประหยัดเงินได้มากกว่า การดื่มเครื่องมดื่มต่างๆ เช่น กาแฟ น้ำอัดลม น้ำชา น้ำผสมหัวเชื้อผลไม้หรือสีต่างๆ ฯลฯ เพราะการดื่มน้ำเปล่านั้น ไม่มีคาเฟอีน ไม่มีน้ำตาล ไม่มีสี ไม่มีการอัดแก๊ส ไม่มีการผสมกลิ่น ไม่มีการผสมแอลกอฮอล์ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะก่ออันตรายให้แก่ร่างกายหากว่ารับประทานเป็นจำนวนมากและทานประจำติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ การดื่มน้ำเปล่าจึงไม่ก่ออันตรายให้แก่สุขภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายเรามีความแข็งแรง เป็นปกติอีกด้วย
3.อ่านหนังสือ การอ่านหนังสือช่วยสร้างความสุขให้กับชีวิตเรา บางคนมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีก็เพราะเหตุที่ได้อ่านหนังสือเพียงแค่เล่มเดียว การอ่านหนังสือดีๆยังช่วยให้เราเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ผู้ที่มีนิสัยรักการอ่านมักได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มีนิสัยรักการอ่าน เพราะการอ่านหนังสือเหมือนเราได้อ่านประสบการณ์ต่างๆ ของผู้อื่น ซึ่งถ้าหากเราใช้ประสบการณ์ของตนเอง เราต้องเสียเวลาเป็นอันมาก การอ่านหนังสือจึงเป็นทางลัดที่นำตนเองไปสู่ความสำเร็จ
4.การทำสมาธิ ท่านแทบไม่ต้องใช้เงินเลย เพียงแต่ทำใจให้สงบ การฝึกสมาธิจะช่วยลดความกดดันในตัวเรา ทำให้จิตใจเรามีความโปร่งใส จิตใจมีความเข้มแข็ง และมีกำลังความคิด กำลังใจ ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรค ดังนั้นท่านสามารถหาความสุขได้จากการทำสมาธิในสถานที่ต่างๆ เช่น ที่บ้าน ที่สาธารณะ ที่วัด ในรถโดยสารประจำทาง ห้องนอน ฯลฯ
5.การออกกำลังกาย เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้คนเรามีความสุข เพราะเวลาเราออกกำลังกายจะมีสารสุขหรือเอ็นโดฟินส์หลั่ง การออกกำลังยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ทำให้รูปร่างดี ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ฯลฯ
6.ทำสวนครัว เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์และความสุข เพียงแต่ท่านพรวนดิน รดน้ำ ปลูกพืช ปลูกผักสวนครัวต่างๆ ก็จะทำให้ท่านเพลิดเพลินไปกับการได้ลงมือทำสวนครัว การทำสวนครัวจะทำให้ท่านได้บริโภคผักผลไม้ที่ไร้สารพิษ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ทำให้ร่างกายแข็งแรง อารมณ์ของท่านก็จะเบิกบานขึ้น
7.เป็นตัวของตัวเองบ้าง การอยู่ร่วมกันในสังคมแน่นอนว่าความเป็นส่วนตัวหรือความเป็นตัวของตัวเองของคนเราจะน้อยลง อีกทั้งยังต้องถูกอิทธิพลของคนอื่นครอบงำเราด้วย การหาโอกาสอยู่กับตัวเองหรือการให้เวลาอยู่กับตัวเองจะทำให้เราได้ศึกษา เรียนรู้ ตัวตนของเรามากขึ้น อีกทั้งถ้าหากเรารู้จักตนเองจะทำให้เราเกิดความสุขขึ้นมาได้อย่างแท้จริง
8.นอนหลับให้พอเพียง การหาความสุขให้กับตนเองง่ายๆ ด้วยการพักผ่อน การพักผ่อนที่ดีที่สุดและไม่เสียค่าใช้จ่ายคือ การนอนหลับ ท่านควรแบ่งเวลานอนหลับให้พอเพียงกับร่างกายของตนเอง ไม่มากไปหรือน้อยไป ถ้านอนหลับมากไปก็จะทำให้เราเกิดนิสัยขี้เกียจได้ หรือ ถ้าหากน้อยไปก็จะทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนแอ จากงานศึกษาและวิจัย ช่วงระยะเวลาในการนอนหลับที่เพียงพอจะอยู่ระหว่าง 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
ดังนั้น เราสามารถแสวงหาความสุขได้อย่างเรียบง่าย อีกทั้งยังเสียค่าใช้จ่ายที่น้อย ก็ด้วยวิธีการต่างๆ ข้างต้น การทำงานอดิเรก การดื่มน้ำเปล่า การอ่านหนังสือ การทำสมาธิ การออกกำลังกาย การทำสวนครัว การเป็นตัวของตัวเอง และการนอนหลับให้พอเพียง เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้และก่อให้เกิดประโยชน์กับชีวิตของเรา
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.