หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
การสร้างแรงบันดาลใจ
การสร้างแรงบันดาลใจ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จในแวดวงต่างๆ เขามักเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน ฉะนั้น การสร้างแรงบันดาลใจจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จ สำหรับการสร้างแรงบันดาลใจ เราสามารถสร้างได้หลายทาง เช่น
- การตั้งเป้าหมาย การเขียนเป้าหมาย การสร้างภาพความฝัน ที่ตนเองต้องการอยู่เป็นประจำ
โดยเฉพาะตอนก่อนเข้านอน หนังสือเรื่องเดอะซีเคร็ต ได้แนะนำว่าในโลกนี้มีกฎแห่งการดึงดูด หากว่าคุณหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องใดเป็นประจำคุณก็มักจะได้สิ่งนั้น ฉะนั้น จงคิดมัน จงฝันถึงมัน จงจินตนาการถึงมันบ่อยๆ แล้วชีวิตของคุณก็จะเดินทางไปสู่เป้าหมายหรือความฝันของตนเองในที่สุด
- การอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือสามารถสร้างแรงบันดาลใจที่ดี โดยเฉพาะสำหรับคนบางคน
ผู้นำของหลายประเทศหลายคนทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้อ่านเรื่องราวของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมือง ผู้นำประเทศเหล่านั้น จึงได้สร้างแรงบันดาลใจในตัวเองขึ้น เขาเหล่านั้นจึงเกิดความต้องการที่จะเป็นผู้นำประเทศเหมือนกับชีวประวัติของผู้นำในหนังสือบ้าง เป็นต้น
- การฟังเทป การฟัง VCD เรื่องราวที่เกี่ยวกับแรงจูงใจ ก็เป็นสิ่งหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ
ขึ้น เพราะในเทป ใน VCD จะเล่าเรื่องราวของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ว่าเขาทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ ซึ่งหากว่าเราฟังแล้วนำไปปฏิบัติ เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้ดังบุคคลนั้น
- การสัมมนา การอบรม การประชุม เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถ สร้างแรงบันดาลใจได้ เพราะภายใน
งาน ผู้จัดงานมักจะนำเอาบุคคลที่ประสบความสำเร็จมาพูด มาคุย อีกทั้งการสัมมนา การอบรม การประชุม จะทำให้เราทราบความเคลื่อนไหว ข่าวคราว ของหน่วยงาน ของกิจการ ของประเทศ ซึ่งเป็นข่าวที่ใช้ในการทำงานของเราได้โดยตรง
- การรวมกลุ่มที่มีจิตใจเดียวกัน ความต้องการเดียว ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ
เช่น หากว่าเราอยากเป็นนักเขียนระดับประเทศ เราก็ควรเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน อีกทั้งเมื่อเราได้รู้จักนักเขียนมืออาชีพแล้ว เขาก็มักจะมีคำแนะนำดีๆในการสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้เป็นนักเขียนมืออาชีพในอนาคต
- การหาแบบอย่างหรือการหาบุคคลตัวอย่าง โดยเฉพาะบุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือบุคคลที่
เราอย่างที่จะมีชีวิตแบบเขา ก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจขึ้นภายในตนเอง เช่น ไมเคิล จอร์แดน(Michael Jordan) เป็นแรงบันดาลใจให้แก่บรรดาเด็กๆหลายๆคนทั่วโลกอยากที่จะเป็นนักบาสเก็ตบอล , ไทเกอร์ วูดส์ เป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนอีกหลายๆคนในการที่อยากที่จะเป็นนักกอฟส์มืออาชีพ ,จอห์น เลนน่อน(John Lennon) ผู้แต่งเพลง “ Eight Day” เป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนอเมริกาหลายคนอยากที่จะเป็นนักแต่งเพลง,สตีฟ จอบส์ เป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนหลายคนทั่วโลกในการต่อสู้ชีวิตและสร้างผลงานใหม่ๆ เป็นต้น
และมีอีกหลายวิธีในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตนเอง ฉะนั้นบุคคลที่มีผลงานโดดเด่น มีผลงานมากมายมักจะเป็นคนที่มีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตนเองทั้งสิ้น จงสร้างแรงบันดาลใจในตนเองขึ้น แล้วท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ได้ฝากผลงานที่โดดเด่นและมากมายให้แก่โลกนี้


...
  
พ่อแม่
พ่อแม่ รังแกฉัน

โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(โทนี่)


อันชนกชนนีนี้รักเจ้า เทียมเท่าชีวาก็ว่าได้


เมื่อสมัยเด็กๆ เมื่อตอนที่กระผมกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน กระผมได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีเนื้อหาที่ดีและให้แง่คิดมาก กระผมคิดว่าคนรุ่นวัย 20 ปี ขึ้นไป หลายคนคงได้อ่านเช่นกัน หนังสือเล่มนั้นก็คือ หนังสือเรื่อง “ พ่อแม่ รังแกฉัน “ เนื้อเรื่อง เท่าที่จำได้ พอสรุปได้ว่า เป็นเรื่องราวความรักของพ่อแม่ที่ผิดพลาดโดยการ “ ตามใจ” เรื่องมีอยู่ว่าพ่อแม่ เป็นเศรษฐี รักลูกมากๆ มีอะไรก็หามาให้ ตามใจสารพัด ใครจะว่า กล่าวด่าลูกก็ไม่ได้ ลูกจะผิดจะถูกอย่างไรก็ไม่เคยเตือน สอนสั่ง เมื่อลูกไม่สนใจการเรียนก็ไม่เคยเตือน จนลูกเข้าสู่วัยรุ่น ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยไม่เคยห้าม คบเพื่อนไม่ดี พากันไปเที่ยว พากันไปกินเหล้า พากันเที่ยวไม่ยอมเรียนหนังสือ พ่อแม่ก็ไม่ว่า ตามใจทุกอย่าง จนเมื่อลูกโตใหญ่และพ่อแม่ก็แก่ตามไปด้วย ปรากฏลูกเศรษฐี เอาไม่รอด ความประพฤติชั่วช้า จนพ่อแม่ตายไปชีวิตที่ร่ำรวยเงินทองจากพ่อแม่ก็กลับเป็นยากลำบาก เพราะหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ในที่สุดต้องกลายเป็นขอทาน ตอนเป็นขอทานกลับไม่สำนึก โทษพ่อแม่ว่าเป็นความผิดที่ตามใจ(รังแกฉัน) จนกระทั่งได้พบกับซินแส ได้เล่าเรียนจนประกอบอาชีพได้


นี่คือ ยาพิษของการเลี้ยงลูกด้วยการตามใจ


หนังสือเล่มนี้ สอนให้รู้ว่า พ่อแม่ ที่รักลูกมากเกินไป ตามใจเกินไป ใครว่ากล่าว สั่งสอนไม่ได้ ในที่สุด เมื่อลูกโตใหญ่ขึ้น ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่เอาตัวไม่รอด


ฉะนั้น ความรักจึงเป็นเสมือนดาบสองคม ด้านหนึ่งถูกใช้ในการถากถางในการดำเนินชีวิตและอีกด้านหนึ่งก็อาจเป็นอาวุธที่ร้ายแรงคอยทิ่มแทงผู้ที่ใช้ความรักได้เช่นกัน


และถ้าจะให้ดี ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาก็ควรที่จะให้เด็กไทยรุ่นใหม่ได้มีโอกาสอ่าน วรรณกรรมประเภทเหล่านี้ให้มากๆ ในโรงเรียนถ้ากระผมจำไม่ผิด หนังสือเรื่อง “ พ่อแม่รังแกฉัน” น่าจะเป็นหนังสือคำประพันธ์บางเรื่องของ ท่านพระยาอุปกิตศิลปสาร


ในสังคมไทยเราปัจจุบันมีมากมาย ไม่ว่าเศรษฐี ไม่ว่าชาวไร่ชาวนา หาเช้ากินค่ำ ผู้หลักผู้ใหญ่บางคน ที่สอนลูกในลักษณะนี้ คือ ตามใจลูก ลูกผิดครูสั่งสอนก็ไม่ได้ ใครจะเตือนก็ไม่ได้ จึงทำให้เด็กเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จึงมีนิสัย ที่ชั่วร้าย ไม่โต ควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้


ในสังคมไทยเราปัจจุบันเราต้องยอมรับเลยว่า การเลี้ยงลูกในสมัยนี้ยากกว่าสมัยก่อน มาก เพราะ


สังคมปัจจุบันเรามีสิ่งเร้า สิ่งยั่วยุ สิ่งเสพติด สิ่งอบายมุข การพนัน เกมส์ และรวมทั้งสื่อลามกอนาจารเป็นจำนวนมาก


ดังนั้น วิธีการเลี้ยงดูลูกหลาน จึงต้องเปลี่ยนแปลงจากอดีต พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลให้เวลาลูกหลานเพิ่มมากขึ้น มีศาสตร์และมีศิลป์ในการสอน และต้องมีวิธีการดูปัญหา แก้ปัญหา เป็นระบบ


ไม่มองจุดเดียว เพราะปัญหาของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ค่อนข้างเชื่อมโยงกัน เช่น ปัญหาเด็กติดเกมส์ก็มักจะทำให้เด็กเสียการเรียน ร้านเกมส์บางร้านอาจเป็นแหล่งมั่วสุม ซึ่งเป็นที่มาของการขายยาเสพติด การล่อลวงเด็กไปมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเด็กต้องการเล่นเกมส์ ต้องการหาเงินไปซื้อยาเสพติด ก็จะเกิดปัญหาลักขโมยตามมา เด็กบางคนอาจมีปัญหามากจนเกิดอาการซึมเศร้า จนกระทั่งต้องฆ่าตัวตายก็มี และยังมีปัญหาที่เชื่อมโยงกับปัญหาเหล่านี้อีกมากมาย


เราจะเห็นได้ว่าปัญหาเด็กและเยาวชน เป็นปัญหาที่ใหญ่ และถ้ายังไม่ช่วยกันแก้ อนาคตของประเทศไทยเราก็คงต้องแย่ เพราะ เด็กและเยาวชนก็คืออนาคตของชาติ (เด็กในวันนี้เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า)


ความรักความห่วงใย คือ สายใยของครอบครัว

...
  
สร้างนิสัยแห่งความสำเร็จ
สร้างนิสัยแห่งความสำเร็จ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จ มักมีนิสัย ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ในทางตรงกันข้าม คนที่ล้มเหลว มักมี นิสัยที่ทำให้เขาล้มเหลวอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต ท่านจึงควรสร้างนิสัยใหม่ที่จะทำให้ท่านเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ โดยดูต้นแบบว่า คนที่ประสบความสำเร็จ เขามีนิสัยอย่างไรกัน จากการอ่านและการค้นคว้าของกระผม กระผมพอสรุปได้ดังนี้
1.มีความเป้าหมาย มีความตั้งใจ มุ่งมั่น พยายาม เพื่อไปให้สู่เป้าหมาย คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เขามักมีเป้าหมายในชีวิต อีกทั้งเขาพยายามทุ่มเท ชีวิต พลังงานทั้งหมด ไปยังเป้าหมายที่เขาได้กำหนดเอาไว้
2.วางแผน เขียนแผนการ ลงบนกระดาษ คนที่ประสบความสำเร็จ เขามักมีการวางแผน อีกทั้งมักจะเขียนแผนการ เป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี ราย 5 ปี ราย 10 ปี ไว้บนกระดาษ เพราะการเขียนไว้บนกระดาษจะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งทำให้เกิดการตรวจสอบ เกิดการควบคุม เป้าหมายและแผนการ ว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง
3.พึ่งตนเอง มากกว่าพึ่งเทวดา ฟ้า ดิน พระเจ้า คนที่ประสบความสำเร็จ เขามักเชื่อมั่นในตนเอง เขามักพึ่งพาตนเอง มากกว่า พึ่งคนอื่น และยังเป็นที่พึ่งของคนอื่นๆได้อีกด้วย
4.เป็นคนที่มีจินตนาการ มีความฝัน มีความหวัง คนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่มักเป็นนักคิด นักฝัน นักจินตนาการ เขาจึงสามารถสร้างผลงานที่ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นแก่สังคมและประเทศชาติ
5.ดึงศักยภาพแฝงเร้นออกมาใช้ได้มากกว่าคนอื่นๆ ความจริงแล้ว คนเรามีพลัง มีศักยภาพมากมาย แต่เรามักไม่ได้นำออกมาใช้งาน แต่ตรงกันข้าม คนที่ประสบความสำเร็จ เขามักดึงศักยภาพแฝงเร้นออกมาใช้ได้อย่างมหาศาล
6.เป็นคนที่ ททท.หรือทำทันที คนที่ประสบความสำเร็จเมื่อ มีเป้าหมายแล้ว มีการวางแผนแล้ว มีจินตนาการแล้ว เขาจะลงมือทำทันที แต่ตรงกันข้าม บุคคลโดยทั่วไป เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่ไม่ยอมลงมือทำ แต่จะมีข้ออ้างต่างๆนานา เพื่อที่จะทำให้ตนเองไม่ต้องทำสิ่งนั้น
7.หาความรู้เสมอ ไม่หยุดยั้ง คนที่ประสบความสำเร็จ เขามักเป็นคนทันโลก ทันเหตุการณ์ เขาพร้อมที่จะยอมรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ตรงกันข้าม บุคคลที่ล้มเหลว มักหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บุคคลโดยทั่วไป เมื่อจบการศึกษาแล้ว ได้รับปริญญาแล้ว ก็หยุดที่จะเรียนรู้
8.รู้จักหาความสมดุลให้แก่ชีวิต บุคคลที่ประสบความสำเร็จ มักสร้างความสมดุลให้แก่ชีวิต โดยหาความสงบ เข้าหาธรรมชาติ ฝึกจิตใจ ฝึกสมาธิ ตรงกันข้าม บุคคลโดยทั่วไปมักจะดำเนินชีวิตเป็นไปตามกระแสโลก โดยเฉพาะโลกแห่งวัตถุนิยม โลกแห่งการบริโภคนิยม
ดังนั้น หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จ ท่านจึงควรสร้างนิสัยแห่งความสำเร็จ ท่านก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เหมือนคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคน
...
  
ปลุกพลังในตัวคุณ
ปลุกพลังในตัวคุณ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จอย่าง เอดิสัน นักประดิษฐ์เอกของโลก,ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ของสหรัฐ , มหาตะมะ คานธี อดีตผู้นำที่ชาวอินเดียรักและให้ความเคารพตลอดกาล, เดล คาร์เนกี อดีตอาจารย์ผู้สอนวิชาการพูดระดับโลก ผู้นำเหล่านี้ มักดึงพลังจากภายในตัวของเขาเอง ออกมาใช้มากกว่าผู้อื่น
อีกทั้งผู้นำเหล่านี้ รู้ว่าตนเอง มีความรัก ความชอบ ความต้องการอะไรในชีวิตอย่างแท้จริง พวกเขามีอุดมการณ์ รวมทั้งยอมตายเพื่ออุดมการณ์หรือยอมตายเพื่อแลกกับสิ่งที่เขาต้องการ
เดล คาร์เนกี เขาต้องการเปิดสอนการพูด จึงไปนำเสนอหลักสูตร “ การพูดต่อหน้าสาธารณชน ” เพื่อไปเป็นอาจารย์สอนยังมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย แต่ก็โดนปฏิเสธ แต่เขาไม่ย่อท้อ เขาจึงได้ไปนำเสนอหลักสูตร แก่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ก็ถูกปฏิเสธกลับมาอีก เพราะเหตุว่า ทั้ง 2 สถาบัน คิดว่าคงไม่มีคนสนใจเรียน แล้วในที่สุด เขาเปิดสอนในโรงเรียน ไว.เอ็ม.ซี.เอ ซึ่งต้องเรียนหรือต้องสอนในช่วงกลางคืน โดยทาง ไว.เอ็ม.ซี.เอ ได้ตกลงให้ค่าจ้างเขาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามจำนวนคนที่เข้าเรียน แทนการจ้างโดยการจ่ายเป็นเงินเดือนประจำ เนื่องจากไม่เชื่อมั่นว่าจะมีคนมาเรียนเป็นจำนวนมาก
แต่ในที่สุด หลักสูตรของเขาได้รับการยอมรับอย่างมากมาย คนมาสมัครเรียนเป็นจำนวนมาก ทำให้เงินที่เขาได้รับเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามจำนวนคนเข้าเรียน มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าของเงินที่ทาง ไว.เอ็ม.ซี.เอ จะใช้จ้างเขาเป็นเดือนในตอนแรกเสียอีก ปัจจุบันหลักสูตรของเขาได้มีการแพร่หลายและใช้เรียนไปทั่วโลก
ทำไม เดล คาร์เนกี จึงประสบความสำเร็จ ? ปัจจัยหนึ่งก็คือ เขารู้จักตนเอง เขารู้ความต้องการของตนเอง และเขาดึงพลังจากภายในตัวของเขามาใช้อย่างเต็มที่
อยากเก่งต้องมี Passion (ความชอบ ความอยาก ความหลงใหล)ในการทำธุรกิจถ้าให้เลือกระหว่างมีเงินทุนมากกับมี Passion ผมเลือกการมี Passion มากกว่า เพราะการมี Passion จะทำให้เราเกิดความกล้า ความอดทน ความมุ่งมั่น ไม่บ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ออกมาจากภายในใจของเรา อีกทั้งคนที่ประสบความสำเร็จมักมี Passion เกือบทุกคน(คนส่วนใหญ่หรือคนธรรมดามักยอมแพ้ในระหว่างทาง แต่คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะพยายามเดินไปให้ถึงฝั่งฝัน ด้วยใจที่รักในสิ่งนั้น)
อยากดึงพลังภายในตนเอง ทำอย่างไร? คนโดยทั่วไปหรือคนธรรมดา มักจะไม่มีเป้าหมายในชีวิต ตรงกันข้ามกับคนที่ประสบความสำเร็จเขามักมีเป้าหมายในชีวิต หากต้องการดึงพลังภายในตนเองออกมาใช้ กระผมขอแนะนำว่า ท่านควรวางเป้าหมายในชีวิตให้แก่ตนเองก่อนเป็นลำดับแรก เพราะการมีเป้าหมายจะทำให้เรามีทิศทางในการเดินทาง ไม่หลงทาง ไม่ใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
อยากประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากตัวเราเอง หลายคนมักโทษคนอื่น บางคนโทษฟ้า โทษดิน โทษอากาศ แต่จริงๆแล้ว คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเริ่มเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองก่อน เปลี่ยนแปลงอย่างไร เปลี่ยนแปลงตนเองโดยการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา เช่น การอ่านหนังสือทุกวัน,การเข้าสัมมนา การอบรม , การคิดแง่บวก , ฝึกการพูด เป็นต้น
ดังนั้น หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จ ท่านควรสร้างเป้าหมายของตนเองขึ้นมา แล้วทุ่มเทพลัง ดึงพลังของตนเองออกมาใช้อย่างเต็มที่ แล้วท่านก็จะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย



...
  
การใช้วาทศิลป์ขั้นสูง"
บรรยาย ณ วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปทุมธานี หลักสูตร
" นักบริหารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย" ...
  
คุณก็เป็นเศรษฐีได้
คุณก็เป็นเศรษฐีได้
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
หลายคนอาจจะคิดตำหนิพ่อแม่ บางคนอาจจะคิดตำหนิชาติกำเนิด ว่าตนเองเกิดมาไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้เป็นเศรษฐี แต่แท้จริงแล้ว เราสามารถเป็นเศรษฐีได้โดยเริ่มต้นจากตัวเราเอง
วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีระดับโลก เริ่มต้นทำงานตั้งแต่การเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ตามบ้าน
เฉลียว อยู่วิทยา มหาเศรษฐีชาวไทย เจ้าพ่อกระทิงแดง เริ่มต้นจากพ่อค้าเร่ขายผลไม้
โคโนสุเกะ มัตสึชิตะ มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น เทพเจ้าวงการค้าของญี่ปุ่น เขาเรียนจบแค่ชั้นประถมปีที่ 4 แล้วก็ออกจากโรงเรียน ไปเป็นลูกจ้างร้านจักรยานขณะที่มีอายุ 15 ปี
แอนดรู คาร์เนกี มหาเศรษฐีระดับโลก เจ้าของโรงงานเหล็กกล้าระดับโลก อายุ 13 ปี ต้องรับจ้างเป็นคนงานในโรงงานสิ่งทอ
บุคคลเหล่านี้ ไม่ได้เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย แต่ตรงกันข้าม ความลำบากในวัยเด็ก กับทำให้เขาเหล่านี้มุมานะ สร้างตนจนกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ คุณก็ทำได้ ถ้าคุณคิดและเชื่อมั่นว่าคุณทำได้
มหาเศรษฐีเหล่านี้เขาทำกันอย่างไร
1.ฝันต้องยิ่งใหญ่ เป้าหมายต้องเป็นไปได้ บรรดาเศรษฐีทั่วโลก เขามักฝันอยากที่จะมีกิจการเป็นของตนเอง โดยเขามักจะเริ่มกิจการในธุรกิจที่ตนเองมีความชื่นชอบ บิล เกตส์ และ สตีฟ จอบส์ เขาชื่นชอบคอมพิวเตอร์ เขาจึงเริ่มก่อตั้งบริษัทของตนเองขึ้นมา
2.ระดมคนเก่งมาช่วยงาน บิลเกตส์ เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสารฟอร์ โดยนักข่าวถามเขาว่า เขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร? เขาตอบกลับไปว่า “ ปีนี้ผมเชิญคนเก่งกว่าผมมาช่วยงานอีกหลายคน”
3.ไม่เลิกล้มกลางคัน การทำธุรกิจ ก็เปรียบเสมือนกับการวิ่งมาราธอน ต้องเป็นการวิ่งระยะทางที่ไกล ไม่ได้เป็นการวิ่งเร็วหรือวิ่งระยะสั้น หลายคนเมื่อเจอปัญหาในการทำธุรกิจก็เลิกล้มเอาง่ายๆ ตรงกันข้ามกับคนที่ประสบความสำเร็จ กว่าบริษัทเขาจะเจริญเติบโตบางแห่งต้องใช้เวลาเป็น 30 ปี แต่บางคนก่อตั้งบริษัทแค่ 3 ปี มีปัญหาหน่อยหนึ่งเลิกล้มเสียแล้ว อย่างนี้ก็คงเป็นมหาเศรษฐีได้ยาก
4.ขยายฐานลูกค้าของตนเอง มหาเศรษฐีที่ทำธุรกิจส่วนใหญ่ เขามักเป็นนักตลาดและนักขาย 7-11 เป็นตัวอย่างได้ดีในเรื่องนี้ หาก 7-11 ไม่ยอมขยายฐานลูกค้า 7-11 ก็คงไม่เติบโตไปทั่วประเทศและทั่วโลกเหมือนในยุคปัจจุบัน
5.นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดอยู่เสมอ โลกปัจจุบันนี้เป็นโลกยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการ ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากว่าคุณต้องการความร่ำรวย จงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาด เช่นเดียวกับ สตีฟ จอบส์ ได้นำเสนอสินค้าตระกูล I ออกสู่ตลาดโลก และสินค้าใหม่ๆก็ได้สร้างความร่ำรวยให้แก่ สตีฟ จอบส์ อย่างมากมายมหาศาล
6.สร้างชื่อให้ตลาดยอมรับ สินค้า บริการ ยุคใหม่ต้องสร้างแบรนด์เนม น้ำอัดลมโคคาโคลาประกอบไปด้วยน้ำกับน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ ถ้าไม่พึ่งพาการโฆษณา โคคาโคลา ก็คงไม่มียอดขายมากมายดังเช่นปัจจุบัน
7.อดทนถึงที่สุด การทำธุรกิจ ทำงานต่างๆ ยอมต้องมีอุปสรรค มีปัญหา ความอดทนนั้นขื่นขมแต่ผลที่ตอบแทนกลับมักจะหวานชื่น จงอดทนกับปัญหาต่างๆ เช่น โดนัลด์ เจ ทรัมพ์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐ ร่ำรวยจากธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ มีอยู่ช่วงหนึ่งธุรกิจของเขาตกต่ำสุดๆ เกือบทำให้เขาต้องล้มละลาย ด้วยความอดทน ในที่สุดเขากลับมาร่ำรวยมากกว่าเดิม
8.หาความรู้อย่างไม่หยุดยั้ง ความรู้ในยุคปัจจุบันมีมากมาย จากการอ่าน จากการฟัง จากการสัมมนา จากการอบรม การหาความรู้จะทำให้เราทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ทำให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
ปัจจัยข้างต้นนี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้ คุณกลายเป็นมหาเศรษฐี หากว่าคุณมีความต้องการมันอย่างแท้จริง จงคิดแบบมหาเศรษฐี จงพูดแบบมหาเศรษฐีและจงทำแบบมหาเศรษฐี แล้วคุณก็จะกลายเป็นมหาเศรษฐีในที่สุด ขอให้ประสบความสำเร็จ

...
  
การสื่อสารโดยการพูด...ภายในองค์กร
การสื่อสารโดยการพูด...ภายในองค์กร
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
เรื่องของการสื่อสารภายในองค์กร....การพูดนับว่าเป็นการสื่อสารภายในองค์กรอย่างหนึ่ง ซึ่งเราต้องยอมรับว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในองค์กร ความสามัคคีกัน การพูดมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น
ซึ่งรูปแบบการพูดที่มักใช้กันภายในองค์กรต่างๆ มีดังนี้
1.การประชุม
2.การสัมภาษณ์
3.การออกคำสั่ง
4.การสนทนากัน
5.การพูดทางโทรศัพท์
6.การนำเสนอรายงาน การมอบหมายงาน
1.การประชุม การทำงานภายในองค์กร มักจะต้องมีการประชุมร่วมกัน เพราะการประชุมมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ , ทำให้มีการทำงานเป็นทีมมากขึ้น , การหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน , การรับทราบข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายในองค์กร ฯลฯ
ลักษณะของการประชุมที่ดี
1.1.ประธานในที่ประชุมควรวางตัวให้เป็นกลาง จับประเด็นได้ดี แก้ไขปัญหาในที่ประชุมโดยไม่ให้กระทบกับความรู้สึกของผู้เข้าร่วมประชุม
1.2.มีการคัดเลือกบุคคลที่เข้าร่วมประชุม การประชุมหลายแห่ง มักมีผู้เข้าร่วมประชุมเยอะมาก แต่ผู้เข้าร่วมประชุม โดยมากมักไม่ได้มีหน้าที่ ภาระงาน ที่เกี่ยวข้องกับกับการประชุมเลย จึงทำให้ประสิทธิภาพของการประชุมลดลง ฉะนั้น การคัดเลือกบุคคลเข้าร่วมประชุมจึงมีความสำคัญ เพราะทำให้ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นอันมาก
1.3.ระยะเวลาในการประชุม ไม่ควรนานจนเกินไป ควรกำหนดจำนวนครั้งและความถี่
1.4.ห้องประชุม อุปกรณ์การสื่อสารในห้องประชุม ห้องประชุมก็ไม่ควรใหญ่หรือเล็กเกินไป ควรพิจารณาให้เหมาะสมระหว่างขนาดของห้องกับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม
1.5.ห้วข้อ วาระการประชุม ควรเตรียมมาให้พร้อม เพราะหากไม่ได้เตรียมวาระการประชุม การประชุมก็จะวกไปเวียนมา ย้อนไปย้อนมา ทำให้เสียเวลาเป็นอันมาก
สำหรับการพูดในที่ประชุม ประธานควรกล่าวเปิด ปิดการประชุม , ส่งเสริมหรือกระตุ้นให้ผู้ร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น , สรุปประเด็น สรุปผลต่างๆ ได้ ฯลฯ
การประชุมหลายแห่ง ใช้เวลามาก บรรยากาศในการประชุมเกิดปัญหา จึงเป็นข้อควรระวังสำหรับตัวประธานในการที่จะต้องแก้ไขปัญหา เช่น มีการขัดจังหวะกัน , มีการด่าทอกัน , มีการเปลี่ยนเรื่องเปลี่ยนประเด็น , มีการพูดจาหัวเราะเยาะกัน เป็นต้น
2.การสัมภาษณ์ เป็นการพูดอีกรูปแบบหนึ่ง เช่น การสัมภาษณ์ในการจ้างงาน , การสัมภาษณ์ในการแก้ไขปัญหา , การสัมภาษณ์ในการออกจากงาน , การสัมภาษณ์ในการประเมินผลงาน เป็นต้น สำหรับ การสัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ วารสาร ฯลฯ เป็นการสื่อสารโดยการพูดภายนอกองค์กร
3.การออกคำสั่ง เป็นการพูดระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ในการสั่งงาน ซึ่งบางกรณีก็เกิดการผิดพลาดได้ ฉะนั้น เมื่อออกคำสั่งไปแล้ว ก็ควรให้ผู้รับคำสั่งพูดทวน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ปัญหาในการสื่อสารก็จะลดน้อยลง
4.การสนทนากัน เป็นการพูดคุยกันในงานและอาจจะไม่เกี่ยวกับงานที่ตนเองทำ เป็นการพูดอย่างไม่เป็นทางการ อีกทั้งเป็นไปโดยธรรมชาติ
5.การพูดทางโทรศัพท์ เราอาจพูดสั่งงานหรือติดตามงานภายในองค์กรหรือพูดคุยกัน ผ่านทางโทรศัพท์ได้ เนื่องจากองค์กรใหญ่ๆหลายแห่ง มีพื้นที่กว้าง มีตึกที่อยู่ห่างไกลกัน ทำให้ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย
6.การนำเสนอรายงาน การนำเสนองานเป็นการพูดเพื่อแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ อาจจะมีลักษณะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ
ทั้ง 6 ประเภทนี้ จึงเป็นการสื่อสารโดยการพูดภายในองค์กร ที่มีความสำคัญ หากผู้ใดทำงานอยู่ภายในองค์กรก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ตรงกันข้าม หากว่าท่านต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ท่านมีความจำเป็นจะต้องฝึกฝน พัฒนาตนเอง ในการพูดในรูปแบบต่างๆข้างต้นนี้
...
  
เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต
เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
กัลยาณมิตรหรือเพื่อน มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อชีวิตของคนเรา ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้า เคยตรัสสอนกับพระอานนท์ว่า “ เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต ” เพราะการคบเพื่อนดี เพื่อนก็จะพาเราไปสู่สิ่งที่ดีๆ ในทางกลับกัน หากว่าเราคบเพื่อนที่ไม่ดี เพื่อนที่ไม่ดี ก็จะพาเราไปสู่หนทางที่ตกต่ำของชีวิต ดังคำกล่าวของคนโบราณว่า “ คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล”
พ่อแม่ คือ เพื่อนที่ดีที่สุดของชีวิต ดังบทเพลง ใครหนอ ของ ศรีไศล สุชาติวุฒิ
“ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวี ใคร หนอ ปราณี ไม่มีเสื่อมคลาย
ใคร หนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย รักเขาไม่หน่าย มิคิดทำลาย ใคร หนอ
ใคร หนอ เห็นเรา เศร้าทรวงใน ใคร หนอ เอาใจปลอบเราเรื่อยมา
ใคร หนอ รักเราดังดวงแก้วตา รักเขากว้างกว่า พื้นพสุธา นภากาศ
จะเอาโลก มาทำปากกา แล้วเอานภา มาแทน กระดาษ
เอาน้ำหมด มหาสมุทรแทนหมึกวาด ประกาศ พระคุณไม่พอ
ใคร หนอ รักเรา เท่าชีวัน (เท่าชีวัน) ใคร หนอ ใครกันให้เราขี่คอ (คุณพ่อ คุณแม่)
ใคร หนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ รู้แล้วละก็ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ ”
จากบทเพลง คงทำให้เราแลเห็น พระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ แต่ก็มีหลายคนที่ประพฤติไม่ดีกับ มิตรที่ดีที่สุดคือพ่อแม่ จนกระทั่ง พ่อแม่หลายๆ คน เมื่อจะต้องจำลาจากโลกนี้ไป ยังต้องยกมรดกให้แก่ มูลนิธิ การกุศล สัตว์เลี้ยง ฯลฯ แทนที่จะเป็นลูก ก็เนื่องจาก ลูก ไม่ได้ปฏิบัติต่อมิตรที่ดีที่สุดของตนเอง
ดังข่าว “ ท้วง พินัยกรรม แม่ให้มรดกหมา ” เดลี่เมล์รายงานว่า เมื่อ 18 มิถุนายน นายเบร็ต คาร์ ทายาทเศรษฐีนีอังกฤษ เกล พอสเนอร์ ฟ้องร้องให้ศาลสั่งให้พินัยกรรมของมารดาเป็นโมฆะ เพราะมารดาที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือน มีนาคม ขณะอายุ 67 ปี ถูกยุยงให้ยกมรดกให้กับสุนัขที่เลี้ยงไว้ 3 ตัว รวม 380 ล้านบาท ส่วนอีกราว 820 ล้านบาท ยกให้คนรับใช้ที่ดูแลบ้านและสุนัข โดยเหลือไว้ให้ลูกชายแท้ๆ เพียง 3 ล้านบาท”(อ้างอิงจาก ข่าวสดรายวันออนไลน์ วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7142 )
จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่มีวันเกิดขึ้น หากว่า ลูกๆ ปฏิบัติต่อมิตรที่ดีที่สุดอย่างถูกต้องและเหมาะสม
แม่บ้านที่ทำงานเป็นมิตรที่ดี หากว่าเราปฏิบัติต่อแม่บ้านที่ทำงานอย่างมิตรที่ดีคนหนึ่ง เราก็จะได้รับบริการที่ดี แม่บ้านก็จะให้ความช่วยเหลือ เพราะความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แต่หากเราปฏิบัติต่อมิตรไม่ดี เราอาจถูกแม่บ้านกลั่นแกล้ง แม่บ้านบางคนอาจไม่ชอบเรา เขาอาจจะ ถุยน้ำลายลงในกาแฟที่เราดื่ม ก็ได้ ด้วยความสะใจ
เพื่อนที่ทำงานเป็นมิตรที่ดี หากว่าเราปฏิบัติต่อเพื่อนที่ทำงานด้วยมิตรภาพ เพื่อนที่ทำงานคลอดลูก เจ็บป่วย เราไปเยี่ยมเยือน อีกหน่อยหากว่า เราเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล เขาก็จะกลับมาเยี่ยมเยือนเราเช่นกัน
ยามรักษาความปลอดภัย หากว่าเรามีความเป็นมิตรกับยามรักษาความปลอดภัย เขาก็จะช่วยดูแลทรัพย์สินของเราเป็นอย่างดี อีกทั้งเวลามีปัญหาอะไร เขาก็จะช่วยเราแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที แต่ตรงกันข้าม หากเราประพฤติไม่ดีต่อเขา ไปดูถูกเขา ไปต่อว่าเขา เวลาเกิดปัญหาอะไร เขาก็ช่วยเหลืออย่างไม่เต็มที
ฉะนั้น พยายามคบคนทั้งหลายให้เป็นมิตร โดยเฉพาะเลือกคบกับคนที่ดีๆ แล้วชีวิตของท่านจะพบแต่สิ่งที่ดีๆ ท่านจะพบกับความสุขของชีวิต ก็เพราะว่า เพื่อนคือทั้งหมดของชีวิต
...
  
บริหารเวลา กับ เป้าหมาย
บริหารเวลา กับ เป้าหมาย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
เครื่องมือนำทางในการบริหารเวลา คือ เป้าหมาย
“ การคลาดสายตาจากเป้าหมาย ทำให้ต้องเพิ่มความพยายามขึ้นอีกเท่าตัว” (มาร์ก ทเวน)
การตั้งเป้าหมายมีความสำคัญต่อการบริหารเวลาเป็นอย่างยิ่ง เพราะการตั้งเป้าหมายทำให้เรามีทิศทางในการทำงาน ทำให้เรามีความตั้งใจทุ่มเทให้กับสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดและลดการใช้เวลากับสิ่งที่มีความสำคัญน้อยที่สุด อีกทั้งลดการใช้พลังงานทั้งทางร่างกาย ทางสมอง ทางจิตใจ ของเราลงไปกับสิ่งที่ไม่มีความสำคัญ
เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว เราก็ควรที่จะจัดทำการวางแผนขึ้น เพราะการวางแผนเพียง 8 นาที จะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้ถึง 1 ชั่วโมง เลยทีเดียว ฉะนั้น หากใครวางแผนมาก เขาก็จะมีเวลาเหลือในการทำสิ่งที่สำคัญๆสำหรับชีวิตมากขึ้น
สำหรับการตั้งเป้าหมายที่ดี เราควรมีการร่างเป้าหมาย ร่างแผนการต่างๆลงในกระดาษ เพราะการร่าง เป้าหมายและแผนการ ลงในกระดาษมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ทำให้เราสามารถตรวจสอบเป้าหมายและแผนของเราได้ตลอดเวลา ทำให้เห็นภาพหรือทิศทางที่จะเดินไปข้างหน้า ทำให้เราเกิดสมาธิในการทำงานมากกว่าการนั่งคิดไปเรื่อยๆ ทำให้เราลดภาระการจดจำของเรา การเขียนร่างนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นการทำงานและเตือนใจอีกด้วย ถ้าจะให้ดี เราควรมีแฟ้มใส่เป็นสัดส่วนเพื่อจะนำไปใช้เป็นหลักฐานในการทำงานครั้งต่อไปได้
หลายคนมักถามผมว่า “ แล้วถ้าผมมีเป้าหมายหลายอย่างละครับ ผมควรที่จะทำอย่างไร” หากว่าคุณมีเป้าหมายหลายอย่าง คุณควรเขียนเป้าหมายทุกอย่างลงในกระดาษ แล้วลองเรียงลำดับเป้าหมายที่มีความสำคัญที่สุดก่อนโดยให้คะแนนจากมากไปน้อย (เป้าหมายไหนมีความสำคัญมากให้คะแนนมาก เป้าหมายไหนมีความสำคัญน้อยให้คะแนนน้อยหรือเรียงจาก ABC ) แล้ววางแผนและให้ความสำคัญกับเป้าหมายที่มีความสำคัญมากที่สุดก่อนตามลำดับ
เป้าหมายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นเครื่องมือนำทางในการบริหารเวลา ไม่ว่าคุณจะบริหารประเทศ บริหารทีมงาน บริหารองค์กร รวมถึงการบริหารตนเอง หากว่าไม่มีเป้าหมายเสียแล้ว การบริหารก็จะขาดทิศทาง ต่างคนต่างทำงาน จึงทำให้ประสิทธิภาพของตนเอง ขององค์กร ของหน่วยงาน ลดลง
ดังนั้น หากว่าคุณเป็นผู้บริหาร คุณควรตั้งเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน ขึ้นภายในองค์กร ภายในหน่วยงาน ภายในทีมงาน และควรตั้งเป้าหมายสำหรับตัวของคุณเองด้วย แล้วคุณจะพบว่าคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่บริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีต




...
  
จอจ่อที่เป้าหมาย...ไม่ใช่จอจ่อที่อุปสรรค
จอจ่อที่เป้าหมาย...ไม่ใช่จอจ่อที่อุปสรรค
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คุณจะเห็นอุปสรรค์เป็นสิ่งที่น่ากลัว...ถ้าคุณละทิ้งเป้าหมาย เป็นคำพูดของ เฮนรี่ ฟอร์ด
เป้าหมายที่ปราศจากแผนการ เป็นได้แค่ความฝัน.....
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จในโลกนี้....ไม่รู้ว่าตนเองเกิดมาแล้วต้องการอะไร....ก็เนื่องมาจากการขาดเป้าหมายนั่นเอง.....เป้าหมายจึงเปรียบเสมือนทิศทางที่ทำให้เราเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น...
หลายๆคนไม่ยอมบอกเป้าหมายของตนเองกับผู้อื่น....ก็เนื่องมาจากการขาดความมั่นใจในตนเอง บางคนอาย...แต่ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากมักเป็นคนที่ชอบบอกคนรอบข้างว่า....เขาต้องการอะไร...
จงกล้าบอกเป้าหมาย....แล้วท่านจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่.....หากว่าท่านอยากเป็นนักเขียนระดับประเทศ....จงบอกคนรอบข้างของท่าน.....หากว่าท่านอยากมีเงินล้าน....จงบอกคนรอบข้างของท่าน....หากว่าท่านอยากเป็นทนายความ....จงบอกคนรอบข้างของท่าน...แล้วท่านจะได้สิ่งนั้น รวดเร็วยิ่งขึ้น..และหากว่าท่านอยากได้รถเก๋งใหม่สักคัน....จงบอกคนรอบข้างของท่าน.....สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็คือ คนส่วนมาก มักจะละทิ้งเป้าหมายที่ตนต้องการ...แต่การบอกคนรอบข้างจะทำให้คนรอบข้างของท่านคอยที่จะเตือน คอยที่จะย้ำ เป้าหมายของท่านอยู่ตลอดเวลา...
อยากให้เป้าหมายสำเร็จ.....ต้องไปสัมผัสกับของจริง....หลายคนมีเป้าหมาย อยากได้รถเก๋งใหม่....ถ้าท่านอยากได้จริงๆ ท่านลองไปสัมผัสกับรถเก๋งในฝันของท่านบ่อยๆ...ลองทดลองนั่ง....ลองทดลองขับ...หากท่านได้สัมผัสมันบ่อยๆ เป้าหมายนั้นก็จะเป็นจริงได้...
เป้าหมายจะสำเร็จได้ต้อง...ฝึกจินตนาการ....การฝึกจินตนาการถึงเป้าหมายบ่อยๆจะทำให้...ท่านเกิดความถี่ในการได้คิดถึงเป้าหมาย....เช่น การคิดการจินตนาการว่าท่านได้รถเก๋งคันนั้นแล้ว...ท่านกำลังขับ....ท่านกำลังอยู่ในรถเก๋งใหม่คันนั้น.....ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น....เราควรหาภาพรถเก๋งคันที่เราต้องการ...ติดไว้ข้างฝาบ้าน...ก็ยิ่งจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็ว...
เป้าหมายจะสำเร็จได้....ต้องลงมือทำ.....เมื่อคิดแล้ว เมื่อพูดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด....จงลงมือทำ.....ลองเอากระดาษ ปากกาหรือดินสอ มาวาด มาเขียน ดูว่า เราจะมีวิธีการหาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อรถเก๋งในฝันของเรา....เช่น หารายได้จากการเขียนหนังสือ.....หารายได้จากการขายประกันชีวิต....หารายได้จากการขายสินค้าต่างๆ....หารายได้จากการทำธุรกิจเครือข่าย....ฯลฯ
เป้าหมายจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้....ท่านจะต้องกระตือรือร้น....จงเดินอย่างคนกระตือรือร้น....จงพูดอย่างคนกระตือรือร้น....จงทำตัวอย่างคนกระตือรือร้น.....จงขายอย่างคนกระตือรือร้น....แล้วเราก็จะเคลื่อนตัวไปสู่เป้าหมาย....
เป้าหมายดี...ต้องหมั่นบำรุง....จึงจะประสบความสำเร็จ....จงให้กำลังใจตนเอง...จงลุกขึ้นพูด “ ฉันทำได้”, “ ฉันสุดยอด” , “ ฉันยอดเยี่ยม” ...ปลุกพลังด้วยคำพูดกับตัวเองบ่อยๆ
เป้าหมายต้องเขียนบ่อยๆ...การเขียนเป้าหมายบ่อยๆ...จะทำให้เรา...เกิดความตั้งใจที่จะทำตามเป้าหมายยิ่งขึ้น...จงเขียนเป้าหมาย....จงเขียนแผนการไปสู่เป้าหมาย...จงเขียนระยะเวลาที่จะเดินทางไปสู่เป้าหมาย....จงเขียนขั้นตอนต่างๆที่จะทำให้เป้าหมายประสบความสำเร็จ.....
เป้าหมายยิ่งใหญ่....ท่านยิ่งต้องพัฒนาตนเอง....พัฒนาทั้งการอ่าน การฟัง การพูด การกระทำ การขาย การนำเสนอ....ยิ่งท่านพัฒนาตนเองได้มากเท่าไร....เป้าหมายที่ท่านดูว่ายิ่งใหญ่...ก็จะเป็นเพียงเป้าหมายหมายที่เล็กน้อน....เท่านั้น
เมื่อได้...อ่านมาถึงนี้แล้ว...ผมอยากถามว่า....คุณมีเป้าหมายหรือยัง....คุณค้นพบเป้าหมายตัวเองหรือยัง....เพราะถ้าคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน...ชีวิตของคุณก็จะมีความตื่นเต้น...ชีวิตของคุณก็จะมีพลังขับเคลื่อน....ชีวิตของคุณก็จะมีพลังมีความหวัง....ถ้าคุณยังไม่มี....จงเขียนมันขึ้นมา....ตอนนี้....ขอให้คุณประสบความสำเร็จ ตามเป้าหมายที่คุณวางเอาไว้ขอให้ทุกๆท่านโชคดี
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.