หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
เสริมพลังทีมสร้างพลังกลุ่ม
เสริมพลังทีมสร้างพลังกลุ่ม
โดร...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
ทีมมีความสำคัญมากต่อการทำงานภายในหน่วยงาน ภายในองค์กร การทำงานเป็นทีมบางครั้งก็เกิดปัญหา บางครั้งก็เกิดความอ่อนล้า บางครั้งก็เกิดการแตกแยก การทำงานเป็นทีมที่ดีจึงต้องมีการเสริมแรงซึ่งกันและกัน เพื่อให้ทีมงานเกิดขวัญ กำลังใจ ในการทำงาน ซึ่งเราสามารถเสริมพลังทีมสร้างพลังกลุ่มได้ดังนี้
1.สรรหาผู้ร่วมทีมงานที่มีความหลากหลาย ทีมที่ดีมักจะต้องมีคนที่มีความสามารถที่แตกต่างกันมาอยู่รวมกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ผู้ร่วมทีมงานอาจมาจากต่างฝ่าย ต่างแผนก ต่างสายงาน แต่มาร่วมกันทำงานเพื่อให้เกิดทีมที่มีประสิทธิภาพ
2.สรรหาผู้ร่วมงานมาเติมเต็ม ในส่วนที่ทีมงานขาด เช่น หากทีมงานที่มีอยู่ไม่มีผู้ใดทำงานเกี่ยวกับด้านบัญชี เราควรสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถทางด้านบัญชีเข้ามาร่วมงาน เพื่อที่จะช่วยเสริมในส่วนที่ขาดหรือมีปัญหาของทีม
3.ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทีมงาน การทำงานโดยยึดความเป็นหนึ่งของทีมโดยมีการกำหนดเป้าหมายของทีมไว้ เพื่อให้ทุกคนในทีมได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
4.การสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน มีบรรยากาศที่มีความจูงใจในการทำงาน เช่น มีการชมเชย การมอบของรางวัล การแข่งขัน ฯลฯ รวมไปถึงการสร้างกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการร่วมกัน อย่างการดูกีฬา การกินข้าวมื้อเที่ยงและมื้อเย็นร่วมกัน
5.สร้างวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกันภายในทีม เช่น วัฒนธรรมแห่งการยิ้ม วัฒนธรรมแห่งการพูดคำว่า “สวัสดี” , “ขอบคุณ” , “ขอบใจ” , “คุณทำได้” ฯลฯ
6.จัดอบรม จัดสัมมนา เพื่อสร้างทีมงาน การอบรม การสัมมนา อาจจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่หากต้องการให้ทีมงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดอบรม การจัดสัมมนา จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น อาจจะมีการจัดในรูปแบบต่างๆเช่น กิจกรรม Walk Rally , การอบรมทางด้านวิชาการ , สัมมนาเพื่อแก้ไขปัญหาในการทำงานร่วมกัน ฯลฯ
7.การให้รางวัลแห่งความสำเร็จของทีมงาน เมื่อทีมสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราควรจัดเฉลิมฉลองความสำเร็จ อาจจะต้องลงทุนจัดงานเลี้ยงเพื่อเสริมแรงหรือกระตุ้นให้ทีมงานเกิดความภาคภูมิใจในความสำเร็จร่วมกันของเป้าหมายที่ทำ
กิจกรรมข้างต้นดังกล่าวจึงเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ทีมงานทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีแรงกระตุ้นให้คนทำงานในทีมอยากที่จะทำงานร่วมกัน เมื่อทีมมีประสิทธิภาพในการทำงาน คนในทีมทำงานด้วยความกระตือรือร้นจะทำให้เกิดผลงานขึ้นอย่างมากมายมหาศาล
ดังนั้น การสรรหาผู้ร่วมทีมงานที่มีความหลากหลาย , การสรรหาผู้ร่วมงานมาเติมเต็ม , การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทีมงาน , การสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน , การสร้างวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกันภายในทีม , การจัดอบรม จัดสัมมนา เพื่อสร้างทีมงาน และการให้รางวัลแห่งความสำเร็จของทีมงาน จึงเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมพลังทีมสร้างพลังกลุ่ม


...
  
เข้าสังคมดีก็จะมีสิ่งดีๆเข้ามา
เข้าสังคมดีก็จะมีสิ่งดีๆเข้ามา
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
การอยู่ในสังคมที่ดี การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จในชีวิต พวกเรามักคงเคยได้ยินคำกล่าวของคนโบราณต่างๆ เช่น
- คบคนพาลพาลไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล กล่าวคือ หากคบคนไม่ดีเป็นมิตรคนเหล่านั้นก็มักจะชักจูงเราไปในทางที่เสียหาย แต่หากว่าเราคบคนดีเป็นมิตร คนดีก็มักจะสั่งสอนแนะนำเราไปในทางที่ดีๆ เช่น แนะนำให้รู้จักทำมาหากินในทางที่สุจริต , การให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ฯลฯ
- ท่านอยากเป็นเปรตในหมู่ปราชญ์หรืออยากเป็นปราชญ์ในหมู่เปรต (หากท่านอยากเป็นเปรตในหมู่ปราชญ์ในอนาคตท่านอาจจะได้เป็นปราชญ์แต่ถ้าหากว่าท่านอยากเป็นปราชญ์ในหมู่เปรตในอนาคตท่านอาจจะได้เป็นหัวหน้าเปรตในที่สุด)
การคบเพื่อนดีๆ การคบคนดีๆ จะเป็นเสมือนการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในเบื้องต้นให้แก่ตัวเรา อีกทั้งการเข้าสังคมกับคนดีๆ มักจะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตอีกด้วย กฎแห่งแรงดึงดูด น้ำกับน้ำมันเข้ากันไม่ได้ฉันใด คนดีกับคนไม่ดีมักเข้ากันไม่ได้ฉันนั้น คนที่เหมือนกันมักดึงดูดเข้าหากัน คบคนเช่นใดย่อมเป็นเช่นนั้น
จึงไม่ต้องแปลกใจ หากว่าคนที่มีความสนใจเหมือนกันมักอยู่ร่วมกัน เช่น คนสนใจการพูดก็จะอยู่รวมกันในสโมสรฝึกการพูดต่างๆ , คนที่สนใจการเขียนก็มักจะอยู่ในชมรมนักเขียน , คนที่สนใจกีฬาฟุตบอลก็มักจะดูฟุตบอลเล่นฟุตบอล , คนสนใจเรื่องของการถ่ายรูปก็มักจะรวมตัวกันตั้งกลุ่มชมรมถ่ายรูป ฯลฯ
หากว่าท่านต้องการประสบความสำเร็จด้านใด จงนำตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มหรือสังคมดังกล่าว ท่านก็จะมีโอกาสในการประสบความสำเร็จในด้านนั้นๆ ความสำเร็จนั้นอาจเกิดได้จากการสนับสนุนของคนในสังคมหรือคนในกลุ่มนั้นๆ ตัวอย่าง คนภายในสังคมนั้นๆให้ความช่วยเหลือแก่ท่านในด้านต่างๆ ให้คำแนะนำ หางานทำให้แก่ท่าน พาท่านไปหาบุคคลที่สามารถช่วยเหลือท่านได้ หรือการได้รับความรู้ทางด้านเทคนิคต่างๆเพิ่มเติม ฯลฯ
ด้วยเหตุนี้การเข้าสู่สังคมที่ดีๆ การเข้าสู่สิ่งแวดล้อมที่ดี และการเลือกคบคนดีๆ มักมีอิทธิพลต่อความสำเร็จของคนเรา




...
  
ความสำคัญของงานเขียน
ความสำคัญของงานเขียน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
งานเขียนที่ผู้เขียน เขียนออกมา โดยมีเนื้อหาที่ถูกต้อง มีความทันสมัย มีรูปแบบปกที่สดงาม ไม่ว่าจะเป็นประเภทใด ก็ย่อมมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน อีกทั้งยังมีความสำคัญ ต่อประเทศชาติและตนเอง ความสำคัญของงานเขียนมีดังนี้
1.งานเขียนมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ
1.1.ช่วยให้มีหนังสือประเภทต่างๆ ออกมาขายและอยู่ในห้องสมุดตามสถาบันต่างๆกันอย่างมากมาย อีกทั้ง หนังสือบางเล่มยังสามารถใช้เป็นแหล่งที่มาในการอ้างอิงในการทำผลงานทางวิชาการ การทำรายงาน การค้นคว้าของนักเรียน นิสิต นักศึกษา อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นหนังสือประกอบการเรียนการสอนตามสถาบันต่างๆ
1.2.ช่วยให้ประเทศชาติเจริญ ประเทศใดมีหนังสือมาก คนในประเทศนั้นมักเป็นคนที่มีความรู้ มีการศึกษา แต่ตรงกันข้าม ประเทศที่ไม่พัฒนา ล้าหลัง มักมีหนังสือเป็นจำนวนที่น้อยมาก ทำให้ประชาชนขาดอาหารสมองในการบริโภค เมื่อคนไม่มีความคิด สติปัญญา ความฉลาด ก็ส่งผลไปยังเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมประเทศนั้น
2.งานเขียนมีประโยชน์ต่อตนเอง
2.1.ช่วยเป็นเครื่องมือในการทดสอบความสามารถ ความคิดของตนเอง งานเขียนเป็นงานที่ต้องใช้ความคิด ความรู้ หากขาดซึ่งความคิด ความรู้ ถึงแม้จะมีข้อมูลมากสักเพียงใด ผู้เขียนก็คงไม่สามารถผลิตผลงานให้เป็นที่ยอมรับแก่ผู้อ่านได้ การผลิตงานเขียน ออกมาจึงเป็นการวัดความรู้ ความสามารถ และความคิดของผู้เขียนเอง จึงอาจกล่าวได้ว่า งานเขียนยังเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้เขียนเกิดความรู้ ในเรื่องที่เขียนมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน
2.2.ช่วยเป็นอนุสาวรีย์หรือเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของผู้เขียน งานเขียนที่ผู้เขียน เขียนออกมา มักเป็นสิ่งที่คงอยู่แม้ตัวผู้เขียนจะไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้ว แต่ผลงานเขียนก็ยังคงเป็นอนุสาวรีย์หรือเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจ และเป็นหลักฐานอย่างดี เมื่อลูกหลานได้มีโอกาสเห็นก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดี
2.3.ช่วยในการเป็นรายได้หาเลี้ยงชีพ งานเขียนยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้ โดยการขายหนังสือ บางคนมีรายได้จากการขายหนังสือจนร่ำรวย ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในการที่จะร่ำรวยได้จากงานเขียน เช่น การตลาดดี , ผลงานเขียนดี , นักเขียนเป็นคนมีชื่อเสียง ฯลฯ
2.4.ช่วยในการสร้างความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ไม่ว่าเราจะทำงานอาชีพอะไร หากว่า ท่านมีความสามารถในการเขียน ท่านก็จะได้รับความก้าวหน้า เช่น เป็นครู เป็นอาจารย์ ก็มักจะต้องเขียนหนังสือ เขียนเอกสาร เพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ หรือ เป็นพนักงานบริษัท หากมีความสามารถทางด้านการเขียน ก็จะถูกเจ้านายเรียกใช้เพื่อให้เขียนรายงาน เขียนโครงการต่างๆ เป็นต้น
2.5.ช่วยให้เป็นคนมีชื่อเสียง คนดัง และทำให้คนอยากรู้จัก หากว่างานเขียนของท่านเป็นที่ยอมรับของผู้อ่าน ท่านก็จะมีคนอยากจะรู้จักท่านมากขึ้น สื่อมวลชนบางแห่งก็อาจจะนำท่านไปสัมภาษณ์ออกสื่อต่างๆ
2.6.ช่วยในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หลายๆ ท่านใช้เวลาหรือเสียเวลาไปกับสิ่งต่างๆ แต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด การเขียนเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ได้ เพราะมีนักเขียนดังๆ เขียนต้นฉบับ ขณะรอรับประทานอาหาร แล้วนำมารวบรวมเรียบเรียงจนเป็นผลงานหนังสือออกมาได้เป็นเล่มๆ
ดังนั้น เมื่อเราได้ทราบความสำคัญของงานเขียนแล้ว ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดจงช่วยกันเขียนหนังสือออกมาเยอะ ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและตัวของเราเอง
...
  
หนังสือ " วิธีการทำงานและสร้างอนาคต"
ขอแนะนำหนังสือดีๆครับ..." วิธีทำงานและสร้างอนาคต " หนังสือดีเขียนโดย พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ เป็นหนังสือที่เป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน อีกทั้งสามารถใช้เป็นการสร้างรากฐานแห่งความสำเร็จในชีวิตได้อีกด้วย ภายในหนังสือ อัดแน่นด้วยเนื้อหา 8 บท คือ
บทที่ 1 คนทำงานเก่ง บทที่ 2 ชีวิตทำงานของข้าพเจ้า บทที่ 3 กำลังงานของมนุษย์ บทที่ 4 หลักราชการ บทที่ 5 การสร้างอนาคต บทที่ 6 การทำงานเมื่อเป็นผู้ใหญ่ บทที่ 7 งานอดิเรก และ บทที่ 8 การทำงานและโชคชะตาของชาติ (สำหรับเล่มที่อยู่ในมือของกระผมนี้พิมพ์ครั้งที่ 9 )
หากพวกเราได้มีโอกาสอ่าน ก็จะทำให้ทราบถึง ลักษณะเรื่องของบุคคลที่ทำงานได้เก่ง ได้ดี มีประสิทธิภาพ หลักการทำงาน การจัดการเวลา รวมไปถึงปัจจัยต่างๆที่ทำให้การทำงานได้ดี ลองหาอ่านกันนะครับ แล้วจะได้วิธีการทำงานรวมถึงการสร้างอนาคตอันสดใส
แนะนำหนังสือ โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com ...
  
การพูดแบบผู้นำ
ผู้นำพูด
การพูดแบบผู้นำ

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


บทความในวันนี้กระผมขอพูดถึงเรื่องของการพูดแบบผู้นำ ซึ่งการพูดแบบผู้นำนี้จะพูดธรรมดาเหมือนผู้ตาม หรือคนทั่วไปไม่ได้ เพราะมันจะไม่เห็นความแตกต่างระหว่างผู้นำกับผู้ตามดังนั้นคนที่ต้องการเป็นผู้นำหรือเป็นผู้นำอยู่แล้ว จึงต้องเรียนรู้หลักการวิธีการเพื่อนำไปใช้ในการพูดในแต่ละครั้ง ผมเชื่อว่าพวกเราคงเคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับประโยคคำคมของผู้นำภายในประเทศและในต่างประเทศมาบ้างแล้ว คำคมเหล่านี้ทำให้เป็นที่จดจำและนำไปคิดเพิ่มแล้วก่อให้เกิดปัญญาขึ้นเช่น


“ จงอย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่านบ้าง แต่จงถามว่าท่านจะให้อะไรแก่ประเทศบ้าง ”

เป็นคำพูดสุนทรพจน์ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เคนาดี้

“ ถ้าท่านไม่สามารถลุกขึ้นพูดต่อหน้าฝูงชนได้ ก็อย่าปราถนาเป็นผู้นำ"


เป็นคำพูดของหลวงวิจิตร

หรือ “ ระบบประชาธิปไตยคือระบบที่ปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน

เป็นคำพูดสุนทรพจน์ของอดีตประธานาธิบดี ลินคอล์น

ดังนั้นในวันนี้เราจะมาพูดเรื่องเทคนิคการพูดแบบผู้นำ ดังนี้

- ผู้นำจะต้องพูดด้วยความมั่นใจ พูดชัด ไม่ติดติดขัดขัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ภาษาก็ต้องพูดชัดไม่ว่าจะเป็นผู้นำที่พูดภาษาอังกฤษหรือพูดภาษาไทย ผู้นำจะต้องรู้จักการใช้ภาษานั้นได้เป็นอย่างดี และมีการใช้คำได้หลากหลายมากกว่าผู้ตาม การพูดการใช้ภาษาของผู้นำจะทำให้ผู้ตามทราบว่าผู้นำมีการศึกษาดีมากน้อยแค่ไหนดังคำโบราณได้พูดไว้ว่า “ สำเนียงบอกภาษา กริยาบอกสกุล ” การพูดด้วยความมั่นใจจะทำให้ผู้ตามเกิดความมั่นใจตามด้วย

- ผู้นำจะต้องพูดให้มีคำคมอยู่บ้าง เพราะการพูดที่ไม่มีคำคมอยู่เลยจะทำให้ผู้ฟังจำเนื้อหาไม่ได้ทั้งหมดแต่ผู้นำคนใดมีคำคมอยู่บ้าง ก็จะเป็นที่น่าสนใจและเป็นที่จดจำของผู้ฟังดังคำคมประโยคข้างต้นที่กระผมได้กล่าวถึง เนื่องจากคำคมเป็นคำสั้นๆหรือประโยคสั้นๆ แต่กินใจความและสามารถขยายความได้มากขึ้น คำคมบางคำทำให้คนฟังคิดตามแล้วเกิดปัญญาขึ้นตามมาด้วย

- ผู้นำจะต้องพูดให้มีอารมณ์ขันบ้าง เพราะการพูดจริงจังตลอดเวลาจะทำให้ผู้ฟังเครียด แต่ถ้าผู้นำคนใดนำอารมณ์ขันมาใช้ คนฟังมักจะชอบโดยเฉพาะสังคมไทย ผู้ฟังมักชอบฟังอะไรที่ตลก ขบขัน มากกว่าฟังอะไรที่เครียด ดูจริงจัง

- ผู้นำจะต้องพูดให้มีไหวพริบปฏิภาณในการพูด เนื่องจากการพูด การปราศรัย บางแห่งจะมีผู้ฟังถามลองของหรือถามลองภูมิผู้พูด ดังนั้น ผู้เป็นผู้นำจะต้องตอบให้ได้หรือให้ทันเหตุการณ์ผู้นำจะต้องมีไหวพริบปฏิภาณในการพูดตอบโต้

- ผู้นำจะต้องพูดด้วยอารมณ์ กระผมไม่ได้หมายถึงใช้อารมณ์ในการพูดนะครับ ไม่ใช่ไปด่าผู้ฟังอะไรทำนองนั้น แต่ผู้นำจะต้องใส่อารมณ์ในการพูด เช่นพูดเรื่องเศร้าก็ต้องใช้น้ำเสียงและสีหน้า ท่าท่างอย่างหนึ่ง พูดเรื่องตลก ก็ต้องทำสีหน้า น้ำเสียงอีกอย่างหนึ่ง พูดจูงใจ ก็ต้องใช้น้ำเสียงจริงจัง ท่าทางจริงจัง เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อมั่น

และยังมีอีกหลายทักษะ ที่ผู้นำจะต้องเรียนรู้และนำไปปฏิบัติ เพราะการพูดแบบผู้นำเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ศาสตร์ก็คือสามารถเรียนรู้ได้ จากหนังสือ ตำรา ทฤษฏีต่างๆ ศิลป์คือการประยุกต์ใช้เพื่อนำศาสตร์ไปปฏิบัติ ท้ายนี้อยากฝากบทกลอนของผู้แต่งที่มีคนแต่งเอาไว้กระผมเคยเห็นครั้งแรกในมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อสิบกว่าปีก่อน

“ วาทะการนั้นเป็นเช่นของสูง เป็นเครื่องจูงใจคนดั่งมนต์ขลัง

เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ทรงพลัง และเป็นทั้งศาสตราเป็นอาภรณ์

เราจะใช้วิชาล้ำค่านี้ เพื่อสร้างสรรค์ สิ่งดีเป็นนุสรณ์

เพื่อเทิดธรรมพัฒนาประชากร เพื่อบ้านเกิดเมืองนอนแผ่นดินไทย”






Nov 9 /2010

51.
พูดโอกาสต่างๆ
การพูดในโอกาสต่างๆ


โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์


เมื่อวันที่ 26-27 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมากระผมได้มีโอกาสเป็นวิทยากรให้แก่ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลดงเจน จังหวัดพะเยา ในหัวข้อ “ การพัฒนาบุคลิกภาพและการพูดต่อหน้าที่ชุมชน” ณ โรงเรียนดงเจนวิทยาคม จังหวัดพะเยา ในวันที่สองของการฝึกอบรมกระผมได้บรรยายในหัวข้อการพูดโอกาสต่างๆ เนื่องจากผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่เป็นผู้นำท้องถิ่น จึงมีโอกาสในการขึ้นพูดในโอกาสต่างๆมาก เช่น การพูดในงานมงคลสมรส การพูดในงานขึ้นบ้านใหม่ การพูดในงานคล้ายวันเกิด การพูดในงานศพ การพูดในงานต้อนรับสมาชิกใหม่และการพูดกล่าวแสดงความยินดี ฯลฯ


สิ่งสำคัญในการพูดในโอกาสต่างๆ มีดังนี้ครับ


- ผู้พูดจะต้องรู้สถานการณ์และผู้ฟัง เช่น ถ้างานนั้นดำเนินไปด้วยความล่าช้า เราจำเป็นจะต้องพูดให้น้อยลง ทั้งๆที่เรามีอะไรต่างๆจะพูดมากมายก็ตาม โดยเฉพาะเลยเวลารับประทานอาหารไปนานแล้ว เพราะขนาด ก่องข้าวน้อยยังฆ่าแม่ได้เลย นับประสาอะไรกับผู้พูดที่ไม่ใช่ญาติมิตรกัน


- ต้องรู้ลำดับรายการผู้จะขึ้นพูดในโอกาสต่างๆ ต้องรู้ว่าลำดับของรายการต่างๆเป็นไปอย่างไรจะได้เตรียมตัวถูก ต้องรู้ว่ารายการอะไรก่อน รายการอะไรหลัง


- ต้องรู้จุดมุ่งหมายของงานนั้นๆ ว่าลักษณะของงานเป็นลักษณะงานที่บันเทิงสนุกครึกครื้น


เฮฮา หรือ เป็นงานที่เศร้าโศกสลด เราจะได้พูดให้ถูกกาลเทศะ


สำหรับโอกาสในการพูดในโอกาสต่างๆ มีดังนี้


1.การกล่าวแนะนำ โดยมากเป็นการกล่าวแนะนำ ผู้ที่อภิปราย วิทยากร ผู้โต้วาที หรือผู้เข้าร่วมอบรมหรือประชุม สัมมนาในงานนั้นๆ เป็นการกล่าวแนะนำก็เพื่อให้ผู้ฟังรู้จักและสนใจ “ตัวผู้พูด” และ “เรื่องที่จะพูด”


2.การกล่าวต้อนรับ เป็นการกล่าวต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยือนหรือกล่าวต้อนรับสมาชิกใหม่


3.การกล่าวอวยพร ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวในโอกาสที่เป็นงานมงคล เช่น งานมงคลสมรสหรืองานแต่งงาน งานวันคล้ายวันเกิด(ไม่ใช่งานวันเกิด เพราะวันเกิดมีวันเดียว) งานขึ้นปีใหม่ งานฉลองการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งต่างๆ ฯลฯ


4.การกล่าวไว้อาลัย โดยมากเรามักคิดถึงแต่งานศพ แต่จริงๆแล้วการกล่าวไว้อาลัยมีหลายอย่าง เช่น ไว้อาลัยผู้ตาย ไว้อาลัยผู้ที่ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ หรือที่ทำงานใหม่และไว้อาลัยในงานโอกาสไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เป็นต้น


สำหรับท้ายนี้กระผมมีตัวอย่างการกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรส โดยผู้กล่าวเป็นแม่ของเจ้าบ่าวดังนี้


สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ชีวิตของความเป็นผู้หญิงทุกคนคงไม่แตกต่างจากดิฉัน คืออยากให้คนที่เรารักหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเราได้มีความสุขและดิฉันก็ได้ปฏิบัติต่อครอบครัวของดิฉันเสมอมา ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปดิฉันก็เชื่อว่าสุภาพสตรีที่นิสัยดีและน่ารักคนนี้ คือสะใภ้ของดิฉันจะทำหน้าที่ภรรยาที่ดีและรักลูกชายของดิฉันได้นานแสนนานตลอดไป ขอบคุณค่ะ

หรือ พ่อของเจ้าบ่าวกล่าวดังนี้

สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมขอเปรียบชีวิตของคนเราเหมือนต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีความจริงใจเป็นรากแก้ว


มีความอดทนคือลำต้น มีความร่มเย็นคือร่มใบพร้อมทั้งความดีงามคือดอกผล จึงได้ชื่อว่า ต้นไม้แห่งความรัก


ความผูกพันและกระผมเชื่อว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวทั้งสองจะหมั่นดูแลรับผิดชอบซึ่งกันและกัน เหมือนต้นไม้ดังกล่าวมา ส่วนครอบครัวของทั้งสองฝ่ายนั้นจะเป็นเม็ดฝนชโลมความชุ่มชื่นแด่เจ้าบ่าวเจ้าสาวตลอดไป


ท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานแต่งงานในวันนี้(โดย อ.ภูวดล ภูภัทรโยธิน )





...
  
จริตวิทยา เส้นทางสู่ความเป็นเลิศของนักบริหาร(ศิลปะการถ่ายทอด)
แต่งโดย...ยุทธ์(นพพร) พยัฆวิเชียร
ราคาเล่มละ 150 บาท ภายในเล่มเขียนเกี่ยวกับการใช้น้ำเสียง ภาษา ท่าทาง วาทศิลป์สำหรับผู้นำและผู้บริหาร บทบาทแนวการพูดต่างๆสำหรับนักบริหาร ฯลฯ
เหมาะสำหรับผู้บริหาร และทุกท่านที่ต้องการพัฒนาตนเองในเรื่องบุคลิกภาพและการพูด
...
  
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
28
...
  
พงษ์พัฒน์ "คมวาทะ" แห่งปี 2010(นาฎราช)
28
...
  
การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
การทำงานในหน่วยงานหรือองค์กร มักจะเกิดปัญหาในการทำงานขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน เรื่องของระบบการบริหาร เรื่องของงบประมาณหรือเรื่องของการจัดสรรทรัพยากรที่มีจำกัด ฯลฯ การแก้ไขปัญหาจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการทำงาน
หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาในการทำงาน ท่านลองทำตามคำแนะนำเบื้องต้นนี้ สำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ มีดังนี้
1.วิเคราะห์ปัญหา แยกแยะและทำความเข้าใจปัญหา หากว่าท่านมีปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับการทำงาน ท่านลองวิเคราะห์ปัญหาว่าปัญหาที่ท่านเจอมีทางออกอย่างไร ท่านมีวิธีใดในการแก้ไขปัญหา ปัญหานั้นใหญ่แค่ไหน ปัญหาที่เจอมันจะส่งผลกระทบต่อหน่วยงานหรือตัวท่านเองมากน้อยแค่ไหน ขอให้ท่านลองคิดไตร่ตรองพิจารณา แล้วควรเขียนใส่ในกระดาษหรืออาจจะวิเคราะห์โดยใช้แผนที่ความคิด(Mind Map) เป็นต้น
2.รวบรวมข้อมูลมาให้มากที่สุด ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจแก้ปัญหาหรือตัดสินใจใดๆ ลงไป ท่านควรแสวงหาข้อมูลมาให้มากที่สุด เพราะการมีข้อมูลจะทำให้เราเกิดการตัดสินใจได้อย่างรอบด้านและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
3.การหาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาไว้หลายๆทาง จะทำให้ท่านตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่านอาจจะขอคำแนะนำ ขอคำปรึกษา จากผู้มีประสบการณ์หรือผู้เชี่ยวชาญ แล้วจงวิเคราะห์ว่าทางเลือกใดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือตรงกับความต้องการมากที่สุด ด้วยตนเองโดยเรียงลำดับจากวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุด
4.ตัดสินใจเลือกวิธีที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์นั้นๆ เพราะวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหาหนึ่งอาจไม่ดีสำหรับการแก้ไขปัญหาอีกปัญหาหนึ่ง ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก สภาพของปัญหาที่ต่างแตกกัน เช่น เรื่องของพื้นที่ , เรื่องของงบประมาณ , เรื่องของเงื่อนไขบางอย่าง ฯลฯ ดังนั้นคุณอาจจะตัดสินใจเลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดลำดับที่ หนึ่ง ตามรายละเอียดในข้อที่ 3 แต่ถ้าวิธีการที่หนึ่งมีปัญหาไม่สามารถนำไปใช้ได้หรือใช้แก้ไขปัญหาไม่ได้ คุณอาจมีวิธีที่สองสำรองไว้ใช้
5.นำวิธีการที่เลือกไปใช้โดยมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน มีการกำหนดรายละเอียด ออกแบบเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน แล้วจึงลงมือทำทันที
6.มีการประเมินผล ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด มีการปรับปรุงแผนที่วางไว้ให้เข้ากับเหตุการณ์ หากเกิดความขัดข้อง กล่าวคือ วิธีการที่หนึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้นำเอาแผนสำรองคือวิธีการที่สองมาประยุกต์ใช้ต่อไป แต่หากวิธีการที่หนึ่งแก้ไขปัญหาได้ประสบความสำเร็จ ก็ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย
จากข้อความข้างต้น ท่านจะเห็นได้ว่าหลักการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ จะทำให้ท่านมีการตัดสินใจได้อย่างดีขึ้น มีการมองปัญหาอย่างเป็นระบบขึ้น และมีหลักการในการแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าเดิม ซึ่งแต่เดิมบางท่านอาจจะแก้ไขปัญหาแบบไม่มีหลักการ ไม่มีการวิเคราะห์ปัญหา แยกแยะและทำความเข้าใจปัญหา ไม่มีการรวบรวมข้อมูลมาให้มากที่สุด ไม่มีการหาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาไว้หลายๆทาง ไม่มีการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่มีวิธีการที่ดีที่สุด ไม่มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนในการนำวิธีการไปใช้ และไม่มีการประเมินผล ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด



...
  
เพียงคิดเป็นภาพความสำเร็จก็มีขึ้น
เพียงคิดเป็นภาพความสำเร็จก็มีขึ้น
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
นักประดิษฐ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสองพี่น้องตระกูลไรท์ที่คิดค้นเครื่องบินขึ้นมาได้ โทมัส เอดิสันที่คิดค้นหลอดไฟฟ้าขึ้นมาได้ สตีฟ จอบส์ ที่คิดค้นแอปเปิลคอมพิวเตอร์และสินค้าอื่นๆของบริษัท ก่อนที่เขาเหล่านี้จะประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาได้ พวกเขาจะต้องมีภาพของสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ขึ้นมาภายในใจก่อน
การคิดเป็นภาพจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ถึงกับกล่าวว่า “ จินตนาการมีความสำคัญกว่าความรู้ ” หรือ นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส เรเน่ เดสการตส์ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังได้กล่าวว่า “ ฉันคิด ดังนั้นฉันจึงเป็น ” ซึ่งก็ถือว่ามีความเป็นจริงอย่างยิ่ง เพราะเคยมีการวิจัยว่า คนธรรมดามักจะคิดเป็นคำ แต่อัจฉริยะมักคิดเป็นภาพ จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าในยุคปัจจุบันเรามักจะเห็น ผู้ที่สร้างเครื่องมือต่างๆ โดยสร้างให้เป็นแผนภาพ แผนภูมิ แผนภาพใยแมงมุม Mind Map เป็นต้น
- Mind Map เป็นตัวอย่างได้อย่างดีในการอธิบายในเรื่องนี้ Mind Map คิดค้นโดย โทนี่ บูซาน เป็นเครื่องมือในการจัดหมวดหมู่ เชื่อมโยงคำต่างๆ ให้เป็นภาพ เพื่อให้ง่ายต่อความจำ ซึ่งประโยชน์ของ Mind Map มีมากมาย เช่น ทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจเรียน สนุกสนานไม่เบื่อ ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่ง่ายขึ้น ฯลฯ
การคิดเป็นภาพจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จ ในการฝึกอบรม ในการ
สัมมนา เกี่ยวกับเรื่องของความสำเร็จ ผมมักแนะนำผู้รับการอบรม หรือ ผู้ที่สัมมนา ให้ฝึกคิดเป็นภาพหรือฝึกจินตนาการทุกๆวัน เกี่ยวกับเรื่องของเป้าหมายหรือความฝันของตนเอง เวลาที่เหมาะสมคือ ช่วงที่คุณกำลังเพลินกับการอาบน้ำ ช่วงนั่งรถไปทำงานและก่อนนอนหลับตอนกลางคืน อีกทั้งยังแนะนำเพิ่มเติมให้ติดภาพของเป้าหมายหรือความฝันที่ต้องการติดตามห้องนอน ห้องทำงาน เพื่อที่จะได้จดจำได้ง่ายขึ้น เช่น นำภาพบ้านที่ต้องการ , รถยนต์ที่ต้องการ , จำนวนเงินที่ต้องการ และสิ่งต่างๆที่ต้องการติดตามสถานที่ต่างๆ ที่ทำให้เราเห็นอยู่เสมอ
เคยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ได้นำเอานักเทนนิสโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งซ้อมจริง กลุ่มที่สองไม่ต้องซ้อมเลย และกลุ่มที่สามซ้อมจากจินตนาการไม่มีการซ้อมจริง ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ซ้อมจริงฝีมือออกมาปกติคงที่ กลุ่มที่สอง ไม่มีการซ้อมเลย ฝีมือแย่ลง และกลุ่มที่สาม ที่ซ้อมจากจินตนาการไม่มีการซ้อมจริงผลปรากฏว่า มีฝีมือออกมาปกติคงที่ เช่นเดียวกับกลุ่มที่หนึ่ง ดังนั้นการฝึกซ้อมโดยคิดเป็นภาพหรือการซ้อมจากจินตนาการมีความสำคัญเพราะสมองมักแยกไม่ออกระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องในจินตนาการ
หากว่าคุณต้องการประสบความสำเร็จในด้านใด ไม่ว่าต้องการเป็นนักพูด นักร้อง นักดนตรี นักแสดง นักขาย ฯลฯ ลองฝึกคิดให้เป็นภาพหรือจินตนาการดู เช่น หากว่าคุณปรารถนาอยากเป็นนักพูด จงฝึกคิดเป็นภาพหรือจินตนาการว่า คุณกำลังขึ้นไปพูดบนเวทีพูดต่อหน้าที่ชุมชนกับผู้คนจำนวนมากมายหลายพันคน ถามว่าทำไมต้องจินตนาการว่ามีหลายพันคน เพราะถ้าหากคุณคิดเป็นภาพหรือจินตนาการว่ามีคนมาฟังแค่สิบยี่สิบคน แล้วถ้าหากคุณไปพูดจริงๆ มีคนฟังเป็นร้อยคนคุณจะรู้สึกตื่นเต้นเนื่องจากมีคนมาก ไหนๆจะคิดเป็นภาพหรือจินตนาการทั้งทีควรฝึกคิดเป็นภาพหรือจินตนาการให้ใหญ่ไปเลย จินตนาการว่ามีคนมาฟัง หลายพันคน ถ้าเกิดในอนาคตมีคนมาฟังแค่ร้อยสองร้อยคนคุณจะรู้สึกมีความประหม่าน้อยลง เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าหากว่าท่านปรารถนาความสำเร็จ การฝึกคิดเป็นภาพหรือฝึกการจินตนาการจึงเป็นสิ่งที่ท่านควรฝึกฝนทุกๆวัน ฝึกให้เป็นนิสัยโดยการจัดเวลาในการฝึกคิดเป็นภาพหรือจินตนาการ ผู้ประสบความสำเร็จจำนวนมากใช้เทคนิคนี้แล้วได้ผล ไม่ว่าจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์หรือในยุคปัจจุบัน


...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.