หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
สำนวนไทย ฉบับสมบูรณ์
เป็นหนังสือที่รวบรวม สำนวน คำพังเพย อุปมา อุปไมย ภาษิต โดยเรียงลำดับอักษร ก-ฮ เหมาะสำหรับนักพูดหรือนักเขียน นักศึกษา นักเรียน และผู้สนใจ
ราคา 20 บาท เรียบเรียงโดย วิเชียร เกษประทุม
...
  
บุคลิกภาพของนักพูด
บุคลิกภาพของนักพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
การพูดที่ดีจะทำให้ผู้พูดขึ้นสู่ที่สูง แต่บุคลิกภาพจะทำให้ผู้พูดสามารถดำรงอยู่ได้นาน
บุคลิกภาพมีความสำคัญมากต่อการพูด โดยเฉพาะการพูดต่อหน้าที่ชุมชน ผู้พูดหรือนักพูดจะต้องมีบุคลิกภาพที่ต้องตาผู้ฟัง บุคลิกภาพมีความสัมพันธ์กับการพูดต่อหน้าที่ชุมชนจนการฝึกอบรมในปัจจุบันหลายๆ หลักสูตรมักจะมีเนื้อหาบุคลิกภาพกับการพูด เช่น หลักสูตรการพัฒนาบุคลิกภาพกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน หลักสูตรการพัฒนาบุคลิกภาพกับการพูดแบบผู้นำ ฯลฯ
มีคำถามว่า แล้วบุคลิกภาพที่ดีของนักพูดหรือผู้พูดในการพูดต่อหน้าที่ชุมชนมีอะไรบ้าง สำหรับบุคลิกภาพที่ดีของนักพูดหรือผู้พูดต่อหน้าที่ชุมชนมี 2 อย่างครับ คือ บุคลิกภาพภายนอกกับบุคลิกภาพภายใน สำหรับบทความฉบับนี้กระผมขอพูดถึงบุคลิกภาพภายในก่อนครับ บุคลิกภาพภายในของนักพูดที่ดีมีดังนี้ครับ
- มีความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตนเอง นักพูดหรือผู้พูดที่ขาดความมั่นใจหรือเชื่อมั่นใน
ตนเอง มักจะพูดด้วยความไม่หมั่นใจ พูดแบบไม่เต็มอารมณ์ เต็มอาการของตนเอง ขาดความเป็นตัวของตัวเอง เมื่อต้องการแสดงท่าทางประกอบการพูดมักจะไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าที่ควร แต่ถ้าแสดงความมั่นใจหรือเชื่อมั่นจนเกินไปก็อาจทำให้เกิดความเสียหายได้เหมือนกัน เนื่องจากผู้ฟังสามารถสัมผัสได้
- มีไหวพริบ เชาว์ปัญญา มีความรอบรู้ บุคคลที่ต้องการเป็นนักพูดหรือพูดเก่ง พูดเป็น
จำเป็นต้องเป็นคนที่มีความรอบรู้ มีเชาว์ปัญญา และมีไหวพริบ สามารถแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ต่างๆได้ เนื่องจากเวลาพูดแต่ละสถานที่มักมีปัจจัยที่ไม่เหมือนกัน เช่น เพศ วัย อายุ สถานที่ เครื่องเสียง ฯลฯ
- มีความหนักแน่น มีสติ ควบคุมตัวเองได้ เนื่องจากการพูดแต่ละครั้งผู้พูดต้องเผชิญกับ
เหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจากตัวผู้พูดเองหรือตัวผู้ฟัง เช่น ผู้พูดอาจจะอารมณ์เสียเนื่องจากโกรธหรือโมโหใครมา แต่เวลาขึ้นพูดผู้พูดต้องควบคุมตัวเองได้ มีสติ ถ้าหากผู้พูดหลุดหรือพูดพลาด อาจจะมีผลร้ายแรง ทำให้ผู้ฟังขาดความนับถือ ศรัธทา และบางครั้งอาจร้ายแรงจนต้องติดคุกติดระรางไปเลยก็มีเนื่องจากไปพูดหมิ่นประมาทผู้อื่น
- มีความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา พวกเราคงเคยได้ฟังหรือเคยไปอบรมกับวิทยากรหรือ
อาจารย์หลายๆ ท่านมาแล้ว บางท่านเราฟังแล้วรู้สึกสนุกสนาน มีชีวิตชีวา แต่เมื่อเราฟังบางท่านพูดแล้ว เรากลับเบื่อหน่าย ง่วงไม่อยากฟัง อยากให้การพูดนั้นจบไวๆ ดังนั้น การที่จะให้ผู้ฟังเกิดความมีชีวิตชีวาหรือเกิดความกระฉับกระเฉงเวลาฟัง ตัวเราผู้พูดก็ต้องทำตัวให้มีความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาไปด้วย เนื่องจากในทางจิตวิทยาการพูดมันสามารถสื่อสารถึงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ หากเราต้องการให้ผู้ฟังมีอารมณ์ ความรู้สึกอย่างไร ตัวผู้พูดต้องแสดงอารมณ์และความรู้สึกอย่างนั้นก่อน
- มีความเข้าใจเห็นใจผู้ฟัง นักพูดที่สามารถพูดจูงใจคน จำเป็นจะต้องศึกษาจิตวิทยา
ฝูงชน นักพูดที่พูดแล้วคนถูกใจ พอใจ นักพูดผู้นั้นมักเป็นคนที่มีความสามารถเข้าถึงหัวใจของผู้ฟังได้ นักพูดที่ให้เกียรติผู้ฟัง ผู้ฟังก็มักจะให้เกียรติผู้พูด ดังนั้นอย่าได้ดูถูกดูหมิ่นหรือแสดงอาการยโสโอหัง แก่ผู้ฟัง นักพูดที่ดีต้องไม่แสดงโทสะหรืออารมณ์โกรธจนลืมตัวเพราะเราแสดงอารมณ์โทสะเวลาพูด มันก็จะสื่อให้แก่ผู้ฟังเข้าใจอารมณ์โทสะของผู้พูดได้เช่นกัน
- มีความจริงใจ ไม่พูดโกหกผู้ฟัง อดีตประธานาธิบดีลินคอนล์ เคยกล่าวไว้ว่า “ เราสามารถโกหกคน
บางคนได้ตลอดเวลา เราสามารถโกหกคนทุกคนได้บางเวลา แต่เราไม่สามารถโกหกคนทุกคนและทุกเวลาได้”
ถ้าต้องการเป็นนักพูดที่ดี อย่าได้โกหกคนเลยครับ ควรพูดแต่ความจริง
ดังนั้นเราจะเห็นว่าบุคลิกภาพภายในของนักพูดมีความสำคัญมากในการพูด สำหรับบุคลิกภาพภายนอก เช่น การแต่งตัว การเดิน การยืน การนั่ง การแสดงท่าทาง ฯลฯ ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ผู้ที่ต้องการเป็นนักพูดจึงมีหน้าที่ที่ต้องฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ
...
  
โรงเรียนคลองมะขามเทศ ทอล์คโชว์
29
...
  
ถ้าอยากเป็นเศรษฐีมิควรเป็นลูกจ้าง
ถ้าอยากเป็นเศรษฐีมิควรเป็นลูกจ้าง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
จากคำกล่าวที่ว่า “ ถ้าอยากเป็นเศรษฐีมิควรเป็นลูกจ้าง” เป็นคำกล่าวของชาวจีนในอดีตที่ได้สอนลูกหลาน มิได้มีเจตนาที่จะดูถูกคนที่เป็นลูกจ้างแต่อย่างใด แต่เป็นคำพูดที่มีความเป็นจริงมากทีเดียว เนื่องจากการเป็นลูกจ้างเราจะได้รับเงินเดือนประจำที่มีวงเงินที่จำกัดในแต่ละเดือน เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ก็เป็นเงินออม ซึ่งเงินออมดังกล่าวถ้าหากว่าเราต้องการให้เพิ่มเป็นเงินออมก้อนใหญ่ก็คงต้องใช้เวลานานหลายปี
แต่ตรงกันข้ามกับคนที่ทำธุรกิจการค้าหรือเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งสามารถสร้างเงินหรือความมั่งคั่งร่ำรวยได้อย่างรวดเร็วกว่า อีกทั้งยังไม่มีวงเงินที่จำกัดในแต่ละเดือน เป็นนายของตัวเอง มีความเป็นอิสระ เสรี
สำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจมักมีคำถามมากมายที่มีคนตั้งคำถาม เช่น
1.หากว่าเราจะเริ่มต้นทำธุรกิจเราควรจะเริ่มต้นอย่างไร ? ตามความคิดเห็นของกระผม “ ธุรกิจใหญ่เกิดจากธุรกิจเล็ก ” ดังนั้น เราควรเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆไปก่อนแล้วจึงค่อยขยายตัวให้ใหญ่ยิ่งขึ้น เราไม่ควรลงทุนทำธุรกิจครั้งแรกด้วยเงินลงทุนที่มากจนเกินตัวหรือลงทุนทำธุรกิจให้ใหญ่จนเกินตัว เพราะแทนที่จะประสบความสำเร็จอาจทำให้ล้มเหลวได้ เพราะกระผมเชื่อเรื่องของวิวัฒนาการ กล่าวคือ ธรรมชาติมักก่อกำเนิดสิ่งต่างๆโดยเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆแล้วค่อยเจริญเติบโตขึ้นเป็นลำดับ เช่น การปลูกต้นไม้ , การเลี้ยงสัตว์ หรือแม้กระทั่งการเจริญเติบโตของมนุษย์ ก็จะต้องมีวัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่และวัยชรา จงเริ่มต้นจากการทำธุรกิจเล็กๆแล้วขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น ธุรกิจของท่านก็จะมีการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน
2.เราควรเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรดี ? ตามความคิดของกระผม เราควรเริ่มต้นทำธุรกิจที่เรามีความรัก ความชอบ ในธุรกิจนั้น ตัวอย่าง หลายๆคนชอบทำอาหาร ท่านก็สามารถพัฒนาฝีมือการทำอาหาร ศึกษาระบบต่างๆเกี่ยวกับการบริหารงานร้านอาหาร จนสามารถเปิดร้านอาหารได้ , หลายๆคนชอบอ่านหนังสือ ท่านก็สามารถเปิดร้านขายหนังสือหรือร้านเช่าหนังสือหรือเขียนหนังสือขายได้ , หลายๆคนชอบรถยนต์หรือรถแข่ง ท่านสามารถเปิดอู่ซ่อมรถได้ , หลายๆคนชอบจัดสวนตกแต่งสวน ท่านสามารถเปิดบริการจัดตกแต่งสวนได้ ฯลฯ
3.เราจะมีวิธีการใดที่ช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจได้ ? สำหรับวิธีลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจที่ดี กระผมขอเสนอว่า หากว่าท่านมีทุนน้อย ท่านควรไปเป็นลูกจ้างของกิจการที่ท่านสนใจจะทำก่อน เช่น หากว่าท่านต้องการเปิดร้านอาหารแต่ท่านไม่มีเงินลงทุน ท่านควรไปสมัครเป็นลูกจ้างของร้านอาหารในประเภทที่ท่านต้องการเปิดก่อน ทั้งนี้ท่านสามารถเรียนรู้ระบบงาน อีกทั้งยังได้เงินเดือน เพื่อนำไปสะสมเป็นเงินลงทุนในการเปิดร้านอาหารอีกด้วย หรือ หากว่าท่านต้องการเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ แต่ท่านมีเงินทุนจำกัด ท่านควรไปสมัครเป็นลูกจ้างร้านซ่อมจักรยานยนต์เพื่อเรียนรู้งาน เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ในการซ่อมรถจักรยานยนต์ เมื่อท่านมีประสบการณ์และเงินทุนพอ ท่านก็สามารถเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ได้ในอนาคต ฯลฯ
4.การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันมีเครื่องมือใดช่วยเหลือบ้าง? มีครับ มีมากเสียด้วย ในความคิดเห็นของกระผมการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ทำได้ง่ายกว่าในอดีต อีกทั้งยังใช้เงินลงทุนที่น้อยลง แหล่งเงินทุนหรือแหล่งเงินกู้ต่างๆก็มีมาก เทคโนโลยีต่างๆ ก็ทันสมัยขึ้น เช่น ในอดีตโอกาสที่เราจะทำธุรกิจประเภท วิทยุหรือโทรทัศน์ นั้นมีน้อยมาก แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราสามารถเปิดสถานีวิทยุชุมชนหรือวิทยุดาวเทียม ด้วยต้นทุนที่น้อยกว่าในอดีต
ดังนั้น หากว่าท่านต้องการเป็นเศรษฐี ท่านควรเริ่มต้นทำธุรกิจ จากธุรกิจเล็กแล้วจึงขยายไปใหญ่ , ควรเริ่มต้นทำธุรกิจที่ท่านชอบหรือรัก , หากไม่มีทุนท่านควรไปเป็นลูกจ้างเขาก่อนเพื่อหาประสบการณ์และสะสมเงินทุน และท่านควรหาเครื่องมือช่วยเพื่อทำให้ธุรกิจของท่านสามารถดำเนินไปด้วยความสะดวกขึ้น
สำหรับ ท่านที่เป็นลูกจ้าง กระผมยังไม่แนะนำให้ลาออกจากงาน ท่านควรทำธุรกิจเพื่อเป็นงานอดิเรกหรือเพื่อเสริมรายได้หลักก่อน ถ้าหากว่าท่านทำแล้วมีรายได้มากพอ ท่านก็สามารถลาออกจากการเป็นลูกจ้างเพื่อมาทำธุรกิจของตนเองได้อย่างเต็มตัว
...
  
พลังแห่งการให้
พลังแห่งการให้
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
มือของผู้ให้ย่อมอยู่เหนือมือของผู้รับ และเราจะเป็นสุขใจเมื่อเราได้เป็นผู้ให้
พลังแห่งการให้ เป็นบุคลิกลักษณะหนึ่งของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เพราะคนที่ให้มักจะเป็นคนที่มีมากพอแล้ว เราถึงไม่แปลกใจว่าทำไม มหาเศรษฐีต่างๆ จึงตั้งมูลนิธิเพื่อบริจาค เงิน สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ ฯลฯ แก่ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า ดังเช่น บิล เกตส์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอเมริกา ได้ตั้งมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ เพื่อช่วยเหลือด้านสุขอนามัย และด้านคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนในประเทศกำลังพัฒนา
พลังแห่งการให้ จะเป็นตัวช่วยให้คุณร่ำรวยยิ่งขึ้น ตัวอย่าง ธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ “ เซเว่น อีเลฟเว่น ” ก่อกำเนิดมาจากร้านขายน้ำแข็งเล็กๆ ในเมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัส ของสหรัฐอเมริกา เปิดบริการขายน้ำแข็งตั้งแต่ เจ็ดโมงเช้าถึงห้าทุ่ม วันละสิบหกชั่วโมง ในขณะนั้น แต่เนื่องจากเจ้าของกิจการ “ เซเว่น อีเลฟเว่น ” มีพลังแห่งการให้ กล่าวคืออยากให้บริการแก่ผู้คนโดยมีสินค้าที่หลากหลายจึงได้เพิ่มสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น นม ขนมปัง สบู่ ยาสีฟัน ปากกา ดินสอ สมุดฯลฯ ต่อมา ด้วยพลังแห่งการให้บริการ เจ้าของกิจการ “ เซเว่น อีเลฟเว่น ” ต้องการให้บริการแก่ชาวอเมริกามากขึ้น จึงได้ขยายสาขาออกไปทั่วสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน ด้วยพลังแห่งการให้บริการ “ เซเว่น อีเลฟเว่น ” ใช้ระบบโดยการเปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมงและมีสาขาเกือบทั่วโลก
พลังแห่งการให้ หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย ถามว่าแล้วเราจะให้อะไรแก่ผู้อื่นได้บ้าง ได้ครับ การเป็นผู้ให้ไม่ได้ยากเย็นอย่างที่ท่านคิด เราสามารถ ให้โดยการลงแรง ให้โดยการช่วยคิด ให้ความรู้ทางปัญญาและให้สิ่งต่างๆ เช่น
- การเข้าร่วมโครงการอาสาสมัครต่างๆ เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ชุมชน
- การช่วยคนตาบอดหรือคนพิการ ข้ามถนน
- การให้หนังสือดีๆ สักเล่มหนึ่งหรือการให้กำลังใจ แก่คนที่ล้มเหลว เพื่อปลุกเร้าให้เขามีกำลังใจอีกครั้ง
- การช่วยเหลือ ทำความสะอาด แม่น้ำ ลำคลอง ถนน ที่สาธารณะต่างๆ
และมีอื่นๆ อีกมากมายที่คุณสามารถทำได้ เมื่อคุณได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น คุณจะมีความรู้สึกมีความสุข
ขึ้นมาทันที ดังนั้น หากว่าคุณอยากมีความสุข อยากที่จะประสบความสำเร็จ จงมีนิสัยเป็นผู้ให้หรือทำอะไรให้แก่โลกมากๆ แล้วสวรรค์ก็จะติดหนี้คุณ แต่ต้องเป็นการให้โดยน้ำใจที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน จงให้โดยไม่ต้องจดจำ
การให้เลือดโดยการบริจาค ก็เป็นตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่ง กล่าวคือ เมื่อท่านได้บริจาคเลือดแล้ว สิ่งที่ได้ตอบแทนมาก็คือ เรื่องของสุขภาพของท่านก็จะดีขึ้น เนื่องจากร่างกายได้สร้างเลือดใหม่ที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากกว่าเลือดเก่าที่บริจาคไป อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของไขกระดูก กุศลของการบริจาคเลือดที่ได้กลับมาอีกอย่างก็คือ หากว่ามีการตรวจพบความผิดปกติในเลือดของท่าน สภากาชาดจะแจ้งให้ท่านทราบโดยทันที
พลังแห่งการให้ เป็นพลังหนึ่งของจักรวาล มันมีกฏเกณฑ์และผลลัพธ์เสมอ เพียงแต่คุณเป็นผู้ให้คนอื่นมากๆ คุณก็จะได้สิ่งต่างๆ กลับคืนมาเช่นกัน แต่จะเร็วจะช้า เท่านั้นเอง เช่น อาจารย์หรือวิทยากร ที่ให้ความรู้สอนผู้อื่นมากๆ อาจารย์หรือวิทยากรผู้นั้นก็จะมีความรู้ในเรื่องที่สอนมากขึ้นด้วย ฉะนั้น จงแจกจ่ายความรู้ให้แก่ผู้อื่นแล้วความรู้นั้นก็จะกลับมาหาท่านมากยิ่งขึ้น
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือ ความสุขที่เกิดจากที่เราได้เป็นผู้ให้
...
  
การฝึกการเขียน
การฝึกทักษะการเขียน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การฝึกการเขียนก็เหมือนกับการฝึกทักษะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การว่ายน้ำ การวิ่ง การเล่นฟุตบอล การพูดต่อหน้าที่ชุมชน ฯลฯ
การจะฝึกการเขียนได้นั้น ก็ต่อเมื่อคุณนั่งแล้วลงมือเขียน เขียน เขียน มากกว่าการที่คุณจะมัวแต่นั่งอ่าน อ่าน อ่าน ถึงแม้หนังสือที่คุณอ่านนั้นจะเป็นหนังสือที่สอนให้คุณเป็นนักเขียนก็ตาม หนังสือเหล่านั้นอาจจะช่วยเพียงแต่บอกเทคนิค วิธีการ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ คุณต้องนั่งเขียน เขียนและเขียน นั้นเอง
คุณต้องนั่งเขียนทุกๆวัน หากเป็นไปได้ คุณควรฝึกการเขียนในรูปแบบต่างๆ เช่น ฝึกเขียนโดยไม่หยุดไม่ต่ำกว่าระหว่าง 3-7 นาที การเขียนแบบไม่หยุดจะทำให้ใช้สมอง ความคิดและมือทำงานอย่างเต็มที่
และในยุคปัจจุบัน หากคุณยังไม่สามารถพิมพ์งานเขียนด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ คุณก็จงฝึกเสีย หากเป็นไปได้คุณต้องฝึกพิมพ์แบบสัมผัสได้ด้วย ก็จะทำให้คุณสามารถทำงานได้ไวยิ่งขึ้น ดังนั้น จงหาโปรแกรมเกี่ยวกับการฝึกพิมพ์แบบสัมผัสซึ่งมีขายในท้องตลาดราคาถูก เพราะมันจะทำให้คุณสามารถใช้หรือเป็นเครื่องมือช่วยคุณตลอดชีวิตของการเป็นนักเขียน
หากว่าคุณ คิด พิมพ์แบบสัมผัสได้ไว หากคุณพิมพ์โดยไม่หยุดวันละ 3-7 นาที คุณก็จะได้งานเขียนวันละ 5-15 บรรทัด ถ้าคุณทำทุกวันติดต่อกัน 1 เดือน คุณก็จะได้งานเขียน 150-450 บรรทัด และถ้าหากว่าคุณทำทุกวันติดต่อกัน 1 ปี หรือ 365 วัน คุณก็จะได้งานเขียนถึง 1,825-5,475 บรรทัด สรุป ว่าหากคุณทำทุกวันติดต่อกันหนึ่งปี คุณจะได้หนังสือเล่มโต 1 เล่ม เลยทีเดียว
การเขียนเรื่องยากให้อ่านง่าย เป็นหัวใจของการเป็นนักเขียน ซึ่ง บุคคลนั้นต้อง เป็นคนที่สามารถเลือกใช้คำได้เก่ง เลือกคำให้เห็นเป็นภาพ ซึ่งเราสามารถฝึกโดยการเขียนเพื่ออธิบายภาพ การตอบคำถามแบบไหนเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน
ระยะทางหมื่นลี้ ย่อมเริ่มต้นจากก้าวแรก การฝึกการเขียนเป็นเรื่องลำบากใจไม่ใช่น้อยในการเริ่มต้น มันเหมือนกับการยกของหนัก ซึ่งต้องออกแรงมาก แต่เมื่อเราออกแรงจนยกของนั้นได้สำเร็จแล้ว ถ้าหากเราจะยกของชิ้นนั้นอีกรอบ หรือหลายรอบเราก็สามารถยกได้ใหม่ ฉะนั้น คนที่ต้องการฝึกเป็นนักเขียนจึงต้องออกแรงไม่ว่า การให้เวลากับมัน การใช้ความคิด การอ่านหนังสือ การฝึกเขียน ให้มากๆในช่วงแรกๆ
พรสวรรค์หรือพรแสวง ผมเองเกิดมาก็ไม่ได้เขียนได้มาตั้งแต่เกิด แต่มาหัดเขียนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ดังนั้นในส่วนตัวกระผม เชื่อว่า การเป็นนักเขียนท่านสามารถสร้างขึ้นมาได้ โดยการฝึกฝน การศึกษา อบรม เรียนรู้และพัฒนางานเขียนของตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง งานเขียนของท่านจึงจะก้าวหน้า
จงตั้งหัวข้อที่ท่านมีความถนัดแล้วเริ่มเขียน เขียน และเขียน หัวข้อละ 1 กระดาษ A4 อย่ามัวแต่คิดแต่ไม่ทำ หากเป็นไปได้จงเขียนเรื่องเกี่ยวกับ แรงบันดาลใจ เรื่องที่มันสร้างสรรค์และเรื่องที่สามารถเปลี่ยนทิศทางสังคมให้ไปในทางที่ดีขึ้น
สุดท้ายเรื่องที่สำคัญที่อยากจะฝากท่านผู้อ่านที่อยากจะฝึกหัดทักษะด้านการเขียน จงอย่ากลัวที่จะล้มเหลว เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จทุกคนและส่วนใหญ่มักจะได้รับ เช่นนักเขียนในอดีตหลายๆคน นำผลงานการเขียนของตนเองไปเสนอสำนักพิมพ์ แต่ก็ถูกปฏิเสธ บางคนถูกต่อว่า ว่างานเขียนออกมาไม่ดี แต่ในที่สุดหากว่าท่านไม่ยอมแพ้ ท่านก็จะได้รับชัยชนะ




...
  
สุดยอดอัฉริยะทางความคิด ของไทย จีน ฝรั่ง
ความคิด มุมมอง อมตะวาจาและหลักปฏิบัติที่ยอดเยี่ยม เรียบเรียงโดย ทีมงาน บอสตัน เบรน กรุ๊ฟ
ราคา 80 บาท แต่ไม่ทราบว่ายังมีการพิมพ์ใหม่ขึ้นมาหรือไม่ เป็นหนังสือที่ รวมหัวกะทิของเรื่องเด่นๆ อมตะวาจาของมหาบุรุษ คำคมของทั้ง 3 ชาติ คำกล่าวที่เด่นๆ ของคนไทย หลักปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ ทฤษฏีที่ได้รับการยอมรับ มีครบถ้วนในเล่มนี้
...
  
การพูดจูงใจคน
การพูดจูงใจคน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
การพูดจูงใจ เป็น การพูดประเภทหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการพูดต่อหน้าที่ชุมชน กล่าวคือวัตถุประสงค์ของการพูด ได้แก่ การพูดเพื่อการบอกเล่า การพูดเพื่อความบันเทิงและการพูดเพื่อการจูงใจ
การพูดจูงใจ จึงเป็นศิลปะในการพูดที่ต้องอาศัยการฝึกฝน การศึกษา และดูแบบอย่างของนักพูดที่สามารถพูดจูงใจคนได้
ก่อนที่เราจะศึกษาหรือเรียนรู้การพูดจูงใจ เราควรศึกษาธรรมชาติหรือความต้องการของคนก่อน เนื่องจากคนทุกคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน เช่น ถ้าเราพูดจูงใจเด็ก กับพูดจูงใจผู้ใหญ่ เราอาจจะมีวิธีการพูดที่แตกต่างกัน หรือ ถ้าเราพูดให้ผู้ฟังในกลุ่มอาชีพต่างๆฟัง เราอาจจะต้องมีวิธีในการพูดจูงใจที่แตกต่างกัน เช่น พูดให้ชาวนาฟัง กับพูดให้นักวิชาการฟัง ฯลฯ
แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องความต้องการของมนุษย์หรือคนเรา กระผมคิดว่า คนเรามีความต้องการในเรื่องใหญ่ๆ ที่คล้ายกันกล่าวคือ เรื่องของ กิน กาม และเกียรติ
- กิน คนเราเมื่อเกิดมาเป็นคนหรือมนุษย์จะต้องมีการบริโภคหรือการกิน ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารประเภทต่างๆ การดื่มกินน้ำประเภทต่างๆ
- กาม คนเราเกิดมาแล้ว ตามสัญชาตญาณของการสืบพันธุ์ ก็ต้องมีเรื่องของเพศสัมพันธ์
- เกียรติ คนเราเกิดมา ก็อยากจะมีชื่อเสียง อำนาจ ความดัง ความมีหน้าตาในสังคม
ดังนั้น คนเราหรือมนุษย์เรา จึงได้แสวงหาเรื่องของการ กิน กาม และเกียรติ กันด้วยความกระเสือกกระสนดิ้นรน (ทั้งนี้ผู้เขียนขอใช้คำว่า คนเราหรือมนุษย์เราส่วนใหญ่ จึงไม่ได้หมายถึงทุกคน)
เมื่อเราศึกษาธรรมชาติความต้องการของคนเราหรือมนุษย์เราแล้ว ที่นี้ ในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน เทคนิคในการพูดจูงใจคน เราจำเป็นจะต้องศึกษา เรียนรู้เช่นกัน กล่าวคือ ในการพูดจูงใจให้คนคล้ายตามเรานั้น
- ผู้พูดจำเป็นจะต้องพูดด้วยอารมณ์ กล่าวคือ เมื่อต้องการให้ผู้ฟังเศร้า ผู้พูดจะต้องมีอารมณ์เศร้าก่อนอีกทั้งต้องแสดงอารมณ์ผ่านทางใบหน้า น้ำเสียง ท่าทาง เพื่อจูงใจให้ผู้ฟังมีอารมณ์เศร้าด้วย หรือ ต้องการพูดให้ผู้ฟังมีอารมณ์เกลียดชัง ผู้พูดต้องแสดงอารมณ์ความรู้สึกเกลียดชัง ผ่านทางภาษาพูดและภาษากายต่างๆของผู้พูด เพื่อส่งความรู้สึกอารมณ์ดังกล่าวไปยังผู้ฟัง เป็นต้น
- ผู้พูดจะต้องพูดด้วยความจริงใจ จากใจ ยิ่งพูดมาจากก้นบึ้งของหัวใจได้ยิ่งดี การที่จะพูดให้คนคล้ายตามหรือจูงใจคนได้นั้น ผู้พูดจะต้องพูดด้วยความจริงใจก่อน ซึ่งความจริงใจ ผู้ฟังสามารถสัมผัสได้ผ่านการแสดงอาการต่างๆของผู้พูด ไม่ว่าจะเป็นทางสายตา น้ำเสียง ท่าทาง กล่าวคือ ถ้าต้องการให้ผู้ฟังเกิดความศรัทธาในสิ่งใด ผู้พูดเองต้องมีความศรัธทาในสิ่งนั้นก่อน ถ้าผู้พูดไม่เชื่อถือไม่ศรัธทาก่อน ก็คงยากที่จะพูดให้ผู้ฟังเกิดความศรัธทาในสิ่งนั้นด้วย
- ผู้พูดจะต้องพูดถึงเรื่องของผลประโยชน์ของผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินเดือนเพิ่ม โบนัสเพิ่ม ได้บุญเพิ่ม ได้กุศลเพิ่ม ได้โลห์ ได้ชื่อเสียง เกียรติยศต่างๆ ฉะนั้น ผู้พูดสามารถชักจูงใจคนได้ด้วยการพูดถึงเรื่องของผลประโยชน์ เช่น หากต้องการได้เงินเดือนเพิ่ม โบนัสเพิ่ม ท่าน(ผู้ฟัง)จะต้องขยันทำงานขึ้น
ดังนั้น คนที่ต้องการพูดจูงใจเป็น จำเป็นจะต้องเรียนรู้ จากการอ่านมาก การฟังมาก การศึกษาดูแบบอย่างมากๆ เช่น หากท่านต้องการเป็นนักพูดจูงใจทางด้านการเมืองกล่าวคือ ต้องการพูดให้คนลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ท่าน ท่านก็ควรตามไปฟังนักพูดทางการเมืองหรือศึกษาจาก เทป วีซีดี ดีวีดี รวมทั้งการดูการถ่ายทอดการหาเสียง การอภิปรายทางโทรทัศน์ ดูแล้วต้องวิเคราะห์ว่าทำไม นักการเมืองคนนี้พูดแล้วคนเชื่อ ทำไมนักการเมืองคนนี้พูดแล้วคนไม่เชื่อ อีกทั้งต้องรู้จักวิเคราะห์ผู้ฟังด้วย






...
  
Public Speaking/Presentation Skills Keynote with Robert Graham
30
...
  
เสวนา " แก้ไขปัญหาเด็กนอกระบบ "
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ ร่วมเสวนา " การแก้ไขปัญหาเด็กนอกระบบ " ในโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชนในระดับท้องถิ่น(เทศบาล) สนันสนุน โดย สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.) การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในท้องถิ่น “ โครงการเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพของเยาวชนนอกระบบเทศบาลตำบลแม่กาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น” ...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  [98]  [99]  [100]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.