หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
อายุความ
13
...
  
การเขียนผลงานทางวิชาการและงานวิจัย
เขียนโดย รศ.ดนัย ไชยโยธา อ่านแล้วได้ความรู้เกี่ยวกับการเขียนงานวิจัย เพ่ิมมากขึ้น เหมาะสำหรับ อาจารย์ในมหาวิทยาลัย ...
  
บทความ "ปลุกจิตใต้สำนึก" ช่วงที่ 1
13
...
  
การบรรยาย "คิดให้เป็นแกะดำ" ชุดที่ 1/5
13
...
  
ข้อแนะนำ 10 ประการ ในการฝึกฝนตนเองเป็นนักพูดที่ดี
1. พูดเรื่องที่เรารู้ดี ที่สุด

2. เตรียมตัวให้พร้อม ความ พร้อมทำให้ไม่ประหม่า หรือ ถ้าเคยประหม่ามากก็จะประหม่าน้อยลง

3. สร้าง ความเชื่อมั่นให้กับตนเอง บอกกับตัวเองว่า "เรื่อง นี้ หัว ข้อนี้ สำหรับที่นี่ ฉัน รู้ดีที่สุด" แล้วพูดไปเลย

4. ถ้า ทำทั้งสามข้อแล้วยังไม่หายประหม่า มีข้อแนะนำคือ

สูดลมหายใจลึก ๆ หรือดื่มน้ำสักแก้ว

บอกตัวเองในใจว่า "วันนี้ สู้ตาย" อย่าบอกว่า "วันนี้ ต้องตายแน่ ๆ"

รวบรวมสติและกำลังใจ พูด เสียงดังตั้งแต่คำแรก หรือ ประโยคแรก แล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้น

5. แต่ง กายให้สะอาด เรียบร้อย เหมาะ สม

6. ปรากฏกายอย่างกระตือ รือร้น ทำ ตนให้สดชื่น กระปรี้ กระเปร่า แสดง ถึงความพร้อม ความ เต็มใจที่ จะ พูด นอก จากจะทำให้คนฟังรู้สึกอยากฟังแล้ว ยังช่วยโน้มนำจิตใจ ของเราให้อยากพูด อยาก แสดงออกมาอีกด้วย

7. ใช้ กริยาท่าทางประกอบการพูดไปด้วย อย่ายืนนิ่ง ๆ และ อย่าให้มือเกะกะวุ่นวาย ใช้ให้พอเหมาะและตรง กับเรื่องที่พุด กริยาท่าทางต้องใช้ เสริมการพุด ไม่ใช่ขัดขวางหรือ ทำลายความสนใจในการพูด "จง พูดจากความรู้สึกที่จริงใจ แล้วท่าทาง มือ ไม้ของท่านจะเป็นไปเองตามธรรมชาติ"

8. พยายาม สบสายตากับผู้ฟัง การสบสายตาเป็นวิธี หนึ่งที่จะดึงความสนใจของผู้ฟัง ถ้าเรามองหน้าผู้ฟัง ผู้ ฟังก็จะมองเรา เวลาพูดอย่าหลบตาผู้ ฟัง อย่า มองพื้น มอง เพดาน มอง ต้นฉบับ หรือ มองข้ามผู้ฟังออกไปข้างนอก เมื่อใดการสื่อสารทาง สายตาขาดหายไป การสื่อสารทางจิตใจก็ ขาดลง

9. ใช้น้ำเสียงให้เป็นไป ตามธรรมชาติ คือ พูด ให้เหมือนกับการคุยกัน อย่าดัดเสียงให้ผิดไป จากธรรมชาติ เสียงของนักพูดที่ดี มิได้หมายความว่า ต้องหวาน กังวานไพเราะเหมือนเสียงนักร้อง แต่ หมายความว่าต้องเป็นเสียงที่ออกมาจากความรู้สึกที่จริงใจ เต็ม ไปด้วยพลัง มีชีวิตชีวา สามารถตรึงผู้พูดเอาไว้ได้ "ธรรมชาติ ของเสียงเราปรับปรุงไม่ได้ แต่บุคลิกภาพของเสียง สามารถปรับปรุงได้" ดังนี้

พูดให้เสียงดังฟังชัด จังหวะ การพูดอย่าให้ช้าหรือเร็วเกินไป

จังหวะการพูดอย่าให้ช้าเกินไป จะทำให้น่าเบื่อ และอย่ารัวหรือเร็วเกินไป จะทำให้ฟังไม่ทัน พูดให้ได้จังหวะพอดี

อย่าพูดเอ้อ - อ้า ทำ ให้เสียเวลา เสีย รสชาติของการพูด ทำให้ผู้ฟังรำคาญ "เอ้อ..เสีย เวลา อ้า…เสีย คน"

อย่าพูดเหมือนอ่าน หนังสือ หรือ ท่องจำ

ใส่ความกระตือรือร้นลงไปในน้ำเสียง ใส่ อารมณ์ ความรู้สึก อย่า พูดราบเรียบ ขณะพูด ใช้ เสียงหนัก - เบา ใช้ เสียงสูง - ต่ำ มี การเว้นจังหวะการพูด การทอดเสียง การ เว้นจังหวะ การรัวจังหวะการพูด การ หยุดหายใจเล็กน้อยก่อนหรือหลังคำพูดที่สำคัญ ๆ


10. การ พูดที่ดีต้องมีการยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น พยายาม หาเรื่องสนุกสนานมาสอดแทรก แต่อย่าให้ตลกโปกฮา เสียจนขาดเนื้อหาสาระ ให้มีลักษณะ "ฟัง สนุก และ มีสาระ" บ้าง

หวังว่าเทคนิคต่างๆนี้ คงช่วยให้คนที่อยากเป็นนักพูดได้นำไปประยุกต์ใช้กันนะครับ
...
  
Case study โออิชิ (3)
13
...
  
ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนเราทุกคนเกิดมาแล้วควรทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่น การทำงานคือสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสามารถทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้ แต่ในการทำงานก็ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดความทุกข์ได้เช่นกัน ในบทความตอนนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง “ การทำงานอย่างไรให้มีความสุข ” ซึ่งท่านสามารถนำเอาหลักการบางอย่างไปใช้ได้ การทำงานอย่างไรให้มีความสุขมีดังนี้
1.มีความรักในงานที่ทำ การมีความรัก ความชอบ ในงานที่ตนเองทำ เป็นหัวใจหลักของการมีความสุขในการทำงาน โทมัส เอดิสัน เป็นนักประดิษฐ์เอกของโลก ได้ประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ มามากมาย สิ่งประดิษฐ์บางชิ้นก็ยากเย็นแสนยาก แต่ท่านมีความรัก ความชอบในงานที่ทำท่านจึงมีความสนุกกับมัน อีกทั้งสามารถทำงานได้เป็นเวลานานๆ จิตใจก็คิดแต่เรื่องของการประดิษฐ์ตลอดเวลา ไม่ว่าตอนรับประทานอาหาร ตอนเข้าห้องน้ำ เมื่อมีความรัก ความชอบในงานที่ทำ ผลงานที่ยิ่งใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับคนผู้นั้นเสมอ แต่ในทางตรงกันข้าม หากเราไม่มีความรัก ความชอบ ในงานที่ทำ งานนั้นๆ ก็จะเป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัสสำหรับเรา เราจะทำงานด้วยความเบื่อหน่าย ท้อแท้ ไม่มีความสุข อยากที่จะเปลี่ยนงาน
2.มีเป้าหมายในการทำงาน หากท่านทำงานไปวันๆ ไม่มีเป้าหมาย ท่านจะทำงานอย่างขอไปที หรือไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ท่านควรเริ่มตั้งเป้าหมายในการทำงาน ว่าอีก 5 ปี ข้างหน้าท่านจะขึ้นตำแหน่งบริหาร หรือ ปีหน้าท่านจะสร้างยอดขายให้ได้ 1 ล้านบาทต่อปี ถ้าท่านมีเป้าหมายดังกล่าว ท่านก็จะมีความขยัน มีความกระตือรือร้น ท่านจะมีพลังในการหาวิธีเพื่อไปถึงเป้าหมาย
3.มีมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกัน หลักในการทำงานร่วมกันย่อมเกิดปัญหาความไม่เข้าใจหรือความขัดแย้งขึ้นในองค์การเสมอ ท่านต้องพยายามปรับตัว ท่านต้องรู้จักปล่อยวางในบางสถานการณ์ อีกทั้งท่านควรมีมนุษยสัมพันธ์ในที่ทำงาน คนที่มีมนุษยสัมพันธ์มักเป็นคนที่มีเพื่อนมาก มีคนคอยให้การช่วยเหลือ อีกทั้งจะมีความสุขในการทำงานในการดำเนินชีวิตมากกว่าคนที่ทำงานเข้ากับใครไม่ได้
4.มีการบริหารเวลาที่ดี คนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนๆนั้น จะบริหารเวลา 24 ชั่วโมง อย่างไรให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นมากที่สุด หลักการบริหารเวลาที่ดี มีผู้รู้เคยแนะนำว่า ควรแบ่งเวลาออกเป็น 4 ส่วน ใหญ่ๆ กล่าวคือ แบ่งเวลาให้แก่งาน แบ่งเวลาให้แก่สังคม แบ่งเวลาให้แก่ครอบครัว และแบ่งเวลาให้แก่สุขภาพของตนเอง
สำหรับ เวลาที่ใช้ในการนอนหลับ เวลาที่ใช้ไปในการเดินทาง เวลาที่ใช้ไปในการรับประทานอาหาร เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจาก เราเสียเวลาดังกล่าวค่อนข้างมากสำหรับการทำสิ่งเหล่านี้ หากรู้จักใช้ประโยชน์จากเวลาที่เสียไปดังกล่าวก็จะทำให้เราสามารถสร้างผลงานขึ้นมาอย่างมากมาย เช่น ระหว่างขับรถอาจฟังเทปหรือvcd วิชาการ หรือ เราอาจจะนอนหลับให้น้อยลงเพื่อจะได้มีเวลาในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ศาสตร์ในการบริหารเวลาเป็นศิลปะ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
5.มีความคิดเรื่องประโยชน์ที่ได้จากการทำงาน งานทุกงานมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นทั้งสิ้น หากท่านคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของแต่ตนเองเป็นหลัก เช่น เรื่องการขึ้นเงินเดือน เรื่องการขึ้นตำแหน่ง เรื่องโบนัส ฯลฯ การทำงานของท่านก็อาจเป็นทุกข์ เมื่อถึงเวลาพิจารณาท่านไม่ได้สิ่งดังกล่าว แต่หากท่านมองเห็นประโยชน์ที่ได้จากการทำงานที่ทำให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์ ท่านจะมีพลังในการทำงานมากขึ้น เช่น ท่านเป็นครู เป็นอาจารย์ ท่านเกิดความภาคภูมิใจในการสอนในการผลิตนักเรียน หรือนักศึกษา นิสิต ที่มีคุณภาพ มีคุณธรรม ออกมารับใช้สังคม ท่านจะเกิดความสุขใจจากสิ่งที่ท่านได้ทำงาน
และยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้ท่านมีความสุขในที่ทำงาน เช่น การคิดบวก , การรู้จักคลายเครียดในการทำงาน เป็นต้น จะเห็นได้ว่า สิ่งที่กระผมกล่าวมาข้างต้น เป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับตนเองเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งการทำงานมีเรื่องทะเลาะกัน หรือ ไม่เข้าใจกัน แต่เรานำมาคิดมากจนเกินไปก็จะทำให้เราเกิดความทุกข์ขึ้นได้ สุขในการทำงานหรือทุกข์ในการทำงานขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นสำคัญว่าเราจะเลือกความสุขหรือเลือกเอาความทุกข์ที่เกิดจากการทำงาน



...
  
การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่หนังสือ
การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่หนังสือ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การทำหนังสือขาย การเขียนหนังสือขาย หากต้องการให้มีมูลค่าเพิ่มในใจผู้อ่านหรือผู้ซื้อ ผู้จัดทำหนังสือควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ด้วย บางครั้งเราจะเห็นได้ว่า งานเขียนของคนบางคนเขียนได้ดีมากแต่ไม่ค่อยจะมีคนซื้ออ่าน เนื่องจากการออกแบบปกหนังสือไม่สวยไม่โดนใจผู้อ่านหรือผู้ซื้อ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่หนังสือจึงมีความสำคัญ เมื่อหนังสือมีมูลค่าเพิ่มจะทำให้หนังสือเล่มนั้น สามารถตั้งราคาสูงขึ้นได้อีก อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการของตลาด สำหรับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่หนังสือมีดังนี้
1.ปกหนังสือ ปกหนังสือมีความสำคัญมากเนื่องจากเมื่อผู้อ่านหรือผู้ซื้อ เข้าไปในร้านหนังสือซึ่งมีหนังสือเป็นจำนวนมาก หากปกหนังสือออกแบบไม่โดนใจ ลูกค้าก็มีโอกาสน้อยมากที่จะหยิบหนังสือเล่มนั้นมาดู แต่หากออกแบบปกหนังสือให้มีรูปแบบ ที่ทันสมัย แปลก ใหม่ ก็จะทำให้ผู้อ่านหรือผู้ซื้อมีโอกาสหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอ่านดูได้มากกว่า
2.การพิสูจน์อักษร มีความสัมพันธ์กับคุณค่าของหนังสือ หากว่าลูกค้าหรือผู้อ่านเปิดอ่านหนังสือ แล้วลองอ่านดู เกิดพบคำผิดมากๆ ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่าหนังสือเล่มนั้นไม่มีคุณภาพ อีกทั้งหนังสือบางเล่มแทรกการแก้คำผิดเพิ่มเติมเสียยาวเหยียด ถ้าท่านเป็นผู้อ่านหรือลูกค้า ท่านย่อมทึกทักได้ว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ค่อยมีคุณภาพได้
3.ตัวหนังสือและภาพ ขาดความคมชัด เมื่อคุณภาพของการพิมพ์ไม่ดี ทำให้ตัวอักษรต่างๆ ภาพต่างๆ ไม่ชัดเจน ก็มักจะมีผลต่อการอ่านของผู้อ่าน อีกทั้งเมื่อผู้อ่านได้อ่านหนังสือที่ไม่ชัดเจนแล้ว ก็ทำให้ผู้อ่านตัดสินใจไม่ซื้อหนังสือได้
4.ราคาของหนังสือ เป็นปัจจัยหนึ่งของการที่ลูกค้าหรือผู้อ่านจะตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนั้นหรือไม่ ถ้าหนังสือมีราคาแพงหรือถูกเกินไปก็จะมีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกของลูกค้า สำหรับการคำนวณในการตั้งราคาหนังสือแบบง่ายๆ คือ เมื่อเราทราบต้นทุนที่เกิดจากการพิมพ์ รวมราคาออกแบบปก การจัดรูปแบบภายในเล่มแล้ว เราเอาราคาดังกล่าวมาคูณด้วย 4 จะเป็นราคาของหนังสือเล่มนั้นๆ โดยประมาณ
5.คุณภาพของกระดาษ สำหรับกระดาษในการทำหนังสือแต่ละเล่มก็มีความสำคัญ เช่น ความหนาความเบาของกระดาษ โดยมากสำนักพิมพ์มักใช้กระดาษ 70 แกรม หรือ 80 แกรม ซึ่งหากใช้กระดาษ 80 แกรม ราคาอาจจะแพงกว่ากระดาษ 70 แกรม ไปสักเล็กน้อยแต่ก็ทำให้หนังสือเล่มนั้นๆ มีคุณค่ามากขึ้น หรือ การใช้กระดาษธรรมดากับกระดาษถนอมสายตาในการพิมพ์ ราคาอาจจะแตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อย แต่สามารถทำให้หนังสือเล่มนั้นมีคุณค่าสูงขึ้นได้
6.สำนักพิมพ์และโรงพิมพ์ อาจจะเป็นที่เดียวกันก็ได้ หรือ เราพิมพ์ที่โรงพิมพ์หนึ่งแต่ใช้บริการอีกสำนักพิมพ์หนึ่งก็ได้ โรงพิมพ์หรือสำนักพิมพ์ ที่มีมาตรฐาน จะช่วยให้หนังสือเรามีมูลค่า อีกทั้งยังช่วยเรื่องของภาพลักษณ์ของผู้เขียนด้วย
7.โฆษณา ด้านหลังหนังสือ สำนักพิมพ์บางแห่งถือโอกาสโฆษณาหนังสืออื่นๆ ของสำนักพิมพ์ ลงในหนังสือของเรา แต่ถ้าหากเป็นการโฆษณาหนังสือของผู้เขียนเอง ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่ม แต่หากเป็นหนังสือของผู้อื่น ก็จะลดคุณค่าภายในใจลูกค้าบางคนได้ ทั้งนี้หากว่าเราไม่ต้องการให้หนังสืออื่นมาโฆษณาด้านหลังเราก็สามารถต่อรองกับสำนักพิมพ์ได้
8.สร้างความแปลกใหม่ หากทำหนังสือเหมือนๆกับหนังสือโดยทั่วไปในท้องตลาด หนังสือของท่านจะไม่ค่อยมีมูลค่าเพิ่ม แต่หากท่านทำหนังสือที่แปลกใหม่ ทันสมัย อีกทั้งไม่ค่อยเหมือนใคร หนังสือของท่านก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทันที เช่นการออกแบบปก การออกแบบภาพแปลกๆ ประกอบภายในหนังสือ การใช้งานศิลป์เข้ามาช่วยในการทำหนังสือ การสร้างรูปทรงของหนังสือให้ออกมาในแนวแปลกๆ เป็นต้น
โดยสรุป การสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นการเพิ่มคุณค่าภายในใจของลูกค้า แต่สิ่งที่มีคุณค่าที่แท้จริงของหนังสือก็คือ เนื้อหาของหนังสือนั้นเอง




...
  
การจัดประชุมทีมในธุรกิจเครือข่าย
การจัดประชุมทีมในธุรกิจเครือข่าย
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การจัดประชุมทีมในธุรกิจเครือข่ายมีความสำคัญมาก เพราะเป็นเส้นทางหนึ่งที่จะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ไว
ซึ่งการประชุมทีมจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อหลายฝ่าย เช่น เกิดความรัก ความสามัคคีกันในองค์กรธุรกิจเครือข่าย , เป็นการสร้างผู้นำ , เป็นการพัฒนาตนเอง , เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน เป็นต้น
สำหรับการจัดประชุมทีมที่ดีนั้น เราควรมีขั้นตอนในการประชุม ดังนี้
1.มีการเปิดประชุม แล้วให้พิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการ ได้ให้ทุกคนทำการรู้จักกันโดยการแนะนำตัวทีละคนเพื่อสร้างความเป็นกันอีก และความกล้าแสดงออก
2.มีการจัดเกมส์หรือกิจกรรม เพื่อละลายพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมประชุม อีกทั้งเป็นการสร้างความสนุกสนาน สร้างบรรยากาศให้มีความสนุกยิ่งขึ้น
3.มีการฝึกให้สมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ได้มีโอกาสนำเสนอสินค้าที่ขายหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการขาย ต่อที่ประชุม อย่างน้อย 2-3 คน สินค้า 2-3 ประเภท
4.มีการสอดแทรกเนื้อหาทางวิชาการ เพื่อให้ความรู้ แก่ผู้เข้าร่วมประชุม เช่น เทคนิคการชักชวนหรือเทคนิคการสปอนเซอร์ , เทคนิคการขายสินค้า , เทคนิคในการตอบข้อโต้แย้ง เป็นต้น
5.มีการเสริมกำลังใจให้ทีม เช่น มีการจัดการแข่งขัน , มีการจับฉลากโดยการหาของรางวัลมามอบให้สำหรับผู้เข้าร่วมประชุม , มีการมอบรางวัลสำหรับผู้ชนะในการแข่งขันประเภทต่างๆ ฯลฯ
6.มีการปิดประชุม ด้วยความประทับใจ อีกทั้งต้องมีการนัดหมายในการประชุมในครั้งต่อไป ซึ่งการจัดประชุมทีมที่ดีควรจัดอย่างสม่ำเสมอ และควรจัดทุกๆ 1 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง
สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่พิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการ ควรดำเนินรายการอย่างสนุกสนาน ตื่นเต้น มีอารมณ์ขันสอดแทรก แต่งกายให้เป็นมืออาชีพ มีการเชื่อมโยงแต่ละรายการอย่างราบรื่น
สำหรับผู้ที่นำเสนอสินค้า ต้องพยายามศึกษารายละเอียดของสินค้า ศึกษาจุดเด่นของสินค้าของตนเอง พยายามเล่าความประทับใจในตัวสินค้า ประสบการณ์ด้านการขายสินค้า
สำหรับนักธุรกิจเครือข่ายใหม่ ที่เข้ามาประชุม เราควรบอกถึงความสำคัญของการมาประชุม อีกทั้งต้องแนะนำนักธุรกิจเครือข่ายใหม่ ให้ได้รู้จักเพื่อนร่วมอาชีพ อีกทั้งต้องบอกกฎระเบียบในการประชุมโดยเฉพาะเรื่องของเวลา และควรเปิดโอกาสให้นักธุรกิจเครือข่ายใหม่ได้แสดงออกมากขึ้น
สำหรับการประชุมแต่ละครั้ง ผู้ดำเนินการจัดการประชุม ควรเช็คระบบเสียง แสง อุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม ก่อนการประชุม เช่น สินค้าสำหรับสาธิต , VCD สำหรับนำเสนอ , ระบบแอร์ควรเปิดสักพักก่อนมีการประชุม เป็นต้น
การจัดประชุมทีมที่ดี เราควรมีการผลัดเปลี่ยนกัน ทำหน้าที่ประธานเปิดการประชุมและปิดการประชุม เราควรพลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่พิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการ และเราควรพลัดเปลี่ยนกันในการนำเสนอสินค้าหรือให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ การจัดประชุมทีมมีความสำคัญและจำเป็นก็จริง แต่ก็ยังมีนักธุรกิจเครือข่ายจำนวนมากที่ไม่อยากเข้าร่วมประชุม อาจเนื่องมาจากความขี้เกียจในการเดินทางหรือเหนื่อยอยากพักผ่อนมากกว่า บางคนก็ไม่อยากฟังเรื่องเก่าๆ ซ้ำๆ บางคนก็เลือกวันเวลาเข้าเนื่องจากต้องการฟังบางหัวข้อ บางคนเมื่อไม่เห็นทีมงานเข้าก็ไม่อยากเข้า เป็นต้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การจัดประชุมทีมในธุรกิจเครือข่าย มีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างมาก การจัดประชุมจะทำให้เกิดผลดีต่างๆ เช่น ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับข้อมูลข่าวสารของทางบริษัท การประชุมยังช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อการทำงานด้านธุรกิจเครือข่าย เกิดโอกาสทางการศึกษากล่าวคือได้รับความรู้ใหม่ๆมากขึ้น ทำให้เรารู้จักสังคมใหม่ๆเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเกิดทักษะในการทำงาน เป็นต้น

...
  
ยิ่งอ่านมาก..ยิ่งสำเร็จ..
ยิ่งอ่านมาก...ยิ่งสำเร็จ...
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การอ่านหนังสือมีประโยชน์หลายอย่าง บุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นนักอ่าน จากการสังเกตโลกตะวันออกของเราเจริญเติบโตล้าหลังกว่าโลกตะวันตกก็เนื่องมาจากสาเหตุหนึ่งคือ คนส่วนใหญ่ไม่นิยมอ่านหนังสือ
หากท่านต้องการประสบความสำเร็จ ท่านคงต้องรีบอ่านหนังสือให้มากขึ้น ท่านลองคิดง่ายๆว่า คนๆหนึ่งอ่านหนังสือปีละ 1 เล่ม แต่อีกคนหนึ่งอ่านหนังสือปีละ 100 เล่ม เวลาผ่านไป 10 ปี บุคคลทั้งสองจะมีความรู้ที่แตกต่างกันสักเพียงใด
สำหรับสังคมไทยเป็นสังคมที่ชอบฟัง ชอบพูด มากกว่าชอบอ่าน ชอบเขียน เคยมีการทำวิจัยได้ผลออกมาว่าคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 12 บรรทัด เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากๆเมื่อเทียบกับประเทศที่เขาเจริญแล้ว
สำหรับคนอ่านหนังสือมาก ผมไม่ได้หมายถึงว่าจะประสบความสำเร็จทุกคน แต่คนที่ประสบความสำเร็จมักเป็นนักอ่าน เพราะการอ่านจะทำให้เรา ได้รับข้อมูลใหม่ๆ ข่าวสารใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ดังนั้นจึงมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนที่อ่านน้อยกว่า อีกทั้งการอ่านหนังสือมากๆ ยังเป็นการช่วยให้เกิดการย้ำความคิดบ่อยๆ เมื่อย้ำความคิดบ่อยๆ ความคิดนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นการกระทำเขาจึงประสบความสำเร็จ
การอ่านหนังสือมีประโยชน์มากมาย เช่น ทำให้ผู้อ่านเป็นคนรอบรู้ , ทำให้เป็นคนทันโลก ทันสมัย ทันเหตุการณ์ , ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน มีความสุข , ช่วยในการสร้างสมาธิ , เมื่ออ่านหนังสือมากๆจะทำให้เกิดมีปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ดีกว่าคนไม่อ่านหนังสือ อีกทั้งทำให้มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา
การเลือกอ่านหนังสือก็มีความสำคัญมาก เพราะหนังสือมีอยู่หลายประเภท การเลือกหนังสือจึงเหมือนกับการเลือกคบเพื่อน คนไทยส่วนใหญ่มักชอบอ่านหนังสือประเภท หาสาระไม่ค่อยได้ เช่น นิตยสารที่เกี่ยวกับ ดารา แฟชั่น เครื่องแต่งกาย ฯลฯ แทนที่จะอ่านหนังสือที่เสริมสร้างภูมิปัญญา เสริมสร้างความคิด ให้มากขึ้น
การอ่านหนังสือยังเป็นทางลัดที่นำพาเราไปสู่ความสำเร็จ เคยมีคำกล่าวว่า “ คนธรรมดามักเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเอง แต่คนฉลาดมักเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น ” ซึ่งการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นสามารถเรียนรู้ได้หลายทาง เช่น จากการฟัง จากการสัมภาษณ์ และจากการอ่าน
หนังสือสามารถเปลี่ยนชีวิต หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสอ่านประวัติบุคคลสำคัญของโลกหรือของประเทศ เราจะเห็นได้ว่า หนังสือเพียงแค่เล่มเดียวก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้ เช่น คุณสมคิด ลวางกูล ได้มีโอกาสอ่านหนังสือของเดล คาร์เนกี้ ถึงกับประทับใจแล้วนำข้อแนะนำภายในหนังสือไปปฏิบัติในที่สุด เขายกระดับตัวเองจากเด็กวัดสู่ระดับเศรษฐีได้
ฉะนั้นการอ่านหนังสือจึงเป็นการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จ หากท่านอ่านหนังสือมากขึ้น ท่านก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเช่นกัน


...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  [98]  [99]  [100]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.