หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
คุุณธรรมและจริยธรรม สำหรับนักการเมืองท้องถิ่น
คุุณธรรมและจริยธรรม สำหรับนักการเมืองท้องถิ่น " แก่ชมรมท้องถิ่นไทย (อำเภองาว) ณ โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ อำเภองาว จังหวัดลำปาง จ้า ...
  
จงกระตุ้นตัวเองเพื่อการกระตุ้นผู้อื่น
จงกระตุ้นตัวเองเพื่อการกระตุ้นผู้อื่น
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
การจะเป็นผู้นำผู้อื่นและทำให้ผู้อื่น เกิดความศรัทธา เชื่อถือ ปฏิบัติตาม ผู้นำคนนั้นจะต้องมีคุณสมบัติบางอย่างที่ทำให้ผู้อื่นคล้อยตามได้ ซึ่งคุณสมบัติต่างๆที่ผู้นำมีเพื่อเป็นการกระตุ้นตัวเอง เมื่อผู้นำกระตุ้นตนเองแล้วก็จะส่งผลเพื่อเป็นการกระตุ้นผู้อื่นหรือผู้ตามไปในตัว สิ่งที่ผู้นำควรกระตุ้นตนเองมีดังนี้
1.การตัดสินแน่วแน่ว่าตนต้องการอะไร มีเป้าหมายอะไร แล้วสามารถอธิบายให้ผู้ตามล่วงรู้ได้ ก็จะทำให้ผู้ตามเกิดความศรัทธา เกิดแรงกระตุ้น อยากที่จะช่วยเหลือ สนับสนุนให้ผู้นำไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ การสร้างเป้าหมายแล้วตัดสินใจแน่วแน่และมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดใจให้ทั้งผู้นำและผู้ตาม มีทิศทางเดียวกัน เช่น ผู้นำตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะขยายกิจการและมีเป้าหมายในการทำธุรกิจให้ได้ 100 ล้านบาท ภายในปีหน้า เป็นต้น
2.ความเชื่อมั่นในตนเอง ของผู้นำจะทำให้ผู้ตามเกิดความเชื่อมั่นในตนเองได้ แต่ถ้าหากผู้นำเกิดลังเล จับจด เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ก็จะทำให้ผู้ตามเกิดความสับสนและมองภาพลักษณ์ว่าผู้นำไม่มีความเด็ดขาด ผู้นำอ่อนแอ ไม่กล้าหาญ หากผู้นำสามารถกระตุ้นตนเองให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง ว่าตนสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน แรงกระตุ้นนั้นก็ส่งผลไปยังผู้ตามกล่าวคือทำให้ผู้ตามเกิดความเชื่อมั่นในตนเองว่าเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้ทีมงานไปถึงเป้าหมายได้เช่นกัน
3.เป็นนักสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตนเองและผู้อื่น การมีมนุษย์สัมพันธ์ของผู้นำมีความสำคัญก็จริงอยู่ แต่การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีก็ไม่สามารถสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ การที่ผู้นำจะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่นั้น ผู้นำจะต้องสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่นให้ได้เสียก่อน เขาจึงจะถือได้ว่าเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพสูง จงสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นแก่ตนเองเพื่อไปกระตุ้นแรงบันดาลของผู้ตาม
4.จงกล้าที่จะเสี่ยง ผู้นำที่ไม่กล้าตัดสินใจ ผู้นำที่คอยระมัดระวังตัวและผู้นำที่ระแวงลูกน้องตลอดเวลา มักทำให้ลูกน้องไม่กล้าที่จะริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นในงาน ตรงกันข้ามกับผู้นำที่กล้าที่จะเสี่ยง ย่อมกระตุ้นให้ทีมงานเกิดความกล้าทดลองสิ่งแปลกๆใหม่ๆและเกิดนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นภายในบริษัทหรือองค์กร ดังนั้นผู้นำจึงควรกล้าที่จะเสี่ยงเพราะการกล้าเสี่ยงของผู้นำจะเป็นการกระตุ้นให้ลูกน้องมีความกล้าหาญในการทำงานมากยิ่งขึ้น
5.จงสนุกกับชีวิต พวกเราลองคิดดูว่าคุณต้องการผู้นำในลักษณะใด เช่น ผู้นำที่มีลักษณะเป็นคนขี้บ่น เป็นคนอมทุกข์ เป็นคนหดหู่ หรือ ผู้นำที่มีลักษณะ ร่าเริง แจ่มใส มีความสนุกตื่นเต้น กระตือรือร้นในการทำงาน ดังนั้น หากผู้นำแสดงให้ผู้ตามเห็นว่า ตนมีความสนุกกับการทำงานและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นราวกับถูกไฟเผา ผู้ตามก็จะรู้สึกถึงอารมณ์ การแสดงออกต่างๆของผู้นำได้
ดังนั้น การแสดงออก อารมณ์ ความรู้สึก สิ่งต่างๆที่ผู้นำกระทำจึงเป็นสิ่งที่มีผลกระทบไปยังความรู้สึก นึกคิด อารมณ์ต่างๆของผู้ตามอีกด้วย ดังนั้นผู้นำที่ดี ที่มีประสิทธิภาพ ต้องเป็นผู้นำที่สามารถกระตุ้นตนเองได้ เมื่อผู้นำสามารถกระตุ้นตนเองผู้นำคนนั้นก็จะสามารถกระตุ้นผู้อื่นได้ จงกระตุ้นตนเองเพื่อการกระตุ้นผู้อื่น
...
  
การเตรียมตัวสมัครงานเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AC)
การเตรียมตัวสมัครงานเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AC)
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2555 กระผมได้มีโอกาสพูดและบรรยายในหัวข้อ “ การเตรียมตัวสมัครงานเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AC) ณ โรงแรมชัยนาทธานี จังหวัดชัยนาท จัดโดย สำนักจัดหางานจังหวัดชัยนาท
สำหรับประเด็นที่กระผมได้นำเสนอในการพูดการบรรยายในวันนั้นมีประเด็นที่นำเสนอคือ ประชาคมอาเซียนคืออะไร , ประชาคมอาเซียนมีความสำคัญอย่างไรกับประเทศไทย และการเตรียมตัวสมัครงานเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AC)
ประชาคมอาเซียน คือ Association of South East Asian Nations (สมาคมประชาชาติแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ) เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2510 ซึ่งประกอบด้วย 10 ประเทศ คือ ไทย มาเลย์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา บรูไน และ สิงคโปร์ ซึ่งมีประชากรรวมทั้งสิ้นประมาณ 580 ล้านคน มี GDP 1.8 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็นลำดับที่ 9 ของโลก
ประชาคมอาเซียนมีความสำคัญอย่างไรกับประเทศไทย ในวันที่ 1 มกราคม 2558 จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของประเทศไทย โดยทุกประเทศในประชาคมอาเซียน จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงในด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม และยอมรับในความแตกต่างในการอยู่ร่วมกัน เช่น
- ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงยอมรับร่วมกันในคุณสมบัตินักวิชาชีพอาเซียน อันประกอบด้วย วิศวกรรม , การพยาบาล , สถาปัตยกรรม , การสำรวจ , แพทย์ ,ทันตแพทย์ และบัญชี ซึ่งหากใครได้เรียนหรือมีวิชาชีพดังกล่าวมักมีความได้เปรียบวิชาชีพอื่นๆ เพราะท่านสามารถทำงานได้ในประชาคมอาเซียน ทำให้ตลาดของท่านกว้างขึ้น ลูกค้าของท่านมีมากขึ้น
- ภาษากลางของอาเซียนหรือภาษาอาเซียน คือ English
- วัฒนธรรมที่แตกต่างแต่ต้องอยู่ร่วมกันได้ ประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เช่น ประเทศไทย , พม่า , ลาว ,กัมพูชา (วัฒนธรรมพุทธ) , ประเทศ มาเลเซีย ,อินโดนีเซียและบรูไน(วัฒนธรรมอิสลาม) , ประเทศฟิลิปปินส์ (วัฒนธรรมคริสต์) และประเทศเวียดนาม,สิงคโปร์(วัฒนธรรมขงจื้อ)
สำหรับผลกระทบที่ประเทศไทยเราจะต้องได้รับผลกระทบ เช่น ด้านแรงงาน มีสมองไหลไปทำงานในต่างประเทศ , มีการไหลบ่า หมุนเวียนกัน ของแรงงานในกลุ่มอาเซียน(ไม่มีพรมแดนมาขวางกั้นอีกต่อไป)
การเตรียมตัวสมัครงานเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AC) สิ่งที่ประเทศไทย รวมทั้งแรงงานในประเทศไทย จะต้องเตรียมตัวและเตรียมความพร้อม คือ
- ประชาชนในประเทศไทย ควรเรียนรู้เรื่อง อาเซียนให้เข้าใจมากขึ้น อีกทั้งต้องฝึกฝนภาษาอาเซียนหรือภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการค้าขายและทำงานได้ในประเทศในกลุ่มอาเซียน (ด้านความคิดเห็นส่วนตัวของกระผมคิดว่า แรงงานในประเทศไทย ยังมีจุดอ่อนเรื่อง การใช้ภาษาอาเซียนหรือภาษาอังกฤษ เป็นจำนวนมาก )
- การเรียนรู้ เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ยกระดับ การศึกษา และพัฒนาฝึกมือแรงงานให้มากยิ่งขึ้น โลกในอนาคต เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ มีความสำคัญมาก อีกหน่อย พวกเราคงได้เรียนในระบบ E-Learning มากขึ้น เช่น มีการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยไซเบอร์หรือ มหาวิทยาลัย ออนไลน์ หรือ มหาวิทยาลัยลอยฟ้า และการฝึกอบรมออนไลน์ หรือ โรงเรียนออนไลน์ เป็นต้น
สำหรับในอนาคตของประเทศไทยเรา จะมีการเข้ามาเปิดกิจการต่างๆ ของต่างชาติมากขึ้น เช่น การเปิดร้านอาหาร,การเปิดร้านสปา , การเปิดสถาบันการศึกษา (โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย) , การเปิดคลินิกรักษาโรค รวมทั้งมีการแข่งขันกันซื้อขายสินค้าด้านการเกษตรทุกชนิด เป็นต้น
ดังนั้น ภาครัฐบาล ภาคเอกชนและภาคประชาชน ของไทย จึงควรให้การสนับสนุน ส่งเสริม การเรียนรู้ การพัฒนาบุคลากรของไทย ให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2555




...
  
ประโยชน์ของการเขียนมีมากกว่าที่คุณคิด
ประโยชน์ของการเขียนมีมากกว่าที่คุณคิด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
เมื่อพูดถึงเรื่องประโยชน์ของการเขียนหลายๆ ท่าน คงคิดว่าประโยชน์ของการเขียน สามารถเป็นอาชีพได้ ทำรายได้ได้ ทำให้มีชื่อเสียง แต่แท้ที่จริงแล้ว ประโยชน์ของการเขียนนั้นมีมากมาย
การเขียนสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณได้ เพราะการเขียน เป็นกระบวนการเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ของผู้เขียนให้เป็นตัวอักษรเพื่อนำมาถ่ายทอดให้แก่ผู้อ่าน ฉะนั้นคนที่เขียนหนังสือทุกๆวัน อย่างสม่ำเสมอจะทำให้รู้จักตัวตนของตนเอง ว่าตนเองต้องการอะไรในชีวิต เมื่อค้นหาตัวตนเจอก็จะทำให้ผู้เขียนเกิดความสุขใจ สงบใจ และยิ่งเขียนมากขึ้นผู้เขียนก็จะพบปัญญาที่มีอยู่ในตัวของผู้เขียนเอง
การเขียนช่วยให้ท่านไม่ลืม ความจำมีประโยชน์ก็จริงอยู่ แต่มนุษย์ไม่สามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตของตนเองได้ การเขียนจะช่วยให้มนุษย์เราเกิดความจำขึ้น การเขียนจึงมีความสำคัญต่อความจำ เพราะหากไม่ได้เขียนหรือบันทึกไว้ มนุษย์เราก็มักจะลืมสิ่งต่างๆ ไป
การเขียนมีประสิทธิภาพมากกว่าการพูดในบางสถานการณ์ พวกเราตอนเด็กๆ หรือตอนอบรม คงมักเคยได้เล่นเกมส์การสื่อสาร ซึ่งผู้กำหนดเกมส์ มักแบ่งผู้เล่นออกมามากกว่า 2 กลุ่ม แล้วให้แข่งขันกัน โดยให้ผู้เล่นคนที่หนึ่งอ่านข้อความซึ่งเป็นประโยคที่เมื่ออ่านแล้วผู้อ่านเกิดความสับสน เป็นประโยคที่มักจะเล่นคำ แล้วให้ผู้เล่นคนที่หนึ่งกระซิบคนต่อๆไป จนถึงคนสุดท้าย ผลออกมาคือ ประโยคที่ให้อ่านเกิดความผิดพลาดไม่เหมือนเดิม แต่ในทางกลับกัน หากว่า ผู้กำหนดเกมส์ให้ผู้เล่นทุกคนได้อ่านข้อความประโยคนั้น โดยส่งจากคนที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ไปจนถึงคนสุดท้ายให้อ่านข้อความประโยคนั้น ความผิดพลาดจะน้อยลง
การเขียนทำให้เกิดความอิสระขึ้นในการใช้ชีวิต หลายอาชีพมักจะต้องมี กฎ ระเบียบ ข้อจำกัดทางด้านเวลา แต่อาชีพนักเขียน จะทำให้เราไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับสิ่งเหล่านี้ เช่น ไม่ต้องแต่งตัวให้ยุ่งยาก ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืด นุ่งผ้าขาวม้า คุณก็สามารถประกอบอาชีพนี้ได้ อีกทั้งไม่มีเงื่อนเวลา คุณจะทำงานเขียนกี่โมงก็ได้ แล้วแต่นักเขียนแต่ละคนจะเป็นผู้กำหนดเวลาดังกล่าว
การเขียนทำให้ประเทศเกิดการพัฒนา ก้าวหน้าขึ้น การเขียนจะช่วยให้ประชาชนในประเทศนั้นๆ มีนิสัยในการรักการอ่าน รักการเรียนรู้ มากขึ้น เมื่อประชาชนรักการอ่าน ก็จะทำให้เกิดความคิด ปัญญา มันสมอง ที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นสืบไป
การเขียนช่วยในการจัดการองค์ความรู้ สังคมไทยเป็นสังคมที่ชอบพูด ชอบฟัง มากกว่าการชอบอ่าน ชอบเขียน แต่แท้ที่จริงแล้วประเทศที่เขาพัฒนาอย่างสหรัฐอเมริกา สังคมเขาจะมีนักคิด นักเขียน อยู่มาก กระผมเองได้มีโอกาสไปทำงานวิจัย และต้องสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ หาเอกสารต่างๆ แต่ปรากฏว่า บุคคลที่ต้องสัมภาษณ์ได้เสียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งเมื่อขอข้อมูลเอกสารต่างๆ จากญาตผู้ตาย ก็ไม่มีให้ ดังนั้น หากสังคมไทยในอดีต มีการเขียน มีการจดบันทึก มีการจัดการองค์ความรู้ ก็จะทำให้ผมมีเอกสารไปทำงานวิจัย ไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้น แต่ประเทศอเมริกา เขามีคนเขียนมากทำให้มีการต่อยอดองค์ความรู้ นักวิจัยของเขาสามารถไปหาอ่านงานเขียนของผู้ที่จะต้องสัมภาษณ์ นำมาเป็นข้อมูลได้ ถึงแม้บุคคลนั้นจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม
ดังนั้น การเขียนมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ในอดีตมีคนบอกว่า นักเขียนไส้แห้ง แต่ปัจจุบันความคิดนี้อาจต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะ การเป็นนักเขียนที่ดี ที่เก่ง อาจสร้างตัวได้ถึงขั้นเป็น “ มหาเศรษฐี” ไปเลยก็มีให้เห็นแล้ว เช่น เจ.เค.โรว์ลิ่ง นักเขียนเจ้าของผลงาน “ แฮร์รี่ พอตเตอร์” หรือ คุณสมคิด ลวางกูร นักเขียนชาวไทยที่ร่ำรวยเงินทอง มีบ้าน มีรถ มีเงินมากมาย ก็จากงานด้านการเขียนหนังสือ จนคุณสมคิด ลวางกูร ต้องจัดอบรมในหัวข้อ “ สร้าง 100 ล้านจากการเขียนหนังสือ”
ถ้าไม่ได้เป็นนักอ่าน ไม่ควรคิดเป็นนักเขียน และหากเป็นนักเขียน ก็ควรเขียนเพื่อพัฒนาสังคม

...
  
จดจ่อและจดจำ... ทำได้... ขายถึง
เป็นวิทยากรบรรยาย ใน Concept “จดจ่อและจดจำ... ทำได้... ขายถึง” แก่พนักงานแนะนำ และจัดเรียงสินค้า รวมถึงหัวหน้างานขั้นต้น (Supervisor)
เป็นวิทยากรให้แก่บริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 450 คน โดยพูดเรื่องเกี่ยวกับการขาย โ...ดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 150 คน (จึงต้องบรรยาย 3 รอบ ในหัวข้อการขาย) ที่ ชะอำ ณ โรงแรม รีเจนซี่ วิงดูเพิ่มเติม ...
  
พัฒนาตนเองด้วยมิติ “ การจัดการ PDCA”
พัฒนาตนเองด้วยมิติ “ การจัดการ PDCA”
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนเราเกิดมาอาจไม่เท่าเทียมกันในเรื่องของชาติกำเนิด แต่คนเราทุกๆคนสามารถเลือกที่จะพัฒนาตนเองได้
คนเราจะมีความก้าวหน้าในชีวิต ก้าวหน้าในที่ทำงาน คนๆนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาตนเอง เพราะการพัฒนาตนเองจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างที่นิสัยที่ดีไปทดแทนนิสัยที่ไม่ดีของตนเอง เช่น การสร้างนิสัยที่มีความขยันขันแข็งไปทดแทนนิสัยที่ขี้เกียจ , การสร้างนิสัยความเป็นผู้ดีไปทดแทนนิสัยที่ต่ำทรามของตน , การสร้างนิสัยความเสมอต้นเสมอปลายไปทดแทนนิสัยที่จับจดโลเล เป็นต้น
ในบทความฉบับนี้ กระผมขอพูดเรื่อง “ พัฒนาตนเองด้วยมิติ การจัดการ PDCA ”
สำหรับหลักความคิด PDCA เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นซึ่งแพ้สงครามในขณะนั้นเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ซึ่งประเทศที่ให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่น คือประเทศสหรัฐอเมริกาได้ส่งคนเข้าไปช่วยเหลือให้คำแนะนำปรึกษาซึ่งบุคคลดังกล่าวคือ DR.Deming ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องคุณภาพ ซึ่ง Dr.Deming ได้คิดค้น วงจรการบริหารงานแบบ PDCA ซึ่งเป็นการบริหารแบบเรียบง่ายโดยการควบคุมคุณภาพการผลิตสินค้าที่มีมากอย่างประสิทธิภาพ ซึ่งหลัก PDCA มีดังนี้
P (Planning) การวางแผน เป็นกิจกรรมลำดับแรก ที่ต้องกำหนดเพื่อไปสู่เป้าหมาย ตัวอย่างเช่น หากว่าเราต้องการพัฒนาตนเองในด้านความขยันขันแข็ง เราจำเป็นจะต้องวางแผนการใช้เวลาในชีวิตของเราเพื่อให้ทุกนาทีเกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น วางแผนการทำงานในแต่ละวัน แบ่งเวลาสำหรับการพักผ่อน ออกกำลังกาย เวลาสำหรับครอบครัว เป็นต้น
การวางแผนจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ ในการทำงานต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่การพัฒนาตนเอง ดังนั้นหากท่านต้องการพัฒนาตนเอง หากท่านต้องการเปลี่ยนแปลงตนเอง จงเริ่มสำรวจตัวเองว่า สิ่งไหนที่ท่านต้องการพัฒนาตนเองเป็นอันดับแรกๆ แล้วเริ่มวางแผนการเป็นรายวัน รายเดือน รายปี เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเอง
D (Do) การลงมือทำ การปฏิบัติตามแผน เมื่อมีการวางแผนงานแล้ว แต่ขาดซึ่งการลงมือทำ แผนที่วางเอาไว้ก็นิ่งสนิท ดังนั้น การลงมือทำจึงเป็นสิ่งที่ทำให้แผนการที่วางเอาไว้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมา คนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาตนเอง จะไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าๆ เขาจะไม่เป็นคนที่รอคอยโชคชะตา แต่เขาจะเป็นคนกำหนดโชคชะตาของตนเอง ด้วยการลงมือ “ ทำทันที หรือ ททท.” โดยไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เพราะคนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ไม่ใช่เป็นแต่คนที่มีความคิดดีๆ แต่ไม่ยอมลงมือกระทำ แต่เขาจะตัดสินใจทำทันที เพราะการลงมือกระทำ เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
C (Check) ตรวจสอบและประเมินตนเอง เมื่อเราลงมือกระทำตามแผนการที่วางเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไป เราต้องมีการตรวจสอบและประเมินตนเอง ตามแผนที่วางไว้ ว่าสิ่งที่เราทำนั้น ได้กระทำตามแผนหรือไม่ หรือ มีสิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ
A (Action) การปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา เมื่อมีการตรวจสอบและประเมินตนเองแล้ว เราควรหาวิธีการในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา สิ่งที่เราได้ทำเอาไว้ โดยการนำเอา C (Check) มาตรวจสอบปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
ดังนั้น หากต้องการพัฒนาตนเองด้วยมิติ “ การจัดการ” PDCA เราคงต้องมีการกระทำอย่างจริงจัง และควรทำในลักษณะเป็นวงจรกล่าวคือ PDCA แล้วไปยัง PDCA แล้วไปยัง PDCA อีกหลายรอบ ควรทำเป็นวงจรซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ควรทำแค่รอบเดียว และหลักการ PDCA ยังนำไปใช้ได้ในเรื่องของ การบริหารต่างๆ อีกด้วย เช่น การบริหารงานผลิต , การบริหารงานเขียน , งานบริหารงานบุคคลและการบริหารและพัฒนาตนเองอีกด้วย
หากว่าคุณมีความปรารถนาจะสร้างความสำเร็จ การพัฒนาตนเองด้วยมิติ “ การจัดการ PDCA ” ช่วยท่านได้
...
  
จงยกระดับงานเขียน
จงยกระดับงานเขียนให้เป็นดั่งมืออาชีพ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
เมื่อท่านเขียนหนังสือไปสักระยะ ท่านควรพัฒนาตนเองให้เป็นมืออาชีพ เพราะการพัฒนาตนเองให้เป็นนักเขียนมืออาชีพจะทำให้ท่านเกิด รายได้มากขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาตนเองให้เป็นมืออาชีพ ท่านสามารถพัฒนาได้ดังนี้
1.ท่านต้องมีวินัยในตัวเอง นักเขียนใหม่ๆมักจะไม่มีวินัยในตนเอง อยากจะเขียนก็เขียน เมื่อไม่มีอารมณ์เขียนก็ไม่เขียน บางวันเขียน บางวันไม่เขียน จึงทำให้ผลงานการเขียนของนักเขียนท่านนั้นออกมาอย่างไม่สม่ำเสมอ หากเป็นไปได้ท่านควรจัดสรรเวลาแต่ละวันสำหรับเขียน เมื่อท่านเขียนทุกๆวัน จนเป็นนิสัย การเขียนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
2.พัฒนาตนเองให้เขียนได้หลายแนวขึ้น แน่นอนในการเขียน หากจะให้ง่ายเราควรเขียนในเรื่องที่เรามีความรู้ มีความถนัด แต่หากท่านต้องการเป็นมืออาชีพ ท่านจะต้องหัดเขียนในแนวอื่นๆด้วย การเขียนหลายๆแนวจะทำให้ท่านมีฐานลูกค้ามากขึ้น การเขียนหนังสือหลายๆแนว จะทำให้ท่านมีความรู้ที่แตกฉานมากขึ้น
3.ทำงานได้ในหลายสถานที่ นักเขียนมืออาชีพต้องมีความพร้อมในการเขียนทุกสถานที่ เนื่องจากในยุคปัจจุบัน นักเขียนหลายๆท่านต้องถูกเชิญให้ไปพูดไปบรรยายไปให้ความรู้ยังสถานที่ต่างๆ ดังนั้น นักเขียนจะต้องออกเดินทางและมีการเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ สถานที่ทำงานของนักเขียนจึงไม่ใช่ห้องทำงานเสมอไป นักเขียนมืออาชีพจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงาน
4.รู้จักใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ นักเขียนมืออาชีพ ควรเรียนรู้และรู้จักใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำงานเช่น รู้จักใช้คอมพิวเตอร์ รู้จักหาข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต รู้จักใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆในการทำงาน ยิ่งเป็นสมัยยุคปัจจุบัน ท่านไม่จำเป็นต้องหอบหนังสือเป็น 1,000 เล่ม ไปไหนต่อไหน ท่านสามารถอ่านหนังสือได้โดยผ่านระบบ E-book โดยดูได้จากคอมพิวเตอร์
5.เรียนรู้หลักการตลาด นักเขียนบางท่านเขียนหนังสือได้ดีมาก แต่หนังสือเหล่านั้นขายแทบไม่ได้ แต่ตรงกันข้ามกับนักเขียนอีกหลายๆคน ที่เขียนหนังสือได้ดีน้อยกว่า แต่สามารถขายหนังสือได้มากกว่า ดังนั้นหากต้องการเขียนหนังสือให้ขายดี นักเขียนคงต้องเรียนรู้หลักการตลาดให้มากขึ้น เพราะผู้อ่านก็คือลูกค้า เราจะเขียนหรือผลิตสินค้าอย่างไรให้ลูกค้าหรือผู้อ่านของเราพอใจ จึงเป็นเรื่องที่ควรศึกษา
6.รักษาความสม่ำเสมอ นักเขียนมืออาชีพ ควรรักษาความสม่ำเสมอของตนเอง เช่น มีผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ , งานเขียนออกมาได้มาตรฐานของตนเองสม่ำเสมอ , การกำหนดรูปเล่ม การจัดหน้าหนังสือ การสะกดคำต้องออกมาดี ไม่ผิดพลาดมาก เป็นต้น
7.รู้จักพัฒนาตนเองตลอดเวลา ข้อนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากต้องการเป็นมืออาชีพ เราจะต้องมีการพัฒนาการเขียนอยู่ตลอดเวลา เราต้องอ่านหนังสือให้มาก เขียนให้มาก คิดให้มาก อีกทั้งต้องคอยปรับปรุง รูปเล่ม การจัดหน้า ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ดังนั้น หากต้องการเป็นนักเขียนมืออาชีพ ท่านจะต้องไม่อยู่นิ่ง ท่านจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองในการพัฒนาตนเองเสมอ
ดังนั้น หากท่านปฏิบัติได้ตามคำแนะนำข้างต้น กระผมเชื่อแน่ว่า ท่านจะเป็นนักเขียนมืออาชีพอย่างแน่นอน ขอให้ท่านพบความสำเร็จบนเส้นทางนักเขียนมืออาชีพ
...
  
พัฒนาตนเอง 5 ส. สู่ความสำเร็จ
พัฒนาตนเอง 5 ส. สู่ความสำเร็จ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนเป็นจำนวนมากต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต คนเป็นจำนวนมากต้องการเงินเดือนที่สูงขึ้น คนเป็นจำนวนมากต้องการความก้าวหน้าในที่ทำงาน แต่คนส่วนใหญ่มักมองแต่สภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ต้องการเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ , ต้องการเจ้านายใหม่ , ต้องการเปลี่ยนห้องทำงานใหม่ ฯลฯ แต่ความจริงแล้ว หากว่าเราต้องการประสบความสำเร็จ เราต้องเริ่มต้นจากภายในตัวเราก่อน
เริ่มจากการพัฒนาตนเอง สมมุติว่านาย A ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเป็นพนักงาน เจ้าหน้าที่ แต่หากว่านาย A ต้องการเป็น อาจารย์มหาวิทยาลัยแบบนาย B นาย A จึงต้องไปดูว่าคุณสมบัติของความเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร เช่น ต้องมีวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาโท , ต้องมีความสามารถในการถ่ายทอดทั้งการพูด การสอนและการเขียน, ต้องมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพความเป็นอาจารย์ เป็นต้น
จากตัวอย่างข้างต้น หากว่า นาย A ต้องการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย นาย A จึงต้องเริ่มต้นพัฒนาตนเอง ด้วย การไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท , ต้องไปเรียนการพูด การเขียน การสื่อสาร เป็นต้น
ดังนั้นการพัฒนาตนเองจึงเป็นส่วนสำคัญในชีวิตการทำงาน ซึ่งเราจำเป็นจะต้องพัฒนาตนเองหลายๆด้านด้วยกัน ในบทความนี้ขอพูดเรื่อง “ พัฒนาตนเอง 5 ส. สู่ความสำเร็จ ”
ส.ที่ 1 สมอง คนที่ร่ำรวย คนที่มีหน้าที่การงานดี คนๆนั้นมักมีมันสมองที่ดี ฉลาด การพัฒนาสมองจึงเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาตนเองไปสู่ความสำเร็จ เพราะการจะแก้ไขปัญหาต่างๆ เรามักสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยกันหลายทาง แต่คนที่มีมันสมองที่ฉลาด มักใช้ความคิด และการตัดสินใจที่ดีกว่าคนที่มีมันสมองที่ไม่ดี
ส.ที่ 2 สัมพันธ์ การพัฒนาความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่า ในการทำงานทุกแห่งเรามักทำงานร่วมกันกับคนอื่น การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลจึงเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ฝึกฝน ศึกษา
ส.ที่ 3 สติ การทำงานทุกประเภท บุคคลที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่มีสติ ไม่เป็นคนที่ใจลอยหรือเป็นคนที่ขาดสติ คนที่มีสติ มักทำงานได้รอบคอบกว่าคนที่ไม่มีสติ คนที่มีสติ มักทำงานได้ผิดพลาดน้อยกว่าคนที่ขาดสติ
ส.ที่ 4 สง่า บุคลิกภาพ ความสง่า มีส่วนสำคัญที่สร้างความประทับใจเริ่มแรกในการพบปะกัน การแต่งกาย ทรงผม หน้าตา ตลอดจนการรักษารูปร่าง จึงเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น
ส.ที่ 5 สัจจะ บุคคลที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่เคารพ นับถือ มักเป็นคนที่ใช้คำพูด ใช้วาจา ที่ดี เป็นคนที่รักษาคำมั่นสัญญา เป็นคนที่พูดจาอ่อนหวาน สุภาพ ดังนั้นบุคคลที่ต้องการประสบความสำหรับควรที่จะต้องมีการฝึกฝนและพัฒนา ปรับปรุง คำพูด
ดังนั้นบุคคลที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่ต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และหากว่าเราลองสังเกตดูคนรอบข้างเราก็จะมีอยู่ 2 ประเภท กล่าวคือคนที่ประสบความล้มเหลว มักเป็นคนที่คิดลบอยู่เสมอ มักเป็นคนที่ฝากชีวิตไว้กับคนอื่น มักเป็นคนที่มีข้ออ้างตลอดเวลา ตรงกันข้ามกับคนอีกประเภทหนึ่ง ก็คือคนที่ประสบความสำเร็จ มักเป็นคนที่คิดบวก มักเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง มักเป็นคนที่พัฒนาตนเอง ตลอดเวลา
แล้วคุณต้องการเป็นคนประเภทไหน เพราะถ้าหากว่าคุณต้องการเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ขอให้คุณจงรีบพัฒนาตนเองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ถ้าหากว่าท่านคิดว่าตนเอง พัฒนาตนเองได้ ท่านก็จะพัฒนาตนเองได้ แต่ถ้าหากว่าท่านคิดว่าท่านไม่สามารถพัฒนาตนเองได้ ท่านก็มักจะเป็นไปตามความคิดของท่าน
...
  
ABCD กับการเขียน
ABCD กับการเขียน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ในการเขียนหนังสือที่ดี มีคุณภาพ น่าอ่าน ขายดี เราควรคำนึงถึงลักษณะ ABCD ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
A : Attention คือ การสร้างความสนใจ การใช้ภาษาในการเขียนมีส่วนที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ อีกทั้งการใช้ภาษาที่ดียังสามารถโน้มน้าวใจผู้อ่าน ให้อ่านหนังสือจนจบเล่มได้ การออกแบบรูปเล่มก็มีความสำคัญ การใช้สีปกต้องโดดเด่น สามารถหยุดผู้อ่าน ทำให้ผู้อ่านสนใจ อยากหยิบขึ้นมาอ่านได้ ชื่อหนังสือต้องดึงดูด สั้นกระชับได้ใจความ พอผู้อ่านเห็นชื่อแล้ว อยากที่จะอ่าน ตัวอย่างเช่น การพาดหัวตัวใหญ่ หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ ปกหลังต้องมีข้อความหรือรูปภาพเพื่อดึงดูด โดยมากมักจะนำเสนอเรื่องย่อ ภายในหนังสือ ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เป็นที่น่าสนใจแก่ผู้อ่านได้
B : Benefits คือ บอกประโยชน์จากการที่ได้รับคุณค่าจากอ่านหนังสือ บางคนอ่านหนังสือเรื่อง “ พ่อรวยสอนลูก” แล้วไม่ยอมวาง เนื่องมาจากข้อความในหนังสือมีประโยชน์และสามารถนำเอาไปใช้ได้ บางคนอ่านหนังสือ “ขายหัวเราะ” แล้วไม่ยอมวาง เนื่องจากได้รับประโยชน์จากข้อความภายในหนังสือ อ่านแล้วมีความสนุกสนาน คลายเครียด หรือบางคนป่วยเป็นโรค เมื่อได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการรักษาโรคต่างๆ แทบจะไม่วางหนังสือเล่มนั้น เนื่องจากว่าผู้อ่านได้รับประโยชน์จากการอ่านหนังสือเพื่อนำไปใช้รักษาสุขภาพของตนเอง
C : Creativity คือ มีการสร้างสรรค์ หนังสือที่ขายดีส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มักเป็นหนังสือที่มีการสร้างสรรค์ มีการสร้างความแปลกใหม่ ทั้งรูปปก เนื้อหาภายใน การจัดหน้าหนังสือ มีการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นตัวของตัวเอง อีกทั้งมีการสร้างจุดเด่นใหม่ๆ ขึ้นมาในงานเขียน พูดง่ายว่า ต้องมีความโดดเด่น แปลกใหม่ สร้างสรรค์ แตกต่าง
D : Demand คือ การคำนึงถึง ผู้อ่าน ความต้องการของผู้อ่านมีผลต่อการขายหนังสือได้ดี เราจะสังเกตเห็นว่าหนังสือบางเล่ม เขียนได้ดี แต่ยอดขายไม่ดี ซึ่งแตกต่างกับหนังสืออีกจำนวนหนึ่งที่ เขียนได้ดีน้อยกว่าแต่หนังสือเล่มดังกล่าวไปสนองความต้องการของผู้อ่าน จึงทำให้เกิดการขายดี หรือ นักเขียนบางคนถึงกับเขียนหนังสือตามกระแสไปเลย เช่น ประวัติของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ , ชีวประวัติของบุคคลที่โด่งดังในเมืองไทยซึ่งเป็นที่น่าสนใจของคนโดยทั่วไป เช่น ประวัติของเจ้าสัว เช่น เจ้าสัวธานินทร์ เจียรวนนท์(ซีพี) , เจ้าสัวเจริญ ศิริวัฒนภักดี(เบียร์ช้าง) , เจ้าสัวบรรฑูร ลำซำ(แบงค์กสิกรไทย) เป็นต้น
ดังนั้น คนที่ประสบความสำเร็จในการเขียนควรคำนึงถึงปัจจัย ABCD ข้างต้น เพราะ ปัจจัย ABCD เป็นปัจจัยตัวหนึ่งในหลายๆปัจจัยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในการเขียน
“ จงเขียนให้มากๆ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักเขียน”
...
  
บรรยาย การขาย
บรรยายกระบวนการขายให้แก่ บริษัท AIA ...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.