หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
คอร์ส "จ้าวแห่งการสื่อสาร" Communication Mastery โดยโค้ช สิริลักษณ์ ตันศิริ
33
...
  
ประตูสู่ความมั่งคั่ง
ประตูสู่ความมั่งคั่ง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
โอกาสแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย ยังเปิดประตูให้แก่คนทุกๆคน ขึ้นอยู่แต่ว่าคนๆนั้นจะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต้องการมันอย่างแท้จริงหรือไม่ แนวคิดและวิธีการสู่ความมั่งคั่ง ร่ำรวยมีด้วยกันหลายแนวความคิดขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะเลือกปฏิบัติอย่างไร เช่น
1.ต้องเชื่อก่อนว่าเรามีสิทธิร่ำรวยได้ หากว่าเราต้องการความมั่งคั่ง ร่ำรวย เรามีความจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนความคิดเสียก่อนว่า คนเราเกิดมาในโลกนี้ มีสิทธิที่จะร่ำรวยได้ทุกๆคน มีการศึกษา ค้นคว้า วิจัย จากนักวิชาการหลายต่อหลายท่าน เรื่องของความมั่งคั่ง ร่ำรวย ปัญหาที่ขัดขวางที่ทำให้เราไม่สามารถสร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวยได้สิ่งนั้นก็คือเรื่องของความคิด ความเชื่อ ของตัวเราเอง
2.หาหนทางช่วยเหลือผู้อื่นให้มากที่สุด การช่วยเหลือผู้อื่นให้มากก็เสมือนหนึ่งว่าเราขยายฐานลูกค้าของตนเอง บุคคลที่เป็นมหาเศรษฐีมักมีแนวความคิดในลักษณะนี้ กล่าวคือทำอย่างไรถึงจะขายหรือบริการลูกค้าได้มากกว่านี้ ทำอย่างไรถึงจะช่วยเหลือลูกค้าได้มากกว่านี้ เช่น วิทยากรให้ความรู้ หากว่ามีแต่งานบรรยายก็สามารถช่วยเหลือคนได้แค่ในห้องฝึกอบรมเท่านั้น แต่ถ้าหากว่าวิทยากรท่านใดมีความคิดจะช่วยเหลือผู้คนให้มากขึ้น เขาก็จะทำเทป ทำหนังสือ จัดรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้คนให้มากขึ้น เมื่อเขาช่วยเหลือผู้อื่นมากๆ ความมั่งคั่งก็จะกลับมาสู่เขาในที่สุด
3.เพิ่มความมั่งคั่งด้วยปัญญา คนที่มั่งคั่ง มักเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดอยู่ในตัว เป็นคนที่รู้จักใช้ความคิด อีกทั้งยังเป็นคนที่อ่านหนังสือมาก ฟังวิชาการและอบรมเรียนรู้สิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง ดังนั้นเขาจึงเป็นคนที่รู้จักใช้สิ่งต่างๆ ให้ก่อประโยชน์ในงานของตนเอง เช่น ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน การวิเคราะห์สภาพตลาดได้อย่างถูกต้อง
4.ค้นหาว่าตนเกิดมาเพื่ออะไร จงทำให้สิ่งที่ตนเองชอบ แล้วทำมันให้ดีที่สุด แล้วความมั่งคั่ง ร่ำรวย ก็จะเกิดกับตัวท่าน ไทเกอร์ วูดส์ , เฉินหลง , สตีฟ จอบส์ , บิล เกตส์ ฯลฯ คนเหล่านี้รู้ว่าตนเกิดมาเพื่ออะไร ความมั่งคั่ง ร่ำรวยจึงเขามาสู่เขาอย่างมากมายมหาศาล จงเลือกทำงานที่ตังเองรักชอบ แล้วท่านก็จะพบกับความสำเร็จ
5.จงแปลง จินตนาการ ไอเดีย ความคิด ให้เป็นความมั่งคั่ง ความมั่งคั่งลอยอยู่รอบๆ ตัวเรา เราสามารถหาได้โดยสร้างจินตนาการ สร้างไอเดีย สร้างความคิด แปลกๆ ใหม่ๆ หากว่าท่านสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา ท่านก็สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างยาวนาน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อโซนี่ , บริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ , บริษัทไมโครซอฟต์ ฯลฯ จงแปลง จินตนาการ ไอเดีย ความคิด ลงไปในบนกระดาษแล้วทำมันให้เป็นความจริง
6.จักรวาลจะให้ความมั่งคั่ง ร่ำรวย แก่ท่านหากว่าท่านได้สร้างคุณสมบัติที่เกินกว่างานที่ท่านทำอยู่ในปัจจุบัน จงทำงานให้เกินกว่าเงินเดือน จงขยัน จงสร้างงาน จงพัฒนาตนเองอยู่เสมอ แล้วจักรวาลทั้งจักรวาลก็จะตอบแทนท่าน กิมย้งนักเขียนชาวจีนที่ร่ำรวย เขาสามารถสร้างรายได้จากงานเขียนของเขา เขาพัฒนางานเขียนของเขาตลอดเวลา งานเขียนของเขาจึงได้พัฒนาขึ้นทุกวันจนในที่สุด เขาจัดอยู่ในขั้นมหาเศรษฐี ผลงานที่เป็นอมตะนิยายเรื่อง มังกรหยก ก็เป็นหนึ่งในผลงานของเขา จงใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาตนเอง ผ่านร้านขายหนังสือมากกว่าการใช้จ่ายผ่านร้านกาแฟ
ดังนั้น หากว่าท่านต้องการความมั่งคั่ง ร่ำรวย ประตูสู่ความมั่งคั่งเปิดให้แก่ท่านตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองว่าจะต้องการมันมากน้อยสักเพียงไร จงเชื่อว่าท่านสามารถร่ำรวยได้ จงหาวิถีทางในการช่วยเหลือผู้อื่นให้มากขึ้น จงใช้ปัญญา จงค้นหาตัวตนของตนเอง จงแปลงจินตนาการ จงพัฒนางานของท่าน และยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะนำพาท่านสู่ความสำเร็จ
จงลงมือทำแล้วท่านจะประสบความสำเร็จ

...
  
วาทะชนะธุรกิจ
โดย..ปานอนันต์ เทพบุศย์ เรียบเรียง
เป็นหนังสือเกี่ยวกับ การเจรจาต่อรอง คือ กุญแจไขประตูสู่ความสำเร็จอย่าพลาด เพราะโอกาสอาจมีเพียงครั้งเดียว
ส่วนหนึ่งในเนื้อหาจากสำนักพิมพ์ การต่อรองที่ดีนั้น คือ จะได้รับความพอใจทั้งสองฝ่าย สามารถตกลงกันได้ด้วยดีในขณะที่การเจรจาต่อรองที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ความขัดแย้งกันก็จะเกิดขึ้น การสานต่อประโยชน์ก็จะหยุดชะงัก
...
  
วิธีการฝึกพูดด้วยตนเอง
วิธีการฝึกพูดด้วยตนเอง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
การฝึกพูดต่อหน้าที่ชุมชนในยุคปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ด้วยกันกล่าวคือ การฝึกการพูดแบบในระบบ กับ การฝึกพูดด้วยตนเอง
1.การฝึกการพูดแบบในระบบ หมายถึง การฝึกการพูดที่มีรูปแบบการฝึกที่เป็นระบบ มีขั้นมีตอน มีผู้ฟังหรือผู้เข้ารับการอบรมนั่งฟัง โดยมากในยุคปัจจุบัน มักมี หน่วยงาน องค์กร ชมรม สโมสร สถาบัน มหาวิทยาลัยต่างๆ ทำหน้าที่สอนและมีการฝึกปฏิบัติ ซึ่งเป็นที่นิยมกัน
2.การฝึกการพูดด้วยตนเอง หมายถึง การฝึกพูดด้วยการเรียนรู้ด้วยตนเอง จากการอ่านศึกษาค้นคว้าจากตำราหนังสือการพูด การสังเกต การตามฟังนักพูดที่มีชื่อเสียงพูด ซึ่งการฝึกพูดลักษณะนี้ ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ต้องลองผิดลองถูกอยู่บ่อยๆ
ในบทความนี้ กระผมขอแนะนำการฝึกการพูดด้วยตนเอง.... ซึ่งมีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกการพูดด้วยตนเองดังนี้
1.จงเป็นนักอ่าน.... ในยุคปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร ท่านสามารถหาหนังสือ ตำรา บทความดีๆเกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชนได้จากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุด ในอินเตอร์เน็ต จงอ่านข้อแนะนำการพูดต่อหน้าที่ชุมชนในหนังสือต่างๆ และจงฝึกปฏิบัติด้วยตนเองอย่างตั้งใจ อดทน สม่ำเสมอ ก็จะทำให้ท่านสามารถพัฒนาการพูดของท่านได้
2.จงเป็นนักฟัง....จงหาแบบอย่างหรือนักพูดที่ท่านชอบหรือศรัทธา แล้วติดตามไปฟังการพูดของท่านเหล่านั้นให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ แล้วลองสังเกต รูปแบบการพูด ท่าทาง น้ำเสียง กริยาต่างๆของนักพูดท่านนั้น แล้วลองมาปรับใช้กับตนเอง
3.จงใช้เครื่องบันทึกเสียง ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ในยุคปัจจุบัน เรามีเครื่องบันทึกเสียงในรูปแบบต่างๆ เช่น เทป MP3 MP4 เครื่องบันทึกภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ ท่านสามารถนำเอาไปบันทึกเสียงหรือภาพนักพูดที่ท่านชื่นชอบให้มากที่สุดแล้วนำมาเปิดฟังซ้ำอีกหลายรอบ เพื่อวิเคราะห์การพูดของนักพูดท่านนั้น อีกทั้งท่านควรบันทึกเสียงหรือภาพการพูดของตัวท่านเอง เพื่อนำมาเปิดแล้วลองดูสิ่งที่ต้องแก้ไขปรับปรุงการพูดของท่านแต่ละครั้ง
4.จงฝึกการพูดด้วยตนเอง หาที่เงียบๆ แล้วลองฝึกการพูดของท่าน อาจจะฝึกต่อหน้ากระจก หรือฝึกระหว่างการเดินทางไปในที่ต่างๆ ด้วยตนเอง ดังเช่น นักพูดหลายท่านทำกัน เช่น ลิงคอล์น อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ฝึกพูดบนหลังม้าระหว่างเดินทางไกล เดล คาร์เนกี อาจารย์ด้านการพูดชื่อดังของโลก เคยหัดการพูดด้วยตนเองระหว่างทำสวน เด็ดหญ้า อาจารย์จตุพล ชมพูนิช คิง ออฟสปีค ของเมืองไทย เคยฝึกการพูดด้วยตนเอง ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ฝึกพูดจากปากซอยถึงท้ายซอย การฝึกวิธีนี้ควร ทำท่าทางประกอบด้วย ไม่ต้องกระดากอาย การฝึกการพูดในรูปแบบนี้ มีประโยชน์หลายอย่าง... เป็นการฝึกลำดับความคิด เป็นการฝึกพูดให้คล่องปาก ทำให้ไม่ติดขัดเมื่อถึงเวลาต้องไปพูดบทเวทีจริงๆ
5.จงฝึกเขียนประกอบการพูด ก่อนที่ท่านจะไปพูดจริง ท่านควรหัดเขียน โครงเรื่องว่า ท่านจะขึ้นต้นอย่างไร เนื้อเรื่องมีอะไรบ้างและสรุปจบจะลงท้ายว่าอย่างไร แล้วจึงฝึกพูดหรือฝึกอ่าน หลายๆรอบ จนกระทั่งเมื่อถึงเวลานำไปแสดงท่านไม่ควรใช้หรือดูบันทึกนั้น
6.จงฝึกพูดจากง่ายไปหายาก เช่น ฝึกพูดคำพังเพย การฝึกพูดจากสิ่งของที่เป็นรูปธรรมแล้วจึงมาฝึกการพูดจากสิ่งของที่เป็นนามธรรม ฯลฯ
7.จงหาเวทีแสดงการพูด ข้อสุดท้ายนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุด หากท่านปฏิบัติตามทั้ง 6 ข้อ ข้างต้นแล้ว แต่ถ้าท่านขาดในข้อที่ 7 นี้ กระผมเชื่อแน่ว่า ท่านจะไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักพูดเลย เพราะฉะนั้น การมีเวทีการพูดต่อหน้าผู้ฟังจริง จึงมีความสำคัญมาก ยิ่งท่านมีเวทีแสดงการพูดมากเพียงใด ท่านก็เข้าใกล้เป้าหมายในการเป็นนักพูดของท่านมากขึ้นทุกขณะ จงหาโอกาสต่างๆ ในการพูด
ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นข้อแนะนำการฝึกการพูดด้วยตนเอง สำหรับท่านผู้ฟังที่ขาดโอกาสในการฝึกการพูดในระบบ ท่านก็สามารถประสบความสำเร็จได้โดยคำแนะนำข้างต้นนี้ เพียงแต่ท่านต้องมีความตั้งใจจริง มีความอดทน มีความรักและมีความฝันเป็นสำคัญ
...
  
ล้มได้ก็ลุกได้
ล้มได้ก็ลุกได้
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
บางช่วงเวลาในชีวิตของคนเรา อาจพบเจอกับอุปสรรค เจอความล้มเหลว เช่น การถูกให้ออกจากงาน ธุรกิจล้มละลาย ความพ่ายแพ้ในเกมส์ต่างๆ เช่น กีฬา การเลือกตั้ง การแข่งขัน ฯลฯ ฉะนั้นถ้าหากท่านเจอสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกเพราะ เมื่อมีความสำเร็จก็มักจะมีความล้มเหลว เมื่อมีคำว่า “ชนะ” ก็ต้องมีคำว่า “พ่ายแพ้” สิ่งต่างๆย่อมเป็นของคู่กัน
ล้มได้ก็ลุกขึ้นสู้ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการดำเนินชีวิตของคนเรา เราจะทำอย่างไรเมื่อเจออุปสรรค เจอความล้มเหลวเหล่านี้ เราจะลุกขึ้นสู้อีกครั้งได้อย่างไร หลายๆคน เกิดอาการเจ็บปวด เกิดอาการท้อแท้ใจ กำลังใจตก ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ แต่ทั้งนี้เราสามารถลุกขึ้นสู้อีกครั้งหนึ่งได้โดยวิธีง่ายๆดังนี้
1.ควรพูดกับตนเองว่า “ เราทำดีที่สุดแล้ว ” จงคิดให้ได้ว่า บุคคลที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดหรือล้มเหลวก็คือบุคคลที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ถึงแม้เราจะล้มเหลวแต่ก็ยังดีที่ได้ลงมือทำ การล้มครั้งนี้จึงเป็นเสมือนประสบการณ์ บทเรียนที่มีค่าสำหรับความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
2.เหนื่อยมากก็พักก่อน เมื่อเราทำงานหนัก เมื่อเราต่อสู้ เมื่อเราล้มเหลว หากว่าเรารู้สึกว่าตนเองเหนื่อยมากๆ ก็ขอให้ท่านจงได้หยุดพักก่อน ท่านอาจจะหยุดพักโดยการพักผ่อน นอนหลับ ไปเที่ยว ไปปฏิบัติธรรม ฯลฯ
การหยุดพักไม่ได้หมายถึงว่าเรายอมแพ้ แต่เป็นเสมือนท่านไปชาร์ทแบตเตอรี่ เมื่อท่านได้พักแล้วท่านก็สามารถกลับไปสู้ใหม่ได้อีกครั้งด้วยพลังกาย พลังใจ ที่เข้มแข็งมากขึ้นกว่าเดิม
3.กล้าฝันใหม่อีกครั้ง ความฝันทำให้คนเราเกิดความหวัง เมื่อเกิดความล้มเหลว เกิดปัญหาอุปสรรค จงกล้าที่จะฝันใหม่ และจงกล้าที่จะฝันให้ใหญ่กว่าเดิม เมื่อท่านทำธุรกิจล้มละลาย ขอให้ท่านจงกล้าที่จะมีความฝันใหม่อีกครั้ง จงฝันที่จะสร้างธุรกิจให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
4.จงเรียนรู้จากความผิดพลาดแล้วเอาชนะมัน จงวิเคราะห์ประสบการณ์ที่ผิดพลาด อีกทั้งต้องเรียนรู้วิธีที่จะนำพาสู่ชัยชนะ จากแหล่งต่างๆ เช่น การอ่านหนังสือ การปรึกษาขอคำแนะนำจากผู้ชนะ การฝึกอบรม การสัมมนา การฟังเทป ฯลฯ
5.จงสร้างเป้าหมาย คิด วางแผน จงคิดแล้วเขียนเป้าหมายและแผนต่างๆ ไว้ในกระดาษ แล้วจงลงมือทำไปที่ละก้าว ทำไปด้วยความสม่ำเสมอ ไม่ต้องรีบร้อน ใช้ประสบการณ์ที่ล้มเหลว เป็นบทเรียน จงมีความอดทน ความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายที่วางไว้
6.จงปรับเปลี่ยน ทัศนคติ ความคิดใหม่ ผู้พ่ายแพ้มักมีนิสัยที่คิดลบตลอดเวลา ส่วนผู้ชนะมักคิดบวกอยู่เสมอ จงฝึกคิดบวก จงหัดมองโลกในแง่ดี จงเปิดโอกาสให้ตนเองใหม่อีกครั้งในการกลับไปต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ จงกล้าที่จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ อย่าไปแคร์กลับคำตำหนิ คำวิจารณ์ของผู้ใด จงเริ่มต้นก้าวอีกครั้งด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง
ฉะนั้น เมื่อท่านเจอปัญหา อุปสรรค เกิดความล้มเหลว หรือ เมื่อท่านล้มลง ท่านจะลุกขึ้นใหม่หรือไม่ลุกขึ้น ก็คงอยู่ที่ตัวท่านเองเป็นด้านหลัก บุคคลที่ประสบความสำเร็จมักจะมีบททดสอบอยู่เสมอ
อับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา เปิดร้านขายของชำ เป็นช่างสำรวจ เป็นทหาร เป็นพนักงานไปรษณีย์ เป็นทนายความ ท่านพบกับความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งตั้งมากมายหลายครั้ง ท่านพบกับความล้มเหลว มีการเปลี่ยนอาชีพตั้งหลายหน แต่ท่านก็ไม่เคยยอมแพ้แล้วในที่สุดประวัติศาสตร์โลกก็จารึกชื่อของท่านว่าเป็น ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่ง
...
  
ศิลปะการพูดที่ชนะใจคน
แต่งโดย ประชา อภิบาล
ข้อความด้านหลังปก “ การพูดเป็นกรรมวิธี หรือกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และมีความสัมพันธ์กับการศึกษาอย่างแยกไม่ออก ผู้ปรารถนาจะเป็นนักพูด นักประชาสัมพันธ์จำเป็นต้องศึกษาชั้นเชิงและศิลปะด้านต่างๆ กัน จึงจะเป็นนักพูดที่ดี เข้าถึงจิตใจบุคคลทั่วไป ถ้าท่านต้องชนะใจคนด้วยการพูด หนังสือเล่มนี้จะแนะแนวไปสู่ความสำเร็จในการพูดให้ชนะใจคน
...
  
ครบเครื่องนักพูด
ครบเครื่องนักพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การจะเป็นนักพูดหรือมีอาชีพทางด้านการพูด เราจำเป็นจะต้องพัฒนาตนเองเสมอ โดยเฉพาะการพัฒนาตนเองให้มีความหลากหลายในการนำเสนอ เช่น จะต้องมีการสอดแทรกคำคม สอดแทรกอารมณ์ขัน สอดแทรกสาระที่เป็นประโยชน์ สอดแทรกเกมส์เพื่อการศึกษา สอดแทรกเพลงหรือกิจกรรมให้สอดคล้องกับอารมณ์และบรรยากาศของผู้ฟัง ฯลฯ
นักพูดกับคำคม นักพูดหรือคนที่จะประกอบอาชีพทางด้านการพูดมีความจำเป็นจะต้องเก็บสะสมคำคมและข้อมูล จากแหล่งต่างๆ พร้อมทั้งจดแหล่งที่มา หากได้อ่านหรือได้ฟังก็พยายามจดบันทึกว่าเป็นคำพูดของใคร ใครกล่าวประโยคนี้ พระพุทธองค์กล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้พระบรมราโชวาท หรือนักปราชญ์ผู้ใดเป็นผู้กล่าวคำคม เหล่านี้ เพราะ การพูดคำคมหรือการอ้างอิงคำพูดของคนมีอิทธิพลหรือมีชื่อเสียง จะทำให้การพูดในครั้งนั้นๆ เกิดความน่าเชื่อถือและเกิดความยอมรับในเหตุผลของผู้พูดมากยิ่งขึ้น
นักพูดกับเพลง นักพูดหรือคนที่มีอาชีพทางด้านการพูด ควรหัดร้องเพลงบ้าง เพราะ ในบางกรณี เราสามารถนำบทเพลงมาใช้ในการบรรยายหรือการพูด เพื่อสร้างบรรยากาศให้สนุกสนาน ไม่ตึงเครียดในการฟัง การใช้เพลงประกอบการพูดจะทำให้ผู้ฟังเกิดการมีส่วนร่วม ไม่เบื่อหน่าย ฉะนั้นนักพูดหรือคนที่ประกอบอาชีพทางด้านการพูดควรเตรียมเพลงหรือหาเพลงที่เกี่ยวข้องกับการบรรยายหรือเกี่ยวข้องสถานการณ์ มาใช้เพื่อประกอบการพูด
นักพูดกับคำกลอน นักพูดหรือคนที่ประกอบอาชีพทางด้านการพูด ควรหากลอนมาประกอบการพูด
เพื่อให้เกิดความหลากหลายในการบรรยาย หาก แต่งเองไม่ได้หรือไม่สามารถแต่งกลอนเองได้ ควรหากลอนจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการพูด และควรอ้างอิงแหล่งที่มาว่าใครประพันธ์หรือแต่ง เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ประพันธ์ด้วย
นักพูดกับเกมส์เพื่อการศึกษา นักพูดหรือคนที่ประกอบอาชีพทางด้านการพูด ควรหาเกมส์เพื่อการศึกษามาประกอบการบรรยายหรือการอบรม เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน เกมส์เพื่อการศึกษาจะช่วยให้การบรรยายในเชิงวิชาการเข้าใจง่ายขึ้น เนื่องจากเกมส์ส่วนใหญ่ ผู้อบรมหรือผู้เล่นจะต้องเล่นร่วมกัน ใช้เวลาในการคิด วิเคราะห์ ผู้อบรมหรือผู้เล่น จะมีส่วนร่วมมากกว่าการนั่งฟังแต่วิชาการอย่างเดียว
นักพูดกับอารมณ์ขัน นักพูดหรือคนที่ประกอบอาชีพทางด้านการพูดที่ดี ควรมีอารมณ์ขันสอดแทรกเข้าไปในเนื้อหาเพื่อให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ที่สนุกสนาน โดยส่วนใหญ่ผู้ฟังคนไทยหรือธรรมชาติของคนไทยเรามักชอบเรื่องที่สนุกสนาน ตลก คนไทยเราชอบหัวเราะ มากกว่าจะชอบฟังอะไรที่มันเครียดๆ จริงจัง
นักพูดกับเนื้อหาสาระ นักพูดหรือคนที่ประกอบอาชีพทางด้านการพูด เวลาพูดทุกครั้งควร สอดแทรกสาระที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟัง เพื่อผู้ฟังจะได้เกิดปัญญา และนำสิ่งที่ฟังไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น นักพูดจะต้องเป็นนักอ่านเพื่อให้ตนเองเกิดปัญญาแล้ว จึงจะสามารถไปบรรยายหรือไปสอนผู้ฟังให้มีปัญญาขึ้นมาได้
นักพูดกับเวทีพูด นักพูดหรือคนที่ประกอบอาชีพทางด้านการพูด จำเป็นจะต้องแสวงหาเวทีในการพูด ยิ่งเป็นนักพูดหน้าใหม่ยิ่งต้องแสวงหาเวทีในการพูดจากเวทีต่างๆ เมื่อพูดดี หรือ เมื่อมีผู้ฟังติดใจ ฟังแล้วเกิดความประทับใจ คนก็มักจะบอกต่อ จะทำให้เวทีการพูดมากขึ้น ดังนั้น นักพูดหน้าใหม่ควร หาเวทีในการพูดให้มาก เนื่องจากโอกาสมักจะมีสำหรับผู้แสวงหาโอกาสเสมอ
สรุป คนที่จะเป็นนักพูดหรือคนประกอบอาชีพทางด้านการพูด จำเป็นจะต้องพัฒนาตนเองให้เกิดความสามารถที่หลากหลาย ต้องนำเกมส์เพื่อการศึกษาได้ ต้องร้องเพลงได้เพราะบางครั้งจำเป็นจะต้องนำมาใช้ ต้องเป็นนักสะสมข้อมูล นักจดบันทึก เช่น จดคำคม คำกลอน สุภาษิตต่างๆ ทั้งภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการพูดในอนาคต
สำหรับการฝึกการพูดโดยเฉพาะ การฝึกการพูดต่อหน้าที่ชุมชน ก็เหมือนกับการฝึกถีบรถจักรยาน มันอาจจะมีอุบัติเหตุบ้าง เจ็บบ้าง ล้มบ้าง สำหรับคนที่ถีบจักรยานไม่เป็นอาจจะรู้สึกยากลำบาก การฝึกพูดต่อหน้าที่ชุมชนก็เช่นกัน ดังนั้นต้องอดทน ต้องฝึกฝน ต้องพยายาม จึงจะสามารถเป็นยอดนักพูดที่ผู้ฟังชื่นชมและชื่นชอบได้






...
  
พูดให้เป็นอย่างนักพูด
เป็นหนังสือที่สัมภาษณ์ นักพูดระดับชาติ เช่น อ.ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ , อ.สุขุม นวลสกุล,อ.จตุพล ชมพูนิช,อ.สุนีย์ สินธุเดชะ,อ.อภิชาติ ดำดี ฯลฯ
จากการอ่าน การตอบของบรรดานักพูดทำให้กระผมได้แง่มุมมุมมองเกี่ยวกับการพูด อีกทั้งยังได้ทราบประสบการณ์ของบรรดานักพูด วิธีการฝึกการพูดต่าง ฯลฯ เป็นหนังสือที่น่าสนใจอีกเล่มหนึ่งครับ
ราคา 95 บาท ตอนนี้ไม่ทราบว่าจะมีการพิมพ์ขึ้นใหม่หรือไม่ครับ
...
  
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ...ท่านก็สามารถทำได้
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ...ท่านก็สามารถทำได้
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
1.เล่นกีฬาที่ตนเองชอบ การเล่นกีฬาจะช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้มีสมาธิ ทำให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งการเล่นกีฬายังสามารถช่วยในการทำธุรกิจได้อีกด้วย เช่น การเล่นกอล์ฟ หลายคนเล่นกอล์ฟเพื่อสร้างเครือข่ายในเชิงธุรกิจ บางคนใช้สนามกอล์ฟเจรจาการค้า บางคนเกิดความคิดใหม่ๆและได้รู้จักคนใหม่ๆในระหว่างเล่นกอล์ฟ
2.ความวิตกกังวลเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ดี หากว่าท่านเป็นคนที่ไม่มีความวิตกกังวลเลย ชีวิตของท่านก็จะเฉื่อยชา ไม่มีความกระตือรือร้น แต่ถ้าหากท่านมีความวิตกกังวลที่มากจนเกินไป ท่านก็อาจจะกลายเป็นคนวิกลจริตได้ บุคคลที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากมักเป็นคนที่มีความวิตกกังวลเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าท่านได้รับเชิญไปพูดที่ใดสักแห่ง ทั้งนี้ท่านมีความวิตกกังวลเล็กน้อยว่าสิ่งที่ท่านจะนำไปพูดอาจทำไม่ได้ดีนัก ท่านก็จะมีการเตรียมตัวไปพูดเป็นอย่างดี เมื่อท่านเตรียมตัวไปดี ท่านก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการพูดในครั้งนั้น แต่หากว่าท่านไม่มีความวิตกกังวลเลย ท่านก็จะเป็นคนเฉื่อยชา ไม่มีการเตรียมการพูด พอท่านขึ้นไปพูดท่านก็จะมีโอกาสล้มเหลวได้โดยง่าย ในทางกลับกันถ้าหากท่านวิตกกังวลมากจนเกินไป ก็จะทำให้ท่านนอนไม่หลับและอาจจะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของท่านได้
3.กล้าเดินหน้าลุย คนธรรมดาสามัญทั่วๆไป ที่มีความคิดดีแต่มักไปไม่ถึงไหน ก็เนื่องมาจากการขาดความกล้าในการทำงาน เมื่อท่านมีความฝัน มีเป้าหมาย มีการวางแผนที่ดี ท่านควรกล้าเดินหน้าลุย ไม่ต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์ คนที่ประสบความสำเร็จ มักไม่รอความพร้อมที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจึงลงมือทำ แต่เมื่อเขาเห็นโอกาส มีความพร้อมพอสมควร เขาจึงเริ่มเดินหน้าทันที
4.ทำในสิ่งที่สวนกระแส พวกเราหลายๆคนที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นเกษตรกร มักรู้ดีว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มักทำตามกระแส เมื่อเห็นสินค้าใดขายดีก็จะแห่ทำตาม เช่น เห็นคนปลูกไม้สัก เห็นคนปลูกลิ้นจี่ เห็นคนปลูกส้ม ก็แห่กันปลูกจนในที่สุด ราคาพืชผลที่เราปลูกจากราคาขายที่ขายได้ในราคาที่แพงๆ กลับกลายเป็นราคาตกต่ำ ก็เนื่องมาจากมีคนปลูกมากจนเกินไป ดังนั้นคนที่ประสบความสำเร็จซึ่งมีอยู่เพียงจำนวนน้อย มักมีความคิดในการทำในสิ่งที่สวนกระแส ไม่ทำตามกระแสของคนส่วนใหญ่ หรือ เราอาจจะเคยได้ยินว่านักลงทุนหุ้นที่ประสบความสำเร็จ ควรซื้อหุ้นเมื่อมีคนจำนวนมากต้องการขาย (ก็จะซื้อได้ในราคาถูก) ในขณะเดียวกันควรขายหุ้นในขณะที่มีคนต้องการซื้อจำนวนมาก (ก็จะขายได้ในราคาแพง)
5.สร้างแรงปรารถนา นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีแรงปรารถนาที่ต้องการได้รับชัยชนะ หากขาดแรงปรารถนา นักกีฬาคนนั้นก็จะไม่มีความกระตือรือร้นในการฝึกซ้อม ขาดระเบียบวินัยในการซ้อม คนที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่มีแรงปรารถนาภายในตนเอง ถ้าหากท่านยังขาดแรงปรารถนาในตนเองก็ขอให้ท่านจงสร้างมันขึ้นมาแล้วท่านก็จะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
6.ระดมคนเก่งๆมาช่วยงาน หากใครเคยได้ดูภาพยนตร์เรื่องสามก๊ก แล้ววิเคราะห์ก็จะเห็นได้ว่า ก๊กที่มีความเจริญรุ่งเรืองจะเป็นก๊กที่แสวงหาคนเก่งๆเข้ามาช่วยงาน แต่ตรงกันข้ามก๊กที่ถูกยึดหรือก๊กที่ล่มสลาย มักมีคนที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาช่วยงาน ดังนั้นถ้าหากต้องการให้ธุรกิจของท่านเจริญเติบโตก้าวหน้า ท่านจึงควรรีบระดมหาคนเก่งๆมาช่วยงาน ธุรกิจของท่านก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว
7.พัฒนาให้มีความก้าวหน้าในทุกๆวัน บุคคล องค์กร หน่วยงาน ที่ประสบความสำเร็จมักมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ถ้าหากว่า บุคคล องค์กร หน่วยงาน ไหนหยุดอยู่กับที่แสดงว่า บุคคล องค์กร หน่วยงาน นั้นจะเกิดความล้าหลังขึ้นมาทันที เพราะโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกยุคแห่งการแข่งขัน ถ้าหากว่าเราเพียงแต่กำหนดให้เราต้องพัฒนาให้มีความก้าวหน้าเพียงวันละ 2 เปอร์เซ็นต์ เพียงแค่หนึ่งปีเราจะสามารถพัฒนาตนให้มีความก้าวหน้าไปอีกสักเท่าไร ศักยภาพของท่าน องค์กรท่าน หน่วยงานของท่านก็จะมีอัตราเจริญเติบโตขึ้นทันทีถึง สองเท่า ห้าเท่า สิบเท่า ยี่สิบเท่า ฯลฯ
...
  
ผิดเป็นครู
ผิดเป็นครู
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
“ ผิดเป็นครู ” เป็นคำพูดของคนโบราณที่ใช้ในการสอนคน คนเราทุกๆคน สามารถทำผิดพลาดกันได้ ฉะนั้นความผิดที่เกิดขึ้นหากใครสามารถนำมาใช้เป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์หรือสอนเตือนใจตนได้ ก็จะเป็นครูที่ดี
ในโลกนี้ไม่มีใครเลยที่ไม่เคยทำผิดพลาด คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยคือคนที่นั่งอยู่เฉยๆ แต่เมื่อเราผิดพลาด เราจะยอมรับความผิดพลาดนั้นได้ไหม โง่ย่อมต้องมาก่อนฉลาด หลายๆคนคงเคยถูกหลอก จากคนที่ชอบโกง ชอบเอารัดเอาเปรียบ หากว่าเราเอาแต่โทษตัวเองหรือโกรธแค้น ความโกรธแค้นนั้นก็จะมาทำลายจิตใจของเรา
จงให้อภัยกับความผิดพลาด การให้อภัยกับความผิดพลาดก็คือการให้อภัยตัวเราเอง จะมีประโยชน์อะไร ที่มัวแต่ทำลายตนเอง ด้วยการคิดทบทวนซ้ำซากกับความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้น คนอื่นๆที่ทำให้เราเกิดความผิดพลาดเขาอาจลืมไปเรียบร้อยแล้ว ก็คงเหลือแต่เราที่ยังจำ จงให้อภัยตนเองและให้อภัยผู้อื่น
ปัญหามีไว้ให้แก้ไม่ได้มีไว้ให้แบก ทุกปัญหามีทางแก้แต่ถ้าหากปัญหาไหนยังไม่มีทางแก้ ก็ต้องปล่อยมันไป อย่าไปมีความทุกข์กับปัญหา จนก่อให้เกิดความไม่สบายใจ อย่ามัวเศร้าโศกกับปัญหา จงมองปัญหาเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้นอย่างเป็นปกติ จงใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาและไม่ควรทำปัญหาเล็กๆให้เป็นปัญหาใหญ่
จงกล้ากล่าวคำ “ขอโทษ” หากว่าท่านทำผิดกับผู้อื่น ในช่วงเวลาของคนเราอาจเคยกระทำผิดพลาดต่อผู้อื่นไม่ว่าเรื่องของการทำงาน การดำเนินชีวิต สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือ เราควรกล่าวคำ “ ขอโทษ ” หากรู้ว่าตนทำผิด การขอโทษจะทำให้ผู้อื่นให้อภัยในความกล้าหาญของเรา อีกทั้งยังจะยินยอมช่วยเหลือและให้โอกาสเราอีกครั้ง
ความผิดพลาดล้มเหลวก่อให้เกิดการประสบความสำเร็จ คนที่ประสบความสำเร็จมักเคยทำสิ่งที่ผิดพลาดล้มเหลวมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครผู้ใดเลยที่ไม่เคยทำผิดพลาดล้มเหลว จงเปลี่ยนความคิด จงอย่าเสียใจมากเกินไปในสิ่งที่เราทำผิดพลาด แต่จงปลุกพลังภายในตัวเองให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่อีกครั้ง หากคิดลบชีวิตก็มักจะตกต่ำลง แต่หากคิดบวกชีวิตก็จะพัฒนาขึ้นเจริญเติบโตขึ้น
จงเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส หากว่าคุณเบื่องานแบบสุดๆแต่ต้องทนอยู่ แล้วในที่สุดคุณถูกให้ออกจากงาน จงกระโดดโลดเต้นดีใจที่เราจะได้มีโอกาสได้ทำงานที่เราชอบ , เมื่อถูกคนรักทิ้ง เราก็ต้องดีใจที่เราได้มีโอกาสเป็นอิสระและในอนาคตเราจะได้เจอคนที่ดีๆ เข้าใจเรา ฯลฯ
ดังนั้น สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด สำหรับการแก้ไขความผิดพลาดล้มเหลว สิ่งนั้นก็คือตัวของคุณเอง คุณสามารถนำสิ่งที่ผิดพลาดมาเป็นประโยชน์ให้แก่ตัวเองได้ อีกทั้งเมื่อเจอความผิดพลาดล้มเหลว บางคนเสียใจ ซ้ำเติมตัวเอง จงเปลี่ยนแปลงทัศนคติเสียใหม่ ว่าคนเราย่อมต้องเกิดความผิดพลาดเป็นสิ่งธรรมดา
จงเอาความผิดพลาดของตนเอง มาเป็นครูและจงเอาความผิดพลาดของผู้อื่น มาเป็นครู แล้วท่านจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.