หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
ทำงานให้สนุกและสร้างความสุขกับการทำงาน
ทำงานให้สนุกและสร้างความสุขกับการทำงาน

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

www.drsuthichai.com

พวกเราที่มีงานทำ พวกเราเคยถามตัวเองบ้างไหมว่า เราทำงานกันทุกวันเรามีความสุขหรือไม่

ถ้าท่านมีความรู้สึก เบื่อที่ทำงาน ไม่อยากไปทำงาน การทำงานในที่ทำงานนั้นเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน อยากให้มีวันหยุดบ่อยๆ อยากลางานบ่อยๆ ฯลฯ

เมื่อท่านมีความรู้สึกอย่างนี้อยู่ในหัวใจ ท่านลองถามตัวเองว่า ท่านมีความสุขในการทำงานหรือมีความทุกข์ในการทำงานของท่านในแต่ละวัน

ถ้าท่านมีความทุกข์ในการทำงาน ความทุกข์นั้นอยู่ที่ไหน ใช่ครับ หลายคนคงบอกว่าอยู่ที่ใจ

เช่น พระพุทธเจ้า เคยกล่าวไว้ว่า “ ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี” หรือ ท่าน ดาไล ลามะเคยกล่าวไว้ว่า “การได้มาซึ่งความสุข ไม่จำต้องขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ด้วยการพัฒนาจิตใจ (ทำให้สงบและมีเมตตากรุณา)
เราสามารถสร้างความสุขได้เกือบตลอดเวลา”

ถ้าถามว่า แล้วชีวิตของคนๆหนึ่งจะมีประโยชน์จะมีคุณค่าขึ้นอยู่กับการทำงานใช่ไหม พวกเราใช้เวลาเกือบทุกวันในการทำงานใช่ไหม ถ้าคำตอบว่าใช่ ดังนั้นก็เป็นดังคำกล่าวที่ว่า งานคือชีวิต ชีวิตคืองาน ของหลวงพ่อพุทธทาส

ถ้าถามคนส่วนใหญ่ว่าแล้วทำอย่างไรชีวิตการทำงานถึงจะมีความสุข คำตอบของหลายๆท่าน มักตอบว่าต้องทำงานในงานที่ตัวเองรัก

แล้วชีวิตการทำงานในปัจจุบันของหลายๆท่านเป็นอย่างไร หลายคนได้ทำงานตามที่ตนรัก แต่ไม่พอใจ หลายคนเลือกไม่ได้ จึงต้องจำใจทำ บางคนมีปัญหากับเจ้านายและเพื่อนผู้ร่วมงาน

อาจสรุปได้ว่าปัจจัยในการทำงานอย่างมีความสุขหรือทำงานอย่างมีความทุกข์มักเกี่ยวกับกับ งานที่ทำ เจ้านาย เพื่อนผู้ร่วมงาน สิ่งแวดล้อม องค์กร เงิน และตัวเราเอง ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ ปัจจัยที่เราสามารถปรับตัวได้ก็คือ ตัวเราเอง เพราะปัจจัยที่เหลือเป็นปัจจัยภายนอก เราไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงได้

ดังนั้น หากเราจะทำงานให้มีความสุขก็คงต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงที่ใจเราก่อน หากท่านไหนได้ทำงานในงานที่ตนรัก ท่านก็มีความสุขกว่าคนที่ไม่ได้ทำงานในงานที่ตนรัก แต่ท่านอาจจะต้องปรับตัวเองเนื่องจากได้ทำงานในงานที่รัก แต่อาจรู้สึกไม่ชอบหรือไม่มีความสุขกับปัจจัยภายนอก เช่น ไม่ชอบเจ้านาย ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน ได้เงินเดือนไม่พอใช้ ฉะนั้นก็คงต้องหาสาเหตุแล้วทำการแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น

สำหรับท่านที่ไม่สามารถเลือกงานที่ตนเองรักได้ ท่านก็ควรจะต้องมีการปรับทัศนคติใหม่ เนื่องจากเราไม่สามารถเลือกงานที่ทำได้ แต่หากท่านเลือกได้ กระผมแนะนำให้เปลี่ยนงานไปทำงานที่ตนเองชอบหรือรัก ก็จะทำให้ท่านมีความสุขจากการทำงานได้มากขึ้น หากไม่สามารถเปลี่ยนงานได้ ก็คงต้องคิดเสียใหม่ว่า “ หากเราไม่สามารถทำงานที่เรารัก ก็ขอให้รักในงานที่เราทำ ”

ด้านเทคนิคในการสร้างความสุขในการทำงาน มีหลายเทคนิคซึ่งในที่นี้กระผมขอเขียนตามทัศนะของกระผม มีดังนี้

-สร้างทัศนคติในด้านบวกเสมอ เช่น การพัฒนาความคิดหรือเปลี่ยนแปลงความคิดให้มองโลกในแง่ดี ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องต่างๆในที่ทำงาน

-สร้าง มนุษย์สัมพันธ์ เนื่องจากการทำงานในทุกที่ทุกองค์กร เราจำเป็นจะต้องทำงานร่วมกับคน ยิ่งองค์กรใหญ่ๆ ก็ยิ่งได้ทำงานร่วมกับคนจำนวนมาก การสร้างมนุษย์สัมพันธ์ การพัฒนาความมีมนุษย์สัมพันธ์จึงมีความสำคัญในการทำงานร่วมกัน หากว่าในองค์กรมีการทะเลาะกัน ไม่สามัคคีกัน การจะทำงานอย่างความสุขในการทำงานก็คงมีลดน้อยลง การทำงานร่วมกับคน หากว่าเราสามาราถหลีกเลี่ยง การต่อว่าองค์กร ต่อว่าเพื่อนร่วมงาน ต่อว่าหัวหน้างานได้ก็จะเป็นการดีครับ

- สร้างประโยชน์หรือหาประโยชน์ จากการได้ทำงานของเรา ในการทำงานต่างๆ ย่อมมีประโยชน์แก่สังคม แก่บริษัท แก่ครอบครัว และแก่ตัวเราเองทั้งในปัจจุบันและอนาคต หากเราสามารถมองเห็นประโยชน์ต่างๆ จากการได้ทำงานของเรา เราก็จะมีความสุขมากขึ้น งานที่เราทำปัจจุบัน เราสามารถนำไปประกอบกิจการหรือเป็นเจ้าของกิจการได้ในอนาคต เช่น บางคนเป็นพ่อครัว ท่านก็สามารถใช้ความรู้ความสามารถในปัจจุบันนำไปเปิดร้านอาหารได้ในอนาคต บางคนเป็นคนซ่อมรถ ท่านก็สามารถนำความรู้ความสามารถรวมทั้งประสบการณ์ไปเปิดอู่ซ่อมรถได้ในอนาคต บางคนเป็นนักข่าวในปัจจุบันในอนาคตท่านสามารถไปเป็นนักเขียนได้ ฯลฯ

ดังนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสร้างความสุขในที่ทำงานก็คือ ตัวเราเอง หากว่าเรามีทัศนคติในแง่ดี หากเรามีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี หากเรามองหาประโยชน์จากงานที่เราทำในปัจจุบัน เราก็สามารถทำงานให้สนุกและสร้างความสุขกับการทำงาน ...
  
การจัดการเวลา
การจัดการเวลา
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
เวลาเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ที่ใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงาน เมื่อเรามาวิเคราะห์การใช้เวลา เราจะเห็นได้ว่า เรามักเสียเวลาไปกับการนอน การทำงาน การเดินทาง การกิน การพักผ่อน ฯลฯ
เคยมีคนศึกษาการใช้เวลาของคนไทย โดยมีอายุเฉลี่ย 72 ปี คนไทยโดยเฉลี่ยมักใช้เวลาไปกับการนอนถึงวันละ 8 ชั่วโมง ( นอน 24 ปีหากคิดจากอายุเฉลี่ย 72 ปี) , ทำงาน 6 ชั่วโมง( ทำงาน 18 ปีหากคิดจากอายุเฉลี่ย 72 ปี) ,เดินทาง 3 ชั่วโมง(เดินทาง 9 ปีหากคิดจากอายุเฉลี่ย 72 ปี) ฯลฯ
ฉะนั้น หากเราสามารถปรับปรุงการใช้เวลาหรือหากเรามีการจัดการเวลาที่ดี ก็จะทำให้เราสามารถทำงานได้มากขึ้น สร้างผลงานต่างๆให้กับโลกได้มากขึ้น เช่น เราสามารถลดจำนวนเวลาในการนอนจากเฉลี่ยนอนวันละ 8 ชั่วโมง เราอาจลดเหลือ 7 ชั่วโมง ก็จะทำให้เราสามารถมีเวลาเหลืออีก 1 ชั่วโมงต่อวัน หรือมีเวลามากกว่าคนอื่นถึง 3 ปีหากคิดจากอายุเฉลี่ย 72 ปี
หากจะพิจารณาว่าสิ่งที่เป็นปัจจัยในการใช้เวลาของคนเรา อาจมีอยู่ 3 ปัจจัยด้วยกัน คือ 1.ตัวเราเอง 2.ผู้อื่นและ3.สิ่งแวดล้อม แต่ปัจจัยที่ทำให้การจัดการเวลามีประสิทธิภาพหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวเราเองถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้อื่นและสิ่งแวดล้อมมีส่วนแค่ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การจัดการเวลาที่ดีควรเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อน
นักจัดการเวลาที่ดีควรจัดเวลาโดยการแบ่งเวลาให้เป็นระบบระเบียบ เช่น นักเขียนที่ประสบความสำเร็จหรือนักเขียนมืออาชีพมักจะมีการจัดตารางเวลาในการเขียน นักเขียนบางคนเริ่มต้นเขียนตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น เขาก็จะปฏิบัติตามทุกวันจนเคยชินและเป็นนิสัย
จังหวะเวลามีความสำคัญ กล่าวคือต้องรู้ว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำทีหลัง เช่น การต้มถั่วเขียวต้องเอาตัวถั่วเขียวใส่น้ำแล้วต้มจนเม็ดถั่วแตกก่อนแล้วใส่น้ำตาลลงไป กล่าวคือ ต้องรู้ว่าอะไรควรใส่ก่อน อะไรควรใส่ทีหลัง แต่ถ้า ใส่น้ำตาลก่อนแล้วใส่ถั่วเขียว จะปรากฏว่าเม็ดถั่วเขียวไม่ยอมแตก ทำให้เสียเวลาเปล่า
อยากทำอะไรให้รีบทำ ไม่ควรนึกฝันแล้วไม่ลงมือทำ เคยมีลูกศิษย์ของผู้เขียน เคยถามผู้เขียนว่า เขามีโอกาสไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา เพราะพ่อแม่มีฐานะอีกทั้งมีญาติอยู่ที่สหรัฐอเมริกา สามารถช่วยเหลือและให้คำแนะนำต่างๆได้ แต่ในปัจจุบันเขาทำงานในหน่วยงานเอกชนแห่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ จะลาออกไปเรียนต่อหรือทำงานต่อดี ผู้เขียนจึงแนะนำว่า เธอควรไป ถ้าเธออยากไป และถ้าหากเธอไม่อยากไปเธอก็ควรไป สรุปผู้เขียนพยายามพูดหว่านล้อมให้เขาไปเรียนเนื่องจาก เราควรลงมือตัดสินใจทำถ้ามีโอกาส ถ้าหากปล่อยเวลาเนิ่นนานต่อไป โอกาสนั้นอาจจะไม่กลับมาหาอีกก็ได้ ในที่สุด ลูกศิษย์ของผู้เขียนตัดสินใจไป เรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา 2 ปี แล้วกลับมาทำงานที่บริษัทอีกแห่งหนึ่งที่ กรุงเทพฯ เป็นบริษัทมหาชน โดยเขาได้รับเงินเดือนถึงหกหลักเลยทีเดียว
การจัดการเวลาที่ดีควรมีการวางแผนและประเมินหรือควบคุมแผนที่วางไว้ เช่นมีเครื่องมือ Diary ,ตารางเวลา,ใบงาน , สมุดบันทึก ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนอาจใช้เครื่องมือหรือมีวิธีการในการจัดการเวลาที่ต่างกัน โดยไบรอัน เทรซี่(นักพัฒนาศักยภาพของมนุษย์) เคยกล่าวไว้ว่า ทุกๆ นาทีที่ใช้ในการวางแผนจะประหยัดเวลาได้มากถึง 10 นาที ฉะนั้นหากคุณใช้เวลาวางแผน 10 นาที คุณจะประหยัดเวลาได้ตั้ง 100 นาที หรือ 1 ชั่วโมงกับ 40 นาที เลยทีเดียว
สำหรับการจัดการเวลาของผู้เขียน ผู้เขียนมักมีเครื่องมือที่ใช้ กล่าวคือ มี Diary 1 เล่ม มีสมุดบันทึก มีกระดาษเปล่า A4 โดยทุกๆคืน ผู้เขียนจะมานั่งวางแผนโดยคิดวางแผนเป็นแผนรายปี ทุกปีต้องมีเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จ โดยมี Diary พกติดตัวเป็นประจำ ถ้ามีงานใหม่ๆ เข้ามาก็จะบันทึกลงไปว่าต้องทำอะไรในวันไหน สำหรับสมุดบันทึกใช้บันทึกข้อความต่างๆ ที่อ่านพบแล้วรู้สึกประทับใจก็จะบันทึกไว้ เพื่อเป็นข้อมูลในการเขียนหนังสือต่อไป สำหรับกระดาษเปล่า A4 ทุกคืน ผู้เขียนจะมานั่งวางแผนว่าจะทำอะไรในวันพรุ่งนี้โดยเรียงลำดับจาก 1-15 และหมายเหตุลำดับว่าอะไรต้องทำก่อนทำหลัง พอถึงวันพรุ่งนี้ก็ทำตามลำดับในกระดาษ A4 ที่ได้วางแผนไว้ เมื่อลำดับไหนทำเสร็จก็จะขีดฆ่า และเมื่อมีอะไรจะต้องทำในวันพรุ่งนี้หรือวันนี้ ก็จะเขียนลงในตอนท้ายของกระดาษ A4
ทั้งนี้การจัดการเวลาเป็นเรื่องของศาสตร์และศิลป์ กล่าวคือ สามารถเรียนรู้ได้ สามารถนำไปปฏิบัติ บางหลักการคนอื่นนำไปใช้แล้วได้ผล แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ เราก็สามารถเลือกวิธีการวางแผนหรือเลือกใช้เครื่องมือในการวางแผนตามที่เราถนัดหรือชอบได้ แต่ทั้งนี้ถ้าอยากให้ได้ผลเราก็ควรที่จะปฏิบัติตามและลงมือทำอย่างตั้งใจ ทำจนเป็นนิสัยถึงจะประสบความสำเร็จในเรื่องของการจัดการเวลา
...
  
โปงลาง
6
...
  
ทอล์คโชว์ ชุด 1
6
...
  
โต้วาที 6 นางร้ายในวรรณคดีไทยน่าพิศมัยกว่านางเอก
6

...
  
กิจกรรม
6
...
  
โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ ตอนที่3
6
...
  
อยากสำเร็จต้อง.
อยากสำเร็จต้อง...
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตในแวดวงต่างๆ มักเป็นบุคคลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่เสมอ ฉะนั้นหากท่านต้องการประสบความสำเร็จ ท่านจึงต้องควรมีการเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ท่านจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองหลายด้าน สำหรับบุคคลที่ประสบความสำเร็จมักเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
1.ท่านต้องเป็นคนที่มี “ เป้าหมายชัดเจน ” อีกทั้งควรเขียนเป้าหมายเป็นลายลักษณ์อักษร เขียนเพื่อให้จดจำ การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร หรือ วางเป้าหมายเป็นภาพต่างๆ แล้วติดตามโต๊ะทำงาน ห้องนอน ห้องน้ำ ฯลฯ จะทำให้เราเกิดการจดจำได้มากกว่า การมีเป้าหมายแล้วไม่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
2.ท่านต้องเป็นคนที่ “ ทำสม่ำเสมอ ” เมื่อมีการวางเป้าหมายแล้ว หากไม่ลงมือทำ เป้าหมายนั้นก็จะไม่มีความหมายหรือเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งสำคัญก็คือ ต้อง ททท.(ทำทันที) ไม่ต้องรอช้า วางแผนงานแล้วลงมือทำทันที มิใช่นั้น ความสำเร็จก็จะไม่บังเกิด
3.ท่านต้องเป็นคนที่ “ ชอบเข้าใกล้หรือชอบปรึกษาคนที่ประสบความสำเร็จ ” การเรียนรู้หรือคัดลอกจากต้นแบบจะทำให้เราลดเวลาในการเดินทางไปสู่เป้าหมาย เช่น หากเราอยู่ต่างจังหวัดเราจะเดินทางไปกรุงเทพฯ (ครั้งแรกโดยรถยนต์ส่วนตัว) หากเราไม่ถามทางคนที่เคยไปกรุงเทพฯมาแล้ว เราลองเดินทางไปเอง เราอาจหลงทาง เสียเวลา แต่หากเราถามคนที่เคยไปมาแล้ว ก็จะทำให้เราไม่หลงทางถึงกรุงเทพฯ ไวยิ่งขึ้น อีกทั้งประหยัดน้ำมันหรืองบประมาณอีกด้วย
4.ท่านต้องเป็นคนที่ “ชอบการเปลี่ยนแปลง ” คนเรามักไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่คนเราจะเจริญก้าวหน้าด้วยการเปลี่ยนแปลง หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพต่างๆ ท่านควรเป็นผู้ที่มีแนวความคิดในการเปลี่ยนแปลง มีความคิดในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
5.ท่านต้องเป็นคนที่ “ ชอบเรียนรู้อยู่เสมอ” โลกยุคปัจจุบันเป็นโลกยุคของข้อมูลข่าวสาร ยุคของความรู้ ซึ่งบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จจะต้องเป็นนักเรียนรู้อยู่เสมอ สามารถนำข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่างๆ มาใช้ประโยชน์ในงานอาชีพของตนเองได้
6.ท่านต้องเป็นคนที่ “ รู้จักใช้ เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ ต่างๆ ช่วย ” โลกยุคปัจจุบันรวมทั้งโลกในอนาคต เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่ประสบความสำเร็จมักต้องรู้จักใช้เครื่องมือ เทคโนโลยี อุปกรณ์ต่างๆเข้าช่วย การใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ จะเป็นการลดต้นทุน ลดเวลา ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการทำงาน เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือช่วยในการชำระเงิน ช่วยบอกทาง ช่วยรับข้อมูลข่าวสาร ช่วยปลุก ช่วยเตือนงาน ฯลฯ
7.ท่านต้องเป็นคนที่ “ แตกต่าง ” หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการความสำเร็จ ท่านควรมีความแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป คนที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนมักคิดแตกต่างจากคนอื่น ทำอะไรๆ ที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เช่นการแต่งกาย ทรงผม บุคลิก การพูดจา ฯลฯ
8.ท่านต้องเป็นคนที่ “ เริ่มต้น ” หากท่านอ่านมาถึงข้อความตรงนี้แล้ว หากท่านไม่เริ่มต้นทำหรือเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ความสำเร็จก็คงไม่เกิดขึ้นกับท่าน แต่หากท่านต้องการความสำเร็จจงเริ่มต้นทำ ระยะทางถึงแม้จะไกลแสนไกล หากเราไม่เริ่มต้นเดินก้าวแรกเราก็จะไม่มีวันไปถึงเป้าหมายปลายทาง
โดยสรุป อาจกล่าวได้ว่า ปัจจัยที่ทำให้คนประสบความสำเร็จมีอีกหลายปัจจัยที่กระผมยังไม่ได้กล่าวถึง แต่สิ่งที่สำคัญ หากเราอ่าน เราศึกษาแล้ว แต่เราไม่นำเอาไปปฏิบัติ ความสำเร็จก็ยากที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จ ท่านคงต้องลงมือปฏิบัติ อีกทั้งต้องคอยควบคุม ตรวจสอบ อยู่เสมอ ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จดังเช่นคนที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้เพียงแต่เราไม่ได้ลงมือทำมัน



...
  
คำคม เกี่ยวกับการพูด
คำคม เกี่ยวกับการพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
การที่คนคนหนึ่งจะเป็นนักพูดนั้น จะต้องมีความสามารถที่หลากหลายในการพัฒนาตนเองในการพูด เช่น จะต้องสามารถพูดให้สนุกได้ พูดจูงใจคนได้ พูดเพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนแก่ผู้ฟังได้ พูดเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนได้ ซึ่งคนคนนั้นจำเป็นจะต้องใช้ศิลปะในการพูดหลายอย่าง
ยิ่งบางคนเป็นนักพูดประเภท วิทยากร ยิ่งต้องใช้ความหลายหลากในการนำเสนอ เช่น จะต้องมีการนำเกมส์ มีการร้องเพลง มีการใช้บทประพันธ์ หรือ คำคมต่างๆในการประกอบการพูด ในบทความนี้ผมขอพูดเรื่องเกี่ยวกับคำคม ก่อนอื่นเรามาพูดถึงความสำคัญของคำคมกันก่อน
คำคม มีความสำคัญมากเพราะเป็นสิ่งที่เกิดจากความคิดของผู้ฉลาดหรือนักปราชญ์ การจำ การทำความเข้าใจ คำคม จะทำให้ความคิดเราเฉียบแหลมขึ้น ตามปกติคำคมจะมีข้อความสั้นๆ แต่กินใจ ความลึกซึ้งขยายความออกไปได้มาก คนที่ต้องการเป็นนักพูด วิทยากรจึงควรจดจำ คำคมและนำไปใช้ให้เหมาะสม ถูกกาล ก็จะทำให้ผู้ฟังเกิดความศรัทธาได้
โดยมากหลักในการใช้ คำคม ประกอบการพูด ควรให้สอดคล้องกับเรื่องที่พูด และคำคม มีมากมาย หลายชาติ หลายภาษา บางคำคมไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้กล่าว ในบทความฉบับนี้กระผมจึงไม่สามารถอ้างอิง ในบทความนี้ได้ จึงขอนำเสนอคำคมเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการพูด คำคม เกี่ยวกับการพูดมีดังนี้

 ถ้าท่านลุกขึ้นยืนพูดต่อหน้าที่ฝูงชนไม่ได้ อย่าปรารถนาเป็นผู้นำ (หลวงวิจิตรวาทการ)

ทุกคนพูดได้ แต่มีบางคนเท่านั้นที่พูดเป็น (ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์)

เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ(พุทธศาสนสุภาษิต)

กลองจะดังต้องถูกตี นักพูดจะดีต้องได้รับคำวิจารณ์

 พูดโดยไม่คิด ก็ดั่งยิงปืนโดยไม่เล็ง

อาวุธที่แสนคมยังไม่คมเท่ากับปากคน

คิดก่อนกล่าววาจา ศัตรูจะมาเป็นมิตร กล่าววาจาก่อนคิด มิตรก็อาจกลายเป็นศัตรู

ควรพูดจากใจ จริงใจ มั่นใจ สุดใจ แต่อย่าย่ามใจ

จงพูดแต่ดี อย่าดีแต่พูด

สิ่งที่ลงทุนน้อยและได้เกิดประโยชน์มากที่สุด คือ คำพูดที่ดี

ก่อนพูดเราเป็นนายมัน หลังพูดมันเป็นนายเรา

ลิ้นอ่อนนุ่มยังคงอยู่ ฟันแข็งกระด้างร่วงไปแล้ว

ยิ่งพูดมาก ความจริงก็ยิ่งน้อย
อย่าให้ลิ้นของท่านประจานตัวท่านเอง

คนคิดน้อย พูดมาก คนพูดมาก ทำน้อย

ถ้อยคำดี ถ้าน้ำเสียงไม่ดี ก็มีความหมายไปในทางตรงกันข้าม

ถ้าท่านไม่รู้จักเก็บลิ้น ลิ้นจะเก็บท่าน

กฎทองในการสนทนา คือคิดก่อนพูด

ความจริงพูดไม่ได้ในทุกโอกาส

พูดน้อย คนเกรงใจมาก

ถ้ารู้สึกว่าจะพูดอะไรให้น่าฟังไม่ได้ ก็นิ่งเสียดีกว่า

คำพูดเหน็บแนมที่เฉียบแหลมรุนแรงย่อมเชือดเฉือนได้ลึกกว่าคมอาวุธ(คติฝรั่งเศส)



นี่เป็นตัวอย่างคำคมที่เกี่ยวกับการใช้ปากหรือคำพูด ดังนั้นการใช้คำคมประกอบการพูดจึงมีความสำคัญ เพราะจะทำให้การพูดของเรามีความหลากหลายและผู้ฟังเกิดความศรัทธาในการฟังเราพูด การฝึกใช้คำคมในช่วงแรกๆ เราอาจจำคำคมของนักพูดต่างๆ ก่อน แล้วเราจึงคิดเองขึ้นมาบ้าง
ในบทความฉบับหน้าเราจะมาเรียนรู้เรื่องของการใช้บทกลอน บทประพันธ์ประกอบการพูด การใช้บทประพันธ์ประกอบการพูดจะทำให้ผู้ฟังเกิดความสนใจและดึงดูดใจผู้ฟังได้มาก และยิ่งเป็นการพูดในโอกาสต่างๆ เช่น การขึ้นบ้านใหม่ การสมรส การอำลา การเลี้ยงต้อนรับ ฯลฯ ถ้าใครได้ใช้บทกลอนหรือบทประพันธ์ประกอบการพูดก็จะทำให้เป็นที่จดจำและเกิดความประทับใจได้มากเลยทีเดียวครับ
...
  
อ.จตุพล ชมภูนิช
การศึกษา

มัธยมศึกษา
มัธยมจากโรงเรียนปทุมคงคา
ปริญญาตรี
นิติศาสตร์บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปริญญาโท
สาขา รัฐประศาสนศาตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ปัจจุบัน

- ประธานกรรมการบริษัท เทรน แอนด์ ทอล์ค จำกัด
- ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมเทรน แอนด์ ทอล์ค
- ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นฑูตไอโอดีน
- พิธีกร, วิทยากรทอล์คโชว์และวิทยากร รับเชิญบรรยายทั้งภาครัฐและเอกชน
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.